ตอนที่ 27 : บทที่ 12 (1) 100% 7032562 1022563 E-BOOk MEB หนังสือวางแผงแล้วค่ะ
E-BOOK ธาราหวนรัก
![]() |
|
ธาราหวนรัก
บทที่ ๑๒ (๑)
“นี่มันอะไรกันคะพี่ศศิ?”
ศศิรินธารเอ่ยถามผู้เป็นพี่สาวทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมผ้าขนหนู ด้วยทันทีที่กลับมาถึงบ้านของพี่สาวและพี่เขย ศศิรณัฐก็รุนหลังเธอให้มาอาบน้ำในห้องพักประจำของเธอเมื่อมาพักที่นี่
ส่วนปรมัตนั้นก็ถูกอาโมรีพาไปอีกห้องหนึ่งทันทีเช่นกัน ในเวลานั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการตะลอนๆ ออกจากบ้านเสียแต่เช้าได้อาบน้ำให้รู้สึกสดชื่นบ้างก็ดีเหมือนกัน
ทว่าเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วกลับหาเสื้อผ้าชุดเดิมของตัวเองไม่เจอ จะหยิบเสื้อผ้าเก่าๆ ของตัวเองที่เคยทิ้งเอาไว้
ก็พบว่าตู้เสื้อผ้าถูกล็อกกุญแจเอาไว้ด้านนอก มีเพียงชุดกระโปรงสีขาวครีมยาวกรุยกรายถูกแขวนเอาไว้หน้าตู้เสื้อผ้า
ศศิรินธารนิ่งอึ้งทันทีที่ได้เห็นชุดนั้นเต็มตา เพราะแม้ว่ามันจะไม่ได้ฟู่ฟ่าอลังการเหมือนกับชุดเจ้าสาวปกติทั่วไป แต่สีและแบบสไตล์วินเทจของมันก็ทำให้เธออดคิดถึงชุดเจ้าสาวไม่ได้เลย
แถมชุดนี้ยังน่ารักเสียจนเธอแทบจะยั้งใจเอาไว้ไม่ได้ ยิ่งวันนี้ยังเป็นวันจดทะเบียนสมรสระหว่างเธอกับปรมัต
เธอรู้ดีว่าศศิรณัฐนั้นหวังดีและอยากทำให้เธอเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขมากที่สุดในค่ำคืนนี้ แต่เธอไม่อาจปล่อยหัวใจตัวเองให้ยอมรับความสุขเช่นนั้นได้เลยจริงๆ
“ก็ชุดที่พี่เตรียมเอาไว้ให้หนูรินไงจ๊ะ เป็นไงน่ารักถูกใจไหม?” คนเป็นพี่แสร้งทำไขสือ
“น่ารักแต่ไม่ถูกใจค่ะ หนูรินอยากได้ชุดเดิมที่หนูรินใส่มา พี่ศศิเอาไปไว้ที่ไหนคะ?”
ศศิรินธารทำเป็นใจแข็ง
“ไม่ถูกใจชุดนี้จริงๆ เหรอหนูริน แต่แย่หน่อยนะที่ชุดเดิมของหนูรินพี่ส่งเข้าเครื่องซักผ้าไปแล้วแหละ จะมีเหลือที่พอจะใส่ได้อยู่ก็แค่ชุดนี้ชุดเดียวเท่านั้น หนูรินก็ทนๆ ใส่เข้าหน่อยนะ เดี๋ยวพี่จะให้มัตมาตามไปบนดาดฟ้า ถ้าหนูรินไม่รีบแต่งตัว…”
ศศิรณัฐพูดทิ้งท้ายแล้วก็รีบเดินออกจากห้องไปทันที
ทิ้งศศิรินธารเอาไว้กับชุดกระโปรงเจ้าปัญหาที่เธอไม่คิดอยากจะสวมใส่เลยสักนิดในค่ำคืนนี้
“เดี๋ยวสิคะพี่ศศิ”
เสียงเรียกของศศิรินธารไม่เป็นผลกับพี่สาวเธอแต่อย่างใด สำหรับศศิรณัฐแล้วยามที่หมายใจจะทำสิ่งใด ไม่เคยมีสักครั้งที่พี่สาวของเธอจะยอมล้มเลิก
เพียงแต่ศศิรินธารเองก็ไม่เคยคิดว่าการจดทะเบียนสมรสและงานเลี้ยงฉลองเล็กๆ ของเธอจะต้องกลายเป็นสิ่งที่พี่สาวมุ่งมั่นตั้งใจทำมากถึงเพียงนี้
เมื่อทำอะไรไม่ได้ศศิรินธารก็จำยอมใส่ชุดกระโปรงที่พี่สาวของเธอเตรียมเอาไว้ให้
กระนั้นก็ยังอดชำเลืองสายตามองดูตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ไม่ได้
“หนูรินดูเหมือนเจ้าสาวกับเขาได้บ้างหรือเปล่านะ?”
