ตอนที่ 36 : บทที่ 16 (2) 150% 1072562 19032563 หนังสือพร้อมส่งค่ะ
E-BOOK ธาราหวนรัก
![]() |
|
ธาราหวนรัก
บทที่ ๑๖ (๒)
ศศิรินธารตัดสินใจที่จะลบแอพเฟสบุคของตัวเองเอาไว้ชั่วคราวเพราะไม่อยากรับรู้ข่าวใดๆ จากเมืองไทยอีก
หญิงสาวเปิดเอาไว้แต่แอพตัวจัดการเพจเท่านั้นหลังจากมิสเตอร์พีส่งข่าวมาว่ารับสมัครพนักงานใหม่อีกสองคน
หนึ่งคนสำหรับดูแลหน้าเว็บรวมถึงเป็นแอดมินเพจ
และอีกหนึ่งคนที่คอยช่วยจัดทำไฟล์ต้นฉบับจากเวิร์ดเป็น pdf และ e-pup ขึ้นอัพโหลดในหน้าเวป รวมถึงบริการจัดทำหน้าปกสำหรับนักเขียนที่ต้องการให้มิราเคิลดูแลอย่างครบวงจรด้วย
หญิงสาวปรึกษากับธีภพไม่นานก็ตัดสินใจตอบตกลงเพราะเวลานี้มิราเคิลมีรายได้สำหรับเลี้ยงตัวเอง
แบ่งปันสำหรับหุ้นส่วนและมีเหลือเพียงพอที่จะจ้างพนักงานประจำเพิ่มอีกสองคนได้แล้วโดยไม่ต้องรบกวนหุ้นส่วนใหญ่อย่างมิสเตอร์พีอีก
ทั้งนี้มิสเตอร์พีเสนอที่จะยกห้องหนึ่งจากสำนักงานใหญ่ของเขาให้เป็นพื้นที่ทำงานของมิราเคิลโดยไม่ต้องเช่าเนื่องจากเขายังมีห้องว่างอีกสองห้องจนกว่ามิราเคิลจะขยับขยายได้
ศศิรินธารได้แต่ขอบคุณในความใจดีของหุ้นส่วนคนนี้
มิสเตอร์พีสำหรับเธอไม่ต่างจากอัศวินขี่ม้าขาวมาคอยช่วยเหลือทุกครั้งที่เธอเดือดร้อนหรือต้องการที่พึ่ง
หรืออย่างน้อยเขาก็จะทำให้งานหนักของเธอเบาลงกว่าที่มันควรจะเป็นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“หรือเพราะเรื่องที่ถามมาวันก่อน?” หญิงสาวพึมพำ
ศศิรินธารจำได้ถึงคราวที่มิสเตอร์พีทักมาบอกว่าเธอทำงานหนักมากเกินไป
การคุยกันครั้งนั้นจบลงที่เธอขอตัวไปทำธุระกับเพื่อนหากมีอะไรก็ให้เขาพิมพ์ทิ้งเอาไว้
แต่เมื่อเธอกลับถึงบ้านก็ไม่มีข้อความใดถูกส่งมา จนกระทั้งเธอส่งไปปรึกษาเรื่องงานอีกสองสามครั้ง
และครั้งนี้มิสเตอร์พีก็ยื่นข้อเสนอให้รับพนักงานใหม่มาช่วยงานมิราเคิลที่เมืองไทย
อย่างน้อยการมีคนช่วยจัดการงานอยู่ที่เมืองไทยเลยย่อมดีกว่าคนที่อยู่อีกฟากโลกอย่างเธอและธีภพที่มีเวลาไม่ตรงกันกับนักอ่านส่วนใหญ่ที่อยู่เมืองไทยซึ่งเริ่มสมัครเป็นสมาชิกมากขึ้นกว่าช่วงแรกที่เปิดตัวและมีสมาชิกเป็นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศเท่านั้น
“คุณรินว่ายังไงนะครับ?”
ธีภพซึ่งนั่งทำงานพร้อมกับโน้ตบุ๊กของเขาเอ่ยถามขึ้น
ทั้งคู่ขึ้นมานั่งทำงานรับลมโกรกบนชั้นดาดฟ้าหน้าห้องของธีภพเนื่องเพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์และอาทิตย์นี้แมนดี้ก็กลับบ้านไปเยี่ยมบิดามารดาพร้อมสามีของเธอ
“อ้อ เปล่าค่ะ คุณภพคุยกับน้องพนักงานที่มิสเตอร์พีรับเข้ามาใหม่เป็นยังไงบ้างคะ?”
