ตอนที่ 35 : บทที่ 16 (1) 100% 23062562 13032563 e-book MEB
E-BOOK ธาราหวนรัก
![]() |
|
ธาราหวนรัก
บทที่ ๑๖ (๑)
ผลประกอบการที่ทยอยคืนทุนและเริ่มมองเห็นกำไรเป็นกอบเป็นกำไม่ใช่สิ่งที่หุ้นส่วนใหญ่ของมิราเคิลให้ความสนใจ
เพราะสิ่งที่เขาพิมพ์ตอบกลับมาหลังจากที่เห็นรายงานทุกอย่างที่เธอส่งไปแล้วกลับเป็น
[มิสเตอร์P: ทำงานหนักมากเกินไปหรือเปล่า?]
ศศิรินธารขมวดคิ้วมุ่น
หลังจากได้ยินเสียงเรียกเตือนของแอพพลิเคชั่นไลน์เด้งขึ้นมาขณะที่เธอกำลังเก็บของเลิกเรียนในช่วงเช้า
[เรนนี่: ทุกอย่างกำลังไปได้ดีหนูรินกับคุณภพเลยตั้งใจจะลุยเต็มที่ค่ะไม่อยากให้คุณขาดทุน]
หญิงสาวกดส่งสติกเกอร์เด็กสาวยิ้มเฉ่งส่งไปให้อีกตัวเพื่อให้อีกฝ่ายคลายใจ
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงข้อความที่เธอไม่อาจพิมพ์ไปแจ้งแก่หุ้นส่วนคนสำคัญได้เลยก็คือ
การที่เธอบ้าทำงานหามรุ่งหามค่ำ ล่าต้นฉบับมาอัพโหลดไฟล์ลงเว็บให้นักอ่านมาเลือกซื้อได้วันละเป็นสิบเรื่องเช่นนี้
ก็เพราะเธอแค่ต้องการทำงานหนักๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องฟุ้งซ่านไปเท่านั้น
ศศิรินธารเหลือบตาไปมองหลังบ้านของมิราเคิล
ที่บัดนี้มีหนังสือทุกหมวดทั้งที่แจกฟรีและวางจำหน่ายไปแล้วหลายร้อยเรื่องในช่วงระยะเวลาแค่สองเดือน
อีกไม่นานหากเธอยังเร่งจัดต้นฉบับอยู่เช่นนี้ก็คงจะถึงพันเศษอย่างแน่นอน
ศศิรินธารยิ้มหยัน ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนับจากที่เธอกดอ่านข่าวและไล่ดูเทปย้อนหลังรายการที่กำลังโกยเรตติ้งในเมืองไทยในขณะนี้
แต่ข่าวคราวและกระแสของรายการยังเด้งขึ้นมาในฟีดข่าวให้เธอเห็นวันละหลายรอบ
ไม่ใช่เพียงกระแสของรายการเท่านั้นแต่ข่าวซุบซิบของเจ้าของรายการก็ยังคงตามหลอกหลอนเธอแทบจะวันละสามเวลาหลังอาหารเข้าไปด้วยซ้ำ!
[มิสเตอร์P: หนูริน?]
ไม่ใช่เรื่องของกำไรหรือขาดทุนที่เขาถามถึง แต่กลับเป็นสรรพนามเรียกชื่อแทนตัวเองของเธอเท่านั้นเองหรอกหรือ?
ศศิรินธารเบิกตาโต
ย้อนกลับไปอ่านข้อความก่อนหน้านี้ทันที ก่อนที่นิ้วเรียวดุจลำเทียนจะรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับไปแทบจะทันที
[เรนนี่: อุ๊ย! รินขอโทษค่ะ ปกติเรียกตัวเองว่าหนูรินจนเคยตัวเพราะที่บ้านเรียกแบบนี้ทุกคน]
แม้ไม่ได้อยู่ต่อหน้าและทราบว่ามิสเตอร์พีที่เธอเคยพบหน้าเพียงครั้งเดียวค่อนข้างจะเป็นผู้ชายอารมณ์ดีและเรียบง่าย
แต่ศศิรินธารก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าแตกไม่น้อยที่เผลอปล่อยไก่ตัวโตออกไปเช่นนี้
[มิสเตอร์P: ไม่เป็นไรครับ เรียกหนูรินกับผมด้วยก็ได้ ‘น่ารักดีครับ’ ว่าแต่เฉพาะที่บ้านหรือครับที่เรียกคุณแบบนี้?]
