คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : บทที่5 ล้อเล่นกับความรู้สึก 4
“เปล่าค่ะ แค่อยากจะขอบคุณพี่พี ขอบคุณที่ให้โอกาสฟาง แม้ตอนนั้นพี่พีจะแค่รู้สึกเหงา...”
“เพราะฟางน่ารักพี่คบด้วยแล้วสบายใจยังไงล่ะ” เธอไม่เคยเรื่องมาก ไม่เคยเรียกร้องอะไร แต่ในขณะเดียวกันก็ขยันเอาใจ ไม่เหมือนกับอีกคนที่ชอบสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตของเขา พัทราวีคือหายนะ !
“แต่เราก็คบกันนานแล้วนะคะ พี่พีไม่เห็นจะพาฟางไปกราบคุณแม่ของพี่พีบ้าง” ธนภัทรปลดแขนเรียวออกจากตัวเองเมื่อได้ยินเธอพูดถึงมารดา
“เราไปหาไอ้พวกนั้นดีกว่า เดี๋ยวก็ต้องกลับแล้ว” ลดาวัลย์ได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ส่วนลึก พอพูดถึงมารดาของเขาก็จะชอบเป็นแบบนี้ตลอด
เธอต้องการให้ทางบ้านของธนภัทรรับรู้และต้อนรับในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้อะไรก็ว่าไป ไม่ใช่แค่การคบกันไปวันๆ แบบนี้ ยิ่งพัทราวีกลับมาแล้วเธอยิ่งต้องทำอะไรๆ ให้มันชัดเจนมากขึ้น หากวันไหนที่มีสิทธิ์ครอบครองธนภัทรแบบถูกกฎหมาย วันนั้นจะเป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดในโลก เป็นวันที่คนอย่างพัทราวีพ่ายแพ้อย่างแท้จริง !
เจตรินทร์แตะแขนเรียวของคนข้างกายเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินหนี ไปไหน พัทราวียังไม่ยอมอธิบายเรื่องเมื่อครู่ในเขาฟังสักนิด มันคืออะไรกันแน่ที่ว่าธนภัทรไม่ยอมปล่อย
“พี่เจตต์มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผิงยังไม่ยอมบอกพี่เรื่องเมื่อกี้” บางทีก็อยากจะจับคนตัวเล็กมาฟาดแรงๆ สักที รู้ทั้งรู้ว่าเขาคิดอย่างไรต่อเธอก็ไม่วายทำให้คิดมาก “พี่ต้องการคำอธิบาย”
“เมื่อคืนผิงออกมาเข้าห้องน้ำค่ะ แล้วบังเอิญเจอพี่พีพอดี เดินๆ ไปผิงดันสะดุดจนข้อเท้าพลิก พี่พีเลยอุ้มแค่นั้นเอง”
“แล้วทำไมถึงพูดเหมือนอยากให้คนอื่นคิดอะไรไปมากกว่านั้น” วางมือบนศีรษะคนตัวเล็กแล้วโยกไปมา “พี่เป็นหนึ่งในคนที่คิดมากกับคำพูดของผิง”
“ผิงขอโทษค่ะพี่เจตต์” พัทราวีเงยหน้าสบตามองเพื่อนของพี่ชาย เธอรู้ดีว่าเขารู้สึกอย่างไรเหมือนว่าเธอจะเคยบอกเขาไปแล้ว “ผิงว่า...”
“พี่ไม่อยากฟัง อย่าเพิ่งตัดรอนกันแบบนี้ พี่รอมานานแล้วนะ...รอผิงกลับมา อีกอย่างก็ขออนุญาตไอ้ดินมันแล้วด้วย ไอ้พี...ก็น่าจะรู้แล้ว” ร่างบางเม้มปากเข้าหากันแน่น
เขารู้...แต่ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นสินะ
“พี่จะสู้กับมัน” เขาบอกเสียงหนักแน่น
“ไม่มีใครสู้กับใครทั้งนั้นแหละค่ะ มีแค่ผิงที่ต้องสู้กับใจของตัวเอง ขอโทษนะคะพี่เจตต์...ถ้าคำตอบของผิงยังเป็นคำเดิม” เธอไม่ใช่ผู้หญิงหลายใจหรือ ‘อ่อย’ ใครไปทั่วอย่างที่ธนภัทรกล่าวหา ทำไมจะไม่รู้ว่าการแอบรักใครสักคนแล้วเขาไม่รับตอบมันเจ็บแค่ไหน เธอไม่สามารถเปิดรับใครอีกคนเข้ามาได้ทั้งที่ในใจมันยังลบคนเก่าออกไปไม่หมด สำหรับธนภัทร ไม่ใช่แค่ลบไม่หมด แต่เธอคิดว่าตัวเองไม่เคยลบผู้ชายใจร้ายคนนั้นออกไปจากใจด้วยซ้ำไป จะโทษใครได้นอกจากตัวเองที่หัวใจมันอ่อนแอ มันขี้ขลาดเกินกว่าจะตัดขาดแบบจริงจังได้
“ผิง...” เจตรินทร์มอหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ทำไมเธอถึงจมอยู่กับสิ่งเดิมๆ ทั้งที่มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย “มันมีคนรักอยู่แล้วนะ อีกอย่างฟางก็เคยเป็นเพื่อนของผิง”
“พี่เจตต์คงไม่คิดว่าผิงจะแย่งพี่พีใช่ไหมคะ เพราะถ้าคิดแบบนั้นแสดงว่าพี่เจตต์ยังไม่รู้จักผิงดีพอ” เธอบอกด้วยเสียงเย็นชา หากเขาคิดแบบนั้นจริงๆ ก็คงไม่ต่างจากที่ธนภัทรมองเธอ
“ไม่ใช่อย่างนั้น...เพราะคนที่พี่ไม่ไว้ใจคือมันต่างหาก”
“คิดผิดแล้วค่ะ คนอย่างพี่พีไม่เคยมองผิงหรอก พี่เจตต์ฟังนะคะ...ที่ผิงไม่เปิดใจให้ ไม่ใช่เพราะว่าผิงอยากได้พี่พี แต่เป็นเพราะว่าผิงไม่อยากทำให้ พี่เจตต์เจ็บปวด” คว้ามือหนามากุมไว้ “ผิงยังลืมเขาไม่ได้อย่างที่เคยบอกไปค่ะ ขอผิงอยู่กับตัวเองเถอะนะคะ”
“มันเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุด มันจะรู้ไหมว่าผิงมั่นคงต่อมันมากแค่ไหน”
“เราบังคับจิตใจใครไม่ได้นี่คะ ก็ได้แต่เจ็บๆ ต่อไปนี่แหละ” ยิ่งเห็น ภาพปวดเจ็บยิ่งอยากเบือนหน้าหนี “แต่ผิงคงเจ็บสองเท่า นอกจากจะไม่รักตอบ เขายังเกลียดผิงอีก”
ว่าไม่ทันไรก็เดินควงคู่กันมาโน่นแล้ว...
