ตอนที่ 7 : Chapter 06 :: สนิทแนบแน่น (100%)
Chapter 6
สนิทแนบแน่น
ไอ้ต้นกับพวกไม่ได้มาดักรอผมหลังเลิกเรียนสามวันแล้ว มีบ้างที่ผมบังเอิญเจอพวกมันในรั้วโรงเรียน (อืม...ยังพอสำนึกได้ว่าตัวเองต้องเรียนหนังสือ) แต่ต่างฝ่ายต่างทำเมินเฉยราวกับไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน บางทีไอ้ต้นคงแค่ขู่ไปงั้น และเริ่มเบื่อจะแกล้งผม ชีวิตช่วงนี้เลยสงบราบรื่นดี มีเรื่องให้ตื่นเต้นเล็กน้อยก็แค่วันนี้ คนที่มารับผมกลับบ้านคือพี่เมฆ
“วันนี้เสาร์ไม่มา พี่รับกลับเอง”
ผมแหงนคอมองคนตัวสูงที่ยื่นอยู่ตรงหน้าอย่างงงๆ เมื่อกี้มัวแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ เลยไม่เห็นว่าเขาเดินมาหาจนกระทั่งโดนสะกิด
“แล้วพี่ขุนคนขับรถบ้านวาไปไหนครับ?”
ที่อยากรู้มากกว่าคือพี่เมฆโผล่มาหน้าโรงเรียนผมได้ไง ไหนบอกต้องไปทำงานต่างจังหวัดอาทิตย์นึง สามวันมานี้เราเลยได้แต่แชทกันผ่านข้อความเท่านั้น
“พี่มาทำธุระแถวนี้พอดี เลยโทรบอกที่บ้านวาว่าพี่จะรับเรากลับเอง”
“แล้วแม่ก็ยอม?”
“อืม”
“.....” แม่ไว้ใจพี่เมฆขนาดนั้นเลย? “แล้วนี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ งานเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ”
“เพิ่งมาถึงเมื่อบ่าย เคลียร์งานเสร็จเร็วเลยกลับก่อน”
“อ่อ”
ระหว่างคุยกัน พี่เมฆพาผมเดินไปหยุดข้างๆ รถจิ๊บสีดำขนาดกลางสภาพยังใหม่ที่จอดอยู่ข้างรั้วโรงเรียน ห่างจากจุดที่ผมยืนอยู่ไม่ถึงสิบเมตร
“นี่รถพี่เหรอ?” ผมถามเมื่ออีกฝ่ายเริ่มไขกุญแจประตูฝั่งข้างคนขับ เพราะรถคันนี้ไม่มีระบบสั่งการด้วยรีโมท
“ไม่ใช่ พี่ยืมของเพื่อนมา”
“เท่ดีนะ” ผมเหยียบที่วางเท้าแล้วดันตัวขึ้นไปนั่งบนรถ “รถจอดอยู่แค่นี้ทำไมไม่บีบแตรเรียก”
“พี่เรียกแล้ว แต่วาไม่ได้ยิน”
อ่อ...คงงั้น เพราะเวลาตั้งใจอ่านการ์ตูนมากๆ ผมชอบเผลอตัดตัวเองจากโลกภายนอกทุกที
“สงสัยอ่านการ์ตูนเพลินไปหน่อย” ผมเกาแก้ม บอกไม่ถูกว่าเขินหรืออะไร
“อืม” พี่เมฆเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม มองผมนิ่งด้วยสาตาแปลกๆ อยู่ชั่วครู่จึงเหวี่ยงประตูปิดให้ แล้วเดินอ้อมหน้ารถขึ้นมานั่งฝั่งคนขับ หลังจากขับรถออกห่างจากบริเวณโรงเรียนได้ระยะหนึ่งก็ถามขึ้นว่า “ไหนวาเคยบอกว่ากลับกับรถประจำ”
