ตอนที่ 3 : บทที่ 02 : ข้อตกลง...ที่ไม่ลงตัว (50%)
บทที่ 2
ข้อตกลง...ที่ไม่ลงตัว
ในบางสถานการณ์...ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามข้อตกลงเสมอไป
ปัจจุบัน...
เกลือจิ้มเกลือ!
คงมีวิธีนี้เท่านั้นที่สามารถใช้จัดการกับเด็กหนุ่มหัวแข็งไม่ยอมใครอย่างโยชิ เจสันย้อนคิดถึงเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน โยชิย่างเท้าผ่านประตูเข้ามาในคอนโดมิเนียมของเขาพร้อมกับกระเป๋าสะพายใบเขื่อง
‘ให้ฉันเอาของไปเก็บที่ไหน?’ โยชิกวาดสายตามองรอบห้อง ก่อนจะหันมาถามเจสันที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่น
‘ห้องนอนผม’ เจสันตอบ
‘...ห้องนอนนาย?’
‘อืม...ประตูแรกทางซ้ายมือ’
นี่เขาคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่?
เจสันนวดขมับ ชายหนุ่มนั่งเอนหลังพิงพนักโซฟา แสร้งทำเป็นจดจ่ออยู่กับจอโทรทัศน์ ทว่าสายตากลับแอบเหลือมองใครอีกคนที่อยู่ในห้องนอน และทุกครั้งที่เกิดเสียง เคร้ง! เพล้ง! หรือ ตุบ! เขาก็จะสะดุ้งจนไหล่กระตุก
ห้องพักของเขาที่คอนโดมิเนียมแห่งนี้ไม่มีสิ่งของชิ้นไหนราคาต่ำกว่าหนึ่งพันบาท...และทุกบาททุกสตางค์ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของเขาเอง แต่เจ้าเด็กบ้านั่น!
เพล้ง!
“เฮ้ย!” โยชิร้องลั่น ก่อนที่เขาจะโผล่หัวออกมาจากประตูห้องนอน “ขอโทษนะ...ฉันเผลอเอามือปัดโคมไฟ...แล้วมัน...” เด็กหนุ่มบอกเจสันด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
“ช่างมัน!”
เจสันกัดฟันกรอด เขาจะทนอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น...แค่ครั้งเดียว!
“นี่นาย...”
“เลิกเรียกผมว่า ‘นาย’ สักที!”
“แล้วจะให้นายว่าอะไร เอ่อ...ฉันหมายถึง...พี่เจสัน บอกเซอร์ของผมควรเอาไปเก็บไว้ตรงไหนดีครับ?” โยชิชูบอกเซอร์สีดำในมือประกอบการพูด
เจสันเป็นถอดแว่นกรอบสี่เหลี่ยมออกมาวางบนโต๊ะ “จะเอาไปไว้ตรงไหนก็เรื่องของคุณ” เขาบอกปัดๆ
“งั้น...ฉันพับเก็บในลิ้นชักเดียวกับของนายนะ”
“.....”
“โอเค ฉันไม่กวนละ เชิญนายดูทีวีต่อเถอะ” ยังผ่านไปไม่ถึงสามสิบวินาทีที่โยชิพูดประโยคนี้ เขาก็โผล่หัวออกมาจากประตูห้องนอนของเจสันอีกครั้ง พร้อมกับตะโกนถามว่า “พรุ่งนี้ฉันขอติดรถไปลงที่มหา’ลัยด้วยได้ปะ?”
ตึง!
เจสันกระแทกรีโมตโทรทัศน์ลงกับโต๊ะ ชายหนุ่มถอนหายใจยาวเหยียด เขาไม่เคยถูกยั่วโมโหขนาดนี้มาก่อน เด็กบ้านี่เก่งเรื่องกวนประสาทคนรึไงกัน! เขาคิดพลางตวัดสายตามองโยชิอย่างน่ากลัว “ข้อตกลงของเราคืออะไร ผมหวังว่าคุณจะจดจำมันและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด”
“แต่ฉัน...”
“ไม่มีแต่”
“โอเค” โยชิผลุบหัวกลับเข้าไปในห้อง “ไปทางเดียวกันแท้ๆ ไร้น้ำใจชะมัด!”
โยชิไม่ได้ปิดประตู เจสันที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นจึงได้ยินเสียงบ่นที่ค่อนข้างดังของเด็กหนุ่มอย่างชัดเจน...
“พี่เจสัน...” แพรวาครางอย่างไม่อยากเชื่อสายตาเมื่อเห็นเจสันที่เพิ่งเดินเข้ามาในโรงพยาบาล “ไปทำอะไรมาคะ ทำไมหน้าตาดูไม่สดใสเลย” เธอมองสำรวจใบหน้าของเจสัน มันมีรอยแดงอยู่ที่โหนกแก้มซ้าย ทั้งขอบตายังดำคล้ำจนน่ากลัว คุณหมอที่สุดแสนจะเพอร์เฟกต์ของเธอในวันนี้ หน้าตาดูไม่จืดเลยทีเดียว
“นอนไม่พอน่ะครับ” เจสันสาวเท้ามาหยุดลงตรงหน้าหญิงสาว ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเพลียๆ แต่ยังคงรอยยิ้มบางไว้บนใบหน้า
“คะ? ทำไมถึงนอนไม่พอล่ะคะ?”
