ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เสียใจ
ไม่มีใครมาคอมเม้นต์เลยอ่ะ เสียใจ แต่งต่อก็ดะ > <
"ก๊อบ ก๊อบ ก๊อบ ก๊อบ" เสียงเหมือนคนควบม้ามาทางนี้ครับ พวกเชวยองกัม กับองค์รักษ์หลวงรีบกางดาบออกมาคอยคุ้มกัน โชฮา
เอ๋ เป็นคิมแทกัมเจ้ากรมแนซี กระโดดลงจากหลังม้าครับ "กราบทูลโชฮา ชูซังโชนาสิ้นพระชนน์ด้วยโรคพระหฤทัยวาย เมื่อหัวค่ำพะยะค่ะ"
"โชนาาาาาา" คิมแทกัมกราบทูลด้วยน้ำตานองหน้าครับ
"เราต้องกลับวังกันเดี๋ยวนี้" โชฮา ออกคำสั่งครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะทรงมีสติได้มากขนาดนี้
ซักพักเราก็กลับถึงวังครับ ผมก็แยกตัวออกมากลับมาที่กรมแนซี ก็เห็นพวกแนซีร้องห่มร้องไห้ กันเต็มไปหมด คงเพราะ ชูซังโชนา เป็นเจ้านายโดยตรงของแนซีน่ะครับ แต่คนข้างนอกวังคงยังไม่รู้เรื่องน่ะครับ เพราะระหว่างทางกลับมาก็เห็นผู้คนดำเนินชีวิตกันตามปกติ
พอผมเข้าห้องก็มีแนซีเด็ก ๆ เตรียมชุดไว้ทุกข์ให้น่ะครับ จะเป็นผ้าป่านสีตุ่น ๆ
"อิงนาหรี ๆ ๆ ๆ ๆ " "อย่านะเจ้าคะ มามะนิม ๆ ๆ ๆ" ข้างนอกห้องผมมีเสียงตะโกนสลับกันไปมาแบบนี้ครับ ผมเลยเปิดประตูออกไปดู
"มามะนิม" จางซังกุงครับ มายืนร้องไห้อยู่หน้าห้องผม พลางมีซังกุงอีกคนคอยดึงไว้ ดูท่าเค้าคงเป็นห่วงว่ามันไม่เหมาะจะมายืนอยู่ในที่พักของผู้ชายน่ะครับ
"อิงนาหรี ท่านต้องช่วยข้านะ ข้าไม่มีใครแล้วจริง ๆ" แล้วจางซังกุงก็นั่งคุกเขาลงกับพื้นพร้อมเกาะชายเสื้อผมไว้ครับ
"มีอะไร ค่อย ๆ พูดกันก่อนก็ได้ มามะนิม" ผมพยายามพูดโดยไม่ไปแตะตัวเค้าครับ เดี๋ยวโชฮา หึงโหด ใส่ผม
"เอ่อ มามะนิม เข้าไปในห้องพระศพของชูซังโชนาไม่ได้น่ะเจ้าค่ะนาหรี จึงได้เป็นห่วงโชฮา มาก" ซังกุงคนสนิท พูดแทนน่ะครับ อ่อออ จางซังกุงคงกลัวว่าโชฮา จะเสียใจมากนั่นเอง
"แล้วพวกท่านจะให้ข้าช่วยยังไงหล่ะ" ซักพักพวกผมก็ย้ายออกมาคุยกันนอกกำแพงกรมแนซี ท่ามกลางบรรยากาศของผู้คนที่ร้องไห้กันอยู่
"อิงนาหรี ข้าขอให้ท่านช่วยให้ข้าได้เข้าเฝ้าโชฮา ได้ไหม ข้าอยากจะทูลถามด้วยตัวเอง ว่าทรงเป็นยังไงบ้าง"
"ท่านจะให้ข้าเข้าไปกราบทูลให้ออกมาหาท่านใช่ไหม ได้สิ" ผมตกปากรับคำไปครับ มันก็ดูไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรหนิ
"ขอบคุณท่านมากจริง ๆ นาหรี" จางซังกุงกุมมือผมไว้ครับ แต่ แนซีที่กำลังร้องไห้ รอบ ๆ ตัวผมนี่สิ พอเห็นปุ๊บ หยุดร้องละจ้องมาทางเราเลยครับ
"อ่ะ เอ่อ ข้าลืมตัวน่ะ ยังไงก็ขอบคุณท่านจริง ๆ งั้นเราไปเฝ้าโชฮา กันเลยไหม"
"ตกลง"
แล้วพวกผมก็มายืนอยู่หน้าตำหนักใหญ่ครับ เวรยามแน่นหนามาก
"นาหรี ท่านเข้าไปเลย พวกเราเข้าไปไม่ได้หรอก เพราะพวกเราเป็นนางในหน่ะ นอกจากเชื้อพระวงศ์แล้ว ไม่มีใครเข้าไปได้เลย มีแต่แนซีแบบท่านนะ ถึงจะเข้านอกออกในได้" อ๋อออ มิน่าหล่ะ ถึงต้องมาให้ผมช่วย
แล้วก็จริง ๆ ด้วยครับ พวกทหาร ปล่อยให้ผมเข้าไปได้เรื่อย ๆ เลย ผมพลางถามทางคนในนั้นไปเรื่อย ๆ น่ะครับ ว่าโชฮา อยู่ไหน เพราะห้องมันเยอะมาก แล้วผมก็มาถึงที่ประทับของพระศพ
"อิงนาหรี ท่านมาที่นี่ได้อย่างไรกัน" เชวยองกัมที่ยืนอยู่หน้าประตูครับ
"อ่ะ เอ่อออออ ข้ามีเรื่องจะกราบทูลขอรับ"