ผมหันมองคนข้างๆ ใบหน้าหล่อคมคายดูเรียบนิ่งเดาอารมณ์ไม่ถูก คล้ายกับจะจริงจังแต่ก็ผ่อนคลาย ไล่ต่ำลงมายังลำคอแกร่ง ท่อนแขนกำยำเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ และมือซ้ายที่กำลังปล่อยออกจากพวงมาลัยเพื่อขยับเปลี่ยนเกียร์…
พี่เมฆดูเท่ห์มากเวลาขับรถ
“ก็...วันนั้นวาอยากกลับกับพี่เลยหาข้ออ้างไปงั้น”
ใบหน้าคมคายหันมา ดวงตาคมกริบเหลือบมองผมแวบหนึ่งก่อนจะกลับไปจดจ่อบนถนน
“งั้นตั้งแต่พรุ่งนี้พี่จะคอยรับส่งวาไปโรงเรียนเอง”
“ไม่รบกวนพี่แย่เหรอ” ผมมองอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง ฟังจากน้ำเสียงแล้วพี่เมฆไม่ได้พูดเล่น แต่ผมไม่แน่ใจว่าเขาแค่หลุดปาก หรืออยากทำหน้าที่นั้นจริงๆ
“พี่ทำเพราะพี่อยากทำ ไม่ได้รู้สึกว่าโดนรบกวน” มือหนาสากยื่นมาที่หัวผม แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้เอียงคอหลบ ทำเพียงนั่งนิ่งปล่อยให้พี่เมฆขยำขยี้จนพอใจ
“.....”
รู้ไหมว่า...การพยายามกลั้นยิ้มไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
[Special Part: Make]
“ก็...วันนั้นวาอยากกลับกับพี่เลยหาข้ออ้างไปงั้นเอง”
คำพูดของน้องทำให้รู้สึกอบอุ่น ราวกับมันช่วยเติมเต็มช่องว่างที่อยู่ในใจมาตลอดสิบสี่ปี
การใช้ชีวิตโดดเดี่ยวมานานเกินไป ทำให้ผมเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าเราจะดิ้นรนพยายามที่จะประสบความสำเร็จ และมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ในเมื่อไม่มีใครให้คอยห่วงคอยดูแล คำถามพวกนี้วนเวียนอยู่ในหัวผมตลอด
ผมเคยพยายามหาใครสักคนมาเติมเต็มส่วนที่ขาด แต่ก็ยังไม่เคยเจอใครทำให้ผมรู้สึกได้เท่าที่รู้สึกกับวา วาทำให้ผมอยากดูแลน้องเหมือนที่พ่อเคยดูแลผม อยากปกป้อง อยากให้ความรัก ซึ่งผมก็เชื่อว่าถ้าน้องได้รับสิ่งเหล่านั้น เขาจะค่อยๆ รักและไว้ใจผมเอง
ถึงตอนนั้นผมจะทำให้ฝนทิพย์สำนึกและเสียใจกับความผิดที่เคยทำเอาไว้
“งั้นตั้งแต่พรุ่งนี้พี่จะคอยรับส่งวาไปโรงเรียนเอง”
“ไม่รบกวนพี่แย่เหรอ”
“พี่ทำเพราะพี่อยากทำ ไม่ได้รู้สึกว่าโดนรบกวน” ผมยื่นมือไปลูบหัววา อยากให้น้องรับรู้ได้ว่าเขาเป็นคนที่ผมให้ความสำคัญ
“.....”
