คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่3 สานสัมพันธ์ 1
3
สานสัมพันธ์
เผลอแป๊บเดียวก็ใกล้จะถึงวันเสาร์จนนรีจันทร์ตั้งตัวไม่ทัน เย็นนี้ทั้งพัณณิตาและศราพากันบุกมาที่ห้องของเธอเพื่อสอบถาม
อันที่จริงเรียกว่าพากันมาเค้นคอเธอมากกว่า
สุดท้ายเธอเลยต้องยอมคายความจริงไปว่าคุยอะไรกับคทาธรไว้บ้าง บางทีเธอก็คิดว่าไอ้สองคนนี้มันทำเหมือนเธอเป็นเด็กน้อยที่ริอ่านลองรัก แต่ก็เข้าใจว่าสิ่งที่เพื่อนมีให้นั้นคือความหวังดีล้วนๆ
“พี่รามแม่งร้ายกาจ สาบานได้ว่าไม่รู้จริงๆ ว่าเขาติดสายแกอยู่” พัณณิตาแค่นเสียงขึ้นจมูกเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกจับให้เป็นหมากเพื่อสร้างเครดิตให้พี่ชายต่างสายเลือด
คุณแม่ลูกสองหันไปมองหน้าเพื่อนสาว “บอกไว้ก่อนว่าเรื่องของฉันกับเขาไม่มีอะไรเลย เพราะงั้นอย่าได้มาติดขัดอะไรที่ฉันเชียว แค่ต้องรับมือกับพี่บอยก็จะตายอยู่แล้ว”
“ฉันว่าพี่รามเขายืนยันต่อหน้าแกสองคนแบบนั้น มันก็โปร่งใสแล้วนะ” ศราออกความคิดเห็น
นรีจันทร์ได้แต่ซึมซับคำพูดของเพื่อนเข้าสู่สมองที่มีอันน้อยนิด ดูเหมือนมันสองคนจะเชียร์ให้เธอศึกษาดูใจคทาธร ไหนเมื่อก่อนบอกว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่ากลัวยังไงล่ะ
เอาจริง…ตอนนี้ก็ยังน่ากลัวในสายตาเธอ
“สรุปพวกแกให้ผ่านถูกปะ” เจ้าของห้องเอ่ยถาม
“ผ่านแหละ / เออผ่าน !”
ศราหันขวับไปทางพัณณิตา “ผ่านแหละคืออะไรวะ สรุปผ่านหรือไม่ผ่าน เหมือนยังไม่แน่ใจ”
“คืองี้” คนพูดเปลี่ยนท่าทางเมื่อต้องพูดจริงจังมากขึ้น “ในฐานะที่โตมากับเขา พี่รามกับไอ้ตุ่นน้อยอะ นิสัยคนละขั้วเลย เปรียบถ้าไอ้จันทร์มันอยู่บนฟ้า ที่ที่พี่รามจะอยู่ก็…อีกนิดก็น่าจะนรกแล้วอะ”
“เออข้อนี้เก็ต” ศราหัวเราะลั่น ขณะที่นรีจันทร์นั่งเม้มปากเพราะเห็นด้วยทุกอย่างกับที่เพื่อนพูดมา
จากที่รู้มาคทาธรนั้นทำธุรกิจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นเหมือนจะเป็นเจ้าของพวกสถานบันเทิงยามค่ำคืน แล้วคนที่เปิดร้านพวกนี้ได้ก็ต้องมีเส้นสายพอสมควร
ฟังดูแล้วมันก็เทาๆ อยู่ใช่ไหมล่ะ
หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ คทาธรเดินสายสีเทา ส่วนเธอเรียกได้ว่าแทบจะขาวล้วน ถึงจะไม่ได้เป็นคนชอบเข้าวัดเข้าวาแต่ก็แทบไม่เคยเฉียดเข้าใกล้แหล่งอโคจร
เว้นแต่เมื่อก่อนเวลาที่สอบเสร็จแล้วโดนรุ่นพี่หรือเพื่อนลากไปกินด้วย นอกนั้นไม่เคยคิดย่างกรายไปเลย
“แต่การที่คนเรามีใช้ชีวิตต่างกัน มันก็ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าจะชอบจะรักกันไม่ได้” พัณณิตาพูดต่อ “ที่ฉันให้พี่รามผ่านนี่ก็มองในแง่ของการที่เขาคงดูแลแล้วก็ปกป้องไอ้ตุ่นมันได้”
ดูเอาเถอะ จนเรียนจบแล้วพวกมันสองคนก็ยังเห็นเธอเป็นเด็กเล็กต้องคอยมีคนดูแล
“ดูมันทำหน้า ขนาดไม่อ้าปากเด็กอนุบาลยังมองออก มันกำลังว่าเราทางสายตา” นรีจันทร์ถึงกับสะดุ้งเมื่อศราบุ้ยปากมาทางเธอ “นังจันทร์ ยัยเด๋อเอ๊ย !”
“เอาเป็นว่า ถ้าแกถามความคิดเห็น พวกฉันก็มองว่าพี่รามเขาโอเค” คุณแม่ลูกสองดึงประเด็นกลับมา “ส่วนที่เหลือมันก็อยู่ที่แกจะตัดสินใจ ของพวกนี้มันต้องใช้ใจมอง”
“เหมือนกำลังสอนลูกเป็ดว่ายน้ำเนอะ” ศราว่าเสียงกลั้วหัวเราะ
ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก่อนที่พัณณิตาจะแยกตัวออกไปรับสาย ไม่นานนักก็กลับเข้ามาพร้อมกับบอกว่าต้องกลับแล้วเพราะชิษณุขับรถใกล้จะถึงหอพักแล้ว
คล้อยหลังเพื่อนสาวที่กลับไปได้ไม่นาน ศราก็ทิ้งสะโพกนั่งฝั่งตรงข้ามเจ้าของห้องพร้อมกับหรี่ตามองอย่างมีเลศนัย
“ถ้าชอบก็บอกเขาไป บอกไปเลยว่าแอบมองมาหลายปีแล้ว”
“เงียบเลย” นรีจันทร์โต้กลับทันควันทั้งที่แก้มร้อนผ่าว “เมื่อก่อนกับตอนนี้เหมือนกันที่ไหน”
“เออ ไม่เหมือนก็ไม่เหมือน” ศราลุกขึ้นยืนก่อนเดินปรี่ไปยังตู้เสื้อผ้า “หาชุดให้เพื่อนเตรียมออกเดตดีกว่า”
คำว่าแอบมองมาหลายปีแล้วที่ศราพูดขึ้นมานั้น มันค่อนข้างทำให้ใจของนรีจันทร์สั่นไหวจนเต้นตุบตับๆ เป็นจังหวะหนักหน่วง
ความคิดเห็น