"ข้าขอเตือนในฐานะที่ข้าอาวุโสกว่าท่านนะ ท่านอย่าคิดว่าโชฮา ทรงโปรดแล้วท่านจะทำแบบนี้ได้นะ จำไว้ให้ดีหล่ะ" โห เจ็บเลยครับ ไม่เคยโดนเชวยองกัมด่าเลย
"ข้างนอกเอะอะ อะไรกันหน่ะ" เสียงผู้หญิงครับ เหมือนจะเป็นเสียงชุงจอนมาม่า ครับ
"อ่ะ เอ่ออ อิงนาหรี ขอเข้าเฝ้าโชฮาหน่ะพะยะค่ะมาม่า" เชวยองกัมกราบทูลไปครับ แล้วประตูก็เปิดออก ผมเห็นโชฮา และพีกุงมาม่า นั่งอยู่ด้วยครับ ทุกคนหันหน้ามาทางผม
"มีอะไรหรือเปล่าอิง" ชุงจอนมาม่า ตรัสถามผมครับ
ผมก็พาซื่อครับ "เอ่อ จางซังกุง อยากเข้าเฝ้าโชฮา พะยะค่ะมาม่า" ดูเหมือนผมจะพูดอะไรผิดไป
"นังจางชั้นต่ำนั่ง กล้ายังไงมาเข้าเฝ้าโชฮา นะเวลานี้" เสียงชุงจอนมาม่า กรี๊ด ห้องแทบจะแตกครับ แต่ซักพักก็เปลี่ยนสีหน้าเย็นลง แล้วมองมาทางผม
"โถ อิง เจ้าคงไม่รู้เรื่องอะไรสินะ คงโดนนางหลอกใช้เป็นเครื่องมือ"
"อ่ะ เอ่ออ" งง เลยครับ มันเกิดอะไรขึ้น
"อมม่ามามา ชั่วดี นางกับโชฮา ก็เป็นคนรักกันนะเพคะมาม่า นางคงห่วงใยว่าโชฮา จะทรงทำใจกับเรื่องนี้ได้อย่างไร" พีกุงมามะครับ โห ช่างเป็นภรรยาที่ใจกว้างนัก
"หึ หึ ไม่ว่ายังไงนะ เซจา เจ้าจะทำผิดราชธรรมเนียม เพราะความรู้สึกส่วนตัวไม่ได้ เบคซังกุงท่านไปขับไล่นางชั้นต่ำนั่นออกจาก เขตตำหนักใหญ่ได้แล้ว" ชุงจอนมาม่าตวาดครับ
"ไล่ เหรอ เจ้ากล้าไล่ผู้หญิงของเซจา อย่างนั้นเหรอ ช่างไร้ความเป็นเชื้อพระวงศ์" อยู่ดี ๆ ก็มีคุณยายที่มาพร้อมกับขบวนเดินเข้ามาครับ ทุกคนก็โค้งให้เกียรติ
"แทบีมาม่า (พระพันปี) อย่าทรงใส่พระทัยกับเรื่องเล็กน้อยในวังเลยเพคะมาม่า" ชุงจอนมาม่ายิ้มเวลาพูดครับ แต่น้ำเสียงหวีดมาก และคุณยายคนนี้ คงเป็นแม่ของ ชูซังโชนาสินะครับ
"ข้าเพียงแต่เห็นใจหลานชายของข้าที่ใจกำลังแตกสลายเพราะสูญเสีย พระบิดา เท่านั้นเอง การที่จางซังกุง จะปลอบใจเซจาในฐานะคนรัก มันจะเสียหายอะไรกัน เจ้าก็อย่ายึดติดกับธรรมเนี่ยมคร่ำครึพวกนั้นเลย" พูดเหมือนจะดีนะครับ แต่ผมกลับรู้สึกว่าสองคนนี้กำลังกวนโอ๊ย กันอยู่
"ทุกคนอย่ามีปากเสียงให้อายเหล่าบริวารเลยพะยะค่ะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะออกไปพบนางเพียงครู่เดียวเท่านั้น" โชฮาตัดบทครับ แล้วก็เดินออกจากห้องพร้อมจูงมือ แล้วลากผมไป
"เจ้ามาที่นี่ได้ยังไงอิง อ๊กจองให้เจ้ามาหาข้าจริง ๆ เหรอ" โชฮาตรัสถามผมขณะเดินไปตามทางครับ
"ขอรับ ท่านลีซุน"
"ทีหน้าทีหลังอย่าไปรับปากใครส่งเดชหล่ะ ดีที่อมม่ามามา เข้าใจเจ้า ถึงไม่เป็นเรื่อง" เฮ้ออ ไรเนี่ย สรุปผมมานี่มันไม่ถูกเหรอ
แต่พอมาถึงหน้าตำหนัก แล้วพบกับจางซังกุงสิครับ โห โผกอดกันเลย อะไรกันเนี่ย ทำไมที่นี่มันซับซ้อนแบบนี้ แล้วสองคนนั้นเค้าก็เอาแต่ร้องไห้ครับ ไม่พูดอะไรกันเลย ซังกุงคนสนิทของจางซังกุงก็พลอยร้องไห้ไปด้วย
"อ๊กจอง ขอบคุณเจ้าจริง ๆ ที่อยู่เคียงข้างข้าในวันที่ข้าเจ็บปวด" เค้าดูรักกันมากนะครับ ผมรู้สึกเจ็บแปล็บในอก
"โชฮา" จางซังกุง ได้แต่ตอบมาแบบนั้นครับ
"ข้าต้องเข้าไปแล้วหล่ะ อ๊กจอง เดี๋ยวอมม่ามามา จะกริ้วแล้วจะพาลมากริ้วเจ้าอีกคน เดี๋ยวพอเสร็จเรื่องข้าจะไปหาเจ้าแล้วกันนะ เจ้าอดทนหน่อยนะ"