เป็นคำถามที่หญิงสาวได้แต่กระซิบเบาๆ กับตัวเองเท่านั้น ด้วยไม่อาจแสดงความปรารถนานี้ต่อหน้าใครๆ ได้อีกต่อไปแล้ว…
“หนูรินเป็นเจ้าสาวที่สวยมากต่างหากล่ะ”
น้ำเสียงห้าวทุ้มแสนคุ้นเคยทำให้ศศิรินธารสะดุ้งตกใจ
หญิงสาวกะพริบตาก่อนที่จะปล่อยให้ความเย็นชาออกมาครอบคลุมเป็นเกราะป้องกันตัวเองเสียจากผู้ชายตรงหน้า
“ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นได้ค่ะ ถ้าหนูรินได้แต่งงานจริงๆ กับใครสักคนที่ไม่ใช่เจ้าบ่าวตกกระไดพลอยโจนอย่างพี่มัต เพราะฉะนั้นนี่จึงไม่อาจนับได้ว่าเป็นการแต่งงาน ใช่ไหมคะ?”
หญิงสาวกระซิบถามกลับอย่างเยือกเย็น ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองต้องใจอ่อนง่ายๆ ได้อีกแล้ว
“หนูริน!”
ปรมัตข่มความโกรธที่ปะทุขึ้นมาจนแน่นอก
เขาเสียใจกับคำพูดของเธอนัก
แต่วันนี้เป็นวันพิเศษระหว่างเขากับศศิรินธาร เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ยอมให้ตัวเองโมโหง่ายเพียงเพราะคำพูดก่อกวนของเธอได้อย่างเด็ดขาด!
“หรือไม่จริงคะ?”
หญิงสาวถามอย่างไม่ยอมลดราวาศอก
อยากให้เขาโกรธและอาจจะถึงขั้นเกลียดหรือเบื่อเธอไปเลยเร็วๆ เท่าไหร่ได้ยิ่งดี
ปรมัตจะได้ไปจากเธอและปลดปล่อยร่างกายและหัวใจของเธอให้เป็นอิสระเสียที!
ปรมัตสูดลมหายใจลึกเข้าปอด
ระงับอารมณ์ที่กำลังกรุ่นขึ้นมามากขึ้นทุกขณะ
“ศศิให้พี่มาตาม ข้างบนเขาตั้งโต๊ะกันเสร็จแล้ว”
ชายหนุ่มพูดห้วนๆ ก่อนจะหันหลังให้ภรรยาตัวเองเดินนำออกไปก่อน ด้วยกลัวว่าถ้าขืนอยู่นานกว่านี้อีกสักนิด ก็อาจเป็นเขาเองที่ทำทุกอย่างในคืนนี้พังลงอย่างไม่เป็นท่า
ศศิรินธารได้แต่ช้อนสายตามองสามีที่สวมเสื้อลำลองแขนยาวสีเดียวกับชุดของเธอพร้อมกับกางเกงสแลกสีน้ำตาลเข้มราวกับว่าทำมาเพื่อคู่กับชุดของเธอเช่นนั้น เขาช่างสง่างามและดูดีเหลือเกิน
หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา ทั้งดีใจและเจ็บปวดหัวใจในเวลาเดียวกัน…
………….
