คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่1 ฟื้นฟูหัวใจ 3
เมื่อเรียนจบจึงมีโอกาสได้กลับมาตอบแทนบุญคุณคนที่ไร่ชมรัก แต่คุณท่านทั้งสองก็เสียชีวิตไปก่อนแล้ว สุดท้ายจึงต้องมารับหน้าที่ทำงานเป็นผู้ช่วยของณดล
“สวยจังเลย พี่สาวใครภูมิใจจัง” สองมือบางประกบหน้างาม “กลับมานานหรือยังคะ ไม่เห็นพี่ดินบอกผิงเลยอ่ะ” คนฟังแอบย่นหน้าเล็กน้อยเมื่อหญิงสาวพูดถึงพี่ชายตัวเอง
“สองเดือนเองค่ะ เดี๋ยวพี่มาคุยด้วยใหม่นะคะ ขอยกของไปเสิร์ฟพวกหนุ่มๆ ก่อนเดี๋ยวโดนโวย น้องผิงไปนั่งกับพี่ๆ เขาเถอะ”
“เอ่อ...ผิงว่าจะไปเดินเล่นค่ะ พี่มลอย่าบอกใครนะคะว่าผิงลงมา พอดีว่าผิงบอกพี่ดินเอาไว้ว่าง่วงอยากพักผ่อนมากกว่า” พัทราวีรีบบอก
“โอเคค่ะ เอาโทรศัพท์ไปด้วยใช่ไหม” ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม พัทราวีต้องให้เธอโกหกด้วย แต่ก็คงมีเหตุผลส่วนตัวของเขากระมัง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัย
“แหม...พี่มลก็ ไร่ชมรักนี่ผิงหลับตาเดินก็กลับมาถูกค่ะ” ดูเหมือนว่าภัทรวดีจะรีบเธอจึงไม่ได้รั้งเอาไว้ ปล่อยให้พี่สาวที่เธอนับถือยกข้าวของไปปรนเปรอเหล่าคุณชายที่นั่งสังสรรค์กันอยู่หน้าบ้าน
ร่างบางเดินออกมาถึงจักรยานที่เด็กในบ้านชอบเอาไว้ปั่นเข้าไปในไร่ วันนี้ขอยืมก่อนก็แล้วกันเอาไว้จะซื้อคันใหม่มาเป็นของตัวเอง เธอไม่ชอบขับมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์หากว่าวนเวียนอยู่แค่ในไร่ ปั่นจักรยานรับลมมันดีกว่าเยอะอากาศบริสุทธิ์จะตายไป
“กลับมาทั้งทีไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอ” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังทำให้ร่างบางตัวแข็งทื่อ พัทราวีพยายามรวบรวมสติก่อนจะค่อยๆ หันกลับไป
“พี่เจตต์” เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่ใช่ว่าเธอจำเสียของ ธนภัทรไม่ได้ แต่เมื่อครู่เล่นมาทักกันแบบนี้เป็นใครจะไม่ตกใจล่ะ
“สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้หนุ่มรุ่นพี่เพราะถึงอย่างไรเจตรินทร์ก็มีอายุมากกว่าเธอ
“ไม่ไปนั่งกินด้วยกันเหรอ ไอ้พวกนั้นถามหาผิงอยู่” สาวน้อยในวันวานเติบโตขึ้นเป็นสาวสวยสะพรั่ง ไม่ผิดจากที่เขาเคยแอบคิดไว้จริงๆ ใจหนึ่งยินดีที่เห็นเธอกลับมาแต่อีกใจก็กลัวว่าหญิงสาวจะยังตัดไม่ขาดกับเรื่องของธนภัทร
“อืม...ไม่ดีกว่าค่ะ” คนตัวเล็กปฏิเสธยิ้มๆ เธอหรืออุตส่าห์หนีพวกเขา จะให้เข้าไปนั่งกินด้วยได้อย่างไรล่ะ “พี่เจตต์มาทำอะไรตรงนี้หรือคะ” เพราะนี่มันด้านหลังครัวไม่มีเหตุผลที่เจตรินทร์จะต้องเดินมา
“พี่เห็นหลังเราแวบๆ น่ะ คิดว่าใช่ก็เลยลองตามมา” ตอนที่ณดลบอกว่าพัทราวีกลับมาแล้ว เธอคงไม่รู้ว่าเขาดีใจมากแค่ไหน “สบายดีใช่ไหม”
“ก็เรื่อยๆ ค่ะ เรียนจบแล้วกลับมานี่ก็คงช่วยงานพี่ดินเขา อาจจะเป็นทางด้านรีสอร์ท” เธอเลือกที่จะไปทำงานไกลจากไร่เล็กน้อย เพราะไร่ของ ธนภัทรก็อยู่ใกล้ๆ กับไร่ของเธอนี่แหละ
“เรื่องไอ้พี ผิงยัง...” เขารู้สึกผิดที่วันนั้นไม่สามารถปกป้องพัทราวีได้
“พี่เจตต์กลับไปนั่งดื่มกับพวกพี่ดินดีกว่าค่ะ ผิงไม่ได้กลับมานานอยากจะไปสำรวจไร่ดูหน่อย” พัทราวีรู้ดีว่าเป็นการเสียมารยาทมากที่ตัดบทเอาดื้อๆ แบบนี้ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่อยากจะย้อนกลับไปนึกถึงวันนั้นอีก เหมือนว่าตัวเธอกำลังกลับไปจมอยู่กับความเจ็บปวดในวันนั้น
ไม่มีใครรู้หรอกว่าเธอร้องไห้หนักมากแค่ไหน กว่าจะตัดสินใจแบบเด็ดเดี่ยวไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำใจได้ง่ายๆ
“พี่ขอโทษ เอาไว้พี่จะมาหาผิงใหม่นะ เรา...ยังเป็นพี่น้องกันได้ใช่ไหม”
คนตัวเล็กยิ้มรับก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “ได้สิคะ พี่เจตต์ยังเป็นพี่ชายที่แสนดีของผิงเสมอ” เธอพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะจูงจักรยานแล้วปั่นออกไป ทิ้งให้ชายหนุ่มที่เฝ้ามองจากทางด้านหลังมองตามไปด้วยรอยยิ้มแสนเศร้า
“ก็แค่พี่ชาย...” จะไปสู้อะไรกับคนที่ยังอยู่ในใจของเธอได้
เจตรินทร์เดินกลับมาร่วมวงกับเพื่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ธนภัทรที่เอาแต่นั่งดื่มเงียบๆ ให้เดามันคงหวนนึกถึงวันนั้นเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ที่มันพูดไล่ พัทราวีออกไปจากชีวิต ก็ไม่ได้พบเจอสาวน้อยอีกเลยจนถึงตอนนี้
“เสียดายว่ะ น้องผิงกลับมาทั้งทีไม่ยอมลงมาให้พี่บอยเห็นหน้า ไม่ชื่นใจเลยแบบนี้” ชิษณุเปรยเสียงบ่นเบาๆ ทำให้ณดลหัวเราะออกมาก่อนจะยื่นมือไปตบศีรษะเพื่อน
“น้อยๆ หน่อยนั่นน้องกู อีกอย่างกูไม่อนุญาตให้มึงเป็นน้องเขยหรอก” ไอ้นี่มันกะล่อนอย่างกับปลาไหล แต่รู้ดีว่าเพื่อนแค่แซวเล่นๆ ไม่ได้คิดจริงจังอย่างที่ปากพูด
ความคิดเห็น