คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : บทที่6 ไขว้เขว 2
“ฉันจะบอกครั้งสุดท้าย อย่ากลับไปทำตัวแบบเดิมอีก กับไอ้เจตต์ก็เลิกยุ่งกับมันซะ” ไอ้ข้อแรกน่ะ เธอเข้าใจนะแต่ข้อหลังเธอไม่เข้าใจเหตุผลของธนภัทรจริงๆ จะว่าห่วงเจตรินทร์ก็คงไม่ใช่เพราะเจตรินทร์ไม่ใช่คนโง่สักหน่อย
พัทราวีถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อออกมาจากเต็นท์ เธอหันหน้ามองชายหนุ่มที่ยังอยู่ข้างในแล้วเหยียดยิ้มเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ธนภัทรเกลียดที่สุด รอยยิ้มของเด็กน่ารำคาญเมื่อห้าปีก่อนที่เขาไล่ออกจากชีวิต
“ก่อนจะไปห่วงพี่เจตต์ ห่วงตัวเองก่อนดีไหมคะ...ที่ตามผิงเข้ามาถึงในเต็นท์ พี่พีกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ห่วงเพื่อนหรือเป็นหมาที่กำลังหวงกระดูกคะ ถามใจตัวเองดูเถอะค่ะ” ร่างบางสะบัดก้นหนีออกมาก่อนที่จะคอยดูสีหน้าของคนตัวโต ป่านนี้คงโมโหเธอจนหน้าดำหน้าแดงไปหมดแล้วกระมัง
นี่เธอลงทุนเปรียบเทียบตัวเองเป็นกระดูกเชียวนะ มาวัดกันอีกทีก็แล้วกันว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร คราวนี้จะดุด่าต่อว่าเธอขนาดไหนก็จะไม่ถอยหลังอีกแล้ว ทั้งที่ใจยังเจ็บแต่ก็ยังฝืนเลือกทางเดินนี้
แต่เอาจริงๆ ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็เจ็บเหมือนกัน เจ็บอีกสักครั้งคงไม่เป็นอะไร
“นี่ค่ะ พี่มล” พัทราวียื่นของให้ภัทรวดีแต่ดูเหมือนว่าที่พี่สะใภ้จะทำอาหารใกล้เสร็จแล้ว ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยังมอบรอยยิ้มรวมถึงคำขอบคุณให้เธอ เป็นเพราะธนภัทรที่ตามเธอเข้าเต็นท์ไปแล้วยังมาพูดเรื่องไร้สาระใส่กันอีก
การที่เขาทำแบบนี้มันอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าชายหนุ่มกำลัง ‘หวง’ เธอ แต่ใช้ชื่อคนอื่นมาอ้าง สิ่งที่ทำลงไปไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวเธอเหมารวมว่าธนภัทรกำลังรู้สึกอย่างที่เธอคิดจริงๆ
แล้วลดาวัลย์ล่ะ ?
นี่เธอกำลังคิดจะแย่งแฟนคนอื่นเหรอ ถึงยัยนั่นจะทำตัวน่าเกลียดมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปแย่งไม่ใช่หรือไง มันผิด...
“ผิงจ๊ะ ช่วยยกชามนี้ไปให้พวกหนุ่มๆ ก่อนได้ไหม เดี๋ยวพี่ขอเก็บของตรงนี้แปปหนึ่ง” ภัทรวดีชี้ไปยังชามต้มยำที่เพิ่งทำเสร็จ “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“อ้อ เปล่าค่ะพี่มล งั้นผิงยกชามนี้ไปให้พี่ๆ เขานะคะ ส่วนของเราก็ชามนั้นใช่ไหม” ภัทรวดีคงทำแบ่งไว้สองชามเพราะลำพังแค่กลุ่มพี่ชายของเธอก็ซัดเรียบไม่เหลือมาถึงพวกเธอหรอก กินจุกันจะตายไปแต่ไม่ยักกะอ้วน
“ค่ะ ชามนั้นของพวกเรา น้อยกว่าของพวกเขาแต่ก็คงพออิ่ม แล้วคนนั้นเขาจะนั่งทานกับพวกเรา หรือว่านั่งทานกับพวกหนุ่มๆ คะ” ถามถึงผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่คนเดียว ลดาวัลย์หันมองทางนี้แวบหนึ่งก่อนจะทำหันไปทางอื่น
“ไม่รู้สิคะ แต่เดี๋ยวผิงไปถามให้”
“โอเคค่ะ ถ้าจะไปนั่งทานกับหนุ่มๆ พี่ได้เจียวไข่เพิ่มให้” ไปนั่งกับกลุ่มนั้นก็ดี ขืนมานั่งรวมกับเธอแล้วก็พัทราวีจะพานกินข้าวไม่ลง
พัทราวีโยนเรื่องที่คิดก่อนหน้านี้ทิ้งไปก่อนคงต้องมาทวบทวนอีกที ร่างบางเดินไปหาอดีตเพื่อนสาวที่นั่งครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ใจก็ไม่ได้อยากจะมาคุยด้วยสักเท่าไหร่แต่เพราะภัทรวดีให้ถามต่างหาก
“เธอจะนั่งทานกับพี่ๆ หรือจะมานั่งทานกับพวกฉัน” ลดาวัลย์เหลือบมองพัทราวีด้วยสายตาแปลกๆ มุมปากบางหยัดยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ลักลอบแอบกินแฟนคนอื่น อร่อยไหมล่ะ...ทำเป็นวิ่งหนีเขา แต่ที่แท้จ้องจะตะครุบไม่วางตา” เธอเห็นทุกอย่างกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ธนภัทรและพัทราวีแอบเข้าไปอยู่ในเต็นท์ด้วยกัน ครั้นจะตามเข้าไปหรือตามโวยวายชายหนุ่มก็ไม่ได้ เธอจะทำตัวเหมือนพัทราวีไม่ได้เด็ดขาด
“ถ้าเห็นกับตาก็น่าจะเข้าใจนะ ว่าใครกันแน่ที่กำลังจะโดนตะครุบ หวงนักก็ล่ามโซ่เอาไว้สิ ปล่อยให้มาวิ่งตามฉันทำไม หรือจริงๆ แล้วเธอห้ามเขาไม่ได้...ต่อหน้าแสร้งทำตัวอ่อนใสไร้เดียงสา แต่ข้างในเก็บอะไรไว้บ้างก็ไม่รู้ ถามจริงๆ เถอะไม่อึดอัดบ้างเหรอกับการที่ต้องคอย ‘แอ๊บ’ ทั้งที่เนื้อใน...” พัทราวีหยุดพูดก่อนจะใช้สายตาด่าแทนด้วยการมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “สวยขึ้นก็จริงนะ แต่นิสัยเน่ามาก ไปโรงพยาบาลบ้างนะตรวจๆ ดูหน่อยเผื่อหนอนกำลังฟักตัว”
จะว่าไปก็น่าสงสารอยู่หรอกนะอุตส่าห์เรียบร้อยมาตั้งนาน แต่พอเธอกลับมาทุกอย่างที่ลดาวัลย์สร้างเอาไว้เหมือนสั่นคลอนจนต้องเผยธาตุแท้ออกมา
ความคิดเห็น