ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Darksniper

    ลำดับตอนที่ #2 : หวานเกิน

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 55


           “ไอ้หนู แกนี่มันร้ายสมชื่อ เกือบจะเอาวิญญาณฉันไปได้แล้วเชียว” ชายหน้าหล่อในชุดสูทสีดำยืนมองเด็กหนุ่มนักฆ่าวัยเยาว์ ที่ตอนนี้หลับตาทำใจเตรียมตัวตายเรียบร้อยแล้ว

    “อยากฆ่าก็ฆ่า ไม่ต้องพูดมาก” ริมฝีปากบางเอ่ยตอบอย่างโอหัง พลางนั่งลงบนเก้าอี้ริมระเบียงอย่างเหนื่อยล้า ระเบียงที่นั่งอยู่ก็ใกล้จะหักจะพังเต็มทน หากชายในชุดสูทผู้อยู่ในห้องลั่นกระสุนปืนใส่เขาหรือใส่ที่เหล็กยึด ขาดเพียงเส้นเดียวชีวิตเขาก็จะจบลงในทันที

    “ขอโทษนะไอ้หนู คนจ้างฉันพวกนั้นต้องการให้แกตาย เพราะฉะนั้นฉันคงละเว้นชีวิตแกไม่ได้” ปากกระบอกปืนหันจ่อไปที่เด็กหนุ่ม “แต่ จะฆ่าแกมันก็น่าเสียดาย ข้างล่างนั่นเป็นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยโขดหิน ขอให้โชคดี”

    ปัง เหล็กยึดที่เหลือเพียง 4 เส้น เมื่อขาดไปเส้นหนึ่ง อีกสามเส้นที่เหลือก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะยึดต่อไปไหว มันจึงขาดตามเส้นที่เหลือไปโดยปริยาย

    ฟิ้วววววว ระเบียงล่วงลงไปในเหวลึก พร้อมเด็กหนุ่มผู้ที่ยอมรับความตายด้วยใบหน้าอันเบิกบาน ไร้ซึ่งความกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ตูมมม ปูนหนากระแทกกับก้อนหินจนแหลกกระจุย ทุกสิ่งที่ติดไปกับมันแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ไม่เหลือซึ่งสิ่งใด ๆ

     

    “อัก ทำไมเราถึงยังไม่ตาย แต่กระดูกหักแทบทั้งร่างขนาดนี้ คงจะอยู่ได้ไม่นาน หึหึหึ นึกว่าจะรอดแล้วซะอีก” มือบางคว้าจับท่อนไม้เอาไว้ ก่อนจะปล่อยให้ร่างของตัวเองและท่อนไม้ไหลไปตามสายน้ำ

    “ผู้จมอยู่ในความมืดเอ๋ย หากข้าคืนชีวิตให้เจ้า เจ้าจะไม่ทำให้ข้าต้องโดดเดียวอีกต่อไป” เสียงอันลึกลับดังอย่างแผ่วเบาข้าง ๆ ใบหู

    “จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ช่วยหยุดความเจ็บปวดนี่ทีเถอะ” ด้วยสติอันน้อยนิด ทำให้ปากขยับเอ่ยลั่นวาจาไปโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่สติจะดับไปในที่สุด

    ปึก ขอนไม้ลอยน้ำลอยมาจนสุดทาง พร้อมกับกลิ้งเทร่างของชายหนุ่มลงไปนอนกองอยู่บนพื้นหญ้าริมลำธาร แรงกระแทกเพียงเล็กน้อย ปลุกสติของชายหนุ่มให้ตื่นขึ้นพร้อมกับดวงตา ที่เปิดออกเผยให้เห็นนัยน์ตาสีฟ้าต้องสะท้อนกับแสงจันทร์ยามค่ำคืนเป็นประกายสวยงาม ใบหน้ารูปไข่ที่ทั้งหวานทั้งขาวเนียนราวอิสตรีช่างดูงดงามเสียนี่กระไร บวกทั้งร่างกายที่เล็กและดูบอบบาง เส้นผมสีเงินยาวประปรายถูกสายลมพัดเบา ๆ ให้มาคลอเคลียริมฝีปากที่ดูเล็กบางสีชมพู ช่างดูน่าเย้ายวนใจยิ่งนัก หากชายหนุ่มใดได้เห็นคงจะเผลอหลงใหลในความงามตรงหน้าเป็นแน่แท้

    ตึก ๆๆๆๆ เสียงฝีเท้าดังมาแต่ไกล ฟังจากน้ำหนักดูก็รู้ว่าเป็นหญิง เด็กสาวในคราบเด็กหนุ่มวิ่งมาทางเขาด้วยความเร็ว ผมยาว ๆ สีทองของเธอปลิวโบกสะบัดพลิ้วไหวตามแรงลมช่างดูงดงามยามเมื่อเธอถอดหมวกออก แต่รู้สึกแปลกใจยังไงก็ไม่รู้เพราะในนัยน์ตาสีน้ำเงินครามของเธอกำลังจ้องมาทางเขาอย่างมีเลศนัยน์