คำถามประโยคหลังนั้นทำให้ศศิรินธารเผลอกัดริมฝีปากจนเลือดซิป
เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงจะชวนคุยไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเป็นเธอเองที่เผลอตัวไปแทนตัวเช่นนี้กับเขาก่อน
แต่เมื่อถูกถามเช่นนี้
ความรู้สึกหม่นหมองชนิดหนึ่งก็กลับหวนย้อนมาเล่นงานเธอเข้าอีกคราหนึ่ง ทว่าคราวนี้ศศิรินธารตั้งมั่นที่จะอยู่กับความจริงให้ได้เสียแล้ว
[เรนนี่:จริงๆ ก็มีบ้านเพื่อนสนิทของคุณพ่อคุณแม่อีกบ้านที่เรียกหนูรินเหมือนกันค่ะ เพราะลูกชายคนโตของเขาเป็นคนเรียกหนูรินคนแรกตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่นั้นทุกคนเลยเรียกแทนตัวหนูรินแบบนี้มาตลอด ^^]
ยามคุยถึงเรื่องของปรมัตกับมิสเตอร์พี ศศิรินธารพบว่าเธอสามารถเล่าเรื่องให้อีกฝ่ายรับรู้ได้เรื่อยๆ โดยไม่อึดอัดคับข้อง
แม้ความหม่นหมองเล็กๆ จะพัดผ่านราวสายลมอันบางเบายามที่ต้องนึกถึงผู้เป็นสามีตีตรา แต่อาจจะเป็นเพราะเธอรู้ดีว่ามิสเตอร์พีคงจะไม่รู้จักคุ้นเคยกับปรมัตนั่นเอง
สามีของเธอเป็นบุคคลต้องห้ามที่ไม่สามารถพูดความรู้สึกแท้จริงให้คนในครอบครัวฟังได้
จะเล่าให้คนนอกที่ไม่รู้จักคุ้นเคยกับเขาดีฟังก็ไม่ได้อีกหากต้องการรักษาภาพลักษณ์ที่ดี
และยิ่งไม่สามารถบอกใครได้ว่าเขาเป็นสามีของเธอ
แต่มิสเตอร์พีคือข้อยกเว้นเพราะเขาไม่ได้ข้องเกี่ยวในชีวิตประจำวันทั้งของเธอและปรมัต ทั้งยังไม่รู้จักปรมัตตัวจริงเสียด้วยซ้ำไป
[มิสเตอร์P: ถ้าอย่างนั้นหนูริน (ขออนุญาตนะครับ) คงจะสนิทกับเขามาก?]
อีกคำถามที่ทำให้ศศิรินธารกัดริมฝีปากแน่น สนิทหรือ?
ปรมัตไม่ใช่แค่สนิทแต่เขายังเป็นสามีของเธออีกด้วย!
[เรนนี่: เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กน่ะค่ะ เขาเป็นเหมือนพี่ชายคนโตที่คอยดูแลพี่ศศิกับหนูรินทั้งๆ ที่เขาเกิดทีหลังพี่ศศิเสียอีก]
ศศิรินธารเลือกบอกความจริงบางส่วน ยิ่งได้พูดถึงปรมัตเช่นนี้เธอกลับค่อยผ่อนคลาย
ความหม่นหมองคลายจางไปบางส่วน และรู้สึกดีที่ได้นึกถึงสามีในแง่มุมที่ทำให้เธอมีความสุข
.......................................
[มิสเตอร์P: อ้อ พี่ชาย!]