“พอดีมีแขกมาพักด้วยน่ะครับ แล้วค่อนข้าง...” เจสันทำสีหน้าลำบากใจ
มันคือคืนแห่งหายนะ!
เจสันคิดผิดมหันต์ที่ให้โยชินอนเตียงเดียวกับเขา เพราะมันทำให้เขานอนไม่หลับไปทั้งคืน แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเสน่ห์อันเร่าร้อนจากเด็กหนุ่ม แต่เป็นเพราะ...ท่านอนอันร้ายกาจต่างหากล่ะ
“อ้อ ค่ะ! แพรเข้าใจ...แล้วนั่นแก้มพี่เจสันไปโดนอะไรมาคะ”
เจสันยกมือลูบแก้มซ้ายของตัวเอง จำได้ชัดเจนว่าโดนโยชิละเมอชกเข้าจังๆ “โดนหมัดกระแทกหน้ามาครับ” เขาตอบด้วยเสียงที่พึมพำอยู่แค่ในลำคอ
“คะ?”
“ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันครับ” เจสันพูดกลบเกลื่อน
“ต้องระวังหน่อยนะคะ...แล้วนี่พี่เจสันกินอะไรมารึยัง ไปกินมื้อเช้าด้วยกันไหมคะ?”
“ผมกินมาแล้วครับ” เจสันยิ้ม พอนึกถึงอาหารฝีมือโยชิเมื่อเช้านี้ เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าอย่างน้อยเด็กนั่นก็มีประโยชน์อยู่บ้าง “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่า...” แพรวาลากเสียงยาว เธอแอบมองแผ่นหลังของเจสันที่เพิ่งเดินจากไปจนสุดสายตา “ผู้ชายอะไรนะ ล้อหล่อ ขนาดแค่ด้านหลังยังเซ็กซี่เลย!” เธอประสานมือไว้กลางอก ทำสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
ขณะเดียวกันชายหนุ่มที่ถูกพูดถึงเมื่อครู่กำลังนวดต้นคอของตัวเองด้วยความเมื่อยขบ ท่อนขาของโยชิไม่ใช่เล็กๆ และเมื่อคืนมันก็ฟาดลงบนต้นคอของเขาอย่างจัง
คืนนี้คงต้องปรับแผนการกันใหม่แล้วล่ะ!
“สวัสดีครับพี่” โยชิยิ้มทักทายรุ่นพี่ผู้หญิงปีสองที่เพิ่งเดินผ่านไป ก่อนจะเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่โต๊ะ
“ไง! ทำไมมาช้าจังวะ นี่เลทไปสิบนาทีละเนี่ย” ฮ่องเต้ทักพร้อมกับขยับตัวให้โยชินั่งลงข้างกัน
ฮ่องเต้ เป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งพอๆ กับโยชิ เขามีตาชั้นเดียว และผิวขาวเหลืองแบบเอเชีย แต่บุคลิกท่าทางกลับดูห่ามๆ ผมสั้นหยักศกของเขาผ่านการย้อมจนกลายเป็นสีแดงสด เขาใส่ต่างหูเพชรเม็ดเล็กที่ติ่งหูซ้าย เมื่อรวมกับใบหน้าคมสัน จึงทำให้เขาห่างไกลจากคำว่า ‘หนุ่มตี๋’ ไปโดยสิ้นเชิง
“ขี้เกียจขึ้นรถเมล์ก็เลยเดินมาว่ะ แต่กะเวลาพลาดนิดหน่อย”
“คราวหลังให้ฉันไปรับดีกว่า” ขนมปังบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง หน้าตาของเขาดุดันต่างจากชื่อที่ฟังดูนุ่มนิ่มน่ากิน “หอพักนายก็ไม่ใช่ใกล้ๆ” เขาขมวดคิ้วแล้วยื่นมือไปปาดเหงื่อที่หน้าผากให้เพื่อนสนิท
ขนมปัง ถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม เพราะเขามีนิสัยค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และสูงกว่าคนอื่นในกลุ่ม ขนมปังเป็นคนจังหวัดภูเก็ต แต่ถึงจะเป็นเมืองในถิ่นใต้ ทว่าเด็กหนุ่มกลับมีผิวขาวจัด จมูกโด่งเป็นสัน ผมและดวงตาสีน้ำตาลเข้ม นั่นเพราะพ่อของเขามีเชื้อชาติอเมริกัน
“จริงๆ ฉันย้ายมาอยู่คอนโดฯ ใกล้ๆ มหา’ลัยแล้วน่ะ” โยชิบอก
“ได้ไงกัน?” ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว “นายเคยบอกนี่หว่า ว่าคอนโดฯ แถวนี้มันแพง แล้วทำไมถึงย้ายมาได้ล่ะ?”
โยชิยักคิ้วข้างเดียวกวนๆ “พอดีมีผู้อุปถัมภ์”
“ใคร!” ขนมปังย้อนถามสีหน้าเคร่งเครียด “อย่าบอกนะว่านายรับคำของไอ้เสี่ยนั่นน่ะ”
-50%-
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มาเม้นแล้วเน้อ รีบอัพซะนะครับที่รุก ชุ้บๆๆๆ <3
สู้สู้ นะค้าาาาาาาาาา
หนุกครัชชช