คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่2 เธอเชื่อที่พี่พูดหรือเปล่า 3
“หึ” ได้ยินแค่เสียงเขาก็พอรู้ว่าเจ้าตัวแสดงสีหน้าประมาณไหนเวลาตื่นตระหนก “เธอคิดว่าพี่เข้าใจผิดอะไร”
“…”
คทาธรชะงักเมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นเงาที่สะท้อนกลับมา สิ่งที่ฉายชัดในแววตาคือรอยยิ้มของตัวเอง เขากำลังยิ้มกับการได้คุยโทรศัพท์หรอกเหรอ ?
“จันทร์เจ้า วันเสาร์หน้าว่างหรือเปล่า”
“คะ ว่าไงนะคะ” นรีจันทร์ถามซ้ำเหมือนไม่แน่ใจเท่าไหร่ “วันเสาร์เหรอคะ”
“ใช่” ปลายนิ้วไล้ขอบแก้วเฝ้ารอคำตอบจากหญิงสาว “ไม่ปฏิเสธพี่ได้ไหม”
เป็นอีกครั้งที่ความเงียบครอบงำ เหมือนว่านรีจันทร์กำลังประมวลผลทุกคำพูดที่เขาเปล่งออกไป น้ำเสียงที่เขาจับได้นั้นบางทีดูเหมือนเต็มไปด้วยการระวังตัว
รออยู่พักหนึ่งเจ้าของเสียงหวานก็โพล่งขึ้นมา
“พี่ราม จันทร์พูดตรงๆ ได้หรือเปล่าคะ คือจันทร์งงมากที่จู่ๆ พี่พูดแบบนั้นต่อหน้าคนอื่นๆ พี่ลองคิดทบทวนหรือไตร่ตรองดูหลายๆ รอบดีไหม”
“ทำไม” เขาไม่เข้าใจ ที่ผ่านมาเขาคิดว่าตัวเองชัดเจนมาตลอด
“ก็ที่พี่บอกกว่าจะจีบ”
“อืม” คทาธรครางรับเสียงเนือย “ก็สนใจ พี่จีบเธอไม่ได้เหรอ”
“คือเราเจอหน้ากันก็หลายครั้ง อยู่ๆ มาบอกว่าสนใจ จะจีบ เป็นใครก็คงตกใจเหมือนกับจันทร์”
มุมปากหยักกระตุกยิ้ม เขาเริ่มจับทางนรีจันทร์ได้แล้ว น่าจะติดอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้หญิงสาวไม่กล้าก้าวขาออกข้ามเส้นที่ถูกขีดเอาไว้
“จันทร์เจ้า…” ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากเคลียร์ให้ชัด แต่ประตูบ้านกลับถูกเคาะเป็นพิธี และกำลังจะเปิดเข้ามาทั้งที่ยังไม่ได้อนุญาตจนเขาต้องบอกคนในสาย
“อย่าเพิ่งวางสาย แป๊บหนึ่ง”
คทาธรวางโทรศัพท์ไว้บนเคาน์เตอร์บาร์ ยันตัวลงจากเก้าอี้แล้วเดินไปดูเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะต้องหรี่ตามองเจ้าของร่างบางที่ถือวิสาสะบุกบ้าน
จะพูดว่าถือวิสาสะก็คงไม่ถูก เพราะพื้นที่เกินครึ่งหนึ่งของไร่พิรุณพยัคฆ์ก็เป็นของเธอเหมือนกัน
“เพลงแวะมาเยี่ยม ซื้อของมาให้ด้วย” พัณณิตายิ้มกว้าง ในมือมีถุงผลไม้กับอาหารเล็กๆ น้อยๆ เจ้าตัวนำไปวางไว้บนโต๊ะอาหารแล้วหันกลับมายืนฉีกยิ้มให้พี่ชายต่างสายเลือด
“บอกธุระมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม” คทาธรถอนหายใจยกมือขึ้นเสยผมลวกๆ “คิดว่ามองไม่ออกเหรอ ?”
“โอเค” คนอายุน้อยกว่ายกมือประมาณบ่าราวกับยอมแพ้ ก่อนจะพูดเจตนารมณ์ของตัวเอง “เพลงมาคุยเรื่องจันทร์”
“อืม”
“อย่าทำเนือยใส่ ! ตอบมาตามตรงว่าสรุปแล้วคิดยังไงกับเพื่อนของเพลง” หญิงสาวตั้งใจจะเค้นถามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ถูกชิษณุห้ามปรามไว้ “ถ้าคิดจะเล่นๆ ขอเตือนนะคะว่าอย่า”
ไม่ได้ต่างจากที่คทาธรคาดไว้เท่าไหร่ ‘จันทร์เจ้า’ มีเพื่อนน้อย แต่เพื่อนที่มีนั้นคุณภาพคับแน่น และตอนนี้พัณณิตากำลังสวมบทแม่เสือที่พร้อมจะขย้ำพี่ชายอย่างเขา หากคิดจะไปเล่นๆ กับเพื่อนของเธอ
คทาธรยืนกอดอกพิงขอบสะโพกกับขอบโต๊ะบาร์
“คิดว่าพี่ยังรักเพลงอยู่หรือไง”
“พี่รามไม่ได้รักเพลงในแง่นั้นแล้ว เพลงมองออก”
“ใช่” คทาธรถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ก็ชอบคนอื่นอยู่”
พัณณิตาค่อนข้างพอใจกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่รู้หรอกว่าระหว่างเพื่อนตัวเองกับพี่ชายมีจุดเริ่มต้นที่ตรงไหน ในฐานะน้องสาวและในฐานะเพื่อนสนิท เธอมองออกว่าสองคนนี้มีอะไรบางอย่างที่เชื่อมถึงกัน
“พี่ราม” หญิงสาวสบตาคนเป็นพี่ชาย “อย่าทำให้เพื่อนของเพลงเสียใจนะ”
“เรื่องนั้น ไม่รับปาก” มันเป็นเรื่องปกติ คนที่มีความรู้สึกพิเศษต่อกันย่อมมีความอ่อนไหวเป็นธรรมดา อะไรกระทบกระทั่งนิดหน่อยย่อมเกิดความแคลงใจ “มีใครบ้างไม่ทะเลาะกัน กับไอ้บอยมันไม่เคยทำให้เสียใจเหรอ”
“ก็มีบ้าง” แต่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ งอแงตามประสา “เพลงรักจันทร์มันมากนะ รักเหมือนน้องเหมือนนุ่ง ที่มาก็เพราะเรื่องนี้”
“วางใจเถอะ พี่ไม่ใช่คนโลเล” คทาธรวางมือบนศีรษะทุยแล้วจับโคลงไปมา “ถ้าเขาคิดตรงกับพี่”
“…”
“พี่ไม่ปล่อยให้หลุดมือ”
ความคิดเห็น