ข้อความสั้นๆ พร้อมเครื่องหมายตกใจนั้นทำให้ศศิรินธารรู้สึกขนลุกได้อย่างประหลาด
สายลมบางเบาพัดมาวูบหนึ่ง
คล้ายรังสีบางอย่างแผ่มาข่มขวัญ แต่หญิงสาวเพียงขมวดคิ้วแล้วก็เลิกใส่ใจกับมันเมื่อมีเพื่อนร่วมคลาสมาเรียก
[เรนนี่: หนูรินไปคุยงานกับเพื่อนก่อนนะคะ ถ้ามีเรื่องอะไรพิมพ์ทิ้งไว้ได้เลยเดี๋ยวคืนนี้หนูรินกลับมาตอบค่ะ]
ศศิรินธารพิมพ์ข้อความสุดท้ายทิ้งไว้ก่อนที่เธอจะออกไปกับเพื่อน ข้อความนั้นถูกอ่านทันทีทว่าไม่มีข้อความใดโต้ตอบกลับมาอีกเลย
“อ้าวมัต กลับมาเสียดึกเชียวนะลูก มาๆ กินอะไรมาหรือยัง”
มารดาของปรมัตร้องทักทันทีที่ชายหนุ่มก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน น้ำเสียงอันอบอุ่น
รอยยิ้มแสนละมุนและบ้านที่มีมารดาของเขาอยู่ช่างให้ความรู้สึกผ่อนคลายจากภาระทุกสิ่งที่กดทับลงบนสองบ่า
ปรมัตแย้มมุมปากเป็นรอยยิ้มไม่กว้างนักส่งให้มารดา
“เพิ่งออกจาสตูก็ตรงดิ่งมานี่เลยครับ หิวจะแย่แม่มีอะไรให้กินมั่ง”
เขาออเซาะขณะเข้าโอบกอดมารดาแน่น นางคาริมาตีแขนลูกชายคนเดียวพร้อมกับหัวเราะออกมาน้อยๆ
“ทำไมไม่หาอะไรรองท้องเสียก่อน กินข้าวไม่เป็นเวลาแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน”
นางเอ็ดก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าครัว
นางเตรียมอาหารเอาไว้ให้ลูกชายตั้งแต่หัวค่ำที่เขาบอกว่าจะมาค้างที่บ้านแล้ว เหลือแค่อุ่นให้ร้อนเท่านั้น
“พ่อล่ะครับ?”
คำถามของปรมัตทำให้คนฟังขมวดคิ้วก่อนจะยิ้มได้
นานเหลือเกินที่พ่อลูกคู่นี้แทบไม่ได้ถามไถ่ถึงกัน
แต่แม้นางจะอยู่บ้านก็รู้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้สามีของนางเพิ่งไปเยือนคอนโดของบุตรชายเพียงคนเดียวมาในรอบหลายปี
ร่างกายของคาริมาผ่อนคลายลงอีกเล็กน้อยหลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเวลาเช่นนี้มานานเหลือเกิน
“อยู่บนห้องทำงานแน่ะ ช่วงนี้มัตอยู่ที่สตู พ่อเค้าก็เลยแวะเข้าบริษัทถี่หน่อย”
“นี่ผมหางานมาให้พ่อทำเยอะขนาดนี้ ทำให้แม่เหงาหรือเปล่าครับ?”