ศศิรินธารเฉไฉไปอีกเรื่องหนึ่ง
“ดีนะครับ น้องผู้หญิงที่จะมาช่วยจัดอาร์ตเป็นคนละเอียดดีมาก แถมยังมีฝีมือทำปกได้สวยทั้งปกวิวและปกวาดด้วย ผมให้ลองตกแต่งเว็บเขาก็ทำได้ดี มิสเตอร์พีรับคนมาได้ดีมากๆ เลยครับ”
ธีภพเอ่ยชื่นชม
“นั่นนะสิคะ ฝีมือระดับนี้สามารถไปรับงานที่เงินเดือนดีกว่านี้ได้สบายเลย” ศศิรินธารเห็นด้วย
“เห็นว่าน้องเพิ่งจบใหม่ ที่ทำงานอยู่ใกล้บ้านสามารถกลับไปดูแลแม่ที่อายุเยอะที่บ้านได้ตอนเที่ยงด้วย นั่งรถแค่สองป้ายรถเมล์แค่นั้นเองครับ ถ้าไปที่อื่นเงินเดือนเยอะแต่น้องไม่สะดวกเรื่องเดินทาง”
ชายหนุ่มแจกแจง
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง เด็กรุ่นใหม่ที่ดูแลครอบครัวดีจังเลยนะคะ แบบนี้ถือว่าเราต่างช่วยกัน ถ้าน้องทำงานดี มิราเคิลมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบนี้ อีกหน่อยผ่านทดลองงานเราก็ปรับเงินให้ได้ทั้งสองคนเลย”
ศศิรินธารออกความเห็น
ธีภพได้แต่มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่ต่างออกไป
เวลานี้เขาไม่ได้มองเห็นหญิงสาวในฐานะเจ้าของกิจการหรือเจ้านายของเขาเท่านั้น
แม้เธอจะพูดอยู่เสมอว่าสำหรับเธอแล้วเขาคือหุ้นส่วนเป็นเจ้าของมิราเคิลเท่าๆ กับเธอ
แต่ธีภพรู้ดีว่าเธอคือเจ้านายของเขามาตลอด
แต่ในเวลานี้เขากลับมองเห็นเธอเป็นนางฟ้าที่พร้อมจะใช้สองมือเล็กๆ ของเธอโอบอุ้มทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ
ธีภพนึกรู้ในตอนนั้นเองว่าวิธีเดียวที่เขาจะช่วยเหลือนางฟ้าคนนี้ได้ก็คือการดูแลมิราเคิลให้เติบโตอย่างมั่นคงเท่านั้น
เมื่อมิราเคิลแข็งแรงมันก็จะสยายปีกออกไปปกป้องและช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างที่เจ้าของต้องการ
……………………..
