คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่3 สานสัมพันธ์ 5
“พี่มันคนอันตราย” เขาเปรยขึ้น “แต่เธอไว้ใจพี่ได้…”
“แต่ตอนนี้สายตาพี่ดูไม่น่าไว้วางใจมากๆ เลยค่ะ” เหมือนเขากำลังสนุกที่ได้ไล่ต้อนกันแบบนี้ บอกให้เธอไว้ใจเขาแต่กลับแผ่รังสีอำมหิตออกมาเต็มที่
เชื่อก็บ้าแล้ว
“ไม่น่าไว้วางใจตรงไหน” ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม แค่อยากรู้ว่าในมุมนรีจันทร์แล้ว มองเขาเป็นคนยังไง
ใครจะกล้าพูดตรงๆ ล่ะแบบนี้ จะให้บอกยังไงว่าสายตาที่เขามองมาเหมือนเสือที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อตลอดเวลา ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนอย่างคทาธรหูตาจะแพรวพราวได้ถึงขนาดนี้
บางครานรีจันทร์ถึงกับเผลอยกมือทาบอก อยากกระซิบบอกไอ้เจ้าก้อนเนื้อข้างซ้ายว่าช่วยลดความเร็วลงหน่อย จะเต้นแรงอะไรนักหนามันวางสีหน้าลำบาก
“จันทร์หิวแล้วค่ะ” ทางออกที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนเรื่อง มันน่าอายที่เสียงท้องตัวเองดันร้องโครกครากขึ้นมา อีกใจนึกขอบคุณที่มันช่วยคั่นเวลาพอดี
มุมปากหยักยกยิ้มอดใจไม่ไหวที่จะจับคนตัวเล็กโคลงศีรษะไปมา เจ้าตัวจะรู้หรือเปล่าว่าสีหน้าอ้ำอึ้งเมื่อครู่มันทำให้คนมองต้องกลั้นยิ้มหลายหน
“มีอยู่ร้านหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เฮียเขาตั้งร้านหรือยัง” ชายหนุ่มพูดขึ้นเหมือนนึกออกว่าควรไปร้านไหน นัยน์ตาเข้มเหลือบมองนาฬิกา “ลองไปไหม ถ้ายังไม่เปิดเราค่อยไปร้านอื่น”
“ไปค่ะ”
ครัวนายเหนือคือร้านที่คทาธรพามา แม้เป็นร้านที่ตั้งตามข้างทางแต่ด้วยความที่เป็นร้านที่เปิดมานานลูกค้าจึงค่อนข้างเยอะ ขนาดที่ว่าเรามาตั้งแต่เขากำลังตั้งร้านแต่ก็มีคนมายืนรอบ้างแล้ว
มีเด็กเดินมายื่นเมนูพร้อมกับกระดาษปากกาให้ คทาธรสั่งอาหารที่เขาอยากกินหนึ่งอย่างแล้วให้เธอสั่งเพิ่มอีกสองอย่าง คล้อยหลังไม่กี่นาทีเด็กในร้านชี้ไปที่โต๊ะก่อนรับกระดาษจดรายการอาหารไป
“เคยมาร้านนี้ไหม” เขาถามขึ้นหลังหย่อนสะโพกลงกับเก้าอี้
“เคยแต่ผ่านไปผ่านมาค่ะ ยังไม่เคยมากินเลย” ต่อให้เป็นร้านข้างถนนแต่ก็มีชื่อเสียง อีกทั้งราคาก็ค่อนข้างสูงหากเทียบกับรายได้เธอ
“เธอพลาดแล้วจันทร์เจ้า รู้ไหมว่าทั้งจังหวัดมีแค่ไม่กี่ร้านที่พี่ชอบกิน ร้านนี้คือหนึ่งในนั้น”
นรีจันทร์หลุดขำกับการโอ้อวดของเขา ไม่คิดว่าคทาธรจะพูดอะไรทำนองนี้ แต่จากที่ฟังมาดูเหมือนชายหนุ่มเป็นคนกินยากพอสมควรเหมือนกัน
“ไม่เชื่อ ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว แต่ก็ยิ้มตามกับเสียงหัวเราะก้องกังวานนั่น
“เพลงเคยบอกจันทร์ว่าร้านนี้อร่อยค่ะ” ไม่ใช่ว่าเพื่อนไม่เคยชวนมากิน เพียงแต่พัณณิตาเคยพูดเอาไว้ว่า “แต่ยังสู้ฝีมือจันทร์ไม่ได้”
เอาสิเธอก็อวดได้เหมือนกัน
คทาธรยกศอกขึ้นกับโต๊ะวางคางบนหลังมือ นัยน์ตาพราวระยับจับจ้องไปยังคนตัวเล็กที่ดูจะภูมิใจกับคำพูดเมื่อครู่ มันทำให้เขารู้ว่านรีจันทร์ค่อนข้างเข้ากับคนอื่นง่ายมาก แม้ตอนแรกจะดูประหม่าแต่พอใช้เวลาไปสักพักตัวตนของน้องก็เริ่มดำเนินไปอย่างธรรมชาติ
“งั้นเหรอ” เขาว่าเสียงกลั้วหัวเราะ “ดูไม่น่าเชื่อเท่าไหร่”
“มาดอาจไม่ให้ แต่ฝีมือไม่เป็นรองใครแน่นอนค่ะ” คนพูดยืดอกพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ถ้าจะมาเกทับกันเรื่องนี้บอกเลยว่าเธอสู้ตาย
“พี่เชื่อต่อเมื่อมีหลักฐาน” คทาธรเผยรอยยิ้ม และกว่าคนตัวเล็กจะรู้ว่าเผลอตกหลุมพรางก็ช้าไปหลายวินาที “ครั้งหน้าเธอแสดงฝีมือให้พี่กินสิ”
แก้มนวลร้อนผ่าวกับสายตาคมที่จดจ้องกัน ไหนจะรอยยิ้มกรุ้มกริ่มนั่นอีก นรีจันทร์ได้แต่กำมือแอบทุบหน้าขาตัวเองที่พลาดเข้าแล้ว
เขาบอกให้เธอโชว์ฝีมือก็เท่ากับว่าไม่ไปบ้านเขาก็ต้องทำที่ห้องของเธอ มองดูแล้วคนที่มีแต่ได้กับได้ล้วนเป็นชายหนุ่มทั้งนั้น
“ชวนเพลงหรือศราไปด้วยก็ได้” คนตัวโตหาทางออกให้เหมือนล่วงรู้ความคิดกัน “เธอยังไม่ไว้ใจ พี่รู้”
“ก็…ค่ะ” หญิงสาวยอมรับอย่างง่ายดาย “พี่รามดูเป็นคนอันตรายนี่คะ”
ความคิดเห็น