บุตรชายตามมาออเซาะมารดาถึงในห้องครัวเนื่องจากในเวลานี้เด็กในบ้านกลับเรือนนอนกันหมดแล้ว
“เหงาอะไรล่ะ พ่อเค้าจะได้มีอะไรทำแก้เบื่อ แค่ไปดูๆ ไม่ได้หักโหมเหมือนสมัยก่อนแล้ว อีกอย่างพ่อเขาหอบแม่ตามไปด้วยทุกวันนั่นแหละ” นางคาริมาขยิบตาใส่ลูกชายอย่างผู้กำชัยชนะ
ปรมัตหัวเราะร่วนออกมาทันที ท่าทีของเขาผ่อนคลายลงมากเช่นกัน
“โอเคครับ ผมยอมแพ้ท่านประธานจริงๆ ครับ” ชายหนุ่มยกสองมือขึ้นเหนือศีรษะอย่างยอมจำนน
รอไม่นานอาหารอุ่นร้อนฝีมือคาริมาอันเป็นของโปรดบุตรชายก็ได้ตั้งโต๊ะ
ปรมัตรีบหยิบจานไปตักข้าวของตัวเองทันที กลิ่นหอมๆ ของกับข้าวฝีมือแม่เรียกน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของเขาให้ทำงาน
“ผัดผักเหลียงใส่ไข่กับกุ้งทะเลผัดกะปิสะตอฝีมือแม่ที่สุดยอดเลยครับ ผมไม่ได้กินมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย”
ปรมัตพูดออกมาหลังจากตักอาหารคำแรกเข้าปาก
ชายหนุ่มหลับตาเคี้ยวอาหารด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความสุขเต็มที่ นางคาริมายกมือขึ้นตีแขนบุตรชายเบาๆ
“ไม่ต้องมายอแม่ ถ้าคิดถึงฝีมือแม่จริงคงไม่หายหน้าไปเป็นเดือนๆ กว่าจะโผล่หน้ามาให้เห็นสักครั้งแบบนี้หรอก”
นางคาริมาพูดขึ้นด้วยความน้อยอกน้อยใจ
แม้จะผ่านโลกมาจนเข้าใจได้ว่าทุกคนจะต้องเติบโตไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง
แต่สำหรับนาง ลูกๆ ก็ยังคงเป็นเด็กเล็กๆ สำหรับนาง เป็นความรัก และเป็นความสุขในชีวิตของนางทุกเวลานาที
“แม่ก็ไปเยี่ยมสายน้ำที่เกาะพันดาวมาแล้วนี่ครับ แถมยังหอบของอร่อยๆ มาทำให้ผมได้กินด้วย ดีออกจะตายไป”
พ่อปลาไหลของนางเปลี่ยนเรื่องได้อย่างไม่มีติดขัด
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ เพราะเรานั่นแหละไม่ค่อยมาหาแม่ที่บ้าน แม่เลยต้องไปเยี่ยมน้องแทน”
“ผมก็อยู่คอนโดแล้วก็สิงอยู่ที่สตูตลอดไม่ได้ไปไหนนี่ครับ ทีเมื่อก่อนพ่อก็ทำงานเยอะแบบนี้แม่ยังไม่ว่าแถมยังตามส่งข้าวส่งน้ำดูแลทุกสิ่งอย่างผิดกับผมเลยที่หัวเดียวกระเทียมลีบ”
ปรมัตกะพริบตาออดอ้อน แสร้งโอดโอยไปตามเรื่อง
……………………..
“เดี๋ยวเถอะ ทีอย่างนี้แล้วมาโทษแม่นะ ก็ใครล่ะที่ไม่อยากให้แม่ตามไปคอยคุมที่ทำงานเพราะไม่อยากดูเป็นลูกแหง่ให้ลูกน้องเห็นน่ะ”
ปรมัตเคยขอร้องนางเอาไว้สมัยที่เริ่มเข้าไปทำงานที่เอสป้าเปเปอร์ใหม่ๆ เพราะอยากจะเป็นที่เชื่อถือของบรรดาผู้บริหาร เขาจึงห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองในยามนั้นเป็นอย่างมาก
เมื่อไม่มีมารดาไปหาน้องสาวคนสนิทอย่างศศิรินธารจึงแทบจะไม่เคยย่างกรายเข้าไปหาเขาที่บริษัทเลยเช่นเดียวกัน
ดังนั้นคนในที่ทำงานจึงแทบจะไม่มีใครรู้จักชีวิตส่วนตัวของเขาเลยแม้แต่น้อย มาวันนี้ปรมัตเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอาจจะคิดผิด…
ความเหงาเดียวดายที่กัดกินหัวใจและกำแพงสูงใหญ่ที่ถมทับระหว่างเขาและคนในครอบครัว