ดาดฟ้าของร้านกาแฟในฝันเป็นสถานที่แสนโรแมนติกที่คู่รักคนดังหลายคู่อยากจับจองสำหรับพิธีฉลองวิวาห์
ทว่าเมื่อเจ้าของร้านเป็นทั้งศิลปินและนักสร้างศิลปะบนถ้วยกาแฟเช่นอาโมรี ชายหนุ่มจึงยอมให้มีการจัดพิธีฉลองวิวาห์ได้แค่เดือนละครั้งเท่านั้น
การตลาดเช่นนี้ย่อมพาคู่รักคนดังจากทั่วโลกตบเท้าเข้าแถวแย่งกันจองคิวยาวนานล่วงหน้าเป็นปี
เพื่อให้งานฉลองวิวาห์ของตนนั้นได้มีโอกาสจัดขึ้นในสถานที่พิเศษสุดและแน่นอนว่าราคาของมันย่อมไม่ใช่ราคาที่คนทั่วไปจะจ่ายได้ง่ายๆ เช่นกัน
แต่ค่ำคืนนี้ดาดฟ้าแห่งนี้ถูกจัดขึ้นด้วยความเรียบง่าย ดอกไม้และลูกโป่งสีขาวแซมสีชมพูพาสเทลถูกจัดประดับตกแต่งให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกและมีโต๊ะเพียงโต๊ะเดียวที่จัดเอาไว้ให้สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาว
พี่สาวและพี่เขยของเจ้าสาวแค่สี่ที่นั่งเท่านั้นเนื่องจากพ่อแม่ของอาโมรีอยู่ในระหว่างเดินทางไปทำธุระต่างประเทศแทนอาโมรีซึ่งมีกำหนดกลับมาในสามเดือนสุดท้ายก่อนที่ศศิรณัฐจะคลอด
แสงริบหรี่ยามอาทิตย์อัสดงและแสงสีส้มของดวงเทียนดวงเล็กๆ ที่ถูกจุดประดับตกแต่งไปทั่วทั้งดาดฟ้าทำให้ศศิรินธารแทบลืมหายใจ
เพราะนี่คือบรรยากาศของงานแต่งงานที่เธอเคยใฝ่ฝันเอาไว้ไม่มีผิด!
“มาสิจ๊ะ เจ้าสาวคนสวยของพี่”
ศศิรณัฐที่ถูกอาโมรีโอบประคองยืนรออยู่ด้านหน้าโต๊ะอาหาร
ในมือของเธอมีมงกุฎดอกไม้สีขาวช่อเล็กๆ ที่เคยเคยใฝ่ฝันเอาไว้ว่าจะสวมใส่ในวันแต่งงาน
บัดนี้ศศิรณัฐได้เนรมิตให้ความฝันของเธอได้เป็นจริงในที่สุด
หยดน้ำเอ่อขึ้นปริ่มขอบตาก่อนจะทิ้งตัวลงไปตามร่องแก้มนวลก่อนจะถูกลมทะเลพัดให้แห้งเหือดไปด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว
ราวจะย้ำเตือนเธอว่าความทุกข์ไม่อาจอยู่นานพอๆ กับความสุขที่สามารถจางหายไปในระยะเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน
สองเท้าพาศศิรินธารก้าวตรงไปหาคนเป็นพี่สาว
ก่อนที่ภาพเบื้องหน้าของเธอจะถูกตัดด้วยร่างสูงโปรงของชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีตามกฎหมายเดินแทรกตัวเข้ามาหยิบมงกุฎดอกไม้จากมือของศศิรณัฐแล้วก้าวยาวๆ ตรงมายืนตรงหน้าเธอ
จากนั้นเขาก็สวมมันลงบนศีรษะของเจ้าสาวด้วยความรวดเร็วชนิดไม่ยอมให้ใครได้ทันตั้งตัว
ศศิรินธารผงะถอยไปได้แค่เพียงครึ่งก้าวแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
เมื่อบัดนี้บนศีรษะของเธอมีมงกุฎดอกไม้แสนสวยประดับเอาไว้อย่างสวยงาม
“ห้ามถอดนะ!”
