คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 เมียตีทะเบียน 1
บทที่1 เมียตีทะเบียน
หกโมงเช้าไม่ขาดไม่เกินเป็นเวลาตื่นนอนของมัสยา อาจเพราะยังแปลกที่เลยหลับไม่เต็มตาเท่าไหร่ หญิงสาวบิดกายคลายความง่วงแล้วรีบดีดตัวลงจากเตียงเพื่ออาบน้ำอาบท่า
เมื่อคืนได้ยินเสียงรถเธอเลยแอบไปแง้มผ้าม่านดูพบว่าเป็นรถของโมกข์ ตอนนั้นน่าจะราวๆ ตีสามเห็นจะได้ นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้นอนค้างที่คอนโดของปาลิดา
ถึงกระนั้นคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีก็ไม่ได้เข้ามานอนในห้อง ซึ่งทำให้มัสยาค่อนข้างโล่งอกที่อย่างน้อยเตียงหกฟุตนี้ยังเป็นเธอที่ได้ครอบครองคนเดียว
กลิ่นหอมฉุยลอยมาจากในครัวส่งผลให้หัวคิ้วของหญิงสาวย่นเข้าหากันเล็กน้อย พอย่ำเท้าเข้าไปใกล้ถึงรู้ว่าคนที่ยืนจับเครื่องครัวอย่างคล่องแคล่วอยู่นั้นคือพรประวีแม่บ้านจากบ้านใหญ่ของโมกข์ คุณป้าสรินทิพย์คงส่งมาดูแลกระมัง
“พี่พรมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“คุณว่านตื่นเช้าจังเลยค่ะ” แม่ครัวทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เก็บความสงสัยไว้ในใจไม่กล้าแตะต้องเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย “พี่มาตั้งแต่ตีห้าค่ะ ต่อไปพี่จะมาดูแลงานบ้านให้นะคะ”
“ดีเลยค่ะ” มัสยายิ้มร่านึกดีใจที่อย่างน้อยเธอก็ยังมีเพื่อนคุย “ทำอะไรบ้างคะ เดี๋ยวว่านช่วย”
“ใกล้เสร็จแล้วค่ะ คุณว่านนั่งรอที่โต๊ะดีกว่า” พรประวีป้องปาก “คุณโมกข์เพิ่งขึ้นไปอาบน้ำก่อนหน้านี้เองค่ะ”
มัสยาเลิกคิ้วขึ้นก่อนพยักหน้ารับเมื่อเห็นรอยยิ้มแหยๆ ของแม่บ้าน พรประวีทำท่ารูดซิปปากเป็นอันเข้าใจโดยไม่ต้องพูดให้มากความ อันที่จริงทั้งครอบครัวโมกข์รวมถึงครอบครัวเธอต่างรู้ดีว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความรักของบ่าวสาว
มันคือธุรกิจรวมไปถึงความช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างสองครอบครัว
‘บ้านเรากำลังมีปัญหา ว่านทำเพื่อพวกเราได้ไหมลูก ทางนู้นเขาเอ็นดูว่านราวกับลูกสาวแท้ๆ ว่านไม่ต้องกลัวเจอปัญหาเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้เลย’
เป็นอย่างที่มารดาว่าเอาไว้จริงๆ คุณป้าสรินทิพย์รักใคร่เอ็นดูเธอราวกับลูกหลานในไส้ เมื่อก่อนเธอไปวิ่งเล่นบ้านโน้นเป็นว่าเล่น มาเหินห่างก็ช่วงปีหลังๆ ถ้าไม่เกิดเรื่องคืนนั้นมัสยาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโมกข์คงหลงเหลือไว้แค่เพียงคนที่เคยรู้จักกันกับตำแหน่งคู่หมั้นตอนเด็ก
‘บางทีก็นึกสงสัยว่าว่านโตหรือยัง ทำอะไรต้องให้ผู้ใหญ่ตัดสินใจแทนทุกอย่าง’
‘คนแบบนี้ เขาเรียกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ’
‘คราวหลังอย่าได้ดูถูกคนอื่น ถ้าตัวเองยังทำอะไรไม่พ้นพ่อแม่’
ตอนนั้นหน้าเธอชาราวกับมีคนเอาน้ำเย็นมาสาด การที่เขาพูดอยู่นั้นไม่ต่างอะไรจากการดูถูกเธอเหมือนกัน และนั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอค่อยๆ หันหลังและเดินจากมา
เพราะเรื่องราวของเธอไม่ได้อยู่ในความสนใจของโมกข์อีกต่อไปแล้ว ในเมื่อมีใคร ‘อีกคน’ ที่ดึงดูดเขามากกว่า เธอก็ไม่จำเป็นต้องรออยู่ที่เดิม
มัสยายังยืนยันคำเดิม แม้ตอนนี้เธอจะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของโมกข์แล้ว แต่จะไม่เอาหัวใจกลับไปเสี่ยงเหมือนวันวาน ไม่ต้องสัมผัสถึงใจแค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ
มื้อเช้าวันแรกของการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่เต็มไปด้วยบรรยากาศชวนอึดอัด ขนาดพรประวียังขอปลีกตัวกลับไปทำหน้าที่ตัวเอง หากคนนอกมาเห็นเข้าก็คงพากันตลกขบขันเพราะบ่าวสาวหมาดๆ ไม่มีความหวานชื่นอย่างที่ควรจะเป็นสักนิด
มัสยานั่งละเลียดกินอย่างช้าๆ เหลือบดูนาฬิกาเธอยังมีเวลาถมเถในการขับรถเข้าร้าน ทว่าดูเหมือนคนเป็นสามีจะไม่ใคร่พอใจเท่าไหร่นัก ถึงได้จงใจกระแทกกระทั้นคล้ายว่าเธอเผลอไปทำอะไรขัดใจเข้า
“อาหารไม่อร่อยเหรอคะ” สาบานได้ว่าตัวเองถามอย่างนุ่มนวล แต่กลับได้รับสายตาฟาดฟันกลับมาเป็นคำตอบ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มบางเบา “หรือมันไม่ถูกปาก”
โมกข์แค่นหัวเราะยกมือกอดอกปรายตามองหญิงสาว วันเวลาผ่านไปไม่คิดว่ามัสยาจะเปลี่ยนแปลงราวกับเป็นคนละคน หรือแท้จริงมันเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่ง
“ใช่” เสียงทุ้มติดเย้ยหยันดังขึ้น “ไม่อร่อย ไม่ถูกปาก”
ความคิดเห็น