ตอนที่ 23 : Chapter 21 :: ฐานะที่แท้จริง (1)
Chapter 21
ฐานะที่แท้จริง
(ครึ่งแรก)
สิบโมงเช้า วันต่อมา...
ผมจะออกไปดูหนังกับพี่เมฆเลยต้องกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน เพราะที่กระท่อมเหลือแต่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเรียบง่าย ไม่มีชุดสำหรับใส่เที่ยว
“สองคนนี้กินข้าวมารึยัง” แม่ที่ยืนสั่งงานคนสวนอยู่หน้าประตูเอ่ยทักเมื่อเห็นผมกับพี่เมฆเดินเข้าบ้านมา
“เรียบร้อยแล้วครับ” ผมตอบ แอบเหลือบมองปฏิกิริยาพี่เมฆ เขาแค่ดูนิ่งขรึมกว่าปกติไม่ได้แสดงท่าทางอย่างอื่นแปลกไป
“พ่อเขาบ่นคิดถึงลูกแน่ะ แถมมางอลแม่ที่ปล่อยให้ลูกค้างนอกบ้าน...ช่วงแม่ไม่อยู่ไปทำอะไรผิดให้พ่อเขาจับได้รึเปล่าคะ”
“ไม่มีนี่ครับ” ผมตอบเลี่ยงๆ แล้วเข้าไปกอดเอวทำเสียงอ้อน “แม่ครับ...วาไม่อยู่กินข้าวเที่ยงด้วยนะ จะไปดูหนังกับพี่เมฆ ตอนเย็นก็คงไปที่กระท่อมเลย ไม่แวะเข้าบ้านนะ” ที่จริงวันนี้ผมต้องติวหนังสือให้ต้น แต่ขอเลื่อนเป็นวันอาทิตย์แทน
“อยากไปก็ไปสิ...แล้วนี่นึกยังไงกลับบ้านมาขอแม่ก่อน ปกติแค่โทรมา” ก่อนหน้านี้ผมโกรธแม่ที่จู่ๆ ก็ย้ายกลับบ้านเกิดในชนบท แถมยังส่งผมไปเรียนโรงเรียนเล็กๆ ใกล้หมู่บ้าน ผมเลยทำมึนตึงกับแม่นานเกือบเดือน พอกลับมาขี้อ้อนเหมือนเดิมแม่ถึงใจดีเป็นพิเศษ
“วากลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าครับ”
“นึกแล้วเชียว” แม่บีบจมูกผมแรงๆ โยกซ้ายโยกขวาโดยไม่กลัวกระดูกอ่อนจะหัก “ยังไงก็บอกพ่อเขาหน่อยล่ะ บ่นถึงลูกตั้งแต่เช้าแล้ว ถ้าวันนี้ยังไม่เจอหน้า เดี๋ยวพาลโกรธแม่อีกคน”
“แล้วพ่ออยู่ไหนครับ”
“อยู่บนห้องค่ะ น่าจะอาบน้ำอยู่”
“งั้นวาไปหาพ่อก่อน” ผมปล่อยแม่ออกจากอ้อมแขนก่อนจะหันไปบอกพี่เมฆ “รอแป๊บนะครับ ไม่เกินสิบห้านาทีเดี๋ยวลงมา”
กึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นมาถึงหน้าห้องพ่อบนชั้นสอง ผมเคาะประตูตามมารยาทสามครั้งแล้วเปิดเข้าไปด้านใน เสียงสายน้ำจากฝักบัวเรียกให้ผมหันไปมองทางกระจกฝ้า เห็นเงาร่างสูงโปร่งกำลังขัดถูเนื้อตัวที่มีฟองฟอดอยู่ในห้องน้ำ เรือนร่างนั้นสมส่วนแข็งแรงและดูดีแม้จะอายุสี่สิบต้นๆ แล้ว
