คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : รู้สึกไม่เหมือนเดิม
“โชนา!!” ทุกคนรีบยืนขึ้น ถวายความเคารพ
ผมเผลอจองมองใบหน้าของโชนาอย่างไม่วางตา รูปหน้าที่คมคาย ดวงตาที่แสดงออกถึงอำนาจและความสุขุมลุ่มลึกเอง ก็จ้องกลับมาทางผมเช่นกัน
“เอาเถอะ ทุกคนตามสบาย” โชนา ผายมือให้ทุกคนนั่งลง
“ข้าได้ยินว่าเจ้าไปปรากฏตัวอยู่หน้าทงตงกุง แล้วไปพบกับเซจาโชฮา เข้าสินะ”
“พะยะค่ะโชนา” ทำไมบรรยากาศมันถึงได้รู้สึกอึมครึมแบบนี้นะ
“ข้าได้ยินว่าเจ้ากลับบ้านของเจ้ามาเช่นนั้นเหรอ อิง ถ้าตามที่เจ้าเคยบอกเล่ากับข้า เมื่อครั้งเรายังเยาว์วัยบ้านของเจ้าคือเวลาในกาลหน้า เช่นนั้นสินะ”
“เป็นแบบนั้น พะยะค่ะโชนา”
“คำก็ โชนา สองคำก็ โชนา เจ้าจะเกร็งอะไรนักหนาห๊ะ อิง” เสียงต่ำ ๆ แหบ ๆ แผดกร้าวออกมา เซจาโชฮา กับแจยองกัม รีบผลุดลงหมอบลงกับพื้น ทิ้งให้ผมนั่งอยู่แบบนั้น
“ขอรับ ท่านลีซุน” โชนา ทรงเป็นพระราชาอย่างสมบูรณ์แบบแล้วนะครับ ท่าทีและบุคลิกที่ทรงฝึกมาตั้งแต่ยังทรงเป็นเซจาโชฮา ผลิดอกออกผลอย่างเต็มที่แล้ว แค่พูดธรรมดา ก็แสดงให้เห็นถึงพระอำนาจแห่งเจ้าชีวิตได้อย่างแท้จริง
“ต้องอย่างนั้นสิ” คีแซงที่นั่งอยู่เคียงข้างโชนา พยายามรินเหล้าลงไปให้ แต่รับรู้ได้เลยครับว่าเค้ากลัวคนที่อยู่ตรงหน้ามาก สั่นไม่หยุดเลย
“เอ่อ เจ้าไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ผมดึงกาจากคีแซงมารินเหล้าให้โชนาแทน
“เจ้านับญาติกับคีแซงด้วยอย่างนั้นเหรอ อิง” แหม ทำอะไรก็ผิดไปหมดนะ
“ในแผ่นดินของข้า เราไม่มีชนชั้นวรรณะขอรับท่านลีซุน จะยากดีมีจนยังไง ทุกคนก็มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันทั้งสิ้น”
“ข้าเคยได้ยินมาบ้างว่าในยุโรปเอง ก็ไม่มีวรรณะเหมือนกัน แต่โชซอนของเราซึ่งมีรากฐานจากหลักคิดของขงจื๊อไม่ได้แบ่งคนที่ศักดิ์ศรี เพียงแต่แต่ละคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองเท่านั้นเอง” เชอะ อนุรักษ์นิยม จริง ๆ
ความเงียบเข้ามาปกคลุมครับไม่มีใครพูดอะไร คีแซงที่อยู่ในห้องก็เพียงแต่คอยรินเหล้าไปเงียบ ๆ เวลาเหล้าในจอกพร่องลง (เหมือนพีจีบ้านเราเลยครับ) โชนาและผมต่างมองหน้ากัน โดยที่ไม่พูดอะไรกัน ส่วนเซจาโชฮา กับแจยองกัม ก็เก่งนะครับ กินไปเงียบ ๆ แบบนั้น แต่ผมสังเกตเห็นเวลากิน พวกนั้นต้องหันหน้าไปทางอื่นแล้วค่อยกิน จะไม่ยกกินต่อหน้าพระพักตร์น่ะครับ
“ดูท่าเจ้าจะไม่ใช่อิง คนที่ข้าเคยรู้จักซะแล้ว” โชนา พูดขึ้นมาทำลายความเงียบ
