คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 : ช่างภาพและไอดอลอันดับ 1
ช่างภาพและไอดอลอันดับ 1
เมืองนามิโมริแห่งนี้มีไอดอลสาวที่กำลังเป็นที่นิยมนั่นก็คือซาซางาวะ เคียวโกะ
และเมืองนามิโมริแห่งนี้ก็มีช่างภาพสาวที่เป็นที่นิยมอยู่ นั่นก็คือ ซาซางาวะ เคียวโกะ
ใช่แล้ว...นั่นเป็นชื่อของฉันเองค่ะ ซาซางาวะ เคียวโกะ ฉันมีสองอาชีพในขณะเดียวกัน มีหลายคนถามฉันว่ารับงานสองอาชีพแบบนี้จะไหวเหรอ? ทำไมต้องเป็นทั้งช่างภาพและไอดอลด้วยล่ะ? ทำไมไม่เลือกอาชีพใดอาชีพหนึ่ง? ขอให้ฉันได้ย้อนตอนก็แล้วกันนะ เรื่องมันเริ่มจากตรงนี้...
3 ปีก่อนหน้านี้
'นี่ เคียวโกะ อนาคตเธออยากทำงานเป็นอะไรเหรอ?'
ในขณะที่ฉันกำลังทานข้าวกลางวันอยู่ ฮานะก็ได้ถามคำถามฉันขึ้นมา
'ก็...อยากเป็นช่างภาพน่ะ ไม่ก็ถ้าเป็นไม่ได้ฉันก็อยากเป็นไอดอลแทนน่ะนะ'
ฉันวางตะเกียบที่ใช้งานเสร็จแล้ว แต่จริงๆนะ ฉันอยากเป็นสองอย่างนี้จริงๆ แต่ถ้าทั้งสองอย่างนี้ไม่ไหวก็คงต้องเลือกงานอย่างอื่นแล้วล่ะ
'เอ๋? แล้วนักบัลเล่ต์ แล้วก็ตำรวจที่เธอฝันเมื่อตอนเด็กๆล่ะ? ไม่เป็นแล้วเหรอ? ทำไมอะ?'
‘ก็นั่นมันเมื่อตอนยังเด็กนี่หน่า ฮานะ พอโตขึ้น ความฝันอะไรๆ ก็เปลี่ยนไปหมดแล้วล่ะ ฉันคิดว่าการที่ฉันได้เป็นช่างภาพไม่ก็ไอดอลเนี่ย มันคงจะเหมาะกับฉันมากกว่าด้วยน่ะ’
แหงล่ะ...ก็มีแต่คนบอกว่า ฝีมือการถ่ายภาพของฉันมันวิเศษ แล้วก็ดูดีสุดๆไปเลย ทั้งองศาที่ถ่ายได้ ทั้งจังหวะที่เป๊ะเวอร์อีกต่างหาก ส่วนไอดอล ฉันคิดว่าคงจะได้ใส่ชุดสวยๆด้วย แถมฉันยังเป็นคนสวยอีกด้วยนะ
'มันก็จริง ที่ว่าเธอเก่งและมีพรสวรรค์ด้านการถ่ายภาพแถมยังสวยที่จะเป็นไอดอลอีกต่างหาก แต่ฉันว่านะ เธอน่าจะเป็นทั้งสองอย่างพร้อมๆกันเลยสิ! แบบนี้ดีออกนะฉันว่า เธอต้องรวยมากแน่ๆ ถ้าเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกันแบบนี้เนี่ย'
‘ฮานะล่ะก็... จะไม่ให้ฉันมีเวลาพักบ้างเลยรึไงกันน่ะ? เป็นทั้งสองอย่างแบบนี้ ถึงจะเป็นฉันก็ไม่น่าไหวหรอกนะ’
'แหมๆ...หยอกย่ะ หยอก อ๊ะ...อาจารย์มาแล้ว! เพิ่งกินข้าวเสร็จเองนะ เวลาผ่านไปไวจริงๆเลยนะ!'
'จริงด้วยสิ! บ่ายโมงแล้วเหรอเนี่ย?!'