อาจจะไม่ใช่ความผิดของใครเลยนอกจากตัวเขาเท่านั้นที่เป็นผู้ก่อเอาไว้มาเนิ่นนาน
แล้วกำแพงที่ถูกก่อขึ้นมานานขนาดนั้นมีหรือที่จะสลายหายไปเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำและการกระทำแสนบุ่มบ่ามของเขาเท่านั้น
ชายหนุ่มคิดอย่างหนักอึ้งในใจ
คาริมาเป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตของเขาเสมอมา…
“น้องสบายดีไหมครับ หลานๆ เป็นยังไงกันบ้าง”
เขาหมายถึงลูกแฝดชายหญิงของนายหัวสินธุ์และธาราภัทรหรือสายน้ำน้องสาวแท้ๆ เพียงคนเดียวของเขาและเป็นลูกสาวสุดที่รักของปรเมศ อนันตภาคนั่นเอง
“เด็กๆ โตขึ้นมาก ถามหาลุงมัตกันใหญ่เลยทีเดียว เพราะมีคนไปสัญญาว่าจะซื้อรถของเล่นรุ่นใหม่ไปฝากไม่ใช่หรือ?” นางคาริมาถาม
ขณะที่ปรมัตได้แต่เกาศีรษะตัวเองป้อยๆ
ช่วงเวลาที่ศศิรินธารทิ้งเขาไปเรียนหลายเดือน
หากเขาไม่บ้าอยู่กับงานก็อาศัยลงไปหาหลานๆ ที่เกาะพันดาวถึงจะช่วยให้เขาผ่านวันเวลาเหล่านั้น
จนสามารถมีแรงวางแผนตามหญิงสาวไปและเลยเถิดจนสามารถจับศศิรินธารมาจดทะเบียนสมรสแต่งงานกันได้เช่นนั้น
ทว่าการแต่งงานไม่ใช่ทั้งจุดเริ่มต้นและบทสรุปของความรักสำหรับเขา
หนำซ้ำมันพร้อมจะกลายเป็นจุดจบได้ตลอดเวลาหากเขาก้าวพลาดแม้เพียงเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำไป!
“ผมไม่ว่างเลยจริงๆ ครับ อย่าว่าแต่กับแฝดเลย ขนาดกับเมียตัวเองแท้ๆ ผมยังไปหาไม่ได้เลย…”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงแสนรันทด
ในเมื่อครอบครัวรับรู้มาตลอด ที่แห่งหนึ่งจึงเป็นโลกหนึ่งเดียวที่เขาจะสามารถเชื่อมโยงศศิรินธารมาไว้กับเขาได้โดยไม่ต้องปกปิด
แม้ว่าหญิงสาวจะคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงความลับที่ไม่อยากให้ใครมาร่วมรับรู้ก็ตาม
นางคาริมาเอื้อมมือไปลูบผมบุตรชายเพียงคนเดียวอย่างเข้าใจและเห็นใจเป็นที่สุด
“ที่มัตแทบจะฝังตัวเองอยู่ที่สตูก็เพราะอยากจะไปหาน้องไม่ใช่เหรอลูก?”
แม่ก็ยังคงเป็นแม่ที่เข้าใจลูกเสมอ
ปรมัตอดที่จะเสียงสั่น ตาแดงและมีน้ำตารื้นออกมาไม่ได้ เขาพึมพำตอบมารดาด้วยความรู้สึกที่แท้จริงเป็นครั้งแรก
“แต่หนูรินของแม่คงไม่ได้อยากจะเจอผม ผมก็เป็นได้แค่วัวแก่ดื้อด้านที่เขาไม่ต้องการเท่านั้นเองครับ”
ความมั่นใจที่เคยแสดงออกต่อหน้าศศิรินธารหดหายมีเพียงช่วงเวลาเช่นนี้
ต่อหน้า ในอ้อมกอดของมารดาเท่านั้นที่เขาจะสามารถแสดงความอ่อนแอออกมาได้
“โถ่มัต ให้เวลาน้องหน่อยนะ มัตก็รู้สำหรับน้องแล้วมันไม่ง่ายเลยที่จะเชื่อใจมัตได้อีกครั้ง”
นางคาริมาพูดอย่างเห็นอกเห็นใจและเข้าใจทั้งบุตรชายและสะใภ้ในเวลาเดียวกัน
“ผมรู้…ผมรู้ดีครับแม่” ชายหนุ่มกระซิบตอบกลับ
น้ำตาลูกผู้ชายร่วงหล่น หมดความอยากอาหารไปในพริบตา ปรมัตปล่อยให้มารดาดึงตัวเขาเข้าไปกอดปลอบอย่างท้อแท้
ขอเวลาให้เขาได้ร้องไห้อยู่กับอกแม่เช่นนี้
ก่อนที่จะต้องกลับไปเป็นซาตานตัวร้ายเพื่อยื้อดวงใจอีกดวงเอาไว้กับตัวให้สุดกำลังที่มี!