“ครับ”
ไม่เพียงคำตอบรับ หากแต่แววตาของคนพูดช่างมั่นคงนัก
สองหนุ่มสาวใช้เวลาทำงานด้วยกันจนมืดค่ำ
ธีภพอาศัยช่วงเวลาหนึ่งกลับเข้าห้องไปอุ่นอาหารง่ายๆ ที่เขาทำไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าให้สำหรับตัวเองและศศิรินธารคนละจาน
ไม่อย่างนั้นเขาก็รู้ว่าศศิรินธารจะต้องเสียเวลากลับลงไปทำอาหารสำหรับทั้งคู่ซึ่งมันจะสร้างภาระให้เธอเหนื่อยมากเกินไปนั่นเอง
“ผมส่งงานบางส่วนไปให้น้องที่เมืองไทยทำแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เขาจะส่งกลับมาให้เราดูก่อนที่จะอัพลงเว็บ แล้วยังไงผมจะส่งให้คุณรินอีกทีนะครับ”
ธีภพเงยหน้าขึ้นพูดเมื่อสังเกตเห็นว่าอีกฝ่าย มีอาการสะบัดคอสะบัดมือสองสามครั้ง
“ค่ะ ได้เลยเดี๋ยวรินจะคอยดูนะคะ”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นวันนี้คุณรินพักก่อนไหมครับ อยู่หน้าจอมาทั้งวันแล้ว” ชายหนุ่มแนะนำด้วยความห่วงใย
“รินอยากเคลียร์งานไว้ล่วงหน้าสักหน่อยค่ะ อีกสองวีคพี่ศศิก็มีกำหนดจะคลอดแล้ว ตอนนั้นรินคงต้องฝากให้คุณภพช่วยดูงานแทนสักเดือน แต่รินจะแวะเข้าดูหลังบ้านบ่อยๆ นะคะ”
หญิงสาวฝากฝัง
“ได้เลยครับเรื่องเล็กแค่นี้เอง จะว่าไปมิสเตอร์พีก็รับพนักงานเพิ่มได้ถูกเวลาพอดีเลยนะครับ”
ธีภพเปรยออกมาเมื่อได้รู้ข่าวของศศิรณัฐ
ศศิรินธารพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“นั่นสิคะ ตอนแรกรินก็ยังคิดถึงอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อวานอาโมรีโทร.มาย้ำรินเลยนึกออก ต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จรวมถึงรายงานในชั้นเรียนด้วย” ศศิรินธารยิ้มละไม
“ยังงี้ต้องขอบคุณมิสเตอร์พีเขานะครับ ส่วนเรื่องรายงานถ้าคุณรินมีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะครับ ผมยินดี” ธีภพเสนอและนั่นทำให้หญิงสาวรีบโบกไม้โบกมือแทบจะทันที
“เห็นจะไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรินก็ทิ้งมิราเคิลให้คุณภพดูแลรับผิดชอบคนเดียวเป็นเดือนแล้ว งานที่มหาลัยคืบหน้าไปแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ คิดว่าอาทิตย์นี้ก็คงจะเสร็จ ที่เหลือก็ว่าจะหอบหนังสือไปอ่านเตรียมตัวสอบปลายภาคที่นีซด้วยเลย”
“คิดๆ แล้วก็เร็วเหมือนกันนะครับ คุณรินมาอยู่ที่นี่จนจะสอบอยู่แล้ว ผมรู้สึกเหมือนเราเพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้นี่เอง” ธีภพเปรย
ดวงตาของเขามองสบหญิงสาวตรงหน้าอย่างมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่
ทว่าเมื่อไม่มีถ้อยคำใดเล็ดรอดออกมาศศิรินธารจึงเสมองออกไปทางอื่น
แม้จะตงิดในหัวใจแต่เธอขอเลือกที่จะไม่รับรู้สิ่งใด
ทั้งยังตระหนักในใจตนว่านับแต่นี้เธอจะต้องระวังตัวตนของตัวเองให้มากกว่านี้
จะไม่ยอมพลาดทำสิ่งใดๆ ให้ผู้ชายตรงหน้าเข้าใจผิดไปได้เป็นอันขาด
เธอรักในมิตรภาพระหว่างกันมากเกินกว่าจะให้มีสิ่งใดมาทำลายมันลงไปได้
“นั่นสิคะ เวลาผ่านไปเร็ว ตอนนี้มิราเคิลก็มีสมาชิกใหม่เพิ่มอีกสองคนแล้ว คุณภพกับรินเห็นจะต้องขยันมากขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะค่ะ”
ศศิรินธารหัวเราะเสียงสดใส
นั่นทำให้ธีภพได้สติ
หัวใจของชายหนุ่มหมองลงเพียงนิดเมื่อคิดได้ว่าตัวเองอาจจะเผลอตัวเปิดเผยสิ่งใดออกไป
โชคยังดีที่ศศิรินธารไม่อาจรับรู้
เขาเองก็กลัว…ว่ามิตรภาพที่แสนงดงามเช่นนี้จะถูกทำลายลงด้วยมือของตัวเองเช่นเดียวกัน!
กว่าที่ศศิรินธารจะกลับลงจากดาดฟ้าของธีภพก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว
หญิงสาวตั้งใจจะกลับเข้าห้อง โยนทุกอย่างทิ้งแล้วล้มตัวลงนอนหลับให้เป็นตาย
พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจะขอตื่นสายๆ
ขอนอนหลับให้ฉ่ำปอดสมกับที่คร่ำเคร่งกับการเรียนและงานของมิราเคิลมาเป็นเดือนๆ เสียหน่อยเถอะ!