ฉันกับฮานะรีบเก็บกล่องข้าวที่เพิ่งกินเสร็จไปให้เข้าที่เข้าทางแล้วลากโต๊ะของตัวเองไปไว้ที่เดิม จากนั้นก็รีบนั่งเรียบร้อย
'แฮ่ม! ทุกคนนั่งที่กันหมดแล้วใช่มั้ยครับ? งั้นหัวหน้าห้อง ซาซางาวะ บอกนักเรียนทำความเคารพ'
'ค่ะ นักเรียนทั้งหมด ทำความเคารพ'
ฉันยืนขึ้นแล้วบอกให้นักเรียนทุกคนทำความเคารพอาจารย์...ทุกคนอ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันนี่แหละ ที่เป็นหัวหน้าห้องของห้องนี้ ที่ฉันได้เป็นเนี่ย ก็คงเป็นเพราะว่าความรับผิดชอบของฉันด้วยส่วนนึงน่ะนะ รู้สึกว่าคนที่มีความรับผิดชอบที่สูงที่สุดของห้องนี้ ก็คือฉัน ตอนเลือกหัวหน้าห้องคุณครูก็เลยเลือกฉันเป็นหัวหน้าห้องแทน ทัั้งๆที่ฉันไม่ได้อยากจะเป็นเลยสักหน่อย -*-
'สวัสดีตอนบ่ายค่ะ/ครับ อาจารย์'
ฉันและนักเรียนทั้งห้องบอกเคารพอาจารย์เรียบร้อยหลังจากนั้นก็นั่งลงที่เก้าอี้ตามปกติที่ทำกันทุกครั้งที่มีอาจารย์เข้ามาสอน
'แฮ่ม! วันนี้ครูจะมาให้นักเรียนเขียนแบบฟอร์มกันนะ ว่าหลังจากที่เรียนจบจากที่นี่แล้ว พวกเธออยากจะทำอะไรกัน ซาซางาวะ เธอมารับแบบฟอร์มจากฉันแล้วเอาไปแจกให้เพื่อนด้วย'
'ค่ะ'
หลังจากที่อาจารย์พูดจบแล้ว ฉันก็ขานรับและเดินไปรับแบบฟอร์มมาแจกให้เพื่อนๆทุกคนและฉันเองด้วย
พอแจกให้เพื่อนๆเสร็จ ฉันก็เอาแบบฟอร์มที่เหลือคืนอาจารย์ไปและกลับมานั่งที่ตัวเอง
ไหน ๆ ดูซิ...หลังจากที่เรียนจบไปแล้ว อยากทำงานอะไรงั้นเหรอ? แน่นอนสิ! ต้องเป็นไอดอลและช่างภาพอยู่แล้วล่ะ!
1ปีผ่านไป
'เคียวโกะ!!! พี่ได้ข่าวว่ามีคนมาทาบทามน้องไปเป็นไอดอลแล้วก็ช่างภาพงั้นเหรอ?!!'
เสียงอะไรกันเนี่ย พี่เรียวเฮนี่ โวยวายแต่เช้าเลยนะ พี่เนี่ย ฉันเพิ่งทำอาหารเสร็จเองนะ ทำอาหารมันก็เหนื่อยนะคะ ให้ตายสิ
ฉันวางอาหารเช้าจานสุดท้ายที่ทำไว้บนโต๊ะ หลังจากที่พี่เรียวเฮเพิ่งกลับเข้าประตูบ้านมาเมื่อไม่นาน
'พี่ชายคะ อย่าตะโกนแบบนี้สิคะ เดี๋ยวชาวบ้านเขาก็ได้ด่ากลับหรอกค่ะ' ตาฉันพูด ฮิๆ แต่คงไม่เสียงดังเท่าพี่ชายบ้าพลังคนนี้หรอกนะ
'ก็แหม! เคียวโกะ! มีคนมมาทาบทามน้องเลยนี่หน่า แล้วน้องจะเป็นอะไรงั้นเหรอ? ระหว่างช่างภาพกับไอดอล?'
พี่เรียวเฮรีบวิ่งเข้ามาโอบไหล่ฉันแล้วยิ้มยิงฟันให้ ทำแบบนี้ฉันก็อึดอัดเป็นนะ พี่เรียวเฮล่ะก็...