ผ่านไปพักใหญ่ไม่ได้ยินเสียงตอบ ผมเลยหันมอง...วาผินหน้าไปทางหน้าต่างรถ ดูเหมือนน้องจะให้ความสนใจกับวิวข้างทางมากกว่าพี่ชายตัวเอง แต่พอเห็นเงาสะท้อนบนบานกระจก ผมก็อดไม่ได้ที่จะลูบหัวน้องอีกครั้งด้วยความเอ็นดู เพราะใบหน้าเรียวเล็กที่สวยหวานไม่แพ้ผู้หญิง แสดงออกชัดเจนว่ากำลังอารมณ์ดีมากแค่ไหน
ระหว่างทางวาบ่นว่ายังไม่อยากกลับบ้าน ผมเลยพาน้องไปกินมื้อเย็นที่ร้านข้าวมันไก่ตำบลข้างเคียง ซึ่งมีร้านอาหารเปิดบริการค่อนข้างมาก ต่างจากหมู่บ้านกลางป่าของพวกเรา แล้วแวะมานั่งเล่นที่กระท่อมในสวน แต่เนื่องจากช่วงนี้ยังเป็นฤดูฝน พอหย่อนก้นนั่งบนแคร่หน้ากระท่อมได้ไม่กี่นาทีฝนจึงเทลงมาราวกับฟ้ารั่ว
“ชอบอากาศแบบนี้จัง” วายื่นมือออกไปรองน้ำฝนจากหลังคาใบจาก มองสายน้ำด้วยสายตาเหม่อๆ อยู่พักใหญ่ก็ล้วงไอโฟนสีแดงออกมาพิมพ์ข้อความ
“ฝนตกแบบนี้เล่นมือถืออันตรายนะ ใช้เสร็จก็รีบปิดเครื่อง”
ช่วงก่อนหน้านี้น้องไม่ได้พกมือถือไปโรงเรียนด้วย เห็นบอกว่ากลัวจะทำหาย แต่ผมรู้ว่าเหตุผลจริงๆ แล้วคืออะไร วันนี้น้องกล้าพกไว้ติดตัว คงมั่นใจว่าจะไม่โดนใครแย่งอีก
“หือ...วาส่งข้อความบอกแม่แป๊บนึงว่าจะนอนที่นี่” ปากพูด มือน้องยังจิ้มหน้าจอยิกๆ
“จะนอนนี่?”
“.....” น้องไม่ได้ตอบทันที หลังจากกดส่งข้อความยาวๆ อีกหนึ่งข้อความถึงยอมปิดเครื่อง เก็บไอโฟนเข้ากระเป๋าแล้วพูด “อือ...ได้ไหมครับ?”
“ทำไมถึงอยากนอนนี่ล่ะ?” นึกถึงฟูกนอนเก่าๆ กับพื้นที่เล็กแคบไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกสักชิ้นแล้วผมก็แปลกใจ
“วาเบื่อบ้าน อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง...แต่ว่าถ้าพี่เมฆไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ ฟูกเล็กนิดเดียว พี่คงไม่อยากให้ใครมานอนเบียด”
เล่นส่งข้อความบอกแม่ก่อนจะถามความเห็นใจเจ้าของบ้าน ผมก็พอรู้แล้วว่าน้องต้องการคำตอบแบบไหน
“อากาศหนาวๆ มีคนมานอนเบียดก็อุ่นดี อยากนอนที่นี่ก็นอนสิ” พรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการ เลยไม่ต้องห่วงว่าน้องจะไปโรงเรียนสาย ยอมตามใจสักหน่อยคงไม่เป็นไร อีกอย่าง...ได้ใช้เวลาร่วมกันนานๆ เราจะได้สนิทกันมากขึ้น