ทว่าทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามาได้หญิงสาวก็ต้องผงะ
เมื่อต้องเผชิญกับใบหน้าถมึงทึงของผู้ชายที่นั่งกอดอก เม้มปากจนเป็นเส้นตรงอยู่ภายใต้เงาสลัวรางที่มีเพียงไฟดวงเล็กสีส้มที่เธอเปิดทิ้งเอาไว้เสียตั้งแต่ก่อนที่จะหอบงานออกจากห้องไปเมื่อตอนบ่ายเท่านั้น!
“พี่มัต!” ศศิรินธารเรียกขานชื่อชายหนุ่มตรงหน้าด้วยน้ำเสียงตระหนกอย่างปิดไม่มิด
“ก็พี่น่ะสิ นึกว่าจะลืมชื่อพี่ไปแล้วเสียอีก ยังดีนี่หนูรินที่ยังจำชื่อผัวตัวเองได้อยู่ ถึงจะไปขลุกอยู่กับชู้มาทั้งวันก็เถอะ!”
……………………..
วาจาเผ็ดร้อนที่สามีสาดโครมเข้ามานั้นแทบจะทำให้ศศิรินธารทรงกายไม่อยู่
หญิงสาวเซไปเกาะขอบโซฟาก่อนจะรีบวางโน้ตบุ๊กและหอบเอกสารในมือไว้บนโต๊ะเสียก่อนที่มันจะร่วงหล่นลงบนพื้น
ตระหนักในหัวใจอันหนักอึ้งได้ในเวลานั้นว่า
แม้เธอจะพยายามไม่รับรู้เรื่องราวของเขา แต่ปรมัตก็พาตัวเองมารุกรานเธอได้ถึงที่อีกครั้งหนึ่งแล้ว!
คนใจร้าย!
หายหน้าไปเป็นเดือนๆ มาถึงก็โยนข้อห้าหนักอึ้งให้เธอทั้งนั้น
ลืมผัว!
คบชู้!
สามีคนดีๆ ที่ไหนเขาทำกัน!
หลังจากตั้งหลักได้ ศศิรินธารก็ยืดตัวตรง
โกรธเขามากจนไม่อยากจะมองหน้าเสียเลยด้วยซ้ำไป
หญิงสาวเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง
ไม่คิดที่จะตอบโต้คำใดออกไปให้ต้องทะเลาะกับผู้ชายใจร้ายใจดำที่พูดไม่รู้เรื่องและคงไม่คิดจะฟังเหตุผลของใครทั้งสิ้น
ทีเขาไปตะลอนๆ มากับผู้หญิงอื่นเป็นเดือนๆ
ไม่ใช่แค่คนสองคนสำหรับปรมัต แต่เรียกได้ว่านับไม่ถ้วนจนเธอต้องปิดการรับรู้ของตัวเองแทน
แม้เธอจะเป็นฝ่ายอนุญาตแต่เขาก็ควรจะแฟร์ๆ ให้สมกับเป็นลูกผู้ชายหน่อยสิ ไม่ใช่พอเจอหน้าเธอทีไรก็จะบี้ตะบันจะคอยจับผิดอยู่ท่าเดียวแบบนี้!
“ถ้าหนูรินง่ายจนถึงขนาดนั้นแล้วทำให้พี่มัตต้องขายหน้า หนูรินมีวิธีง่ายๆ ที่อยากบอกค่ะ พี่มัตก็แค่หย่าให้หนูรินก็จบแล้ว!”