'หนูจะเป็นทั้งสองอย่างเลยค่ะ' ฉันยิ้มให้พี่เรียวเฮแล้วตอบคำถามไป จากนั้นก็เอาแขนของพี่เรียวเฮที่โอบไหล่ฉันอยู่ออกแล้วเดินตักข้าวใส่จานให้พี่เรียวเฮแล้วก็ฉัน
'หา??!! ไม่ได้นะ! เคียวโกะ!!! น้องจะทำทั้งสองอย่างพร้อมกันไม่ได้!'
ปัง!
พี่เรียวเฮตบโต๊ะ จนฉันสะดุ้ง จะตบโต๊ะทำไมกันเนี่ย?! ก็รู้ว่าบ้าพลัง แต่ตบโต๊ะแรงๆแบบนั้น เดี๋ยวได้ซื้อโต๊ะใหม่จนได้หรอก
'ทำไมหนูจะทำไม่ได้กันคะ? ทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน ง่ายๆจะตายไป อีกอย่างปีหน้าหนูก็จะจบม.ปลายแล้วนะ พี่ก็...' ฉันวางจจานข้าวของพี่และฉันลงบนโต๊ะ
'ทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน มันหนักนะ เคียวโกะ อย่างน้องน่ะ ไม่ไหวหรอก พี่ว่านะ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งมันไม่ดีกว่าเหรอ?'
'มันก็จริงนะคะ ที่ว่าทำทั้งสองอย่างพร้อมกันมันหนักแล้วก็เหนื่อยด้วย แต่หนูรักทั้งสองอย่างนี้ หนูอยากจะเป็น หนูไม่อยากมานั่งคิดมาก ว่าจะทำอะไรดีด้วย ระหว่างไอดอลและช่างภาพ หนูน่ะ มีพรสวรรค์ ใครๆเขาก็บอกกับหนูแบบนี้นี่คะ' ฉันเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลง
'จะดีเหรอ น้องรัก พี่จะเคารพการตัดสินใจของน้องนะ แต่ถ้าน้องไม่ไหวก็ให้เลิกได้เลยนะ อีกอย่าง บ้านเราก็ไม่ได้จนอะไร บ้านเราก็ค่อยข้างที่จะมีฐานะ ไม่ได้ตกอับอะไร ถ้าไม่อยากก็ให้ถอยมาได้เลยนะ เคียวโกะ พี่เป็นห่วงนะ'
พอพี่เรียวเฮเห็นฉันนั่งลงก็นั่งบ้าง การที่ฉันได้มีพี่ชายที่คอยเป็นห่วงฉันไม่รู้สึกอึดอัดเลยนะ มิหนำซ้ำยังมีความสุขและดีใจด้วยอีกต่างหาก...ถึงจะมีอึดอัดสักนิดนึงบ้างก็เถอะนะ แหะๆ
'ค่ะ น้องสัญญาค่ะ ^^'
หลังจากนั้นที่พวกเรากินข้าวกันไม่นาน ฉันก็โทรหาคนที่มาทาบทามฉันและออกไปเซ็นสัญญากับทางบริษัทที่มาทาบทามฉันทั้งสองบริษัท และแน่นอน ฉันได้ขอทางบริษัทว่าขอให้ฉันได้เรียนจบก่อน ถึงจะทำงานด้านนี้
กลับมา ณ ปัจจุบัน
ฉันขอถอนคำพูดค่ะ! ว่ามันไม่เหนื่อยเลยสักนิด! การที่ทำงานทั้งสองอย่างพร้อมกันมันเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยาก และเหนื่อยมาก! ดีนะ ที่ช่างภาพมันยังพอมีเวลาอยู่ เลยสามารถทำควบคู่ไปได้พร้อมกัน และงานไอดอลที่ฉันทำจริงๆก็คือเป็นนางแบบค่ะ เหนื่อยมาก เหนื่อยที่สุด! ขอย้อนเวลาได้มั้ยเนี่ย ฮืออออออออ TOT
"เคียวโกะจัง! ถึงเวลาถ่ายแบบแล้วนะครับ" หลังจากที่ฉันพักได้ไม่นาน ผู้จัดการก็มาเรียกฉันให้ไปถ่ายแบบ
"ค่ะ!" ฉันลุกขึ้นแล้วเดินตามผู้จัดการสุดหล่อไป จนกระทั่งถึงสถานที่ถ่ายแบบ
