ตอนที่ 25 : Chapter 22 :: ครั้งแรก (100%)
Chapter 22
ครั้งแรก
[Special Part: Make]
“นั่งก่อนสิ”
ผมนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามคนพูด ก่อนจะเหลือบมองแผ่นหลังผอมบางของน้องชายที่เดินผ่านไปทางบันได วาไม่ได้มีท่าทีแปลกใจตอนผมบอกว่าจะกลับมาคุยธุระกับพ่อเขาที่บ้าน แต่ผมกลับรู้สึกกังวลใจที่จู่ๆ น้าอาทิตย์ก็โทรเรียกตัวมา คงไม่ใช่ว่า...เขานึกสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องชายตัวเองหรอกนะ
“ดื่มเป็นเพื่อนน้าหน่อยสิ” เสียงทุ้มต่ำจากคนตรงหน้าดึงผมออกจากความคิด มองอีกฝ่ายรินเหล้าราคาแพงใส่แก้วแล้วดันส่งมาให้ ดูจากประมาณในขวดที่พร่องไปเล็กน้อย เขาคงดื่มรอก่อนผมจะมาสักพักหนึ่งแล้ว
“น้าอาทิตย์มีอะไรจะพูดกับผมเหรอครับ” ผมชิงถามตรงประเด็น เดาไม่ออกว่าเขาจะพูดเรื่องอะไร แต่มันต้องเกี่ยวกับวาแน่นอน ไม่งั้นคงไม่ร้อนใจเรียกตัวผมมาคุยด้วย
“ใจร้อนจริง…” เขาว่าพลางยกเหล้าขึ้นจิบ “น้าเรียกเรามา...ตั้งใจจะปรึกษาเรื่องวายุ”
“.....” คราวนี้ผมยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่มบ้าง
“ช่วงนี้ดูวาติดเมฆมากนะ”
“...ครับ”
“เมฆล่ะ...เอ็นดูน้องบ้างไหม”
“วาเป็นเด็กน่ารัก ใครอยู่ใกล้ก็ต้องเอ็นดูครับ”
“แล้วอยากรับไว้เป็นน้องชายจริงๆ รึเปล่า”
“ตั้งแต่ที่รู้ว่าวาเป็นน้องชายของผม ผมก็ตั้งใจจะดูแลเขาอย่างเต็มที่ในฐานะพี่ชายอยู่แล้วครับ”
“นั่นสิ...น้าก็เห็นว่าเราคอยดูแล เอาใจใส่ เป็นห่วงวา วาเองก็คงรักเมฆเหมือนพี่ชายแท้ๆ แต่น้อง...ยังไม่รู้นี่สิว่าเมฆเป็นลูกของฝนทิพย์อีกคน”
“.....” ผมยกเหล้าดื่มอึกๆ จนเกือบหมดแก้ว...พอเดาออกแล้วว่าคู่สนทนาจะพูดอะไรต่อ
“เรื่องเมฆ...น้าอยากจะรอบอกวาตอนที่พร้อมกว่านี้ แต่ตอนนี้น้องก็เปิดใจรับเมฆแล้ว...คนในหมู่บ้านก็เริ่มพูดกันหนาหู อีกหน่อยคงไม่พ้นเข้าหูวา...น้าไม่อยากให้น้องรู้จากปากคนอื่น มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ดูอย่างเมื่อเช้าสิ น้องยังโกรธขนาดนั้น”
“แล้วแม่วาว่ายังไงครับ เธอพร้อมจะพูดแล้วเหรอ”
“ยังหรอก...ฝนกลัวจะทำลูกผิดหวัง กลัวลูกจะน้อยใจ แต่น้ามองว่ายิ่งยื้อเรื่องจะยิ่งบานปลาย วันนี้น้าถึงมาคุยกับเราเอง ปล่อยให้ฝนเขาเตรียมใจ”
“จะบอกวาเมื่อไหร่ครับ” เหล้าในแก้วผมหมดลง และถูกเติมจนเต็มอีกครั้ง
“คงอีกสักสองสามวัน...”