ยามพูดริมฝีปากของศศิรินธารสั่นระริก
แววตาดุกร้าวขึ้นมาชนิดที่แม้แต่ปรมัตเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต
แต่ยามนี้คำว่า ‘หย่า’ ของเธอก็ทำให้เขาเลือดขึ้นหน้าทันที
ยิ่งเธอพูดแล้วเดินตัวตรงผ่านเขาไปที่ประตูห้องนอนราวกับว่าเขาเป็นแค่อากาศธาตุที่เธอสามารถมองเมินได้ตลอดเวลา
ปรมัตก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นสาวเท้าสองสามก้าวก็เดินทันหญิงสาวผู้เป็นภรรยา ออกแรงกระชากเพียงครั้งเดียวร่างบอบบางก็ปลิวกลับมาปะทะแผงอกแกร่ง
ปรมัตขยับเท้าดันร่างในอ้อมกอดไปพิงผนังกำแพงห้อง กักร่างของหญิงสาวเอาไว้ในสองแขนแกร่ง
กลิ่นกายหอมจรุงอวลขึ้นแตะจมูก
แววตาตัดพ้อต่อว่า
และพายุอารมณ์ที่กำลังโหมกระหน่ำทำให้ชายหนุ่มขาดสติโถมถั่งความเกรี้ยวกราดลงไปขยี้บดจูบกลีบปากนุ่มละมุนด้วยแรงแห่งอารมณ์
ทั้งความรักและความโกรธ
ความน้อยใจที่ผสมปนเปกันไปกับความคิดถึง
ยามขาดสติเช่นนี้ปรมัตสำนึกเพียงความเจ็บปวดของตัวเองจนไม่อาจคิดถึงหัวใจและความเจ็บปวดของร่างน้อยในอ้อมกอด
เรียวปากหยักทาบลึกบดเคล้ารุกราน
บุกโหมกรีฑาเพื่อให้เธอยอมแพ้และเปิดริมฝีปากให้เขาเข้ารบทำลายด้วยแรงอารมณ์อย่างไม่อาจต่อต้านใดๆ ได้เลยแม้สักนิด
ศศิรินธารยืนนิ่งอยู่ภายในอ้อมกอดของผู้เป็นสามี
แผ่นหลังของเธอแนบชิดกำแพงที่แข็งและเยือกเย็น
ด้านหน้าของเธอคือความร้อนแรงจากไฟพายุที่กำลังกระพือโหมพร้อมจะมอดไหม้และทำลายเธอให้สลายกลายเป็นเถ้าธุลีดิน
เรียวปากหยักที่กำลังรุกรานบดเคล้าแนบชิดสูบเอาลมหายใจ ความคิดและสติของเธอให้หลุดลอยจนแทบจะขาดอากาศหายใจ
ร่างกายของเธอสั่นสะท้านด้วยไอร้อนจากเรือนร่างสูงใหญ่ที่กำลังโอบล้อมเธอเอาไว้
ฝ่ามือร้อนร้ายที่ข้างหนึ่งไต่เปะปะไปทั่วทั้งเรือนกาย
ขณะที่อีกข้างยกทำหน้าที่กระชับใบหน้าของเธอให้เขาได้ละเลงความโกรธได้อย่างเต็มที่
หัวใจของเธอเจ็บปวด
แต่ในขณะเดียวกันมันก็พร้อมจะลุกโลดเพียงเขาจุดกระพือเร่งเร้าอารมณ์ตามแต่ที่เขาจะชักจูงนำพา
ราวกับร่างกายนี้มันพร้อมจะยอมสยบและเชื่อฟังเจ้าของร่างกายที่แท้จริง
ปรมัตเท่านั้นที่มีสิทธิ์เหนือเรือนกายนี้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น!
เนิ่นนานจนแทบลมหายใจจะขาดห้วง
กว่าที่พายุแห่งความโกรธจะราแรงลงสลายรวมตัวไปเป็นเชื้อแห่งพายุอารมณ์ชนิดใหม่ที่แม้แต่คนจุดเช่นปรมัตก็ไม่อาจควบคุมมันได้…
ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกห่างจากกลีบปากนุ่มละมุนชวนหลงใหลอย่างตระหนก
แววตาที่เต็มไปด้วยกระแสพิศวาสได้แต่ยืนนิ่ง จ้องมองริมฝีปากที่บ่วมเจ่อขึ้นมาเพราะฝีมือของเขา
ทั้งยังตระหนกไม่จางแต่กระแสพิศวาสที่ลามเลียอยู่รอบตัวของคนทั้งคู่กลับโชติช่วงยิ่งกว่าไฟใด
หัวใจของปรมัตโหมกระหน่ำยามริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้นเผยอขึ้น
และทันทีที่เขาเลื่อนขึ้นไปสบสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ตัดพ้อเจือกระแสพิศวาสเว้าวอนอยู่ในนั้น
สติของชายหนุ่มก็กระเจิดกระเจิงอีกครั้ง
……………………..