"เพคะโชฮา หม่อมฉันจะรอพระองค์เพคะ ขอทรงให้ทรงอดทนและผ่านกับเรื่องนี้ไปให้ได้นะเพคะโชฮา"
"เจ้าเองก็กลับไปที่พักได้แล้วนะ อิงนาหรี" อิงนาหรี เหรอ ทำไมต้องเรียกกันเย็นชาแบบนั้นด้วย นี่ ผมอยู่ผิดที่ผิดเวลางั้นสิ
"พะยะค่ะโชฮา" แล้วผมก็เดินออกมาครับ
พออีกวัน พิธีฝังพระศพที่สุสานหลวงก็ดำเนินไป ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของประชาชนครับ และพิธีเถลิงราชย์ของกษัตริย์ใหม่ก็เริ่มต่อในวันถัดไปเลยครับ ผมเองไม่มีอะไรทำครับ เพราะแนซีและนางในคนอื่นก็มีงานต้องรับผิดชอบของตนเองไป ผมเลยเริ่มเดินท่องเมืองเพื่อหาลู่ทางกลับบ้านในเมื่อท่าทางแล้วผมก็คงไม่มีอะไรผูกพันกับที่นี่แล้วหน่ะครับ
"ทูร่ง วาดภาพไหมขอรับ" พ่อค้าข้างทางชวนผมวาดรูปเหมือนครับ เออ ดีเหมือนกัน หาไรเพลิน ๆ ทำดีกว่า ผมได้ตังค์ทุกเดือนอยู่แล้วครับ แต่ไม่เคยได้ใช้เลย
"ทูร่ง ท่านนี่รูปงามมากนะขอรับ ข้าน้อยไม่ค่อยพบเจอบุรุษที่มีใบหน้าไร้ทีติ แบบนี้เลย"
"อะ เอ่อ ขอรับ" แหม ชมซึ่งหน้า แต่ดูท่าทางคงชมทุกคนแหล่ะครับ 555+
"ฟันของท่านก็เรียงตัวสวยมากเลยขอรับ" แหม ก็จัดฟันอ่ะลุง ฮิ ฮิ
ซักพักผมก็ได้ ภาพมาครับ กะว่าเดี๋ยวคงเอาไปติดในห้องนอนน่ะครับ ผมเพิ่งสังเกตจากในรูปน่ะครับ ว่าผมของผมเริ่มยาวแล้ว คงพอมัดเป็นจุกเหมือนชาวบ้านได้ละ
พอเดินมาถึงที่พัก อ่าว คิมเทกัม รอผมอยู่ครับ
"อิงยองกัม มาแล้วเหรอ" เอ๋ ยองกัม ผมไปเป็นยองกัมเมื่อไหร่กัน
"ชูซังโชนา แต่งตั้งท่านเมื่อเช้าแล้วหล่ะ แต่ท่านออกไปข้างนอกวังเลยไม่ได้รับพระบรมราชโองการด้วยตนเองหน่ะ ข้ารับแทนท่านไปแล้ว อ่ะ นี่ " แล้วคิมแทกัมก็ยื่นอะไรเป็นม้วน ๆ มาให้ผมครับ
"แล้วท่านก็เตรียมตัวย้ายออกไปนอกวังวันนี้เลยนะ"
"เอ๋ ย้ายข้าไปไหนเหรอขอรับ เทกัมมานยิม"
"มันเป็นพระบรมราชโองการหน่ะ ท่านก็ทำตามก็แล้วกัน แล้วก็เลิกเรียกข้าว่าเทกัมมานยิมได้แล้ว เรียกเทกัมก็พอ"
หึ หึ คงจะไล่ผมไปที่อื่นสินะ ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย แม้ผมจะเห็นวังนี้เป็นที่พึ่งแต่ก็ไม่ได้คิดจะอยู่ที่นี่ตลอดไปซะหน่อย ถึงผมจะพยายามทำใจมาหลายวันนับตั้งแต่เรื่องเมื่อวันนั้น แต่ถึงเวลาจริง ๆ กลับเจ็บที่ใจจนแทบหมดแรง ผมจะไม่ร้องไห้หรอกครับ รักแรกเป็นผู้ชายก็น่าอดสูพอละ นี่ยังมาโดนทิ้งอีก
"อิงยองกัม" ชินครับ ชินก็มา
"ข้ารับหน้าที่นำทางยองกัมไปที่นอกวังน่ะขอรับ"
"อ่อ อื้มมมม งั้นพี่ขอไปเก็บของก่อนนะ"
"ข้าน้อยได้ย้ายสัมภาระ ทั้งหมดของท่านไปไว้ที่โน่นแล้วขอรับ" โหย จะรีบไล่กันไปไหนนักนะ
จริง ๆ ผมไม่อยากไปพักที่เค้าจัดให้ไว้หรอกครับ รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินอะไรแบบนั้น แต่จะให้ไปหาที่พักฉุกลหุก ตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหน หรือจะไปอยู่กับชินก่อนดีนะ อืมม แต่ก็ลองไปดูที่นั่นก่อนดีกว่า
แต่พอมาถึงนี่สิครับ โห จะใหญ่ไปไหน และมีทหารเฝ้ายามไว้ด้วยครับ
"ขอต้อนรับเจ้าค่ะ ยองกัมมานยิม" มีพวกแม่บ้านออกมาต้อนรับผมด้วยครับ
ซักพักชูซังโชนาก็เดินออกมา "ชอบบ้านที่ข้าซื้อให้เจ้าไหมหล่ะ" พวกบริวารรีบหลีกทางแล้วถอยหลังหลบไปที่อื่นครับ
