คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่1 เมียตีทะเบียน 2
“อาหารไม่อร่อยเหรอคะ” สาบานได้ว่าตัวเองถามอย่างนุ่มนวล แต่กลับได้รับสายตาฟาดฟันกลับมาเป็นคำตอบ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มบางเบา “หรือมันไม่ถูกปาก”
โมกข์แค่นหัวเราะยกมือกอดอกปรายตามองหญิงสาว วันเวลาผ่านไปไม่คิดว่ามัสยาจะเปลี่ยนแปลงราวกับเป็นคนละคน หรือแท้จริงมันเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่ง
“ใช่” เสียงทุ้มติดเย้ยหยันดังขึ้น “ไม่อร่อย ไม่ถูกปาก”
ถ้อยคำเจ็บแสบไม่ได้สร้างความสะเทือนให้แก่มัสยาแต่อย่างใด หากเทียบกับเมื่อก่อนยังถือว่าเบามาก หนักกว่านี้เธอก็ผ่านมาแล้ว คิดไปคิดมาก็คงต้องขอบคุณโมกข์ที่สอนให้เธอได้สัมผัสกับความเจ็บปวดมาก่อน
“แปลกนะคะ” มัสยาคลี่ยิ้มจางๆ “คุณคงไม่ค่อยได้กลับบ้าน ถึงจำรสชาติอาหารฝีมือของพี่พรไม่ได้”
นี่คือตัวอย่างของคนที่จ้องแต่จะหาเรื่องกัน โมกข์มีอคติต่อเธอสูงจนเกือบเท่าภูเขา ขอแค่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่หรือรู้สึกเจ็บปวด เขาก็จะรู้สึกบรรลุเป้าหมาย
แต่ถ้าถามว่าเธอรู้สึกอะไรไหม เมื่อก่อนอาจจะใช่
แต่ตอนนี้ไม่แล้ว…
“คุณโมกข์จะหาทานข้างนอกบ้านก็ได้นะคะ ว่านไม่ซีเรียส”
“กำลังกระแนะกระแหนผม ?” คิ้วดกดำเลิกขึ้น มองแล้วดูยียวนในสายตาหญิงสาว
“ที่ว่านบอกแบบนั้น เพราะว่านรู้ว่าคุณโมกข์ไม่ชอบฝืนตัวเอง ยิ่งถ้ามันไม่อร่อยไม่ถูกปาก การที่ซื้อข้างนอกทานมันก็เป็นวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
“อ้อ” โมกข์แค่นหัวเราะ “นี่ถือว่ากำลังชี้โพรงให้กระรอกหรือเปล่า ?”
“เรากำลังคุยเรื่องอาหารกันอยู่ใช่หรือเปล่าคะ” มัสยาส่งยิ้ม ขณะที่อีกคนจ้องตากลับมาอย่างดุดัน “เอาเป็นว่าเรื่องอาหาร คุณโมกข์คงไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหมคะ”
“ตามนั้น” โมกข์กัดฟันตอบ เดี๋ยวนี้มัสยามีชั้นเชิงมากขึ้น นอกจากจะไม่โวยวายเขาเรื่องเมื่อคืนเจ้าตัวยังไม่ปริปากถามสักคำ
ดีเหมือนกัน ถือว่าเธอรักษากฎที่ตั้งไว้ตั้งแต่ตอนแรก มัสยาไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายเขา ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม !
คนที่บอกอาหารไม่ถูกปากสุดท้ายก็นั่งกินจนข้าวหมดจาน มัสยาลอบสังเกตแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร
วันใหม่หลังการแต่งงานทั้งโมกข์ทั้งเธอยังคงดำรงชีวิตตามปกติ เขาเข้าบริษัทส่วนเธอก็ต้องเข้าไปดูแลร้านตัวเองเช่นกัน แม้สถานะสามีและภรรยาจะได้มาแบบผูกมัด แต่มัสยาไม่อยากให้ใครมาตราหน้าว่าขาดตกบกพร่องในเรื่องของหน้าที่ศรีภรรยา ลำพังตัวเธอเองนั้นไม่เท่าไหร่แค่กลัวว่ามันจะไปกระทบถึงผู้หลักผู้ใหญ่
ตื่นแต่เช้าตระเตรียมของให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีก่อนลงมา ทั้งเสื้อผ้า เนคไท หรือแม้กระทั่งบีบยาสีฟัน เพียงแต่การแต่งกายของโมกข์ในวันนี้ไม่ใช่ชุดเดียวกับที่เธอจัดให้
เท่านี้ก็บ่งบอกได้แล้วว่า...เขาไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอ
มัสยาหาได้ใส่ใจ คิดแค่ว่าทำๆ ไปดีกว่าให้เขามาว่าลับหลังได้ เธอทำได้หมดเว้นแต่เรื่องบนเตียง
สายแล้วเธอต้องรีบออกไปดูแลกิจการร้านค้าตัวเอง ทว่ายังไม่ทันได้สอดตัวเข้าไปนั่งกลับมีฝ่ามือใหญ่ยันค้ำไว้กับขอบประตูรถเสียก่อน
โมกข์สบตาเธอชั่วขณะ ไม่น่าเชื่อว่าครั้งหนึ่งเธอเคยปรารถนาและอยากครอบครองผู้ชายคนที่กำลังเหยียดยิ้มอย่างร้ายกาจในตอนนี้
“เย็นนี้ต้องไปกินข้าวที่บ้าน” เขาบอกเจตนารมณ์ที่ลงทุนเดินมาบอกกันอย่างนี้
“ค่ะ” มัสยาตอบรับยิ้มๆ “กี่โมงคะ”
“ไปด้วยกัน” ดูคล้ายกับว่าโมกข์ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
คำว่า ‘ไปด้วยกัน’ ถ้าขยายใจความก็คงประมาณว่าให้เธอไปรถคันเดียวกับโมกข์ เขาคงไปส่งที่ร้านแล้วพอตกเย็นก็ตรงมารับเธอไปกินข้าวที่บ้านใหญ่ ตัดปัญหาการตอบคำถามผู้ใหญ่ว่าเหตุใดถึงแยกกันมา
มัสยาเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ เธอไม่ต่อล้อต่อเถียงจึงปิดประตูรถแล้วล็อคเสร็จสรรพ โดยที่โมกข์เดินไปรอที่รถอีกคัน
ความคิดเห็น