“อือ” น้องยกข้อนิ้วชี้ถูจมูก แก้มเนียนใสที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ผมจึงกังวลเล็กน้อย อากาศแบบนี้ทำให้ป่วยได้ง่าย เด็กตัวผอมแห้งคงร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่
“ยืนตรงนี้นานๆ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา เข้าไปข้างในดีกว่า” ผมบอก แล้วจูงแขนคนตัวเตี้ยกว่าเกือบคืบที่เริ่มตัวเปียกชื้นจากละอองฝน เดินเข้ามาในกระท่อม
“เดี๋ยวรอฝนซาพี่จะพาเรากลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน”
“ไม่ต้องหรอก ใส่ชุดนักเรียนนอนก็ได้” วาตอบอย่างไม่ค่อยใส่ใจ ก่อนจะล้มตัวลงนอนแผ่บนฟูก “เออ วาลืมคืนเสื้อกับกางเกงที่ยืมพี่ไปเลย”
"ไว้ให้คืนพรุ่งนี้ตอนพี่ไปส่งแล้วกัน” ผมบอกพลางเดินไปรื้อหาเสื้อผ้าในตู้
หลังจากได้เจอฝนทิพย์ เรื่องของสองแม่ลูกทำให้ผมรู้สึกวุ่นวายใจจนอยากหลบมาอยู่คนเดียวเงียบๆ ช่วงก่อนเดินทางไปต่างจังหวัด เลยมาพักที่นี่เกือบอาทิตย์ ในตู้จึงยังมีเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นอยู่จำนวนหนึ่ง
“ได้ครับ”
“ใส่เสื้อนักเรียนนอนเดี๋ยวจะอึดอัด” ผมทรุดลงนั่งขัดสมาธิข้างๆ คนที่นอนอยู่ แล้ววางเสื้อยืดสีขาวไซส์ XL สกรีนลายกราฟฟิกกับกางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้นไว้บนฟูก “ชุดนี้พอจะใส่ได้ไหม อีกสักพักฝนซาแล้วพี่จะพาออกไปอาบน้ำที่ลำธาร”
“ลำธารเล็กๆ นั่นเหรอ” นึกถึงลำธารที่พวกเราขับรถผ่านผมก็ส่ายหน้า ตรงนั้นเป็นปลายน้ำ น้ำจึงตื้นแค่พอท่วมเข่า
“ตรงที่เราจะไปอาบน้ำอยู่ด้านหลังกระท่อม ใกล้กว่า”
“อ่อ” วายันตัวขึ้นนั่งแล้วหยิบเสื้อไปขึงดู “ไซซ์ใหญ่จัง พี่ไม่มีตัวเล็กกว่านี้เหรอ”
“ไซซ์เล็กกว่านี้น่ะมี แต่มันเก่ามาก แล้วก็เป็นของพ่อพี่ ไม่ใช่ของพี่”
“อ้าว...งั้นตัวที่พี่เคยให้วายืมเป็นของพ่อพี่เหรอครับ” น้องวางเสื้อลงบนตัก ขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย “แล้วนี่พ่อพี่ไปไหน หรือว่าพักอยู่ที่อื่น?”
“พ่อพี่เสียแล้ว” ผมยิ้มบอก แต่คนฟังกลับหน้าหม่นลง เลยพูดติดตลกให้น้องหายเครียด “เป็นอะไร หรือกลัวพ่อพี่จะมาทวงเสื้อคืน”
“เปล่า แค่ไม่ชอบรอยพี่ยิ้มตอนนี้...ดูเศร้าๆ ”
“เรื่องมันนานมากแล้ว พูดถึงได้ ไม่ได้เศร้าอะไร”
“.....” วานิ่งมองผมอยู่พักใหญ่ และก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบ น้องก็พูดขึ้นว่า “ไม่เศร้า แต่เหงาใช่ไหม”
เหงาเหรอ...
