คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่1 จันทร์เจ้า 4
“ฉันว่าเกมนี้แกไม่รอดแน่ นังจันทร์” ศรานั่งข้างๆ เธอป้องปากพูด
“อย่ามาแช่ง” ได้แต่หันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อน อันที่จริงใจก็นึกหวาดๆ อยู่ในใจเหมือนกัน เพราะเวลาเล่นหรือต้องสุ่มอะไรคนที่มักดวงซวยก็คือตัวเอง
โคตรจะไม่ยุติธรรม !
เกมที่หนึ่งเริ่มขึ้นเมื่อธนภัทรเป็นคนแรกที่หมุนขวด นาทีนั้นสายตาทุกคนจับจ้องกันอย่างไม่วางตาก่อนที่ขวดจะค่อยๆ หมุนช้าลง และไปหยุดอยู่ที่…
“ดวงจิ้มขี้ที่หนึ่งเลยจ้า” ศราถึงกับหลุดขำ เมื่อหวยไปออกที่นรีจันทร์ที่ยังทำหน้าอึน
อะไรเนี่ย ! แค่ตาแรกก็โดนเลยเหรอ หญิงสาวได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ เกมพวกนี้เธอไม่เคยเล่นด้วย
“เล่นครั้งแรก ถามเบาๆ แล้วกัน”
นรีจันทร์ใจชื้นขึ้นมาหน่อยเมื่อธนภัทรบอกแบบนั้น อย่างน้อยชายหนุ่มก็ยังปรานีกวางน้อยอย่างเธอที่หลงเข้ามาฝูงหมาป่า
“พี่อยากรู้ว่ารักครั้งแรกของน้องเกิดขึ้นที่ไหน เกิดได้ยังไงแล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”
นี่เบาแล้วเหรอ ?
นรีจันทร์ปรายตามองเครื่องดื่มตรงหน้า แค่เห็นก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะแม้ไม่ได้แตะต้อง แม้คำถามที่ตั้งขึ้นมานั้นจะไม่ได้ยากเกินที่จะตอบ แต่มันก็เป็นเรื่องค่อนข้างหน้าอายพอสมควร
ที่สำคัญ...เธอจะไม่ได้อายคนเดียวนี่สิ
“ตอบหรือดื่มดี” ณดลรีบเสริม เหมือนเป็นตัวจุดชนวนเวลา
“ตอบค่ะ” แม้คนที่นั่งข้างๆ จะแผ่รังสีอำมหิตมาให้แบบเต็มเปี่ยม แต่นรีจันทร์ทำทีเป็นเมินเพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องดื่มหมดแก้ว
“รักแรกของจันทร์เกิดขึ้นที่โรงเรียนสมัยมัธยมต้น เปิดเทอมวันแรก เห็นหน้าแล้วปิ๊งเลย” คนตอบหน้าแดงเถือก ถ้าบอกว่าซัดเหล้ามาก็ยังเชื่อ
“ชื่ออะไรครับ”
นรีจันทร์หันไปทางศราแล้วทำปากขมุบขมิบราวกับอยากขอโทษ ก่อนจะผายมือแล้วชี้นิ้วไปยังศราที่นั่งหลับตาทำหน้าคล้ายโลกถล่ม
“ศราเป็นรักแรกของจันทร์ค่ะ คือตอนนั้น...จันทร์ยังไม่รู้” หญิงสาวยิ้มแห้ง ในขณะที่หลายๆ คนหลุดขำกับความจริงที่เคยเกิดขึ้น
“แก ฉันขอโทษ”
“นังจันทร์ !” ศราเอ่ยขึ้นทั้งยังผลักศีรษะเล่นหยอกล้ออย่างไม่จริงจัง ตอนที่ความจริงเปิดเผยครั้งแรกพวกเธอก็กระอักกระอ่วนพอตัว อาจเพราะเพิ่งรู้จักและยังไม่สนิทกันเท่าไหร่ แต่พอนานวันเข้า เมื่อดึงเรื่องนี้ขึ้นมาพูดทีไร จากเรื่องเศร้ากลับกลายเป็นเรื่องตลกเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด
“หมุนเลยบอย ตามึง”
ชิษณุรับช่วง
และครั้งนี้ปากขวดได้ไปหยุดอยู่ตรงหน้าคทาธรที่ยังมีสีหน้าเรียบเฉย แตกต่างจากคนถือไพ่เหนือกว่าที่ถึงกับหลุดหัวเราะราวกับสะใจ
เชื่อไหมว่าพอชิษณุหัวเราะ คนที่หน้านิ่งมาตลอดถึงกับหลุดอาการ