“หนูริน…”
เขากระซิบเรียกชื่อของภรรยาก่อนจะบดเบียดเรียวปากลงไปแนบสนิทกับริมฝีปากที่ยังคงเห่อบวมน้อยๆ
สองแขนของเขาเลื่อนลงไปช้อนร่างที่ยืนระทดระทวยพิงผนังกำแพงอันเย็นเยือกขึ้นสู่อ้อมอก
ก้าวเร็วๆ เพียงสองก้าวก็ถึงประตูห้อง กระซิบสั่งความด้วยน้ำเสียงแหบห้าวคุกคาม
“หมุนประตู”
เสียงคำรามนั้นคล้ายราชสีห์เจ้าป่าเข้าไปทุกขณะ
จนหญิงสาวในอ้อมอกของเขาจับต้องเอื้อมมือไปบิดลูกบิดหมุนประตูห้องนอนตามคำสั่งของเขาโดยอัตโนมัติ
สมองและอารมณ์ของศศิรินธารไม่อาจทำงานประสานกันได้ยามตกอยู่ในห้วงอารมณ์เสน่หาอันเชี่ยวกรากที่สามีของเธอจุดปะทุขึ้น
ปรมัตก้าวเร็วๆ ก็โยนร่างบอบบางของภรรยาลงไปบนเตียงกว้างพร้อมกับโถมร่างกายของตัวเองทับลงอย่างไม่อาจควบคุม
ฝ่ามือรุมร้อนตวัดฟอนเฟ้นเรือนร่างบอบบางไปทุกสัดส่วนจนหญิงสาวแทบจะไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
รู้สึกตัวเองอีกครั้งเนื้อตัวของเธอก็เปล่าเปลือยถูกกักขังอยู่ภายใต้ร่างของเขา
ลมหายใจของศศิรินธารหอบกระชั้นขึ้นยามที่มือตัวเองถูกฝ่ามือร้อนของสามีเอื้อมมาจับลากไปสำรวจเรือนกายของเขาอย่างไม่ยอมน้อยหน้า
ปรมัตใช้มืออีกข้างถอดเสื้อยืดของตัวเองโยนทิ้งไปก่อนจะลากมือของภรรยาสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงที่อุ่นร้อนจนแทบจะลวกฝ่ามือของเธอเสียด้วยซ้ำ
ทว่าความเย็นของบางสิ่งที่สัมผัสได้ทำให้สายธารพิศวาสที่หญิงสาวกำลังลอยละล่องอยู่ถูกพายุโลกโตตีกระหน่ำจนกระเซ็นซ่านแตกพ่ายอย่างไร้ทิศทาง
ความจริงบางอย่างปรากฏชัดเจนขึ้นมาในห้วงสำนึกทันที!
“เอามันออกมา!”
ปรมัตกระซิบสั่งเสียงเครียดก่อนจะบีบข้อมือของหญิงสาวบังคับให้เธอหยิบสิ่งที่เขาต้องการออกมาถือเอาไว้
แม้ห้องทั้งห้องจะตกอยู่ในความมืดมิดแต่เพราะปรมัตรีบร้อนจนไม่ได้ปิดประตูห้องนอนด้วยนั้นทำให้มีแสงสลัวเล็ดลอดออกมาส่องกระทบกับความแวววาวของซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือ
ศศิรินธารจ้องสิ่งที่เธอถืออยู่อย่างไม่อาจละสายตาให้หนีห่าง ร่างกายของเธอถูกตอกตรึงด้วยร่างใหญ่โตของเขา
ดวงตาอาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธออาจจะขยับหนี
แต่ทว่าความจริงที่แสนเจ็บปวดได้สาดซัดเข้ามาจนทำให้เธอไม่อาจบังคับสายตาให้ผละจากหรือหลีกหนีจากความจริงที่ทั้งเธอและเขาต่างร่วมกันกำหนดกฎเกณฑ์
ความจริงที่เธอไม่อาจปลงหัวใจให้ยอมรับความเจ็บปวดจากการรักผู้ชายคนนี้ได้อีกแล้ว!
“ปรนเปรอชู้มาทั้งวัน ถึงเวลาต้องปรนเปรอผัวของตัวเองบ้างแล้วหนูริน!”