ผมยิ้ม ยื่นมือไปลูบหัวน้อง จ้องตอบดวงตากลมโตที่กำลังมองมา ผ่านไปเกือบนาทีหรืออาจจะนานกว่านั้น รู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่ฝ่ามือตัวเองเลื่อนลงมาวางนาบแก้มอีกฝ่าย และกำลังใช้ปลายนิ้วโป้งลูบไล้ผิวเนียนละเอียด
“ฮึๆ” ผมหัวเราะในลำคอ ละมือออกห่างจากใบหน้าเรียวเล็ก “ฝนซาแล้ว ไปอาบน้ำกันเถอะ”
“อ...อืม” วาขานรับ หันมองซ้ายขวาด้วยท่าทางเงอะงะอยู่ครู่หนึ่งก็คว้าเอาเสื้อผ้ามาถือไว้
“ลำธารอยู่ใกล้ๆ เดินไม่กี่นาทีก็ถึง เสื้อผ้าไม่ต้องเอาไปหรอก กลับมาเปลี่ยนในกระท่อมสะดวกกว่า” อธิบายให้น้องฟังแล้วผมจึงลุกไปหยิบตะกร้าใส่อุปกรณ์อาบน้ำบนชั้นวางของ แล้วเดินออกจากกระท่อม
ลำธารอยู่ห่างจากกระท่อมไม่ถึงสองร้อยเมตร ผมเลยพาน้องเดินกลางร่มมาแทนที่จะใช้รถ ลำบากหน่อยก็ตรงบริเวณนี้เป็นป่าทึบ หญ้าขึ้นสูง ถึงจะทำทางเดินแคบๆ ไว้ แต่มีรากไม้ใหญ่กีดขวางและพื้นดินแฉะลื่นจากน้ำฝน จึงต้องคอยหันกลับไปมองวาที่เดินตามอยู่ด้านหลังบ่อยๆ เพราะกลัวน้องจะสะดุดล้ม
“วาชอบที่นี่นะ” วาเปรยขึ้นเมื่อพวกเรามาถึง ดูจากสีหน้าแล้วคงชอบมากอย่างที่พูด “ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีลำธารกว้างขนาดนี้อยู่ใกล้บ้าน”
จริงๆ แล้วลำธารนี่กว้างแค่สองเมตร น้ำบางจุดลึกถึงอก บางจุดลึกประมาณเอวเท่านั้น ยิ่งเดินตามปลายน้ำไปก็ยิ่งตื้นลง แม้น้ำจะใสจนเห็นตัวปลา แต่ไม่ได้สวยพอสำหรับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาจเพราะวาเติบโตมาท่ามกลางสังคมเมือง จึงชอบที่นี่
“ถอดเสื้อผ้าไว้ตรงไหนดีครับ” คนถามกวาดตามองไปทั่ว แต่เพราะตอนนี้ฝนยังตกปรอยๆ อยู่ ทุกตารางนิ้วจึงเปียกแฉะไปหมด น้องเลยไม่รู้จะวางของไว้ตรงไหน
“วางไว้บนพื้นนี่แหละ สกปรกก็ไม่เป็นไรหรอก” ผมบอกพลางวางตะกร้าใส่อุปกรณ์อาบน้ำบนรากไม้ ก่อนจะถอดเสื้อโยนไว้ข้างกัน แล้วกระโดดลงในลำธาร ดำผุดดำว่ายอยู่ครู่หนึ่งยังเห็นน้องยืนนิ่งกับที่เลยกวักมือเรียก “ลงมาสิ”
“อาบกันแบบนี้เหรอ” วาหัวเราะ ท่าทางอารมณ์ดี “แล้วงี้พี่จะให้วากางร่มทำไม ยังไงก็ต้องเปียกทั้งตัวอยู่ดี”
“พี่กลัวเราจะเป็นหวัด”
“ไม่ได้ช่วยมั้งครับ” เสียงทุ้มหวานหัวเราะขึ้นอีก ก่อนที่เจ้าตัวจะถอดเสื้อโยนทิ้งแล้วกระโดดตามลงมา
ตูม!