หลังจากนั้นฉันก็ใช้เวลาถ่ายแบบจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน
"เหนื่อยอ่า!" ฉันลงไปนอนบนโซฟาที่ห้องส่วนตัวสำหรับพักเป็นพิเศษ
"เหนื่อยหน่อยนะ เคียวโกะจัง ทำงานควบคู่ไปพร้อมกับช่างภาพนี่ คงเหนื่อยแย่เลยสินะ?" พอฉันลงไปนอนบนโซฟาไม่นานผู้จัดการก็ถามคำถามฉันแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้
"เหนื่อยสิคะ ฉันไม่น่าทำงานทั้งสองอย่างควบคู่กันเลยล่ะค่ะ เฮ้อ..." ฉันลุกขึ้นตอบผู้จัดการแล้วพองแก้ม
"ไหนๆก็เลิกงานแล้ว หลังจากที่เก็บของเรียบร้อยแล้ว เคียวโกะจังอยากจะออกไปสูดอากาศเล่นหน่อยมั้ย? เดี๋ยวผมพาไป"
ผู้จัดการยื่นข้อเสนอให้กับฉัน
"แน่นอนค่ะ! ><" รอเวลาสูดอากาศเล่นมานานแล้วฉัน! เผื่อมีอะไรน่าถ่ายรูปสักรูป สองรูปด้วย และแน่นอนล่ะว่าฉันไม่ลืมที่จะหยิบกล้องถ่ายรูปไปด้วย
หลังจากที่เก็บของใส่ลงไปในหลังรถเสร็จเรียบร้อย ผู้จัดการก็ได้พาฉันออกมาสูดอากาศข้างนอกเล่น ให้ตายสิ พระอาทิตย์จะตกดินแล้วเหรอเนี่ย
ในระหว่างที่ฉันเดินสูดอากาศที่สวยสาธารณะเล่นกับผู้จัดการ ฉันก็เหลือบไปเห็นเหรียญ 10 เยนวางอยู่ที่ตู้โทรศัพท์ จริงสิ! เพื่อเป็นการระบายความเหนื่อย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถือว่าเป็นการเจอเหรียญ 10 เยนนี่แล้วนะ ~ ลองขว้างมันเล่นหน่อยจะได้มั้ยนะ
"ผู้จัดการคะ เดี๋ยวก่อนค่ะ!" ฉันหันหน้าไปบอกผู้จัดการ ให้หยุด แล้วเดินไปหยิบเหรียญ 10 เยน ที่วางอยู่ที่ตู้โทรศัพท์นั่น
"เคียวโกะจัง? จะทำอะไรน่ะครับ?'
"สงสัยเหรอคะ? ฮะๆ ก็...จะลองขว้างเหรียญ 10 เยนนี่ไง ว่าหนูจะขว้างไปได้ไกลสักแค่ไหน ถือเป็นการระบายความเหนื่อยด้วยค่ะ" ฉันหยิบเหรียญ 10 เยนที่วางไว้อยู่ แล้วยกมือทำทาจะขว้างเหรียญ 10 เยนนั่น
"เคียวโกะจัง! จะทำอะไรแผลงๆไม่ได้นะครับ! อีกอย่าง เหรียญ 10 เยนนี่มันมีค่ามากเลยนะ! จะเอามาโยนเล่นไม่ได้นะครับ!"
ผู้จัดการดุฉัน และจับแขนฉันไม่ให้ขว้างเหรียญ 10 เยนนี่ได้
"เดี๋ยวก็เก็บมาวางไว้ที่เดิมเองแหละค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฮะๆ" ฉันจับมือผู้จัดการให้เอามือออกไปจากแขนฉันแล้วก็หลับตาขว้างออกไปให้ไกลๆเล้ยยยยยย~!
โป๊ก!
"โอ๊ย! ใครกันน่ะ?!"
"ยะ-แย่แล้ว! /เวรแล้ว! ...=[]=!!" ฉันกับผู้จัดการพูดออกมาพร้อมกัน แล้วรีบวิ่งไปขอโทษคนที่ฉันขว้างเหรียญ 10 เยนไปโดน แต่คิดว่าอย่างฉันจะได้ขอโทษไหม? คำตอบคือ ไม่! เพราะคนที่ขว้างไปโดนดันเป็นคนน่ากลัวมากๆเลยนี่สิ! ฮือออออออ แย่แล้วล่ะ!
ความคิดเห็น