ผมทำหน้ามึนครับ คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้า
"เป็นอะไรไป ไม่ชอบเหรอ ข้าอุตสาห์เฟ้นหาบ้านที่เจ้าน่าจะชอบแล้วนะ ข้าเองไม่สามารถสร้างตำหนักใหม่ให้เจ้าได้ เพราะพวกยังบันจะค่อนขอดว่าข้าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายหน่ะ"
"เป็นพระกรุณา พะยะค่ะโชนา"
"โชนา เหรอ ทำไมเรียกข้าแบบนั้นหล่ะ อิง"
"เจ้าโกรธข้าเรื่องวันนั้นจริง ๆ ด้วยสินะ มิน่าถึงหายไปเลย วันที่ข้าทำพิธีเถลิงราช ข้าหาเจ้าแทบพลิกวัง แต่เจ้ากลับไม่อยู่"
"การที่เจ้าซึ่งเป็นคนของข้าเข้าไปอยู่ในตำหนักที่มีพระศพหน่ะ มันขัดราชธรรมเนียม และข้าอยากปกป้องทั้งเจ้าและโซวอนจากการถูกโจมตี ข้าถึงได้เร่งให้เจ้าไปจากตรงนั้นก่อนที่ทั้งฝ่ายโซรนและฝ่ายโนรนจะมาเจอเข้าหน่ะ"
"โซวอน เหรอ พะยะค่ะโชนา" ผม งง ครับว่ากำลังพูดถึงใคร
"อ่อ อ๊กจอง หน่ะ ข้าแต่งตั้งนางเป็น พระสนมโซวอนแล้ว" อ่อ คงคล้าย ๆ ผม เดี๋ยวคงมีคนอื่นต้องเปลี่ยนชื่ออีก
"หม่อมฉันไม่ได้อยู่ในวังวันนั้นพะยะค่ะโชนา หม่อมฉันขอแสดงความยินดีด้วยพะยะค่ะโชนา"
"เจ้าหึงข้าเหรอ อิง" หึง เหรอ คนอย่างผมหน่ะเหรอ จะ หึง ชิ
"โอ๋ ๆ ๆ ไม่งอนนะ ๆ " โชนาเข้ามาสวมกอดผมครับ ไม่อายผีอายสาง คนเต็มบ้านแท้ ๆ
"แล้วทำไมต้องให้หม่อมฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยหล่ะ พะยะค่ะโชนา"
"เจ้าจะให้ข้าสร้างตำหนักให้เจ้าไว้ในวังเหมือนโซวอนเหรอ ขนาดกระโจมวันก่อนเจ้ายังไม่อยากอยู่ ครั้นข้าจะไปหาเจ้าที่ที่พักของแนซี ก็ดูพิกลยังไงก็ไม่รู้"
"บ้านนี้ข้ามาหาให้เจ้าด้วยตัวเองเลยนะ ข้าจะได้มาหาเจ้าได้สะดวก ๆ และเจ้าก็ไม่ต้องทนอึดอัดกับคนในวังด้วย"
"ขอรับท่านลีซุน"
"ฮิ ฮิ เจ้าหายโกรธข้าแล้วใช่ไหม" โชนาเอาหน้ามาซุกกับแก้มผมครับ จะหลบก็ไม่ได้ กอดผมไว้ซะแน่น
"แล้วทรงรู้สึกดีขึ้นแล้วหรือยังขอรับ" ผมไถ่ถามครับ เพราะไม่เห็นโชนา ร้องไห้ซักแอะเดียว ตอนอาม่าผมเสีย ผมร้องไห้บ้านแทบแตก
"อาป้ามามา ทรงรับสั่งอยู่เสมอ ว่าราชวงศ์มีขึ้นมาเพื่อค้ำจุนประชาชน อย่าให้การจากไปของอาป้ามามา ทำให้กษัตริย์องค์ต่อไปต้องบกพร่องต่อหน้าที่แม้แต่วันเดียว อีกอย่างก็ทรงประชวรด้วยโรคพระหทัย มานานแล้วด้วย"
"โชคยังดีที่รอบตัวข้า ล้วนมีคนที่รักและห่วงใยข้า ข้าขอโทษจริง ๆ อิง ที่ข้าไม่อาจให้เจ้าอยู่เคียงข้าข้าในช่วงเวลานั้นได้ เข้าใจข้าหน่อยเถอะนะ" เหมือนโดนตบหัวแล้วลูบหลังไงไม่รู้ ไม่รู้จะเชื่อได้จริงหรือเปล่าเนี่ย
"แล้วทำไมต้องซื้อบ้านใหญ่ขนาดนี้ให้ข้าด้วยขอรับ พวกโซรน จะไม่ว่าเอาเหรอ"
"บรรดาศักดิ์ ระดับ ยองกัม ที่เจ้ามีและผลงานของเจ้าในการรับใช้ชูซังโชนาหน่ะ ก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอในการที่ข้าจะจัดหาบ้านให้กับเจ้าได้อยู่แล้ว อีกอย่างข้าเองก็จะใช้ที่นี่ในการพักนอกวัง เหมือนกับตำหนักครั้งก่อนที่เราไปด้วยกันหน่ะ เพราะตำหนักนั้นเป็นของอดีตกษัตริย์ ย่อมไม่เหมาะที่ข้าจะไปพักหรอก คงต้องยกให้เชื้อพระวงศ์ที่ออกเรือนไปหน่ะ"
"วันนี้จะค้างที่นี่หรือเปล่าขอรับ"
"เจ้าอยากให้ข้าค้างไหมหล่ะ"
"แล้วแต่ .... "