ไม่รู้ว่านั่งดื่มเป็นเพื่อนน้าอาทิตย์นานแค่ไหนหรือดื่มไปกี่แก้ว แต่ตอนที่เดินขึ้นบันได ผมรู้สึกว่าพื้นโครงเครงจนต้องเกาะราวไว้ พอขึ้นมาถึงชั้นสอง หน้าประตูห้องธาร มือเพิ่งคว้าจับลูกบิดก็ได้ยินเสียงหัวเราะจากคนอายุมากกว่าที่เดินตามหลังมา
“ผิดห้องแล้วเมฆ” น้าอาทิตย์พูดยานคาง ท่าเดินสโลสเลไม่แพ้กัน ไม่เหลือมาดนักธุรกิจพันล้านที่ทั้งรูปหล่อและเคร่งขรึม แว่นสายตาที่สวมอยู่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้คนเมาดูน่าเชื่อถือขึ้นเลย “นี่มันห้องน้า ห้องนอนแขกอยู่นู่น” นิ้วเรียวยาวชี้ไปทางห้องนอนตัวเอง
“ผิดแล้วครับ นั่นต่างหากห้องนอนน้า”
“อ้าวเหรอ” ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่น มองประตูห้องตัวเองสลับกับห้องลูกชายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือเกาหัวท่าทางงงงัน “น่าจะใช่...ขอบใจนะ” ว่าจบน้าอาทิตย์ก็เดินซวนเซกลับเข้าห้องนอนตัวเองอย่างถูกต้อง ส่วนผมก็ผลักประตูเดินเข้าไปในห้องวา
“พ...พี่เมฆ” คนตัวเล็กที่ยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าชะงักมองผมหน้าตื่นๆ มือที่เพิ่งคว้าจับชั้นในสีขาวในลิ้นชักเก้กัง ทำท่าจะหยิบออกมาแต่วางเก็บไว้ที่เดิมอีก “คือวา...พี่เมฆไปนั่งรอที่เตียงก่อนสิ วายังแต่งตัวไม่เสร็จ”
แกร็ก…
ผมกดล็อกประตูก่อนจะดันมันปิด สายตามองสำรวจน้องตั้งแต่หัวถึงปลายเท้าอย่างมึนงง...วาไม่ได้สวมกางเกง และคงไม่ได้สวมชั้นในด้วย เสื้อยืดสีขาวหลวมโคร่งบนตัวยาวพอคลุมสะโพกไว้หมิ่นเหม่ แต่น้องคงอายเลยพยายามดึงชายเสื้อลงมาปิดขาอ่อน
“ไม่เห็นต้องอายเลย พี่เคยเห็นมาหมดแล้ว...ทั้งตัว” ไม่รู้ว่าผมพูดอะไรผิด หน้าน้องถึงเห่อแดงกว่าเดิม ทั้งจมูกทั้งหูแดงก่ำไปหมดเหมือนจะไข้ขึ้น น่าเป็นห่วงจนผมต้องเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วยกฝ่ามือทาบหน้าผากวัดอุณหภูมิ “ป่วยรึเปล่า ตัวอุ่นๆ นะ”
“วาไม่ได้ป่วย...กลิ่นเหล้าหึ่งเลยพี่เมฆ ดื่มเข้าไปกี่แก้วเนี่ย”
“นิดหน่อย”
“นิดหน่อย แต่ดูท่าจะเมาแล้วนะ”
“พี่ไม่ได้เมา” ผมเถียง ยังยืนตรงได้อยู่และมองหน้าวาชัดขนาดนี้ ไม่เรียกว่าเมา...ดูแก้มแดงๆ นี่สิ ใสจนเห็นเส้นเลือดฝอย น่ามันเขี้ยว...อยากกัด “น้องชายพี่น่ารัก”
“น่ารักจริงเหรอ...น่ารักแล้วรักไหมครับ” ดวงตากลมโตช้อนมอง ดูออดอ้อนน่าเอ็นดูทำเอาใจผมอ่อนยวบ
“รัก...”