สิ้นเสียงผืนน้ำแตกกระจาย ยังไม่มีหัวทุยๆ โผล่ขึ้นมาให้เห็น ผมเลยกวาดตามองรอบด้านด้วยความเป็นห่วง พอเจอแผ่นหลังขาวเนียนอยู่ใต้ผิวน้ำห่างออกไปแค่สองเมตรจึงรีบว่ายเข้าหา
“เฮือก”
ยังไม่ทันจะคว้าตัวไว้ เด็กตัวเตี้ยก็ผุดขึ้นมาเหนือผิวน้ำในจังหวะที่ผมเข้าประชิดพอดี ถ้าผงะถอยไม่ทันคงโดนหัวอีกฝ่ายโหม่งปลายคางเข้าเต็มๆ
“ฮ่าๆ ตกใจละสิ”
“เดี๋ยวเจอดี” ผมดำมุดลงไปใต้น้ำ คว้าหมับเข้าที่ขาเรียวเล็กแล้วกระชากสุดแรง
“เฮ้ย!” น้องร้องตะโกนด้วยความตกใจ พร้อมกับที่ร่างผอมโปร่งหงายหลังล้มลง เกิดเสียงตูมดังไปทั่วบริเวณ
ผุดขึ้นจากน้ำได้ ผมก็ลูบหน้า ยืนมองน้องตะเกียกตะกายยืนตรง ท่าทางที่คล้ายลูกหมาตกน้ำน่าขันจนผมหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ไม่ขำนะ น้ำเข้าจมูกวา แค่กๆ” วาสำลักไอจนหน้าแดงก่ำ เห็นแล้วผมชักเป็นห่วงเลยเข้าไปช่วยลูบหลังอยู่พักใหญ่จนน้องเริ่มหายใจเป็นปกติ
“ดีขึ้นรึยัง”
“อือ” ใบหน้าสวยหวานที่กำลังก้มต่ำ พยักหงึกหงักประกอบคำพูด
“เป็นอะไร ทำไมก้มหน้า” ผมถาม สายตาเริ่มมองสำรวจไปทั่ว ไล้มองจากใบหน้า ต่ำลงมายังลำคอเรียวเล็ก ลาดไหล่ขาวเนียน แผ่นอกผอมบางที่กำลังสะท้อนขึ้นลง และจุดสีแดงอมชมพูสองจุดบนนั้น…
“เปล่า” เสียงตอบเบาๆ จากอีกฝ่ายทำให้ผมต้องบังคับสายตากลับมาที่ที่ควรมอง ถึงเห็นว่าน้องยังเอาแต่ก้มหน้าจนดูผิดปกติ
[End Make’s Part]
Pie2Na
เริ่มออกลายละไงอิพี่เมฆ = =:
มาลุ้นกันว่าคืนนี้วาจะรอดจากเงื้อมมือพี่มันไหม แล้วพี่เมฆคิดยังไงกับน้องกันแน่
ฝากคอมเม้นบ้างน้า รออ่านอยู่
ขอบคุณครับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

271 ความคิดเห็น
-
#78 นักอ่านผู้มีอารมณ์อ่อนไหว (จากตอนที่ 7)วันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 / 10:13จะรอดไหมเนี่ยย วาาา#780
-
#71 Noey_CHP (จากตอนที่ 7)วันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 / 23:40วาน้อยเราจะโดนพี่เมฆทำอะไรหรือป่าว55555 ><#710
-
#34 0848316524 (จากตอนที่ 7)วันที่ 13 ตุลาคม 2560 / 08:30ไม่น่ารอดดดดดนะวา5555#340
-
#33 Suneda Tongdong (จากตอนที่ 7)วันที่ 12 ตุลาคม 2560 / 22:05รออออออค้าาา#330
-
#32 mammoe (จากตอนที่ 7)วันที่ 12 ตุลาคม 2560 / 21:56ชอบอะะะ#320
-
#31 palmy3050 (จากตอนที่ 7)วันที่ 12 ตุลาคม 2560 / 21:29แล้วก้ยังรออออ ชอบอะะะ ถ้าตอนเยอะกว่านี้จะชวนเพื่อนมาอ่านน รีบๆน้าา#310
-
#30 palmy3050 (จากตอนที่ 7)วันที่ 6 ตุลาคม 2560 / 22:11รอออออ#300
-
#28 DESIMO-SAMA (จากตอนที่ 7)วันที่ 6 ตุลาคม 2560 / 12:16เมฆ...เธอจะทำอะไรคิดดีๆนะ อย่าลืมคิดนะเดี๋ยวเถอะอย่าคิดลึกนะ เมฆเคยได้ยินมั้ยว่า‘ช้าๆได้กินเคะ’แต่ว่า‘เร็วๆเมะได้ใจ’พล่ามอะไรอยู่...#280
-
#27 Suneda Tongdong (จากตอนที่ 7)วันที่ 5 ตุลาคม 2560 / 22:22ชอบบบบบ รอค้าาาา#270
-
#26 0848316524 (จากตอนที่ 7)วันที่ 5 ตุลาคม 2560 / 13:55วาน่ารักกกกกกชอบเรื่องนี้รอน้าาาาา#260