แม้รู้ทั้งรู้ว่าหัวใจของผู้หญิงตรงหน้าใสสะอาดเพียงใด
ปรมัตได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจที่เขาไม่อาจห้ามหัวใจและความรู้สึกของตัวเองให้หวงแหนเธอได้เลยสักนิด
มากกว่าความหึงหวงคือความโกรธ
ที่เขาต้องยอมอดทนทุกอย่างที่จะไม่มาหาเธอที่นี่เพื่อที่จะให้เธอเอาเวลาที่ควรจะเป็นของเขาไปให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหนก็ไม่รู้
แต่ถึงจะรู้และเข้าใจปรมัตก็ไม่เคยคิดอยากจะยอมรับ
สุดท้ายก็เป็นตัวเขาเองที่โถมทำลายความตั้งใจดีที่อยากจะมาง้องอนและดูแลหญิงสาวอันเป็นที่รักจนหมดสิ้น!
“พี่มัต…”
ศศิรินธารได้แต่กระซิบเรียกชื่อผู้ชายที่เธอรักอย่างหมดหัวใจอย่างร้าวรานยามที่เขาโถมตัวตนทั้งหมดเข้ามาหา ประกาศศักดาความเป็นเจ้าของเหนือเรือนกายและจิตใจอันบอบช้ำ
ร่างกายของเธออาจจะลุกโลดไปตามกระแสอารมณ์อันหวามไหวและเชี่ยวกราก
หากหัวใจของเธอนั้นกลับค่อยๆ สลายลงอย่างช้าๆ
ทว่าปรมัตไม่เคยยอมปล่อยเธอไป
ฝ่ามือของเขากอบเก็บซากหัวใจของเธอแล้วหล่อหลอมขึ้นมาใหม่ก่อนที่จะโถมทำลายให้แตกพ่ายยับเยินครั้งแล้วครั้งเล่า
มีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่หลงเหลือจากเถ้าอารมณ์ของคนทั้งคู่
ความมืดมิดของรัตติกาลอาจช่วยหลอกอำพรางม่านนัยน์ตาที่แสนรวดร้าว
ทว่าน่าแปลกที่แม้จะต้องตกอยู่ในทะเลเลือดแต่ต่างฝ่ายต่างก็ยินดีจะยอมรับทุกความเจ็บปวดนี้ได้อย่างน่าประหลาด
หากก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายจะสามารถเต้นไหวต่อไปได้ก่อนที่มันจะตายลงไปถ้าต้องปล่อยมือใครอีกคนให้จากไปจริงๆ
เพราะต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าระยะทางที่แสนไกลห่างและเงื่อนไขมากมายที่สาดใส่กันนั้นมันทำให้หัวใจต้องทน ‘คิดถึง’ ได้มากเพียงใด
ยามพายุสงบ ปราศจากคลื่นลมแห่งอารมณ์ใดๆ ปรมัตกระชับอ้อมแขนกักล้อมภรรยาเอาไว้ในอ้อมกอด
รู้สึกผิดที่ทำให้เธอเสียใจและมีน้ำตา
โกรธตัวเองที่ปล่อยให้อารมณ์ชี้นำจนใช้วาจาทำร้ายเธอมากมายขนาดนี้
แต่ถ้าถามว่าเขาเสียใจไหมที่ทำตัวเลวร้ายถึงเพียงนี้เขาก็สามารถตอบได้ทันทีเช่นกันว่าไม่!
เพราะเขาร้ายเช่นนี้
เพราะเขาเลวทรามต่ำช้าสมควรโดนประณามหยามเหยียดเช่นนี้
เพราะแบบนี้เขาจึงสามารถกอดเก็บเธอไว้แนบกายได้ไม่ใช่หรือ?
ต่อให้พรุ่งนี้เขาจะต้องตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกผิดจนไม่อาจให้อภัยตัวเอง
และต้องหลบลี้หนีหน้าเธอไปอีกครั้งเขาก็ยังสามารถติดตามเธอไปทุกแห่ง ไม่ว่าศศิรินธารจะหนีไปไกลสุดหล้าแค่ไหน
แค่เขายอมเป็นคนเลวและขี้ขลาดกับการได้มีศศิรินธารในชีวิต
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา…
ทำร้ายเค้าแล้วก็เจ็บเอง!