มีใครคิดถึงนายหัวสินธุ์กับสายน้ำบ้าง เค้ามีลูกแฝดละนะ!
ธาราหวนรักวางแผงทั่วประเทศแล้วค่ะ
ปล.ใครอ่านธาราหวนรักจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ
ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ
ระฆังเงิน
25 02 2563 0:00
13 03 2563 8:09
E-BOOK ธาราหวนรัก
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
สวัสดีค่ะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ ระฆังเงิน 12 06 2562 9:40
สวัสดีค่ะ ความรักหลากหลายรูปแบบ สำคัญที่เราจะต้องดูแลและรักษาทุกความรักนั้นเอาไว้ให้ได้ ระฆังเงิน 18 06 2562 11:22
สวัสดีค่ะ กว่าจะถึงวันนี้ปรมัตได้เรียนรู้แล้วว่าความผิดพลาดยิ่งใหญ่ของเขาเกิดจากเรื่องเล็กๆ น้อยที่สะสมกันมา เรื่องเล็กๆ ที่เขาอาจจะลืมไปแล้วทว่ามันกลับย้อนกลับมาทำร้ายเขาอย่างแสนสาหัสในวันนี้ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเพียงเพราะความละเลยและขาดการใส่ใจคนที่เรารักให้มากพอ แก่นของเรื่องนี้มีเพียงเท่านี้เองค่ะ ดังนั้นยากที่สุดคือการคล่อยๆ คลี่ปมเหล่านี้ให้ปรมัตได้เข้าใจ และให้คนอ่านของเราเข้าใจด้วย รักคุณนะคะที่อดทนรอคอยกันมาเนิ่นนานและไม่ทิ้งกันไปเสียก่อน นิยายชุดนี้เรียงร้อยต่อเนื่องกันมาสิบกว่าปีแล้ว เรื่องราวระหว่างทางที่ตกหล่นไปนั้นเราพยายามเก็บเอาไว้ให้ได้มากที่สุดและหวังว่านิยายเรื่องสุดท้ายในชุดนี้จะทำให้ตัวละคร ผู้เขียนและคนอ่านเติบโตไปพร้อมๆกัน ระฆังเงิน 20 06 2562 1:14
สวัสดีค่ะ ชอบที่สุดเวลาที่เฮียมัตอยู่กับแม่ เขาเป็นเหมือนเด็กชายตัวน้อยๆ คนเดิมในวันวานที่เคยทำให้หลายคนหลงรัก และคงจะมีเพียงแต่แม่คนนี้เท่านั้นที่สามารถเข้าใจจิตใจของเขาได้มากที่สุด รัก ระฆังเงิน 23 06 2562 0:14
มีคนคนเผลอตัว! ธาราหวนรักวางแผงทั่วประเทศแล้วค่ะ ปล.ใครอ่านธาราหวนรักจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ ระฆังเงิน 23 02 2563 0:00 5 03 2563 23:38
อ้อนเมียไม่ได้ก็มาอ้อนแม่! ธาราหวนรักวางแผงทั่วประเทศแล้วค่ะ ปล.ใครอ่านธาราหวนรักจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ ระฆังเงิน 24 02 2563 0:00 12 03 2563 9:24
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คิดถึงคาริมาเสมอ มัตรู้ตัวสักทีว่า สิ่งสำคัญในชีวิตต้องเอาใจใส่ ให้เองไม่ได้หรอก ยิ่งหนูรินชอบคิดไปเองว่าไม่เป็นที่รัก ยิ่งหนัก รีบง้อด่วน
รออ่านเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
เข้ามาให้กำลังใจคนแต่งค่ะ ยังรออ่านพี่มัตอยู่นะคะ
รออ่านค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