คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่2 เธอเชื่อที่พี่พูดหรือเปล่า 4
“โอ๊ย ! น่ากลัว เพลงจะบอกให้ไอ้ตุ่นมันหนีไป”
“กลับไปได้แล้ว” คาดว่าถ้าพัณณิตายังอยู่ในนี้อีกสักสิบนาที พ่อเลี้ยงชิษณุคงได้ดับเครื่องยนต์แล้วออกมาตาม
เจ้าของร่างสูงเดินไปส่งน้องถึงตัวรถที่จอดรออยู่ พยักหน้าให้ชิษณุซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบกลับในท่าเดียวกัน จากนั้นเขาก็ย้อนกลับมานั่งที่เคาน์เตอร์บาร์อีกครั้ง
ริมฝีปากหนายกยิ้ม…นรีจันทร์ยังไม่วางสาย
“จันทร์เจ้า” คทาธรเอ่ยเสียงเรียกหาคนปลายสาย
ทว่า…เพียงเสี้ยววินาทีสายกลับถูกตัดไป ไม่เนียนเสียเลยผู้หญิงคนนี้
Ram : เพลงคือน้องสาว
Ram : เธอเชื่อที่พี่พูดหรือเปล่า ?
ข้อความที่ส่งไปถูกเปิดอ่านแล้ว เนิ่นนานเกือบห้านาทีที่คทาธรจ้องหน้าจอโทรศัพท์ซึ่งมันเกือบดับไปก็หลายรอบ ปลายนิ้วเรียวเคาะลงกับโต๊ะอย่างครุ่นคิดอยู่ว่ามีตรงไหนผิดพลาดอีก
อะไรที่ทำให้นรีจันทร์ยังไม่มั่นใจ
หลายปีมานี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะ คนรอบข้างเริ่มสร้างครอบครัวเว้นแต่ตัวเองที่ยังลอยไปลอยมา บางครั้งก็รู้สึกชอบกับการที่อยู่คนเดียว แต่บางคราเขากลับเหงาจนว้าเหว่ต้องการใครสักคนที่คอยอยู่เคียงข้าง
ผู้หญิงบางคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปตามข้อตกลงเมื่อเสร็จกิจรับเงินไปถือว่าจบ
เพราะอย่างนั้นกับนรีจันทร์จึงนับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเขา ไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง รวมถึงเรื่องใต้สะดือ หมายถึง ณ ตอนนี้ อนาคตเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที
ทันใดนั้นมีเสียงฝีเท้าที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ก็ดึงสติคทาธรให้หันไปยังทิศทางประตูอีกครั้ง ก่อนจะเห็นทัชกร เป็นลูกน้องคนสนิทตัวเองเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่น้อย
“ผู้กองภพมาอีกแล้วครับนาย”
“ให้กลับไป” คทาธรปัดมือไล่เหมือนกับทุกครั้ง
“เขาบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับนาย เกี่ยวกับคุณดาหลา”
มือที่กำลังยกแก้วขึ้นมาถึงกับชะงักไปในฉับพลัน ใบหน้าคมแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งแตกต่างจากตอนแรก เขาเองก็อยากจะรู้ว่าไอ้ผู้กองนั่นต้องการอะไรถึงได้สาระแนยื่นมือมาสอดเรื่องของคนอื่นแบบนี้
“ให้เข้ามา”
ทัชกรรับคำก่อนโค้งศีรษะแล้วหันหลังเดินกลับไป ไม่นานแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีชวนให้อวัยวะเบื้องล่างกระตุก
วันนี้เขาต้องรับแขกติดกันภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง วันอะไรกัน…
“สวัสดีครับพ่อเลี้ยง” จักรภพเป็นฝ่ายทักก่อน
พ่อเลี้ยงแห่งไร่พิรุณพยัคฆ์แค่หันมาพยักหน้า แถมยังมีน้ำใจเอื้อมหยิบแก้วรินเครื่องดื่มแล้วเลื่อนไปยังตรงหน้าผู้กองหนุ่ม
“มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามตามมารยาทและคิดว่าอีกฝ่ายก็คงมองออก
“ลูกน้องคุณคงบอกแล้ว”
“บอกจุดประสงค์คุณมาตรงๆ” คทาธรไม่ชอบพวกอ้อมค้อมชักแม่น้ำทั้งห้า ตัวเขากับตำรวจไม่ได้ถูกกันเท่าไหร่นักเรียกได้ว่าเดินกันคนละสาย
การที่จักรภพพยายามเข้าหาเขานั้นย่อมมีข้อแลกเปลี่ยน ปฏิเสธไปหลายครั้งจนกระทั่งไอ้หมอนี่ดึงจุดสำคัญมาหลอกล่อเพื่อให้เขายอมคุย
สาระแนที่จะสืบเรื่องของคนอื่น
“พ่อเลี้ยงน่าจะรู้จักผมอยู่แล้ว แต่ยังไงก็อยากจะแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ” นายตำรวจยกยิ้มซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ดูกวนเบื้องล่างไม่น้อยในสายตาคทาธร “ผมร้อยตำรวจเอกจักรภพ สังกัดหน่วยกิเลน เป็นหน่วยลับๆ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน”
“ถ้าลับแล้วมาบอกผมทำไม” เจ้าของบ้านถามเสียงกลั้วหัวเราะ
“อารมณ์ขันกว่าที่คิดนะครับพ่อเลี้ยง” จักรภพเปลี่ยนท่านั่งเป็นท่าทีสบายๆ “ที่เขาว่ากันว่า คนกำลังปลูกต้นรัก โลกมักจะสดใส เห็นแล้วท่าจะจริง”
ใบหน้าคมคายถึงกับกระตุกคล้ายโดนแหย่หนวดเสือ เขาไม่สนว่าไอ้คนตรงหน้ามาจากหน่วยงานห่าเหวอะไร จะลับแค่ไหน แต่ถ้าล้ำเส้นกันมากก็ไม่มีเหตุผลให้ไว้หน้า
“ผมกำลังคิดว่าสายสืบกับสายเสือก มีความหมายไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก”
ความคิดเห็น