    พุบ เธอคุกเข่าลงข้าง ๆ ตัวพยุงเขาให้ลุกนั่งจ้องตากับเธอ พร้อมกับปลดเสื้อตัวนอกออกก่อนจะโยนทิ้งน้ำไป เหลือเพียงเสื้อตัวในที่สุดจะบาง แล้วเธอก็เอ่ยอย่างรวดเร็วว่า

    “ผู้หญิงจูบผู้หญิงด้วยกันคงไม่ถือนะ” ยังไม่ทันจะได้ตอบหรือแก้ต่างอะไร คุณเธอก็บรรจงประกบริมฝีปากลงมาบนริมฝีปากของเขา พร้อมกับมือที่ปลดเปลื่องชุดนินจาของเขาออกอย่างช้า ๆ จูบอันร้อนแรงยากจะเกินห้ามใจปลุกเล้าให้ใจชายเคลิบเคลิ้มจนยากที่จะคิดหาทางเอ่ยปากแก้ต่างว่าตนเป็นชาย

    “ทำอะไรกันอยู่น่ะ” เหมือนเสียงสวรรค์ดังช่วยชีวิต ชีวิตแห่งพรมจารีที่กำลังจะสาบสูญไป เพราะตอนนี้เสื้อของเขาโดนถอดออกไปไว้ด้านหลังเรียบร้อยแล้ว แต่การที่มีทหารจำนวนหนึ่งโผล่มาก็ทำให้เธอผละออกจากเขาและให้เขามีโอกาสรีบน้ำเสื้อมาคลุมตัวปิดบังได้ทันว่าเขาไม่มีหน้าอก

    “เอ่อ คือ เรา” เธอทำท่าเอียงอายพลางทำนิ้วชี้ไปชี้มาที่ตัวเธอและเขา ส่วนตัวเขาก็ได้แต่นั่งชันเข่าหน้าแดง ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา เพราะตอนนี้เขาใบ้รับประทานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่านั่งของเขาเหมือนเด็กผู้หญิงที่รอดจากการโดนปล้ำยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งการนำเสื้อมาคลุมร่างกายท่อนบนไว้และก้มหน้าไม่พูดไม่จานี่ยิ่งเหมือนเด๊ะเลย

    “เออรู้แล้วไม่ต้องพูด เป็นเด็กเป็นเล็กทีหลังอย่ามาทำแบบนี้อีก นี่ท่าไม่ติดว่าพวกเรารีบละก็ พวกเธอสองคนโดนจับแน่ กลับบ้านไปซะ” ว่าแล้วทหารกลุ่มนั้นก็รีบวิ่งไปทางอื่น เหมือนจะรีบร้อนกันเป็นอย่างมาก

    “ขอบคุณคร่า พี่พี่ทหาร” เธอโบกมือบอกล่าทหารกลุ่มนั้นหน้าระรื่น นี่ถ้ารู้ว่าเขาเป็นชายจะเป็นไงหว่า “ขอบใจนะ นี่ค่าตอบแทน” ตุบ ถุงเงินถูกโยนลงตรงหน้าเขา ข้างในเต็มไปด้วยเหรียญทองมากมาย แล้วเธอก็คว้าเสื้อของเธอขึ้นจากน้ำแล้ววิ่งจากไป

    “ทำไม เราที่เป็นนักฆ่าถึงกลายมาเป็นสาวขายบริการได้ละเนี่ย” แล้วก็ล้มลงนอนไปทั้งแบบนั้นเลย

    เช้าวันรุ่งขึ้น นักฆ่าที่เคยเจอมาแทบทุกสถานการณ์แบบเขาก็เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองได้ไม่ยาก เริ่มจากที่เขาเปิดดูจีพีเอสในโทรศัพท์มือถือแบบพับได้ของตนดู ก็พบว่าตำแหน่งที่ตนเองอยู่นั้นไม่มีข้อมูลแผนที่เลยแม้แต่น้อย จึงพอจะทราบว่าตัวเองได้หลงมาในอีกมิติหนึ่งโดยอาจเกิดจากเหตุการณ์บางอย่างตอนเขาตกลงมากับระเบียง

    อย่างที่สองคือ เมื่อเขามองดูเงินในถุงที่มีแต่เหรียญทองก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเขา เพราะสถานที่ที่เขาเคยอยู่มันใช้เครดิตการ์ดไม่ใช่เหรียญแบบนี้

    อย่างที่สาม เมื่อเขาเข้ามาในเมืองก็พบกับสิ่งแปลกประหลาดมากมาย ทั้งม้ามีปีกเพกาซัส ทั้งการทำให้วัตถุลอยได้พลังจิตหรือที่นี่เรียกว่าเวทมนต์ ทั้งผู้คนที่พูดภาษาแปลก ๆ ที่เขาฟังแล้วไม่เข้าใจ และอีกมากมายหลายอย่าง ซึ่งมันเหมือนกับโลกเวทมนต์ในนิยายหลาย ๆ เรื่องที่เขาเคยอ่านมาเลย