“ฝนเหรอ...ลูกกลับมารึยัง”
“ลูกชายอยู่นี่ ส่วนภรรยาพ่ออยู่ข้างล่างแน่ะ”
“อ้าววา กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“เพิ่งถึงเมื่อกี้เองครับ แต่เดี๋ยวจะออกไปแล้ว”
“อยู่กินข้าวเที่ยงที่บ้านก่อนสิ ค่อยไป”
“ขอเป็นพรุ่งนี้นะครับ วันนี้วานัดกับพี่เมฆไว้แล้ว” คุยกับพ่อพลางมองสำรวจรอบห้อง ผมเคยเข้ามาในห้องนอนพ่อกับแม่แค่ครั้งเดียวตอนย้ายเข้าบ้านวันแรก ทุกอย่างในนี้แปลกตาจากเดิม มีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเพิ่มขึ้นหลายชิ้น แต่ที่สะดุดตาที่สุดคงเป็นชั้นวางหนังสือติดผนัง ทำเป็นทรงโค้งเหมือนคลื่นดูแหวกแนวดี
ผมเดินไปดูใกล้ๆ หยิบหนังสือหลายเล่มออกมาเปิดอ่านผ่านๆ ฆ่าเวลา ส่วนใหญ่หนังสือบนชั้นเป็นพวกสารคดีสัตว์ สารคดีท่องเที่ยว สารคดีการเกษตร...พ่อผมชอบอะไรจำพวกนี้ ผมเก็บหนังสือเกี่ยวกับสิงโตในมือ แล้วสุ่มหยิบเล่มใหม่จากชั้น ยังไม่ทันก้มมองหน้าปกก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำพอดี
เหลียวไปทางด้านหลัง พ่อเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเนื้อตัวพราวหยดน้ำ มีผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเล็กพาดบ่าและอีกผืนพันรอบเอว ท่อนบนเปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อได้รูปสวยและกล้ามท้องหกก้อนตึงแน่น เห็นแล้วผมถึงกับต้องก้มลงมองพุงแห้งๆ ของตัวเอง ถ้าถลกเสื้อขึ้นจะเจอแค่ไลน์สองเส้นรางๆ เท่านั้น ไม่รู้ต้องออกกำลังกายแค่ไหนถึงจะหุ่นดีได้เหมือนพ่อ
“ทำอะไรอยู่” พ่อถามพลางดึงผ้าขนหนูที่พาดไว้บนบ่าขึ้นคลุมหัวก่อนจะขยี้เช็ดเส้นผมเปียกชุ่ม ผมเลยหมุนตัวกลับ ตั้งใจจะเก็บหนังสือเล่มนั้นวางไว้ที่เดิมแล้วเดินไปคุยกับพ่อ
“หาหนังสืออ่านแก้เบื่อ...” ตอบพลางยกหนังสือในมือขึ้นจะเก็บเข้าชั้น แต่สายตาดันสะดุดกับภาพนายแบบบนหน้าปกเสียก่อน คำพูดของผมชะงักค้าง...มองหน้านายแบบคนนั้นอีกครั้งให้แน่ใจ ก่อนจะเปิดดูสารบัญ กวาดสายตาหาหัวข้อที่เกี่ยวกับเขาแล้วเปิดอ่านเนื้อหาด้านใน...