"อยากให้ค้างมะ"
"ขอรับ"
"ก๊อบ ก๊อบ ก๊อบ ก๊อบ" เสียงเหมือนคนควบม้ามาทางนี้ครับ พวกเชวยองกัม กับองค์รักษ์หลวงรีบกางดาบออกมาคอยคุ้มกัน โชฮา
เอ๋ เป็นคิมแทกัมเจ้ากรมแนซี กระโดดลงจากหลังม้าครับ "กราบทูลโชฮา ชูซังโชนาสิ้นพระชนน์ด้วยโรคพระหฤทัยวาย เมื่อหัวค่ำพะยะค่ะ"
"โชนาาาาาา" คิมแทกัมกราบทูลด้วยน้ำตานองหน้าครับ
"เราต้องกลับวังกันเดี๋ยวนี้" โชฮา ออกคำสั่งครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะทรงมีสติได้มากขนาดนี้
ซักพักเราก็กลับถึงวังครับ ผมก็แยกตัวออกมากลับมาที่กรมแนซี ก็เห็นพวกแนซีร้องห่มร้องไห้ กันเต็มไปหมด คงเพราะ ชูซังโชนา เป็นเจ้านายโดยตรงของแนซีน่ะครับ แต่คนข้างนอกวังคงยังไม่รู้เรื่องน่ะครับ เพราะระหว่างทางกลับมาก็เห็นผู้คนดำเนินชีวิตกันตามปกติ
พอผมเข้าห้องก็มีแนซีเด็ก ๆ เตรียมชุดไว้ทุกข์ให้น่ะครับ จะเป็นผ้าป่านสีตุ่น ๆ
"อิงนาหรี ๆ ๆ ๆ ๆ " "อย่านะเจ้าคะ มามะนิม ๆ ๆ ๆ" ข้างนอกห้องผมมีเสียงตะโกนสลับกันไปมาแบบนี้ครับ ผมเลยเปิดประตูออกไปดู
"มามะนิม" จางซังกุงครับ มายืนร้องไห้อยู่หน้าห้องผม พลางมีซังกุงอีกคนคอยดึงไว้ ดูท่าเค้าคงเป็นห่วงว่ามันไม่เหมาะจะมายืนอยู่ในที่พักของผู้ชายน่ะครับ
"อิงนาหรี ท่านต้องช่วยข้านะ ข้าไม่มีใครแล้วจริง ๆ" แล้วจางซังกุงก็นั่งคุกเขาลงกับพื้นพร้อมเกาะชายเสื้อผมไว้ครับ
"มีอะไร ค่อย ๆ พูดกันก่อนก็ได้ มามะนิม" ผมพยายามพูดโดยไม่ไปแตะตัวเค้าครับ เดี๋ยวโชฮา หึงโหด ใส่ผม
"เอ่อ มามะนิม เข้าไปในห้องพระศพของชูซังโชนาไม่ได้น่ะเจ้าค่ะนาหรี จึงได้เป็นห่วงโชฮา มาก" ซังกุงคนสนิท พูดแทนน่ะครับ อ่อออ จางซังกุงคงกลัวว่าโชฮา จะเสียใจมากนั่นเอง
"แล้วพวกท่านจะให้ข้าช่วยยังไงหล่ะ" ซักพักพวกผมก็ย้ายออกมาคุยกันนอกกำแพงกรมแนซี ท่ามกลางบรรยากาศของผู้คนที่ร้องไห้กันอยู่
"อิงนาหรี ข้าขอให้ท่านช่วยให้ข้าได้เข้าเฝ้าโชฮา ได้ไหม ข้าอยากจะทูลถามด้วยตัวเอง ว่าทรงเป็นยังไงบ้าง"
"ท่านจะให้ข้าเข้าไปกราบทูลให้ออกมาหาท่านใช่ไหม ได้สิ" ผมตกปากรับคำไปครับ มันก็ดูไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรหนิ
"ขอบคุณท่านมากจริง ๆ นาหรี" จางซังกุงกุมมือผมไว้ครับ แต่ แนซีที่กำลังร้องไห้ รอบ ๆ ตัวผมนี่สิ พอเห็นปุ๊บ หยุดร้องละจ้องมาทางเราเลยครับ
"อ่ะ เอ่อ ข้าลืมตัวน่ะ ยังไงก็ขอบคุณท่านจริง ๆ งั้นเราไปเฝ้าโชฮา กันเลยไหม"
"ตกลง"
แล้วพวกผมก็มายืนอยู่หน้าตำหนักใหญ่ครับ เวรยามแน่นหนามาก
"นาหรี ท่านเข้าไปเลย พวกเราเข้าไปไม่ได้หรอก เพราะพวกเราเป็นนางในหน่ะ นอกจากเชื้อพระวงศ์แล้ว ไม่มีใครเข้าไปได้เลย มีแต่แนซีแบบท่านนะ ถึงจะเข้านอกออกในได้" อ๋อออ มิน่าหล่ะ ถึงต้องมาให้ผมช่วย
แล้วก็จริง ๆ ด้วยครับ พวกทหาร ปล่อยให้ผมเข้าไปได้เรื่อย ๆ เลย ผมพลางถามทางคนในนั้นไปเรื่อย ๆ น่ะครับ ว่าโชฮา อยู่ไหน เพราะห้องมันเยอะมาก แล้วผมก็มาถึงที่ประทับของพระศพ
"อิงนาหรี ท่านมาที่นี่ได้อย่างไรกัน" เชวยองกัมที่ยืนอยู่หน้าประตูครับ
"อ่ะ เอ่อออออ ข้ามีเรื่องจะกราบทูลขอรับ"