“วาก็รักพี่เมฆครับ” เด็กตัวเล็กสอดแขนกอดรัดเอวผมแล้วซบหน้าลงกับอก หัวทุยๆ ขยับยุกยิก ออดอ้อนไม่ต่างจากลูกแมว
“ดึกแล้วไปนอนกัน” ผมก้มตัวลงช้อนร่างผอมบางขึ้นอุ้ม แต่คนในอ้อมแขนโวยวายหน้าตาตื่น รีบดึงชายเสื้อลงปิดขาอ่อน
“วายังไม่ใส่กางเกงเลย”
“ไม่ต้องใส่หรอก” ผมบอกปัด ไม่สนใจเสียงร้องห้าม อุ้มน้องไปที่เตียง วางลงบนเบาะแล้วขึ้นคร่อมทับ จ้องมองใบหน้าสวยหวานที่ดูขัดเขิน
...แก้มนุ่มนิ่มของน้องเป็นสีแดงจัด เวลาต้องแสงสีเหลืองนวลจากโคมไฟยิ่งน่ามอง ผิวเนียนละเอียดผุดผ่องไปทั้งตัวชวนให้ซุกหน้าเขาหา อยากจะฟัดให้หายมันเขี้ยว แล้วผมก็ทำตามใจ...กดจมูกลงบนผิวแก้ม สูดกลิ่นหอมอ่อนจางเข้าเต็มปอด ก่อนจะซุกหน้าเข้าที่ซอกคอเพื่อทำแบบเดียวกัน
ตัวน้องหอม...น่าดมไปทุกส่วน
“พี่เมฆ วาจักจี้” เด็กตัวเล็กหัวเราะคิกคัก ลืมอายที่ตัวเองไม่ได้ใส่กางเกงไปชั่วขณะ
ผมละจมูกจากผิวเนื้อหอมกรุ่น เคลื่อนใบหน้าขึ้นให้สายตาอยู่ระดับเดียวกับคนด้านใต้ จ้องมองน้องอย่างนิ่งงัน...เพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองคงเมามากแล้วจริงๆ เมาจนนึกอยากเปลี่ยนเสียงหัวเราะของน้องเป็นเสียงครางแผ่วหวานเหมือนที่เคยได้ยินที่น้ำตก
แต่ผมจะทำอย่างนั้นไม่ได้…
“นอนได้แล้ว...เด็กดื้อ” ผมเกลี่ยปอยผมที่ปิดหน้าออกให้ ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้ว วายังดื้อเพ่งไว้ผมยาวผิดระเบียบโรงเรียน ได้ยินมาว่าตอนจะโดนครูตัดผม น้องเอาเรื่องสิทธิมนุษยชนมาอ้างแล้วเดินหนี ทำครูฝ่ายปกครองปวดหัวกันไปหมด...ทั้งดื้อทั้งซนแต่น่าเอ็นดู
“วายังไม่ง่วง” ดวงตากลมโตหลุบมองปากผม ยื่นนิ้วมาเกลี่ยเล่น “พี่เมฆ...วาไม่มีเสน่ห์เหรอ”
“มีสิ”
“แล้วทำไม...พี่เมฆถึงไม่สนใจวาเลย”
“.....”
“ไม่ยอมจูบวาสักที…”
“พี่จะไม่จูบวาอีกแล้ว” ผมบอก ใช้ประโยคนั้นย้ำเตือนตัวเองและพยายามหักห้ามใจ
“ทำไม”
“เพราะพี่ไม่ควรจูบวา”
“ทำไมถึงจูบไม่ได้”
“เพราะเรา...เป็นพี่น้องกัน”
“พี่พูดแบบนี้อีกแล้ว” วาขมวดคิ้ว “วาไม่ได้อยากเป็นน้องชายพี่เมฆ เราพูดกันหลายครั้งแล้วนะ...ไม่มีพี่ที่ไหนเขาทำเรื่องอย่างว่ากับน้องชายหรอกครับ”
“วา…”
“ถ้าพี่เมฆไม่อยากทำอีก วาไปทำกับคนอื่นก็ได้”
“ทำอะไร...กับใคร?”
“ทำแบบที่เคยทำกับพี่เมฆไงครับ...กับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่”
“ไม่ได้”
“พี่มีสิทธิ์อะไรมาหวง”
“วา!”
ผมชักหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว แค่คิดว่าน้องจะไปจูบคนอื่น กอดคนอื่น ผมก็อยากจะเด็ดแขนเด็ดขาเขาทิ้ง ขังไว้ไม่ให้ออกไปเจอใคร...ต้องให้บอกอีกกี่ครั้งว่าหวง!
“ถ้าจะเป็นแค่พี่ชายก็อย่ามาทำเกินหน้าที่ วาจะมีเซ็กซ์กับใครมันก็เรื่องของวา พี่ไม่มีสิทธิ์มาหวง...ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะหอมวาเหมือนที่ทำเมื่อกี้ด้วย” ดวงตากลมโตเสมองทางอื่น โกรธจนไม่ยอมมองหน้าผม ผมเองก็ไม่พอใจที่น้องคิดจะประชดกันแบบนั้น ผมไม่อยากให้ใครได้สัมผัสน้อง อยากให้เขาเป็นของผมแค่คนเดียว
แล้วจู่ๆ ผมก็เกิดความคิดบ้าๆ ขึ้นมา ความคิดที่ว่า...ต่อไปถ้าว่ารู้ว่าผมเป็นพี่ชายคนละพ่อ น้องคงไม่ยอมให้ผมแตะตัวอีก...ต่อไปเขาก็จะโตขึ้นและมีคนที่ชอบ แล้วคนที่ได้ครอบครองน้องจะไม่ใช่ผม
ผมยอมไม่ได้…
“วาเป็นของพี่ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร พี่ก็มีสิทธิ์...ถ้าอยากหอม พี่ก็จะหอม” ผมพูดอย่างถือสิทธิ์ก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มน้อง สูดดมกลิ่นหอมอ่อนจาง ผละออกแล้วเลื่อนมาที่ริมฝีปาก “ถ้าอยากจูบ หรืออยากจับตรงไหน...พี่ก็จะทำ”
“เอาแต่ใจ” วายังคงขมวดคิ้ว เอาฝ่ามือมาปิดปากผมไม่ให้ทำอย่างที่พูด ผมเลยจูบลงบนฝ่ามือน้อง ก่อนจะคว้าข้อมือเล็กดึงออกอย่างง่ายดาย
น้องเม้มปากตอนที่ผมก้มหน้าเข้าไปใกล้ ดูเหมือนยังโกรธ แต่คงเพราะใจดวงเล็กๆ ในอกนั่นถูกยกให้ผมแล้ว ถึงไม่แข็งพอจะต่อต้านเจ้าของ ยอมโอนอ่อนปล่อยให้ผมกดจูบลงบนริมฝีปากตัวเองอย่างง่ายดาย
ขณะค่อยๆ ไล้เล็มริมฝีปากอิ่ม มือของผมลูบผ่านสีข้างคนด้านใต้มาที่สะโพก ผิวเปลือยเปล่าถูกสัมผัสโดยตรง ให้ความรู้สึกอุ่นและเนียนนุ่มจนอดใจไม่ไหวต้องบีบเค้นแรงๆ
“วาเป็นของพี่” ผอมถอนจูบออกแต่ยังกระซิบคลอเคลียไม่ห่าง “ทั้งตัวทั้งใจเป็นของพี่คนเดียว ห้ามให้ใครเด็ดขาด...จำเอาไว้”
(CUT NC ของุบงิบไว้เซอร์วิสคนที่ซื้อหนังสือฉากนึงน้า
สรุปได้ว่าพี่เมฆได้น้องวาแบบสมยอม SM เล็กน้อย หวานเสียมากกว่า
NC ฉากอื่นลงให้อ่านในเว็บครบครับ มี SM หนักๆ ด้วย แฮร่)
“คนโกหก” เสียงตัดพ้อปนสะอื้นเรียกให้ผมต้องก้มมองคนในอ้อมกอด ใบหน้าหวานยังเปื้อนน้ำตา ทั้งน่ารักและน่าสงสาร ทำให้ผมรู้สึกผิดที่เผลอทำรุนแรง แต่คนที่ผิดมากกว่าคือน้องต่างหาก...น่ารักเกินไปจนผมห้ามใจตัวเองไม่ไหว
“อ...ออกไปได้แล้ววาอึดอัด” น้องพูดอู้อี้ พยามก้มหน้าหลบสายตา ท่าทางเอียงอาย ผมถึงเพิ่งรู้ตัวว่าส่วนนั้นของร่างกายยังอยู่ในตัวน้อง แต่พอขยับสะโพกจะดึงออก สัมผัสบีบรัดกลับทำให้รู้สึกเสียดวูบทั่วท้องน้อยจนมันแข็งชูชันขึ้นมาอีก อยากจะแกล้งน้องต่ออีกสักรอบแต่เสียงเคาะประตูดันดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน ตามด้วยเสียงเอ่ยถามของฝนทิพย์
