ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราคีบ่วงรัก

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่3-5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.71K
      32
      23 มิ.ย. 64


    ราคีบ่วงรัก
    มีวางจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊กค่า

    หนังสือจะรวมอยุู่ใน 'รวมเรื่องสั้น3' หาซื้อได้ที่ร้านนายอินทร์นะคะ




    --------------------------------------




    ปวริศาเริ่มคุ้ยเคยกับผู้คนรวมถึงสถานที่นี้บ้างแล้ว ส่วนอาชวินนั้นความสัมพันธ์ยังคงเหมือนเดิม ดูเหมือนเขาจะเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจไรมากนัก วันนั้นที่เขาพูดจาไม่ดีใส่เธอ แต่พอตกค่ำกลับเข้าบ้านมาเหมือนเขาจะลืมไปว่าก่อนหน้านี้ไม่มีเหตุการณ์บาดหมางเกิดขึ้น

         ในมุมมองของคนงานส่วนใหญ่นั้น อาชวินเป็นเจ้านายที่ดี หลายคนชื่นชมและค่อนข้างโกรธหากเธอไปเอ็ด นายของพวกเขาเข้า

         ทุกเช้าเธอจะเดินไปออฟฟิศซึ่งอาชวินจะขับรถจี๊ปคู่ใจเข้าฟาร์ม เขาไม่เคยเอ่ยปากชวนเธอสักคำ ซึ่งเธอก็ไม่ขอติดรถไปด้วยเหมือนกัน อีกอย่างตอนเช้าๆ อากาศดียิ่งกว่าอะไรถือว่าเดินออกกำลังกายแล้วกัน

          แต่วันนี้ปวริศารู้สึกหัวหมุนยังไงชอบกล งานเอกสารกองท่วมหัวเพิ่งเคลียร์เสร็จไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ถึงเวลาเลิกงานทุกคนพากันแยกย้ายส่วนเธอก็ต้องกลับเหมือนกัน คิดว่าอาชวินจะให้จ้อยมารับเพราะเห็นเจ้าตัวเดินหน้าแป้นแล้นมาแต่ไกล สรุปว่าเจ้าของฟาร์มสั่งให้มาบอกว่า

         นายบอกยกจักรยานคันนี้ให้ครับ ไว้ให้คุณปอปั่นเล่น

         ขนาดคนพูดหน้าตายังดูสยองๆ แล้วคนรับอย่างเธอจะไม่โกรธได้เหรอ สภาพของมันแค่เข็นก็ไม่รู้จะพังหรือเปล่า เธอรู้ว่าอาชวินจงใจกลั่นแกล้งเธอสารพัด เขารับปากคุณย่าไปอย่างนั้นแต่กดดันเธอทุกอย่าง เพราะรู้ว่าไม่อาจทำให้ทั้งย่าและแม่ไม่สบายใจ

         ปากร้ายก็ที่หนึ่ง หยาบคายไม่เป็นรองใคร แถมยังชอบกดขี่กันสารพัด ไม่รู้ว่าไปแอบรักคนแบบนั้นได้ยังไงกัน อีกอย่างตอนนี้ทั้งเธอและเขาไม่ใช่พี่น้องนอกสายเลือดกันแล้ว เลื่อนขั้นมาเป็นสามีกับภรรยาแต่ความสัมพันธ์เรียกได้ว่าเข้าขั้นแย่

         ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วฟาร์มว่าอาชวินไม่ใช่หนุ่มโสดอีกต่อไป แม้ยังไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นแต่ภรรยาทางกฎหมายได้เข้ามาอยู่ร่วมชายคาเรียบร้อย แรกเริ่มมีเกร็งบ้างกับสายตาคนอื่นๆ เพราะเธอไม่รู้จักใครเลย แต่พอมีโอกาสได้เข้ามาช่วยงานในออฟฟิศก็เริ่มรู้จัก

         คนในฟาร์มพากันเกรงอกเกรงใจเมื่อรู้ว่าเธอคือ เมียนายบางคนก็เรียก คุณปอได้ยินทีไรมันรู้สึกแปลกๆ เลือดลมในกายวิ่งพล่านเลือดสูบฉีดจนแก้มร้อน ยังจำสายตาดูถูกดูแคลนของเขาได้ดีเมื่อเห็นอาการเก้อเขินของเธอ

         อาการของคนอยากมีผัวจนตัวสั่น

         คำพูดที่แสนร้ายกาจที่อาชวินชอบกรอกใส่หู ดีแค่ไหนที่เขาเปล่งเสียงเบาๆ พอให้ได้ยินกันแค่สองคน ปวริศาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกทุกครั้งที่ความโกรธแล่นขึ้นจุกอก โกรธแต่ทำอะไรไม่ได้เธอสู้คนอย่างเขาไม่ได้สักทาง

         คุณปอกลับแล้วเหรอคะ ทำไมไม่ปั่นเข็นทำไมวิกานดาจอดมอเตอร์ไซด์หยุดถามหญิงสาวที่ใครต่อใครพากันเรียกเมียนาย เธอก็อยากเรียกแต่ทว่าโดนห้ามไว้

         โซ่มันหลุดน่ะค่ะ เดี๋ยวจะเอากลับบ้านให้...พี่อาชซ่อมให้ก็ว่าไปนั่น เขาหรือจะซ่อมให้ เธอจะลองทำเองต่างหากไม่น่าจะยากอะไร อย่างน้อยๆ ก็ยังดีกว่าเดินไปเดินกลับ ระยะทางไม่ไกลมากแต่ก็ทำให้หอบได้

         ปล่อยไว้ที่นี่เถอะค่ะ พรุ่งนี้เดี๋ยวให้ไอ้เบิ้มมันทำให้ มาๆ เดี๋ยวพี่ไปส่งค่ะ

         ปวริศายอมทิ้งจักรบานเส็งเคร็งไว้หน้าออฟฟิศ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที อาจจะขอติดรถอาชวินมาลงที่นี่

         จริงๆ พี่ตั้งใจจะไปหาคุณปอที่บ้านค่ะ ดีนะที่เจอกันซะก่อน

         มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะหญิงสาวถามต้านลม มือเกาะที่จับด้านหลังไว้แน่นเพราะกลัวตก นานๆ เธอจะนั่งมอเตอร์ไซด์สักครั้ง อย่าว่าแต่ขับเลยแค่นั่งยังแทบไม่เคย

         ข้อนี้อาชวินก็รู้...เพราะคุณย่าบอก พอรู้เท่านั้นแหละเขาถึงกับเหยียดยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่มองออกว่าเธอกำลังถูกด่าทางอ้อม

         นังปุ๋ยแฟนไอ้จ้อยมันบอกค่ะ นายสั่งให้ไปทำอาหารชุดใหญ่ ใครอยากกินก็ไปใส่ถุงกลับบ้านเอา พี่นึกว่าคุณปอรู้แล้วเธอก็เพิ่งรู้ตอนที่วิกานดาพูดมานี่แหละ

         ไม่ค่ะ ปอไม่รู้เรื่องเลย ไม่เห็นพี่อาชเขาจะบอกอะไร ปกติปอจะทำอาหารง่ายๆ ให้เขากินบ้าง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×