ธาราหวนรักวางแผงทั่วประเทศแล้วค่ะ
ปล.ใครอ่านธาราหวนรักจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ
ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ
ระฆังเงิน
29 02 2563 0:00
19 03 2563 14:00
E-BOOK ธาราหวนรัก
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
สวัสดีค่ะ ภาพชีวิตของตัวละครจะดำเนินไปทิศทางใดแต่ก็พยายามเล่าให้เห็นว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีเรื่องร้ายแรงหนักหนาหรือมีชีวิตส่วนตัวที่คับข้องแค่ไหน แต่สิ่งที่คนหนุ่มสาวยุคใหม่จะไม่ทิ้งเลยก็คือการทำงาน การพยายามใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปให้ดี เพราะมันคือภาพสะท้อนของสังคมในยุคปัจจุบันนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุข รัก ระฆังเงิน 25 06 2562 0:14
สวัสดีค่ะ ในทุกๆ ความสัมพันธ์ย่อมมีทั้งคนที่ให้และคนที่รับ คนที่อยากให้และคนที่ไม่ต้องการจะรับ เมื่อความต้องการของคนไม่ ‘พอดี’ กัน เลยกลายเป็นความยุ่งเหยิง พัวพันกันมากขึ้นเรื่อยๆ รัก ระฆังเงิน 27 06 2562 0:02
สวัสดีค่ะ ทั้งที่ตั้งใจจะมาง้อเขาแท้ๆ แต่พอมาถึงก็หึงจนฟิวส์ขาดอีกแล้วนะเฮีย! มีความสุขกับการอ่านและสามารถด่าเฮียได้แต่อย่าแรงนะคะ คนเขียนบอบบาง ระฆังเงิน 29 06 2562 0:25
สวัสดีค่ะ มีความสุขกับการอ่านนะคะ หวังว่าจะไม่โดนแบนนนนน รัก ระฆังเงิน 30 06 2562 2:43
สวัสดีค่ะ คาดว่าเฮียมัตของเราคงจะโดนสวดจนยับแน่ๆ แต่ถ้าเฮียไม่สามารถควบคุมเพลิงร้อนในใจของตัวเองได้ เฮียก็จะไม่รู้ว่าทำไมความรักของเฮียเดินทางมาถึงจุดนี้ สงสารหนูรินกันไหม? หรือจะสงสารทั้งคู่ดี เพราะอีกคนก็ทำไปแล้วมารู้สึกผิดตามหลังตลอดศก รัก ระฆังเงิน 1 07 2562 0:16
มีคนดีๆอยู่ข้างๆ ก็ยังจะคิดถึงแต่คนใจร้ายเนอะ! ธาราหวนรักวางแผงทั่วประเทศแล้วค่ะ ปล.ใครอ่านธาราหวนรักจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ ระฆังเงิน 26 02 2563 0:00 15 03 2563 11:05
มาถึงก็อย่างโหด! ธาราหวนรักวางแผงทั่วประเทศแล้วค่ะ ปล.ใครอ่านธาราหวนรักจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ ระฆังเงิน 27 02 2563 0:00 16 03 2563 19:30
บอกได้คำเดียวว่าเผ็ช! ธาราหวนรักวางแผงทั่วประเทศแล้วค่ะ ปล.ใครอ่านธาราหวนรักจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ ระฆังเงิน 28 02 2563 0:00 17 03 2563 21:01
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มัตรักน้องมากจริงๆ ดูเลวก็ยอม อยากให้เข้าใจกันเร็วๆ บางที สิ่งที่หนูรินต้องการมาตลอด คือความรักจากปรมัตไม่เหรอ มาอยู่ตรงหน้าแล้ว ผู้ชายถ้าไม่รักไม่หวงหรอก อยากให้เข้าใจกันสักที แต่ปากมัตก็นะ ร้ายไปนิด????
พี่มัตตลอดทำพังตลอด พ่อแม่เตือนไม่ฟัง มาถึงเกี้ยวกราดไม่หยุด น้องจะไม่มองเอา
พีมัตพลาดอีกแล้วคราวนี้น้องน่าจะโกรธมากด้วยล่ะ
เข้ามาให้กำลังใจคนแต่งค่ะ
รอลุ้นค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
พี่มัตกะหนูรินไม่เจอกันสักที มดแดงจะเอาไปกินก่อนแล้วเน้อ