    แต่การเจอเรื่องพวกนี้นั้น ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อนสักเท่าไหร่ แถมจะเป็นผลดีซะมากกว่า เพราะที่โลกเก่ามือเขานั้นเปื้อนเลือดตั้งแต่เด็ก เคยรอบสังหารผู้คนมามากมายทั้งคนดีและชั่ว ซึ่งการกระทำนี้ย่อมสร้างความแค้นให้ผู้คนรอบข้างของเหยื่อเหล่านั้นไม่น้อยทีเดียว หากอยู่ที่นั่นต่อเขาคงอยู่ได้ไม่นาน

    และเมื่อมาอยู่นี่เขาก็มีเครื่องมือที่ช่วยให้ปรับตัวได้อยู่แล้ว เครื่องมือแลกคือมือถือของเขาที่ทำได้มากมายหลายอย่าง และมันสามารถถอดภาษาของคนพวกนี้ออกได้ และทำเป็นสื่อการเรียนรู้ให้เขาได้ฝึกได้เรียน

    อย่างที่สองคือสมองของเขา ที่มีพรสวรรค์ในการเรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก เขาจึงเรียนรู้ได้รวดเร็วกว่าคนปกติทั่วไปเป็น 10 เท่า ซึ่งมันทำให้เขาสามารถพูดอ่านเขียนภาษาของคนที่นี่ได้เพียงแค่สองวันกับอีกหนึ่งคืน

    และอย่างที่สาม คือ เขามันพวกเซียนพนันมือหนึ่งเลยละ เพียงแค่ 13 วันเงินที่เขาได้มาทั้งหมดจากการ เอ่อ เอาเป็นว่าโดนจูบก็แล้วกัน เงินที่เขาได้มานั้นมีทั้งหมด 100 เหรียญทอง ซึ่งสำหรับที่นี่ถือว่าเยอะพอตัวสามารถใช้อยู่กินได้ถึง 1 เดือน หากใช้อย่างประหยัด ซึ่งเงิน 100 เหรียญทองนี้ด้วยการพนันเขาก็สามารถเปลี่ยนเงิน 100 เหรียญทองเป็น 100,000,000 ทองได้ไม่ยาก ซึ่งใน 13 วันนี้เขาเรียนรู้กฎการเล่นไพ่ของที่นี่แค่วันเดียว และใช้วิธีเปลี่ยนบ่อนเล่นไปเรื่อย ๆ ซึ่งโชคดีที่นี่เป็นเมืองใหญ่มีบ่อนเยอะมาก ซึ่งเขาเล่นจากบ่อนเล็กไล่ไปบ่อนใหญ่ และเขาก็เล่นชนะมาตลอดซึ่งก็มีไอ้พวกผีพนันเสียหมดตัวให้เขาหลายคนไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งจำไว้เลยว่าการพนันไม่ใช่สิ่งดี หากเล่นไม่รู้จักใช้หัวคิดก็จะเสียหมดตัวแบบผีพนันพวกนี้นี่แหละ

    แต่ถึงตอนนี้จะมีเงินมากมายมหาศาล แต่เขาก็ยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับที่นี่สักเท่าไหร่นัก และสถานที่เดียวที่จะให้ความรู้กับเขาได้

    “ขอเชิญลูกหลานของท่านผู้มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์เข้าร่วมรับการศึกษาที่โรงเรียนมหาเวทแซนเดล โรงเรียนที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในวาเนีย ผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนเรียนฟรี” อ่านจบก็นิ่งคิดสักพัก สายตาเหลือบมองสาวสวยสามคนที่เดินมานั่งโต๊ะข้าง ๆ แล้วกระดิกนิ้วเรียกบ๋อยมาสั่งเหล้าพันปีให้พวกเธอไปสามขวด

    พวกเธอดื่มเหล้าและกินอาหารที่สั่งมากันสักพัก ก็เรียกบ๋อยมาคิดเงิน แล้วก็มีเธอคนหนึ่งเดินเฉียดมาที่โต๊ะเขาพร้อมส่งกระดาษให้

    “ถึงจะแต่งชายขนาดไหนพวกเราก็ดูออก ขอโทษด้วยนะ ที่ไม่มีรศนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน” อ่านจบก็มองไปทางประตูร้านมองตามหลังพวกเธอสามคนตาละห้อย “ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ ฮือๆๆๆๆ”

    ถึงวันนี้จะแต่งตัวด้วยชุดหนังสีดำเรียนแบบพวกทหารเสือของอังกฤษทำเอาดูเท่สุด ๆ แต่หน้าของเขามันก็ยังหวานเชียบเกินไปอยู่ดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×