"ข้าขอเตือนในฐานะที่ข้าอาวุโสกว่าท่านนะ ท่านอย่าคิดว่าโชฮา ทรงโปรดแล้วท่านจะทำแบบนี้ได้นะ จำไว้ให้ดีหล่ะ" โห เจ็บเลยครับ ไม่เคยโดนเชวยองกัมด่าเลย
"ข้างนอกเอะอะ อะไรกันหน่ะ" เสียงผู้หญิงครับ เหมือนจะเป็นเสียงชุงจอนมาม่า ครับ
"อ่ะ เอ่ออ อิงนาหรี ขอเข้าเฝ้าโชฮาหน่ะพะยะค่ะมาม่า" เชวยองกัมกราบทูลไปครับ แล้วประตูก็เปิดออก ผมเห็นโชฮา และพีกุงมาม่า นั่งอยู่ด้วยครับ ทุกคนหันหน้ามาทางผม
"มีอะไรหรือเปล่าอิง" ชุงจอนมาม่า ตรัสถามผมครับ
ผมก็พาซื่อครับ "เอ่อ จางซังกุง อยากเข้าเฝ้าโชฮา พะยะค่ะมาม่า" ดูเหมือนผมจะพูดอะไรผิดไป
"นังจางชั้นต่ำนั่ง กล้ายังไงมาเข้าเฝ้าโชฮา นะเวลานี้" เสียงชุงจอนมาม่า กรี๊ด ห้องแทบจะแตกครับ แต่ซักพักก็เปลี่ยนสีหน้าเย็นลง แล้วมองมาทางผม
"โถ อิง เจ้าคงไม่รู้เรื่องอะไรสินะ คงโดนนางหลอกใช้เป็นเครื่องมือ"
"อ่ะ เอ่ออ" งง เลยครับ มันเกิดอะไรขึ้น
"อมม่ามามา ชั่วดี นางกับโชฮา ก็เป็นคนรักกันนะเพคะมาม่า นางคงห่วงใยว่าโชฮา จะทรงทำใจกับเรื่องนี้ได้อย่างไร" พีกุงมามะครับ โห ช่างเป็นภรรยาที่ใจกว้างนัก
"หึ หึ ไม่ว่ายังไงนะ เซจา เจ้าจะทำผิดราชธรรมเนียม เพราะความรู้สึกส่วนตัวไม่ได้ เบคซังกุงท่านไปขับไล่นางชั้นต่ำนั่นออกจาก เขตตำหนักใหญ่ได้แล้ว" ชุงจอนมาม่าตวาดครับ
"ไล่ เหรอ เจ้ากล้าไล่ผู้หญิงของเซจา อย่างนั้นเหรอ ช่างไร้ความเป็นเชื้อพระวงศ์" อยู่ดี ๆ ก็มีคุณยายที่มาพร้อมกับขบวนเดินเข้ามาครับ ทุกคนก็โค้งให้เกียรติ
"แทบีมาม่า (พระพันปี) อย่าทรงใส่พระทัยกับเรื่องเล็กน้อยในวังเลยเพคะมาม่า" ชุงจอนมาม่ายิ้มเวลาพูดครับ แต่น้ำเสียงหวีดมาก และคุณยายคนนี้ คงเป็นแม่ของ ชูซังโชนาสินะครับ
"ข้าเพียงแต่เห็นใจหลานชายของข้าที่ใจกำลังแตกสลายเพราะสูญเสีย พระบิดา เท่านั้นเอง การที่จางซังกุง จะปลอบใจเซจาในฐานะคนรัก มันจะเสียหายอะไรกัน เจ้าก็อย่ายึดติดกับธรรมเนี่ยมคร่ำครึพวกนั้นเลย" พูดเหมือนจะดีนะครับ แต่ผมกลับรู้สึกว่าสองคนนี้กำลังกวนโอ๊ย กันอยู่
"ทุกคนอย่ามีปากเสียงให้อายเหล่าบริวารเลยพะยะค่ะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะออกไปพบนางเพียงครู่เดียวเท่านั้น" โชฮาตัดบทครับ แล้วก็เดินออกจากห้องพร้อมจูงมือ แล้วลากผมไป
"เจ้ามาที่นี่ได้ยังไงอิง อ๊กจองให้เจ้ามาหาข้าจริง ๆ เหรอ" โชฮาตรัสถามผมขณะเดินไปตามทางครับ
"ขอรับ ท่านลีซุน"
"ทีหน้าทีหลังอย่าไปรับปากใครส่งเดชหล่ะ ดีที่อมม่ามามา เข้าใจเจ้า ถึงไม่เป็นเรื่อง" เฮ้ออ ไรเนี่ย สรุปผมมานี่มันไม่ถูกเหรอ
แต่พอมาถึงหน้าตำหนัก แล้วพบกับจางซังกุงสิครับ โห โผกอดกันเลย อะไรกันเนี่ย ทำไมที่นี่มันซับซ้อนแบบนี้ แล้วสองคนนั้นเค้าก็เอาแต่ร้องไห้ครับ ไม่พูดอะไรกันเลย ซังกุงคนสนิทของจางซังกุงก็พลอยร้องไห้ไปด้วย
"อ๊กจอง ขอบคุณเจ้าจริง ๆ ที่อยู่เคียงข้างข้าในวันที่ข้าเจ็บปวด" เค้าดูรักกันมากนะครับ ผมรู้สึกเจ็บแปล็บในอก
"โชฮา" จางซังกุง ได้แต่ตอบมาแบบนั้นครับ
"ข้าต้องเข้าไปแล้วหล่ะ อ๊กจอง เดี๋ยวอมม่ามามา จะกริ้วแล้วจะพาลมากริ้วเจ้าอีกคน เดี๋ยวพอเสร็จเรื่องข้าจะไปหาเจ้าแล้วกันนะ เจ้าอดทนหน่อยนะ"
"เพคะโชฮา หม่อมฉันจะรอพระองค์เพคะ ขอทรงให้ทรงอดทนและผ่านกับเรื่องนี้ไปให้ได้นะเพคะโชฮา"