“ขอตัวไปช่วยพี่มลเก็บของก่อนนะคะ” เธอบอกสั้นๆ แล้วเดินไปหาภัทรวดีที่ยืนเถียงอยู่กับณดลอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่
“ไอ้พีมันไม่ได้เกลียดเราหรอก ถ้าเกลียดคงไม่หาเรื่องทะเลาะแบบนั้น”
สรุปแล้วธนภัทรมันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ปกปิดอะไรเอาไว้หรือเปล่าถ้าเป็นแบบนั้น คนที่เจ็บไม่ได้มีแค่พัทราวีคนเดียวแต่มันจะรวมถึงลดาวัลย์ด้วย
พัทราวีเดินไปเก็บของใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย เธอเลือกที่จะนำของตัวเองวางไว้ข้างๆ ของภัทรวดี แล้วเดินออกมาหาพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ของตัวเองที่ตอนแรกกำลังยืนเถียงกันอยู่
“สรุปแล้วเราจะไปทานข้าวที่ไหนกันคะ” พอถามออกไปทั้งคู่ก็สะบัดหนีใส่กัน นี่เธอพูดถึงเรื่องที่ทั้งสองกำลังถกเถียงกันอยู่หรือเปล่า
“น้องผิงคะ พี่ตั้งใจจะเอาของที่เราอุตส่าห์แบกมาด้วย มาทำให้มันหมดๆ ไปจะได้ไม่เสีย เพราะกว่าเราจะกลับไปถึงไร่ก็น่าจะมืดค่ำ แต่นาย...บอกจะลงไปหาอะไรทานข้างล่าง”
“ฉันก็แค่อยากให้เธอไปเปิดหูเปิดตาบ้าง อยู่แต่บนเขาเดี๋ยวจะเบื่อเสียก่อน” ความจริงไม่ใช่อะไรหรอก เขาแค่ชอบเวลาที่ภัทรวดีเถียงฉอดๆ แต่เห็นเป็นแบบนี้เธอมักมีเหตุผลด้วยเสมอ และนี่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เขามั่นใจว่ามองคนไม่ผิด หายากจะตายผู้หญิงที่คิดแบบนี้
“มลไม่เคยเบื่อกับต้นไม้ต้นหญ้าพวกนี้หรอกค่ะ ที่เบื่อที่สุดก็คือนายต่างหาก” ของสดก็ยังเหลือเยอะพอสมควร หากทำๆ ไปพวกเขาก็จัดการหมดอยู่แล้ว แต่ละคนกินจุจะตายไป
“ผิงว่าเราทานข้าวกันที่นี่ก็ได้ค่ะ ทานเสร็จแล้วเก็บของขึ้นรถแล้วลงไปเที่ยวที่อื่นทีเดียว โอเคกว่าไหมคะ” พัทราวีเสนอความคิดเห็นเป็นกลาง ไม่อยากเข้าข้างใครมาก
“โอเคไหมคะนาย” ภัทรวดีเชิดหน้าใส่ก่อนจะถามเจ้านายตัวเอง
“ตามใจเธอแล้วกัน” เพราะเขายังไงก็ได้อยู่แล้ว ขอแค่มีเธออยู่ในสายตาก็พอ “แต่ครั้งหน้าต้องตามใจฉันนะ คืนนี้อย่าล็อกประตูห้องก็แล้วกัน” ร่างสูงโน้มตัวกระซิบข้างหูคนตัวเล็ก หญิงสาวตวัดตามองส่งค้อนวงโตให้ทั้งที่แก้มใสนั้นแดงระเรื่อ เชื่อเถอะถ้าอยู่กันสองคนเขาคงฟัดแก้มเธอจนช้ำแน่ๆ
“ฝันไปเถอะ” ร่างบางพูดเสียงรอดไรฟัน คิดจะแอ้มเธอเหมือนกับ ยัยพวกที่โดนเขาหิ้วไปหิ้วมาใช่ไหม เธอจะวิ่งหนีสุดกู่เลยคอยดู
ความคิดเห็น