“นี่ คงเป็นสาเหตุที่ข้าน้อยยังไม่ไปเข้าเฝ้าท่านลีซุนขอรับ”
“เอา เถอะ ถ้าเจ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็ไปหาข้าก็แล้วกัน” โชนาลุกขึ้น พร้อม ๆ กับพวกผมที่ลุกขึ้นเตรียมส่งเสด็จ
“เซจา กลับวังพร้อมพ่อ เลยดีกว่า พ่อมีเรื่องจะคุยกับเจ้าด้วยพอดี เดินไปคุยไปก็แล้วกัน”
“พะยะค่ะ อาป้ามามา”
“ข้าลาแล้วนะขอรับ ท่านอา” ผมและโชฮาต่างโค้งถวายความเคารพซึ่งกันและกันครับ แล้วแนซีที่รออยู่ข้างนอกก็เชิญเสด็จโชนาและโชฮา กลับวัง
-------------------------------------------------------------------
“ดวงดาววันนี้งดงามมากนะ เซจา” โชนาทรงเอ่ยขึ้น พร้อมกับแหงนพระพักตร์ทอดมองดวงดาวที่พร่างพรายอยู่บนผืนฟ้า
“พะยะค่ะอาป้ามามา” ข้าไม่ค่อยคุ้นชินกับเส้นทางนี้เท่าใดนัก ไม่ทราบว่าเหตุใดโชนาถึงได้เลือกเส้นทางนี้กลับวัง เพราะปกติพวกเราเชื้อพระวงศ์มักจะสัญจรผ่านเส้นทางที่ไม่มีคนพลุกพล่าน จะได้ไม่เป็นที่สะดุดตา แต่ในวันนี้ โชนากลับเลือกเส้นทางที่มีงานรื่นเริงเต็มไปด้วยผู้คนจุดไฟ อธิฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“แม้ว่าบ้านเมืองเราจะยึดหลักคิดของขงจื๊อ แต่คนโชซอนก็ยังเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าว่าไหมเซจา”
“ทรงยังกังวลเรื่อง ท่านอาหรือพะยะค่ะ” ก็เห็นเพิ่งปะทะคารมเรื่อง ชนชั้นวรรณะกันไปหยก ๆ นี่เอง
“พ่อ ออกจะตกใจมากกว่า อิงยองกัมที่พ่อเคยรู้จักหน่ะ เป็นเด็กสดใส พูดจาตรงไปตรงมา ต่างกับชายหนุ่มที่เจอกันเมื่อสักครู่ ที่พ่อพอจะมองเห็นความหลักแหลม และอุดมการณ์อันแน่วแน่”
“พ่อเลยมาคิด ๆ ดูแล้วว่า ให้อิงยองกัม อยู่เป็นเพื่อนคู่คิดของเจ้าดีกว่า เพราะพ่อเองก็ไม่รู้ว่าอิงยองกัมจะอยู่ในยุคสมัยของเรานานเท่าใดกัน” ข้าเห็นความวูบไหวในแววพระเนตรของโชนา ปกติจะไม่ทรงแสดงความรู้สึกออกมาให้ใครเห็น ซึ่งข้าเองก็ถูกอบรมสั่งสอนมาแบบนั้นว่าอย่าแสดงสีหน้าให้ใครจับได้ว่าคิดอะไรอยู่
“ตามพระบัญชาพะยะค่ะอาป้ามามา”
--------------------------------------------------------------------------------- ตำหนักทงตงกุง -----------
เช้าวันนี้ เซจาโชฮา มีพระบัญชาให้ผมเข้าเฝ้าแต่เช้า ผมเองต้องกลั้นใจอาบน้ำแทบแย่ ยังดีที่แม่บ้านผสมน้ำอุ่นไว้ให้ผม เหมือนเค้าจะจำได้ว่าผมเป็นตัวประหลาดของโชซอนที่อาบน้ำทั้งเวลาเช้าเวลาเย็น เพราะคนที่นี่เค้าไม่ค่อยอาบน้ำกันครับ อากาศเย็นมันจะทำให้ป่วยได้ง่าย
“อิงยองกัมขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ” แนซีที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องทรงงานกราบทูลให้ครับ
“เข้ามา”
ผมเดินเข้าไปถวายความเคารพแล้วนั่งลงบนเบาะที่อยู่หน้าโต๊ะทรงงานครับ เฟอร์นิเจอร์ที่เคยอยู่ในห้องนี้เปลี่ยนไปมากนะครับ ห้องดูโล่งและสว่างกว่าสมัยชูซังโชนายังดำรงตำแหน่งเป็นเซจาโชฮา คงจะจัดแต่งตามพระรสนิยมของโชฮาแต่ละองค์น่ะครับ
“ท่านอา ที่ข้าเรียกท่านอามาวันนี้น่ะ เพราะชูซังโชนา มีพระราชบัญชา ให้ท่านมาเป็นทั้งองค์รักษ์และที่ปรึกษาของข้าน่ะ”
“เอ๋ ที่ปรึกษาเหรอพะยะค่ะโชฮา” ไอ้องค์รักษ์นี่ผมพอเข้าใจนะครับ แต่ที่ปรึกษาเหรอ ผมจะไปให้คำปรึกษาอะไรได้
“โชนา ทรงตรัสว่า ท่านอา กลับบ้านที่อยู่ในช่วงเวลาของภายภาคหน้ามา ใช้ไหมขอรับ นั่นแสดงว่าท่านย่อมรู้เรื่องราวในช่วงเวลาของเราเป็นอย่างดีสิขอรับ” อ่อ เอาแล้วหล่ะสิ งานเข้าซะละ ผมคิดอยู่แล้วเชียวครับ ว่ากลับมารอบนี้ โชนาต้องใช้ประโยชน์จากผมในเรื่องนี้แน่
“อ่ะ เอ่อ กระหม่อม .......” ผมรู้สึกลำบากใจครับ เกิดผมพูดอะไรไป แล้วประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปไม่รู้ว่าจะกระทบถึงยุคสมัยของผมหรือเปล่า เช่นเกาหลีไม่แบ่งประเทศ แต่กลายเป็นมหาอำนาจแทน อะไรแบบนั้นน่ะครับ คงวุ่นวายพิลึก
“แต่ข้าจะไม่ทำเช่นนั้นหรอก”
“เอ๋ ......................” จะทรงขัดรับสั่งของโชนา อย่างนั้นเหรอ
“ขอให้ท่านเชื่อใจข้าเถอะ ในเมื่อโชนาให้พระราชอำนาจเกี่ยวกับตัวท่านกับข้าแล้ว และข้าเองในฐานะลูกข้าไม่ต้องการเห็นโชนาทรงผิดหวังในเรื่องใด ๆ ก็ตาม” โชฮา ตรัสพร้อมกับแสดงสีหน้ามาดมั่น
เด็กนี่น่ากลัวนะครับ ทำเรื่องประหลาด ๆ ได้ทุกอย่างคราวนี้จะอะไรอีกละเนี่ย
ซักพักผมก็มานั่งอยู่บนเสื่อ หน้าลานพระตำหนักทงตงกุงครับ พร้อมกับมียังบันแต่งตัวอลัง ๆ น่าจะเป็นชุดพิธีการ ผมจำได้ว่าเป็นราชเลขาของ เซชาโชฮา ถือกระดาษม้วน ๆ มายืนอ่านหน้าผมครับ
“อาศัยพระราชอำนาจแห่งชูซังโชนา ผ่านเซจาโชฮา แต่งตั้งให้อิงยองกัมสังกัดกรมแนซี เป็นองค์รักษ์หลวงสังกัดกองเจ้าหน้าที่ตรวจการ ชั้นแท ทำหน้าที่สอบสวนตามพระบัญชา ต่อจากนี้ขอให้ อิงแทกัม ทำหน้าที่ของท่านอย่างดีสืบไป”
แล้วก็มีพวกแนซีมาคอยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่พอถอดชุดแนซีชั้นยองกัม ออกพวกแนซี และยังบันก็ผง่ะ ครับเพราะอาภรณ์ที่แสดงถึงคนของราชาที่เสื้อผ้าชั้นในสุดที่ผมใส่อยู่น่ะครับ ขนาดรูปร่างผมเปลี่ยนไปแล้วกรมพิธีการก็ยังคงตัดชุดส่งมาให้ผมใหม่อยู่ดีครับ พวกแนซีก็เหมือนแก้เกี้ยวครับรีบเอาชุดองค์รักษ์หลวงมาให้ทับให้ผม