"เจ้าเองก็กลับไปที่พักได้แล้วนะ อิงนาหรี" อิงนาหรี เหรอ ทำไมต้องเรียกกันเย็นชาแบบนั้นด้วย นี่ ผมอยู่ผิดที่ผิดเวลางั้นสิ
"พะยะค่ะโชฮา" แล้วผมก็เดินออกมาครับ
พออีกวัน พิธีฝังพระศพที่สุสานหลวงก็ดำเนินไป ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของประชาชนครับ และพิธีเถลิงราชย์ของกษัตริย์ใหม่ก็เริ่มต่อในวันถัดไปเลยครับ ผมเองไม่มีอะไรทำครับ เพราะแนซีและนางในคนอื่นก็มีงานต้องรับผิดชอบของตนเองไป ผมเลยเริ่มเดินท่องเมืองเพื่อหาลู่ทางกลับบ้านในเมื่อท่าทางแล้วผมก็คงไม่มีอะไรผูกพันกับที่นี่แล้วหน่ะครับ
"ทูร่ง วาดภาพไหมขอรับ" พ่อค้าข้างทางชวนผมวาดรูปเหมือนครับ เออ ดีเหมือนกัน หาไรเพลิน ๆ ทำดีกว่า ผมได้ตังค์ทุกเดือนอยู่แล้วครับ แต่ไม่เคยได้ใช้เลย
"ทูร่ง ท่านนี่รูปงามมากนะขอรับ ข้าน้อยไม่ค่อยพบเจอบุรุษที่มีใบหน้าไร้ทีติ แบบนี้เลย"
"อะ เอ่อ ขอรับ" แหม ชมซึ่งหน้า แต่ดูท่าทางคงชมทุกคนแหล่ะครับ 555+
"ฟันของท่านก็เรียงตัวสวยมากเลยขอรับ" แหม ก็จัดฟันอ่ะลุง ฮิ ฮิ
ซักพักผมก็ได้ ภาพมาครับ กะว่าเดี๋ยวคงเอาไปติดในห้องนอนน่ะครับ ผมเพิ่งสังเกตจากในรูปน่ะครับ ว่าผมของผมเริ่มยาวแล้ว คงพอมัดเป็นจุกเหมือนชาวบ้านได้ละ
พอเดินมาถึงที่พัก อ่าว คิมเทกัม รอผมอยู่ครับ
"อิงยองกัม มาแล้วเหรอ" เอ๋ ยองกัม ผมไปเป็นยองกัมเมื่อไหร่กัน
"ชูซังโชนา แต่งตั้งท่านเมื่อเช้าแล้วหล่ะ แต่ท่านออกไปข้างนอกวังเลยไม่ได้รับพระบรมราชโองการด้วยตนเองหน่ะ ข้ารับแทนท่านไปแล้ว อ่ะ นี่ " แล้วคิมแทกัมก็ยื่นอะไรเป็นม้วน ๆ มาให้ผมครับ
"แล้วท่านก็เตรียมตัวย้ายออกไปนอกวังวันนี้เลยนะ"
"เอ๋ ย้ายข้าไปไหนเหรอขอรับ เทกัมมานยิม"
"มันเป็นพระบรมราชโองการหน่ะ ท่านก็ทำตามก็แล้วกัน แล้วก็เลิกเรียกข้าว่าเทกัมมานยิมได้แล้ว เรียกเทกัมก็พอ"
หึ หึ คงจะไล่ผมไปที่อื่นสินะ ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย แม้ผมจะเห็นวังนี้เป็นที่พึ่งแต่ก็ไม่ได้คิดจะอยู่ที่นี่ตลอดไปซะหน่อย ถึงผมจะพยายามทำใจมาหลายวันนับตั้งแต่เรื่องเมื่อวันนั้น แต่ถึงเวลาจริง ๆ กลับเจ็บที่ใจจนแทบหมดแรง ผมจะไม่ร้องไห้หรอกครับ รักแรกเป็นผู้ชายก็น่าอดสูพอละ นี่ยังมาโดนทิ้งอีก
"อิงยองกัม" ชินครับ ชินก็มา
"ข้ารับหน้าที่นำทางยองกัมไปที่นอกวังน่ะขอรับ"
"อ่อ อื้มมมม งั้นพี่ขอไปเก็บของก่อนนะ"
"ข้าน้อยได้ย้ายสัมภาระ ทั้งหมดของท่านไปไว้ที่โน่นแล้วขอรับ" โหย จะรีบไล่กันไปไหนนักนะ
จริง ๆ ผมไม่อยากไปพักที่เค้าจัดให้ไว้หรอกครับ รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินอะไรแบบนั้น แต่จะให้ไปหาที่พักฉุกลหุก ตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหน หรือจะไปอยู่กับชินก่อนดีนะ อืมม แต่ก็ลองไปดูที่นั่นก่อนดีกว่า
แต่พอมาถึงนี่สิครับ โห จะใหญ่ไปไหน และมีทหารเฝ้ายามไว้ด้วยครับ
"ขอต้อนรับเจ้าค่ะ ยองกัมมานยิม" มีพวกแม่บ้านออกมาต้อนรับผมด้วยครับ
ซักพักชูซังโชนาก็เดินออกมา "ชอบบ้านที่ข้าซื้อให้เจ้าไหมหล่ะ" พวกบริวารรีบหลีกทางแล้วถอยหลังหลบไปที่อื่นครับ
ผมทำหน้ามึนครับ คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้า