เขายื่นคำขาด ส่งสายตาคาดโทษเพราะไม่อยากให้ความดื้อดึงของเจ้าสาวทำลายบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกนี้ลงเสีย
ศศิรินธารสบตาคู่คมของเขาได้ก็ได้แต่นิ่งงันอยู่กับที่
แม้อยากจะเอื้อมมือขึ้นไปถอดมันออกมากแค่ไหน
แต่ในขณะเดียวกันส่วนลึกในหัวใจของเธอก็ปรารถนาจะสวมใส่มันเอาไว้ตลอดกาลเช่นกัน
“ต้องอย่างนี้สิถึงจะเป็นความฝันของหนูริน เจ้าบ่าวจะต้องเป็นคนสวมมงกุฎดอกไม้ให้กับเจ้าสาวของเขาด้วยตัวเอง พร้อมกับมองดวงหน้าของเธอด้วยสายตาเปี่ยมรัก”
ศศิรณัฐพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มแสนอ่อนโยน
“หนูรินจำได้ไหม ความฝันของหนูรินที่เคยเล่าให้พี่ฟังแล้วพี่ก็นำไปใส่ไว้ในฉากนิยายจนกลายเป็นงานเปิดตัวนางฟ้าอย่างเป็นทางการ ค่ายละครมาขอซื้อลิขสิทธิ์ไปทำละครก็ไม่ยอมตัดฉากนี้ออก แถมยังจัดให้เป็นฉากใหญ่ของเรื่องเสียอีกในที่สุดก็ทำให้ละครมีเรตติ้งสูงที่สุดในล็อตนั้นเลยทีเดียว” ศศิรณัฐทบทวนความทรงจำอันแสนภูมิใจ
ศศิรินธารละสายตาจากเจ้าบ่าวจำเป็นของเธอไปสบสายตากับพี่สาวเพียงคนเดียวอีกครั้ง
ความสุขและความหวังที่ฉายฉานอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น
ทำให้เธอไม่ปรารถนาจะให้มันสูญสลายไปจากแววตาของศศิรณัฐและไม่อาจยอมให้พี่สาวที่เธอรักยิ่งต้องมาพลอยทุกข์ร้อนไปกับเธอด้วยเช่นกัน
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่ศศิ ขอบคุณมากที่ช่วยทำให้ความฝันของหนูรินเป็นจริง”
หญิงสาวกระซิบตอบพี่สาวสุดที่รักเพียงคนเดียวของเธอ
ศศิรินธารล้มเลิกความคิดที่จะต่อต้านปรมัตต่อหน้าศศิรณัฐลงชั่วคราว
ยังมีเวลาอีกมากนักที่จะค่อยๆ ผลักไสเขาออกไปโดยไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของคนในครอบครัว
ในเวลานั้นหญิงสาวยังเชื่อมั่นเสียเหลือเกินว่าเธอจะสามารถทำให้ทุกคนยอมรับการแยกจากระหว่างเธอกับปรมัตได้ในที่สุด
“แล้วพี่ล่ะ หนูรินไม่คิดจะขอบคุณบ้างหรือ?”
บุคคลที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ในห้วงเวลาสำคัญร้องประท้วงเข้าบ้าง แววตายามนั้นของชายหนุ่มไหวระริกล้อแสงสีส้มแพรวพราว
ศศิรินธารเผลอกัดริมฝีปากของตัวเอง
คิดหาคำตอบที่จะไม่เป็นการผูกมัดตัวเองและไม่เป็นการทำลายน้ำใจของใครสักคนในเวลาเช่นนี้
“ถ้าไม่มีพี่…ความฝันของหนูรินจะเป็นจริงได้หรือ?”
ปรมัตตั้งคำถามขึ้นมาอีก
ดวงตาพราวพรายของเขาเอาแต่จ้องสบตากับเธออย่างไม่ยอมลดละ สะกดตรึงให้เธอยิ่งประหม่ามากขึ้นไปอีกเป็นทบทวี
…………………
“หนูรินไม่เคยขอให้พี่มัตทำอะไรให้นี่คะ เจ้าบ่าวของหนูรินไม่จำเป็นต้องเป็นพี่มัตก็ได้ ขอแค่ใครคนนั้นรักหนูรินจริงๆ ก็พอแล้ว”
หญิงสาวเงยหน้าสบตากับเขาขณะตอบคำถามนั้นอย่างไม่หวั่นเกรง
นึกแปลกใจตัวเองอยู่ครามครันที่ไม่รู้เรียกเอาความกล้ามาจากไหน
แต่ทันทีที่ได้เห็นดวงตาวาวโรจน์ของเขาลุกวาบขึ้นอย่างร้อนแรง เธอก็รู้ได้ว่าตัวเองได้จี้เข้าสู่หัวใจสีดำของเขาเข้าให้แล้วเท่านั้นเอง สะใจนัก!
ปรมัตส่งสายตาเกรี้ยวกราดใส่เจ้าสาวของเขาอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่มุมปากของชายหนุ่มจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างมาดร้าย
“เรื่องจริงที่หนูรินจะต้องยอมรับก็คือ พี่เท่านั้นที่จะเป็นเจ้าบ่าวของหนูรินได้ต่างหาก!”