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะขอรับ อิงแทกัม” พวกยังบันเอาจับมือผมแสดงความยินดี จับมือแบบเอามือสองข้างประกบกับมือผมนะครับ ไม่ใช่เช็คแฮนด์ ฮ่า ฮ่า
แต่พอผมเดินออกมาได้ไม่ไกลครับ “ข้าได้ยินมานานแล้วเรื่องคนของโชนา ที่ตำหนักนอกวัง เพิ่งจะได้เคยเห็นตัวจริง ก็วันนี้แหล่ะ” โห นินทา กันได้เบามากกกกกกกกกกกกก
------------------------------------------------------------------------ ตำหนักใหญ่ -----------------------------
“อิงแทกัมขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะโชนา” เชวแทกัมครับ ไม่เจอกันนานผมทำได้แค่ยิ้มให้ครับ พร้อม ๆ กับที่เชวแทกัม ยิ้มตอบกลับมาตามประสาคนไม่เจอกันนาน “เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ” เชวแทกัมกระซิบบอกผมครับ
“เข้ามา” เสียงแหบ ๆ ต่ำ ๆ แผดออกมาครับ จะตะโกนดังไปไหน
ผมเดินเข้าไปหน้าโต๊ะทรงงานครับ ห้องของโชนาลึกมากครับจากปากประตูเดินกว่าจะถึงหน้าพระที่นั่งเกือบร้อยเมตรได้ ผมโค้งคำนับพร้อมนั่งลง
“ได้ยินว่าทรงมีเรื่องให้ข้าน้อยทำเหรอขอรับ”
“อื้มมม เจ้าลูกคนนี้มันแสบนัก ข้าจะให้เจ้าไปช่วยงานเซจาหน่ะ แต่เซจากลับโยนเจ้าเข้ามาในงานส่วนกลางที่ทั้งข้าและเซจาต่างความรับผิดชอบต่อส่วนนี้”
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เจ้าเองก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วหนิ ส่วนเรื่องกลับบ้านของเจ้าดูท่าจะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าชีวิตอย่างข้าจะไปบงการอะไรได้ เจ้าก็ช่วยงานข้าหน่อยก็แล้วกันแต่ถ้าเจ้าไม่สะดวกใจข้าก็ไม่อาจฝืนใจเจ้าได้หรอกนะ”
“ไม่เป็นไร มิได้ขอรับท่านลีซุน ข้ายินดีจะช่วย เพราะเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอขอรับ” รอยยิ้มผุดพรายขึ้นมาบาง ๆ บนสีหน้าเคร่งขรึม
“เจ้ามักจะทำให้ข้าไม่สามารถเก็บอารมณ์ไว้ได้เสมอ ๆ นะอิง วันนี้เจ้าจะอยู่เป็นเพื่อนข้าเพื่อกินอาหารเที่ยงได้ไหมหล่ะ จะได้เจอชุงจอนแม่ของเซจาด้วย” ทันใดนั้นเชวแทกัมรีบเปิดประตูเข้ามาครับ
“กราบทูลโชนา อิงแทกัม เป็นยังบันชั้นผู้ใหญ่ และไม่ใช่แนซีอีกต่อไปแล้ว การจะเรียกให้อยู่รับใช้แบบนั้นจะไม่งามนะพะยะค่ะ โปรดทรงใคร่ครวญด้วยโชนา” แม้จะเป็นการกราบทูลที่แสดงความหวังดี แต่คราวนี้น้ำเสียงเชวแทกัม กลับกระตุกกระตักมาก และโชนาทรงมีแววตาและสีหน้าที่กร้าวขึ้นมาอย่างทันใด
“นั่นสินะ ข้าลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทขอบใจท่านมากเชวแทกัม” ผมรู้สึกได้เลยว่าเป็นการบอกอย่างเป็นนัยว่า
เชวแทกัม กำลังล้ำเส้น
“เอาเถอะ งั้นรอข้าไปพักที่ตำหนักนอกวังก็ได้ แต่อิง ข้ามีคนที่อยากให้เจ้าไปพบหน่ะ”
“ใครเหรอขอรับ”
“เฮบี อดีตชุงจอน ของข้าหน่ะ ข้าเองมีแผนการที่จะทำให้ฝ่ายโซนน กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ซึ่งคงต้องให้นางช่วยนะ”
“แล้ว เอ่ออออ ............... โชฮา หล่ะขอรับ”
“ตอนนี้เซจาโชฮา ได้รับการแต่งตั้งในขณะที่ มารดา มีตำแหน่งเป็นชุงจอน แล้วถ้าในภายหน้า นางจะไม่ได้เป็นชุงจอนแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก” ผมเผลออดแสดงสีหน้าหวั่นเกรงไม่ได้
“เจ้าคงคิดว่าข้าโหดเหี้ยมในเรื่องการเมืองสินะ ข้าไม่ได้เป็นเพียงผู้ชายหรือพ่อ แต่ข้ายังเป็นพระราชาด้วย”นั่นสินะ หน้าที่แห่งราชา
“ข้ามาคิด ๆ ดูแล้วช่วงเวลาที่เราไม่เจอกัน ข้าเองก็เปลี่ยนไป และย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าเองก็จะไม่เปลี่ยนไป ก็ถือซะว่าเรามาทำความรู้จักกันใหม่เถอะนะ”
“เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันอย่างตอนนั้นได้หรือไม่ขอรับท่านลีซุน”
“เพื่อนเหรอ ................ ข้าไม่ได้ยินคำคำนั้นมาเนิ่นนานแล้ว ตั้งแต่เจ้าไป ข้าเองผ่านช่วงเวลาแห่งการนองเลือดมาแล้วหลายครั้ง ข้าหวังใจว่าเจ้าเองจะกลับมาเพื่อให้ข้าได้พบกับความจริงใจแบบนั้นอีก”
“แล้วข้าจะไปพบกับเฮบีมาม่าได้ยังไงขอรับ”
“เจ้าจะต้องไปติดต่อกับ ฮังอา คนหนึ่ง นางเป็นคนสนิทของ เฮบี หน่ะ”
“ชื่อดงยี หรือเปล่าขอรับ”
“เหตุใดเจ้าจึงรู้จักนาง” โชนาทำเสียงประหลาดใจครับ แต่ยังทรงเก็บพระอารมณ์ไว้ได้ดีเหมือนเดิม
“เรื่องนี้ข้าขอบอกท่านในภายหลังก็แล้วกันขอรับ” หึ หึ ในที่สุดผมก็จะได้เจอ พระสนมซุกบิน แล้วสินะครับ ผมกลับมาได้ถูกที่ถูกเวลาจริง ๆ เวลาแห่งการนองเลือดในวังแห่งนี้ใกล้เข้ามาเต็มทน “ข้าน้อยจะทำตามพระบัญชาไปพบ เฮบีมาม่า ก่อนก็แล้วกันนะขอรับ” พบลุกขึ้นพร้อมคำนับและถอยออกมา
“หึ หึ เจ้าลูกตัวแสบ จะให้ข้ารู้สึกเสียดายคนของข้าสินะ ถึงกับเปลี่ยนให้แนซีที่เป็นคนของข้ากลายเป็นองค์รักษ์หลวง” โชฮารำพึงเบา ๆ พร้อมกับทอดสายตาเอ็นดูเมื่อนึกถึงใบหน้าของเซจาโชฮา
ความคิดเห็น