"เป็นอะไรไป ไม่ชอบเหรอ ข้าอุตสาห์เฟ้นหาบ้านที่เจ้าน่าจะชอบแล้วนะ ข้าเองไม่สามารถสร้างตำหนักใหม่ให้เจ้าได้ เพราะพวกยังบันจะค่อนขอดว่าข้าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายหน่ะ"
"เป็นพระกรุณา พะยะค่ะโชนา"
"โชนา เหรอ ทำไมเรียกข้าแบบนั้นหล่ะ อิง"
"เจ้าโกรธข้าเรื่องวันนั้นจริง ๆ ด้วยสินะ มิน่าถึงหายไปเลย วันที่ข้าทำพิธีเถลิงราช ข้าหาเจ้าแทบพลิกวัง แต่เจ้ากลับไม่อยู่"
"การที่เจ้าซึ่งเป็นคนของข้าเข้าไปอยู่ในตำหนักที่มีพระศพหน่ะ มันขัดราชธรรมเนียม และข้าอยากปกป้องทั้งเจ้าและโซวอนจากการถูกโจมตี ข้าถึงได้เร่งให้เจ้าไปจากตรงนั้นก่อนที่ทั้งฝ่ายโซรนและฝ่ายโนรนจะมาเจอเข้าหน่ะ"
"โซวอน เหรอ พะยะค่ะโชนา" ผม งง ครับว่ากำลังพูดถึงใคร
"อ่อ อ๊กจอง หน่ะ ข้าแต่งตั้งนางเป็น พระสนมโซวอนแล้ว" อ่อ คงคล้าย ๆ ผม เดี๋ยวคงมีคนอื่นต้องเปลี่ยนชื่ออีก
"หม่อมฉันไม่ได้อยู่ในวังวันนั้นพะยะค่ะโชนา หม่อมฉันขอแสดงความยินดีด้วยพะยะค่ะโชนา"
"เจ้าหึงข้าเหรอ อิง" หึง เหรอ คนอย่างผมหน่ะเหรอ จะ หึง ชิ
"โอ๋ ๆ ๆ ไม่งอนนะ ๆ " โชนาเข้ามาสวมกอดผมครับ ไม่อายผีอายสาง คนเต็มบ้านแท้ ๆ
"แล้วทำไมต้องให้หม่อมฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยหล่ะ พะยะค่ะโชนา"
"เจ้าจะให้ข้าสร้างตำหนักให้เจ้าไว้ในวังเหมือนโซวอนเหรอ ขนาดกระโจมวันก่อนเจ้ายังไม่อยากอยู่ ครั้นข้าจะไปหาเจ้าที่ที่พักของแนซี ก็ดูพิกลยังไงก็ไม่รู้"
"บ้านนี้ข้ามาหาให้เจ้าด้วยตัวเองเลยนะ ข้าจะได้มาหาเจ้าได้สะดวก ๆ และเจ้าก็ไม่ต้องทนอึดอัดกับคนในวังด้วย"
"ขอรับท่านลีซุน"
"ฮิ ฮิ เจ้าหายโกรธข้าแล้วใช่ไหม" โชนาเอาหน้ามาซุกกับแก้มผมครับ จะหลบก็ไม่ได้ กอดผมไว้ซะแน่น
"แล้วทรงรู้สึกดีขึ้นแล้วหรือยังขอรับ" ผมไถ่ถามครับ เพราะไม่เห็นโชนา ร้องไห้ซักแอะเดียว ตอนอาม่าผมเสีย ผมร้องไห้บ้านแทบแตก
"อาป้ามามา ทรงรับสั่งอยู่เสมอ ว่าราชวงศ์มีขึ้นมาเพื่อค้ำจุนประชาชน อย่าให้การจากไปของอาป้ามามา ทำให้กษัตริย์องค์ต่อไปต้องบกพร่องต่อหน้าที่แม้แต่วันเดียว อีกอย่างก็ทรงประชวรด้วยโรคพระหทัย มานานแล้วด้วย"
"โชคยังดีที่รอบตัวข้า ล้วนมีคนที่รักและห่วงใยข้า ข้าขอโทษจริง ๆ อิง ที่ข้าไม่อาจให้เจ้าอยู่เคียงข้าข้าในช่วงเวลานั้นได้ เข้าใจข้าหน่อยเถอะนะ" เหมือนโดนตบหัวแล้วลูบหลังไงไม่รู้ ไม่รู้จะเชื่อได้จริงหรือเปล่าเนี่ย
"แล้วทำไมต้องซื้อบ้านใหญ่ขนาดนี้ให้ข้าด้วยขอรับ พวกโซรน จะไม่ว่าเอาเหรอ"
"บรรดาศักดิ์ ระดับ ยองกัม ที่เจ้ามีและผลงานของเจ้าในการรับใช้ชูซังโชนาหน่ะ ก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอในการที่ข้าจะจัดหาบ้านให้กับเจ้าได้อยู่แล้ว อีกอย่างข้าเองก็จะใช้ที่นี่ในการพักนอกวัง เหมือนกับตำหนักครั้งก่อนที่เราไปด้วยกันหน่ะ เพราะตำหนักนั้นเป็นของอดีตกษัตริย์ ย่อมไม่เหมาะที่ข้าจะไปพักหรอก คงต้องยกให้เชื้อพระวงศ์ที่ออกเรือนไปหน่ะ"
"วันนี้จะค้างที่นี่หรือเปล่าขอรับ"
"เจ้าอยากให้ข้าค้างไหมหล่ะ"
"แล้วแต่ .... "
"อยากให้ค้างมะ"
"ขอรับ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น