เขาประกาศอย่างลำพอง
สาดใส่ความจริงเข้าหาเธออย่างเจ็บปวด
ศศิรินธารกำมือตัวเองแน่น กัดริมฝีปากจนเจ็บ แต่ก็ยังฝืนยืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่ร้องไห้โวยวายหรือฟูมฟายน้ำตาออกมาให้พี่สาวกับพี่เขยของเธอต้องเหนื่อยหัวใจเพิ่มขึ้น
“เอาล่ะ เจ้าบ่าวเจ้าสาวพี่ว่าไปเปิดแชมเปญฉลองกันดีกว่านะ เดี๋ยวจะดึกเกินไปนางฟ้าต้องเข้านอนก่อนสี่ทุ่ม”
อาโมรีที่เห็นท่าไม่ดีเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
ก่อนจะเดินนำทุกคนไปหยิบขวดแชมเปญที่แช่เย็นเตรียมเอาไว้มาส่งให้กับคู่แต่งงานใหม่ในค่ำคืนนี้
ปรมัตไม่ได้หันไปมองหน้าของภรรยาหมาดๆ อีกเพราะยังคงกรุ่นในอารมณ์ที่ไม่ว่าอย่างไร
จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ศศิรินธารก็ยังไม่คิดจะยอมรับทั้งยังหาทางต่อต้านเขาอยู่ตลาดเวลา
กระนั้นเมื่อขวดแชมเปญมาอยู่ในมือของเขา อีกมือหนึ่งก็เอื้อมไปจับฝ่ามืออ่อนหนุ่มของเธอให้มายึดขวดแชมเปญเอาไว้ด้วยกันโดยไม่ยอมให้เธอเอามือออกห่างไปได้โดยง่าย
“อาโมรีนับนะคะ ศศิจะเตรียมถ่ายรูปเอาไว้”
ศศิรณัฐส่งสัญญาณให้สามี แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นปฏิกิริยาต่อต้านกันเล็กๆ ของคู่บ่าวสาว
“หนึ่ง สอง สาม”
ทันทีที่อาโมรีนับจบ ปรมัตก็เปิดแชมเปญฉลองแต่งงานเล็กๆ ของเขาทันที
น้ำสีใสที่ดันพุ่งออกมาเป็นสัญญาณสู่ความเฉลิมฉลองและความยินดีปรีดา ชายหนุ่มประคองมือเจ้าสาวขณะที่เทแชมเปญลงในแก้วทั้งสี่ใบที่เตรียมเอาไว้แล้วหยิบส่งให้ทุกคนทันที
“พี่สองคนขอให้มัตกับหนูรินมีความสุขมากๆ จากนี้ขอฝากหนูรินไว้กับมัตด้วยนะ เราคือครอบครัวเดียวกันอย่างสมบูรณ์แล้วนะน้องชาย”
ศศิรณัฐอวยพรเสียงสั่น
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ หากในเวลานี้ปรมัตกับศศิรินธารก็คือคู่สามีภรรยา เขาทั้งสองคือคนๆ เดียวกันโดยสมบูรณ์แบบในทุก ๆ ความหมาย
จากนี้คงจะมีแต่มือของทั้งคู่เท่านั้นที่สามารถจับจูงกันไปสู่ความเป็นครอบครัวที่แท้จริงได้เท่านั้น
เธอผู้เป็นพี่สาวมีหน้าที่ส่งน้องรักทั้งสองคนได้เพียงเท่านี้ นับจากนี้เธอก็ต้องถอยออกมาคอยประคองพวกเขาอยู่ห่างๆ ได้แล้ว
“มีอะไรก็คุยกันให้มากๆ นะครับ พี่เชื่อว่าความรักมันจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดให้น้องทั้งสองคน”
อาโมรีอวยพรตามหลังภรรยา
ศศิรินธารได้แต่น้ำตาไหลขณะรับฟังคำอวยพรของพี่สาวและพี่เขยของเธอ
ทว่าเมื่อหญิงสาวแอบชำเลืองมองเจ้าบ่าวของตัวเองกลับพบเพียงใบหน้าตึงๆ ของเขา
เธอรู้ว่าเขาโกรธที่เธอพูดว่าเจ้าบ่าวของเธอไม่จำเป็นต้องเป็นเขา จะเป็นใครก็ได้ขอแค่รักเธอเท่านั้น
ประโยคไหนกันแน่ที่ทำให้ปรมัตหน้าตึงได้ขนาดนี้?