คทาธรถึงกับเลียริมฝีปากแล้วจ้องชิษณุไม่วางตา ประหนึ่งออกคำสั่งทางสายตาอย่างไรอย่างนั้น
“ได้สามคำถามใช่ไหม” พ่อเลี้ยงหนุ่มหันไปถามคนออกกฎ เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าก็เอ่ยถามต่อ “แล้วถ้าตอบไม่ครบสามข้อนี่ยังไง”
“ตอบได้ข้อเดียวก็กินสองในสาม” ณดลบอกพลางเอนหลังแล้วใช้มือเท้าพื้นหญ้า ตั้งหน้าตั้งตารอดูอะไรสนุกๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
“งั้นถาม” เจ้าของบ้านกระตุกยิ้ม “หนึ่งอยากรู้ว่าทำไมวันนี้ถึงมากับน้องจันทร์ได้ ข้อสองตอนนี้จีบใครอยู่หรือเปล่า และสามผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร”
ทั้งที่ชิษณุตั้งคำถามกับคทาธร แต่นรีจันทร์ดันรู้สึกร้อนผ่าวแปลกๆ อยากลุกออกจากวงแต่คงทำไม่ได้
เธอชำเลืองมองไปที่คนโดนถาม ก่อนจะเห็นว่าแววตาชายหนุ่มวาววับดูเอาเรื่องพอตัว แต่คนอย่างชิษณุคล้ายจะไม่สนใจเท่าไหร่ ดูจะสนุกที่ได้กลั่นแกล้งคทาธรด้วยซ้ำไป
ทั้งที่…เมื่อก่อนสองคนนี้ไม่ถูกกันเท่าไหร่
นรีจันทร์ที่อยากรู้คำตอบเผลอจับจ้องไปยังคทาธรโดยไม่รู้ตัว แต่จังหวะที่เขาหันหน้ามาทำให้สายตาสองคู่สบประสานกัน ทันใดนั้นราวกับมีกระแสไฟฟ้าช็อตผ่านร่างทำให้เธอต้องรีบหลุบตาลง
แววตาพราวระยับนั่นคืออะไร
“ไปทำธุระแล้วเจอ ก็เลยชวนมาด้วยกัน” คทาธรตอบเสียงเนือย
“ธุระอะไรที่มหา’ลัย” ชิษณุถามลึกลงไป
“นอกคำถาม ไม่จำเป็นต้องตอบ” ครั้งนี้คทาธรได้ทีเลยอัดด้วยรอยยิ้มกวนประสาท
“แล้วตอนนี้จีบใครอยู่หรือเปล่า ชื่ออะไร ตอบมาเลยทีเดียวให้ชัดๆ” ยังเป็นพ่อเลี้ยงคนเดิมที่เอาแต่คาดคั้น
คทาธรบิดกายไล่ความเมื่อยแล้ววางศอกตัวเองบนหน้าขาตัวเอง ขณะที่ทุกคนรอฟังคำตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับรับรู้ได้ถึงความนัยที่ชิษณุตั้งคำถามขึ้นมา
“มีคนที่กำลังจีบอยู่ แต่เหมือนเขายังไม่รู้ตัว” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังหญิงสาวที่นั่งปั้นหน้าไม่ถูก ริมฝีปากหนายกยิ้ม
ความเงียบกินเรียบรอบวง ทุกคนมองตามสายตาที่คทาธรทอดมองไป ซึ่งมันหยุดอยู่ที่…นรีจันทร์
“ส่วนชื่ออะไร คงไม่ต้องบอกแล้วมั้ง”
เสียงโห่ร้องดังขึ้นเป็นพรวนจนนรีจันทร์ทำตัวไม่ถูก ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวเหมือนกำลังจะระเบิด ได้แต่กระตุกแขนเสื้อเพื่อนยิกๆ เพื่อขอให้พาตัวเองออกจากตรงนี้ก่อน
“ศราพาไปเข้าห้องน้ำหน่อย” ถ้ายังนั่งเป็นเป้านิ่งอยู่อย่างนี้ เธอคงได้หัวใจวายตายแน่ๆ “เล่นต่อกันเลยนะคะ จันทร์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน”
หญิงสาวลุกออกจากวงไปโดยไม่สบตาใครบางคน จากนั้นจึงลากแขนเพื่อนให้ตามออกไปทันที
ถึงกระนั้น…นรีจันทร์ก็ยังรับรู้ได้ว่ามีสายตาคมกริบของใครบางคนยังคงมองตามไม่ห่าง
ความคิดเห็น