อันที่จริงมันไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นนิตยสารการเกษตร และหัวข้อที่ผมกำลังอ่านคือ...เกษตรกร สายพันธุ์ใหม่ ‘เมฆา เดชสกุล’
อ่านเนื้อหาได้แค่สองบรรทัดผมก็รู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่ลำตัวแข็งเกร็งด้วยกล้ามเนื้อจะเบียดชิดแผ่นหลังของผม น้ำจากเส้นผมคนตัวสูงกว่าหยดแหมะลงบนหน้ากระดาษ
“เล่มนี้ห้ามอ่าน” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหู ก่อนที่นิตยสารในมือจะถูกอีกฝ่ายแย่งไปแล้วยกชูขึ้นเหนือหัว
“เอามานะ วาจะอ่าน!” ผมยกมือชูขึ้นพร้อมกับเขย่งเท้าจะแย่งหนังสือคืน แต่พ่อดันเขย่งเท้าตาม ทำให้ผมต้องกระโดดเหยงๆ แทนเพราะตัวสูงสู้อีกฝ่ายไม่ได้
“ไม่ให้” พ่อถอยหลังหนีขณะที่ผมก้าวตาม พยายามเขย่งเท้าบ้าง กระโดดบ้าง พอเกือบจะคว้าหนังสือได้ตัวพ่อก็ชนเข้ากับเตียง หงายหลังล้มลง ส่วนผมที่ไม่ทันระวังตัวเลยเซล้มทับพ่อเข้าเต็มๆ
“พ่อ...จะให้ดีๆ หรือจะให้ใช้กำลัง!?” ความคิดดีๆ ผุดขึ้นในหัว ผมใช้มือหนึ่งยันตัวคร่อมตัวพ่อไว้ ขณะที่อีกมือเลื่อนลงต่ำผ่านหน้าท้องแข็งเกร็งไปยังท้องน้อยของคนด้านใต้
“ถ้าไม่ให้จะต่อยพ่อเหรอ บาปนะ!”
“บาปอะไร ไม่รู้จัก” ผมทำหน้าทะเล้นใส่
พ่อมัวแต่สนใจหนังสือกลัวผมจะแย่งเอาไป เลยไม่ทันสังเกตว่ามืออีกข้างของผม ลอบกำผ้าเช็ดตัวที่ปิดบังท่อนล่างของพ่อไว้แน่น...กระชากสุดแรง ผ้าสีขาวทั้งผืนก็หลุดติดมือมา
“เฮ้ย!” คนโป๊เปลือยตาเหลือก ปล่อยหนังสือจะคว้าผ้าเช็ดตัวคืน แต่ผมรีบโยนมันทิ้งไปบนพื้น ใช้จังหวะที่พ่อมัวแต่ตกใจเอามือปิดมังกรน้อยตรงหว่างขา แย่งเอาหนังสือคืนมา
ชิ! ตอนผมยังเด็กเวลาอาบน้ำด้วยกันเคยเห็นออกบ่อย ตอนนี้มันก็ยังเท่าเดิมล่ะน่า ไม่ได้โตขึ้นเหมือนของผมสักหน่อย...แอบมองนิดมองหน่อยทำเป็นอาย
“ขอนะ” ผมรีบยันตัวลุกจากเตียง วิ่งเข้าห้องน้ำแล้วขังตัวเองไว้ในนั้น
“วา วา!” เสียงตะโกนของพ่อดังเรียกมาจากด้านนอก ตามด้วยเสียงเคาะประตูหนักๆ “เปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้เลย”
เปิดให้โง่น่ะสิ…มีเหรอผมจะกลัว แค่หยิบหนังสือในห้องพ่อแม่มาอ่านไม่ถือว่าผิดสักหน่อย พ่อไม่มีสิทธิ์จะลงโทษผม
ผมเปิดนิตยสารในมือไปยังหน้าที่อ่านค้างไว้ แล้วกวาดตาผ่านตัวอักษรแต่ละบรรทัดอย่างรวดเร็วโดยมีเสียงเคาะประตูปังๆ คอยรบกวน เนื้อหาอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับธุรกิจการเกษตรของพี่เมฆ เอ่ยถึงฟาร์มโคนมชื่อดังในจังหวัดสงขลาที่พี่เมฆเป็นเจ้าของ รวมถึงโรงงานผลิตปุ๋ยและแปรรูปสินค้าทางการเกษตร นอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับครอบครัวสั้นๆ
พี่เมฆให้สัมภาษณ์ว่า...พ่อของเขาเสียไปตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ แม่หนีไปมีสามีใหม่ ส่วนปู่ย่าตายายก็ล้วนไม่อยู่แล้ว เลยต้องใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาจนโต อาศัยไร่สวนที่พ่อทิ้งไว้ในเป็นแหล่งเงินทุน ส่งเสียตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี ระหว่างนั้นก็เริ่มก่อร่างสร้างตัวจนมีโรงงานสองแห่งและฟาร์มเป็นของตัวเอง ทั้งที่เพิ่งจะอายุยี่สิบหกแต่กลับเป็นเกษตรกรและนักธุรกิจไฟแรงที่ประสบความสำเร็จ มีรายได้หลักสิบล้านต่อปี
ภาพนายเมฆาที่แต่งตัวด้วยเสื้อกล้าม กางเกงยีนขาดๆ แต่กลับดูดีไปทุกตารางนิ้ว และมีโปรไฟล์สวยหรูบนหน้านิตยสาร ต่างจากภาพลักษณ์ของพี่เมฆที่ผมรู้จักโดยสิ้นเชิง
พี่เมฆหลอกผม...ไม่สิ เขาไม่เคยพูดโกหก แต่แค่ปิดบังทุกอย่างไม่ให้ผมรู้ ลองคิดดูทั้งเสื้อผ้าแพงๆ ที่เขาเคยใส่ นาฬิการาคาหลักแสน ไหนจะวันนั้นที่ผมดื่มจนเมาที่ร้านสเต๊กแล้วพี่เมฆเป็นคนจ่ายค่าอาหารทั้งหมด
ผมปิดนิตยสาร กระชากประตูห้องน้ำเปิดออก พ่อที่สวมผ้าเช็ดตัวเรียบร้อย ง้างหมัดจะเคาะลงบนประตูอีกหนชะงักไป พอผมเดินแทรกตัวผ่านพ่อออกมาจากห้องน้ำ แม่ก็เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนพอดี
“เสียงดังอะไรกันไปถึงข้างนอกคะ” แม่ถามพลางกวาดสายตาสำรวจเราทั้งคู่ ก่อนจะชะงักมองนิตยสารในมือผม
“ทำไมแม่กับพ่อต้องปิดบังวาด้วย”
“.....” พ่อกับแม่เอาแต่เงียบ มองหน้ากันด้วยสีหน้ากังวล
“ทำไมทุกคนต้องโกหกวาว่าพี่เมฆจน”
“หือ?” ตอนแรกพ่อยังขมวดคิ้วท่าทางเครียดๆ แต่พอได้ยินคำถามของผมกลับทำหน้าสงสัยแทน “วาเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า...ลูกไม่รู้เหรอว่าฐานะพี่เมฆเขาเป็นยังไง”
ฟังจากคำพูดของพ่อ ทั้งสองคนคงไม่ได้ตั้งใจปิดบังแค่ไม่เคยพูดถึง เป็นพี่เมฆคนเดียวที่จงใจปกปิดฐานะตัวเอง
“.....” ผมสาวเท้าออกจากห้องมาโดยไม่ได้ตอบคำถาม ระหว่างเดินตามโถงทางเดิน ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ดังแว่วมาจากช่องประตูที่ถูกเปิดค้างไว้
“วาจะรู้รึเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ...นิตยสารนั่นมีแค่ประวัติคร่าวๆ ลูกคงไม่สงสัยอะไร”
“อืม...งั้นฝนตามไปดูลูกก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมแต่งตัวเสร็จจะตามลงไป...ดูท่าน้องเล็กจะได้วางมวยกับพี่ชาย”
Loading…50%
ใกล้ละ ใกล้ถึงฉากที่ทุกคนรอคอย 555
พรุ่งนี้มาต่อนะครับ ไว้เจอกันนนน
ขอบคุณจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

271 ความคิดเห็น
-
#167 Ampme (จากตอนที่ 23)วันที่ 23 มกราคม 2561 / 23:02มาต่อไวๆเลยรอพี่เมฆเกรี้ยวกราดอยู่#1670
-
#166 Cartoonnaya (จากตอนที่ 23)วันที่ 23 มกราคม 2561 / 17:19ว้าว ไม่เอามาม่าน้าาาา#1660