“ทุกคนยกแก้วขึ้น”
อาโมรีให้สัญญาณก่อนที่หนุ่มสาวทั้งสี่จะยกแก้วขึ้นชนกันโดยอัตโนมัติแล้วจิบเบาๆ
อาโมรีรีบหันไปกระซิบกับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์
“นางฟ้าจิบพอเป็นพิธีนะคะ พี่เตรียมน้ำองุ่นไว้ให้กินกับสเต็กปลาดอลลี่กับสลัดสูตรโปรดของนางฟ้าเอาไว้ให้แล้ว ส่วนของคนอื่นมีทั้งสเต็กปลาดอลลี่ สลัดและคานาเป้กินกับแชมเปญ หรือจะเลือกเสต็กเนื้อกับไวน์แดงก็ได้ตามถนัดเลย พี่เตรียมไว้หมด”
เขาพูดขึ้นก่อนจะสั่นกระดิ่งเรียกบริกรมารับเมนู
“เอาสเต็กปลาให้หนูรินเถอะครับ ของผมขอสเต็กเนื้อดีกว่า” ปรมัตรีบสั่งทันทีโดยไม่คิดจะถามความเห็นอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“แหมไม่มีถามหนูรินเลยนะ ตัดสินใจแทนแบบนี้ถ้าหนูรินอยากกินเนื้อทำไง?”
ศศิรณัฐเอ่ยแซวขึ้นมาทันทีอย่างอดไม่ได้ ปรมัตเป็นน้องเขยที่ชวนหมั่นไส้ได้ตลอดเวลาจริงๆ
“หนูรินก็กินในจานผมไง เราจะกินด้วยกัน”
เขาประกาศทันทีเช่นกัน
และคำประกาศนั้นก็ทำให้ศศิรณัฐตาโต
ขณะที่อาโมรีหัวเราะออกมาเสียงดัง
ส่วนศศิรินธารน่ะหรือ
เธอทำได้แต่ถลึงตาใส่เขาจนเจ็บตาไปหมดแล้วคนอวดดีอย่างปรมัตก็หาได้สนใจไม่!
รักกันแบบแปลกๆ เนอะคู่นี้
*** ส่งหนังสือธาราหวนรักไปตั้งแต่วันจันทร์ที่20 มค.นะคะทุกคน หลายคนได้รับเรียบร้อยแล้ว หนังสือมีปัญหาจากการตีพิมพ์สามารถติดต่อได้ที่เพจสนพ.ปองรักเลยค่ะ ส่วนคนที่ยังไม่ได้สามารถเช็กรหัสลงทะเบียนที่เคยให้ไว้ได้เลยนะคะ หากยังไม่ได้รับภายใน7วันติดต่อกลับมาที่เพจ ระฆังเงินหรือเพจสนพ.ปองรักได้เลยเช่นกันค่ะ***
ปล.อ่านจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ
ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ
ระฆังเงิน
29 01 2563 0:00
1 02 2563 3:55
E-BOOK ธาราหวนรัก
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
สวัสดีค่ะ เค้าจะมีงานแต่งกันแล้ววว แต่ยังแลกหมัดกันอยู่เลย55 รัก ระฆังเงิน 20022562 15:28
สวัสดีค่ะ เราได้เห็นความรักมากมายและความรู้สึกหลากหลายซ่อนอยู่ในบทนี้ อยากให้ทุกคนตามเราไปเรื่อยๆ ขอบคุณสำหรับการติดตาม ทวงถามและเป็นกำลังใจให้เฮียมัตกับหนูรินนะคะ ปล.หายไปหลายวันติดธุระที่บ้านค่ะ ช่วงนี้เป็นฤดูตัดทุเรียนเด้ออ รัก ระฆังเงิน 26 02 2562 13:57
สวัสดีค่า เฮียมัตคนเอาแต่ใจและเป็นจอมเผด็จการของหนูรินมารายงานตัวอีกครั้งแล้วเด้ออออ น่ามสารหนูรินเนอะ พี่สาวก็คนหนึ่ง คุณสาก็คนหนึ่ง นางจะขัดใจใครไปไม่ได้เลย หุหุ ก็นางรักของนางอะเนอะ รัก ระฆังเงิน 2 03 2562 13:59
สวัสดีค่า เป็นงานแต่งงานที่แปลกดีไหม เจ้าบ่าวและเจ้าสาวฟาดฟันกันตลอดเวลาแต่ก็ต้องการกันและกันมากที่สุดเช่นเดียวกัน โอ้ยซับซ้อน ความลมเพลมพัดนี้ได้มาจากเฮียมัตล้วนๆ รักมากมายมหาศาล 4 03 2562 14:13