“วา ทำอะไรอยู่ลูก ทำไมยังไม่นอน”
“พี่เมฆ ลุกออกไปเร็ว” สีหน้าวาดูตกใจเมื่อได้ยินแม่เรียกหาอยู่หน้าห้อง มือเรียวเล็กพยามดันอกผมให้ลุกออกห่าง
“เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ผมจูบขมับชื้นเหงื่อของน้อง ลูบแก้มนิ่มเล่นปลอบให้ใจเย็นลงแล้วค่อยถอนตัวออก ลุกมายืนข้างเตียง ดึงกางขึ้นสวมให้ดีพลางมองน้องเอาผ้านวมมาคลุมปิดท่อนล่างเปลือยเปล่าเอาไว้ สำรวจความเรียบร้อยของตัวเองและสภาพรอบห้องจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ถึงเดินไปเปิดประตู
“มีอะไร” ผมถามผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก อาจเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมันทำให้ความเยือกเย็นของผมลดน้อยลง
“เมฆ…” สีหน้าเธอดูแปลกใจที่เห็นผม “น้าได้ยินเสียงแปลกๆ มีอะไรกันรึเปล่า”
“เปล่า”
“นี่เราเมาเหรอ...น้าอาทิตย์ล่ะ”
“เข้าห้องนอนไปแล้ว” ผมขมวดคิ้วกับคำถามนั้น พอมองสำรวจคนตรงหน้าดีๆ ถึงเห็นว่าเธอสวมชุดกระโปรง แต่งหน้าบางๆ ดูแตกต่างจากตอนอยู่บ้านปกติ “คุณออกไปข้างนอกมา?”
“ค่ะ...น้าไปจิบไวน์กับเพื่อนเก่ามานิดหน่อย”
“ทำไม...เครียดเรื่องลูก?”
“.....” ฝนทิพย์ทำหน้ากังวล มองลอดประตูเข้ามาด้านในห้อง คงกลัวว่าวาฟังอยู่ “ทำไมป่านนี้ยังไม่นอนกันอีก” เธอพูดเบี่ยงประเด็น
“กำลังจะนอน...แต่คุณมาขัดจังหวะ”
“นอนห้องนี้เหรอ”
“ใช่” ผมยกยิ้มมุมปาก “หรือคุณมีปัญหา”
“เปล่า...น้าแค่แปลกใจ”
“มีอะไรต้องแปลกใจ น้องชายผมน่ารักขนาดนี้…” พูดค้างไว้ ก่อนผมจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเธอ ต่อจนจบประโยค “...ผมต้องอยากนอนกอดน้องบ้างสิ”
ตึง!
ประตูห้องถูกเหวี่ยงปิดใส่หน้าอีกฝ่ายโดยไม่รักษามารยาท ทุกครั้งที่ต้องเจอหน้าหรือพูดคุยกับฝนทิพย์ ผมมักจะหงุดหงิด นึกอยากทำให้รอยยิ้มของเธอบิดเบี้ยว แล้วน้องชายของผมก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฝนทิพย์ทุกข์ร้อนใจได้
ผมมองคนตัวเล็กที่นั่งพิงหัวเตียงด้วยสีหน้ากังวล จ้องมองผมอย่างต้องการจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมไม่มีอารมณ์จะตอบ ทำเพียงเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียง เอื้อมมือปิดสวิตซ์ไฟ ก่อนจะดึงร่างนุ่มนิ่มมากอดแนบอก สูดกลิ่นหอมจากจากหัวทุยๆ ของอีกฝ่ายแล้วหลับตาลง
[End Make’s Part]
Pie2Na
ความหนักหน่วงกำลังคืบคลานเข้ามา...
เจอกันตอนหน้า พรุ่งนี้แหละ ถ้าพายไม่ลืม ^^
ขอบคุณครับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่อยากนึกถึงวันที่วารู้ความจริงเลย
#อินจัด