สวัสดีค่ะ ความรู้สึกของคน ความสับสน อารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้คือสิ่งที่แสดงออกมาทั้งหมดจากตัวละครในเรื่องนี้ หากใครเคยอ่านงานของระฆังเงินมาก่อนอาจจะรู้สึกแปลกใจไปบ้าง ด้วยคุ้นเคยมาตลอดกับความรู้สึกที่ชัดเจนและแน่วแน่ของตัวละครนำไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหญิงหรือชาย แต่กับธาราหวนรักแล้วนั้นทุกอย่างกลับตรงข้ามทั้งหมด มันเป็นสิ่งที่ยากและแม้แต่คนเขียนเองก็ไม่อาจควบคุมหรือคาดเดา พบว่ามันเขียนยาก ยากกว่าคาแรกเตอร์ทุกแบบที่เคยเขียนมา สิ่งที่ยากที่สุดคือการทำให้คนอ่านเข้าใจตัวละครและเข้าถึงในสิ่งที่ตัวละครกำลังเป็นและรู้สึก แต่ที่ตัดสินใจเขียนคู่นี้ขึ้นมาท่ามกลางความยากๆ เหล่านี้เพราะมาถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่า เราทุกคนล้วนใช้ชีวิตโลดแล่นไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นและผันแปรไปตามสิ่งเร้าในทุกๆ วันใหม่ ยากมากและภาวนาให้ตัวเองเขียนธาราหวนรักไปให้ตลอดรอดฝั่ง เอาใจช่วยเค้าหน่อยนะ ดราฟแรกทั้งไม่สมูทและอาจจะมีคำผิดเยอะแยะวอนอย่าโกรธ ช่วยปรูฟและให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ไม่ว่ากัน รักทุกคนที่ผ่านทุกช่วงอารมณ์มาด้วยกัน ระฆังเงิน 7 03 2562 1:05
แต่งงานแล้วเนอะ!*** ส่งหนังสือธาราหวนรักไปตั้งแต่วันจันทร์ที่20 มค.นะคะทุกคน หลายคนได้รับเรียบร้อยแล้ว หนังสือมีปัญหาจากการตีพิมพ์สามารถติดต่อได้ที่เพจสนพ.ปองรักเลยค่ะ ส่วนคนที่ยังไม่ได้สามารถเช็กรหัสลงทะเบียนที่เคยให้ไว้ได้เลยนะคะ หากยังไม่ได้รับภายใน7วันติดต่อกลับมาที่เพจ ระฆังเงินหรือเพจสนพ.ปองรักได้เลยเช่นกันค่ะ*** ปล.อ่านจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ ระฆังเงิน 27 01 2563 0:00 29 01 2563 22:42
เผด็จการที่สุดก็เฮียมัตนี่แหละ!*** ส่งหนังสือธาราหวนรักไปตั้งแต่วันจันทร์ที่20 มค.นะคะทุกคน หลายคนได้รับเรียบร้อยแล้ว หนังสือมีปัญหาจากการตีพิมพ์สามารถติดต่อได้ที่เพจสนพ.ปองรักเลยค่ะ ส่วนคนที่ยังไม่ได้สามารถเช็กรหัสลงทะเบียนที่เคยให้ไว้ได้เลยนะคะ หากยังไม่ได้รับภายใน7วันติดต่อกลับมาที่เพจ ระฆังเงินหรือเพจสนพ.ปองรักได้เลยเช่นกันค่ะ*** ปล.อ่านจบแล้วเป็นอย่างไรมาบอกเล่ากันได้นะคะ รอฟังค่ะ ปล.ยังสามารถสั่งจองรูปเล่มธาราหวนรักได้ที่เพจ ระฆังเงิน ค่ะ ระฆังเงิน 28 01 2563 0:00 30 01 2563 22:36
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คู่นี้เค้ายังไงกัน...กลับมาอัพต่อเร็วๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะ