คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ห้าปีก่อน
เจ้าของร่างบางยืนชะเง้อคอยาวอยู่หน้าสนามฟุตบอล เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามใบหน้าหวานใสรวมถึงไรผม อาจเป็นเพราะหล่อนยืนอยู่ตรงนี้เป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งอากาศประเทศไทยตอนนี้ก็ดูจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยสำหรับเธอสักเท่าไหร่
เสียงเฮของพวกผู้ชายทั้งผู้ลงเล่นฟุตบอลรวมถึงคนที่นั่งเชียร์ส่งเสียงร้องอย่างยินดี และแน่นอนยังมีเสียงกรี๊ดของพวกผู้หญิงที่มาเฝ้าเกาะขอบสนามอย่างกับตังเม แต่ช่างเถอะตอนนี้เธอควรสนใจกับผู้ทำประตูตรงหน้ามากกว่า
“พี่พีเก่งที่สุดเลย” เสียงหวานบอกด้วยความปลาบปลื้ม แม้ว่านี่จะเป็นเพียงการเล่นกีฬาประจำวันของเขาก็ตาม แต่ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าธนภัทรใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติมากขนาดไหน
ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็คงทำตามความฝันไม่ได้เพราะทั้งบิดาและมารดาของเขาได้ขีดเส้นชีวิตไว้แล้ว ซึ่งธนภัทรก็เข้าใจดีว่าต้องสานต่อกิจการของครอบครัวเพราะเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว เวลาว่างถึงดอดมาเล่นกับเพื่อนๆ เป็นส่วนใหญ่ เสียงนกหวีดเป่าหมดเวลาบ่งบอกว่าถึงคิวของทีมอื่นๆ ลงเล่นบ้าง
พัทราวีรีบควานหากระจกขึ้นมาส่องดูความเรียบร้อยของตัวเองจัดการเติมปากด้วยลิปกลอสสีใสๆ ให้มันวาวๆ พอดูน่ารักแค่นั้นแล้วรีบเก็บใส่กระเป๋าดังเดิม
กลุ่มชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกจากสนามกีฬาต่างพากันพูดคุยถึงเกมที่เพิ่งจบไป มีทั้งคำหยาบคายและเสียงหัวเราะดังๆ ตามประสาผู้ชายซึ่งนั่นทำให้เธอยิ้มกว้างเธอชื่นชอบเวลาที่เห็นธนภัทรเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ เวลาที่อยู่บ้านเขาจะค่อนข้างเคร่งขรึมพอควร
“ว้าว ! น้องผิงคนสวยมาอีกแล้ว อิจฉาไอ้พีชะมัด” แทนที่พัทราวีจะเขินอายแต่ไม่เลย เธอยิ่งยิ้มหน้าบานเมื่อได้ยินอย่างนั้น ขาเรียวยาวรีบก้าวเข้าไปหาร่างสูงที่ยืนหน้าตาบึ้งตึงอย่างเช่นทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ
“น้ำส้มเย็นๆ ค่ะพี่พี ผิงคั้นเองเลยนะ” อุตส่าห์หอบกระติกน้ำแข็งมาด้วยเพื่อเอามาแช่น้ำส้มนี้โดยเฉพาะ คนที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายมาเหนื่อยๆ ควรจะได้ดื่มน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจใช่ไหมล่ะ
“ขอบใจ” เขารับจากมือเธอไป หญิงสาวยิ้มกว้างแต่สุดท้ายรอยยิ้มนั้นก็มลายหายไปเมื่อธนภัทรยื่นไปให้เพื่อนด้านหลัง
“ใครจะกินก็เอาไป ฉันไม่ชอบน้ำส้ม”
“เฮ้ยไอ้พี ทำแบบนี้จะดีเหรอวะ น้องผิงเขาเสียใจพอดี” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของธนภัทรร้องบอก ทุกคนรู้ดีว่าธนภัทรค่อนข้างรำคาญกับการตามตื้อของพัทราวี แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารสาวน้อยหน้าหวานที่ตามเพื่อนเขาต้อยๆ
‘กูรำคาญว่ะ นี่ก็ตามไปถามผู้หญิงที่คบกับกูแทบทุกคน ราวีสมชื่อไหมล่ะมึง’ มันบอกมาแบบนั้น…
“ไม่หรอก ยัยนี่ความรู้สึกด้านชาจะตายไป ไม่อย่างนั้นคงเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างไปนานแล้ว เธอไม่ได้เสียใจใช่ไหมพัทราวี ถ้าฉันจะเอาน้ำส้มที่เธอลงทุนคั้นมาให้เพื่อนแทน” คนใจร้าย ทำไมใจร้ายแบบนี้นะคิดว่าเธอไม่มีหัวใจหรือไงกัน เจ็บทุกวันนั่นแหละเวลาที่เขาพูดจาถากถางกันแบบนี้
“ค่ะ พี่บอยดื่ม...ก็ได้ค่ะ ไม่เป็นไร”
“งั้นพี่ไม่เกรงใจและนะ” ชิษณุแย่งน้ำส้มจากมือธนภัทรมา ปากมันบอกว่าจะให้คนอื่นแต่ยังถือไว้แน่นเสียอย่างนั้น ไม่เข้าใจเพื่อนตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเป็นคนใจแข็งแบบนี้ กับผู้หญิงคนอื่นๆ มันไม่เคยปฏิเสธรับของด้วยซ้ำ
“ไปหาอะไรกระแทกปากกันก่อนดีกว่าไอ้บอย จะกลับบ้านเลยก็เบื่อว่ะ หงุดหงิด !” ประโยคหลังปรายตามองเธอแวบหนึ่ง พูดแบบนี้ไม่หันมาพูดใส่หน้ากันตรงๆ เลยล่ะ !
“งั้นพี่บอยไปก่อนนะจ๊ะน้องผิง ขอบอกว่าน้ำส้มอร่อยมากถ้าน้องไม่ ขี้เกียจพรุ่งนี้พี่บอยขออีกขวด” ถ้าจะบอกว่าขี้เกียจแล้วชิษณุจะหน้าเสียไหม เธอตั้งใจทำมาให้ธนภัทรคนเดียวต่างหาก
“ส้มหมดตู้แล้วค่ะพี่บอย” หญิงสาวตอบหน้าบูดเมื่อตอนนี้ธนภัทรเดินออกไปแต่มีกลุ่มผู้หญิงสองสามคนมาดักหน้า แถมยังยื่นน้ำและขนมให้เขาอีก
ที่สำคัญคนใจร้ายคนนั้นรับของจากแม่พวกนั้น !
“ส้มออกเต็มไร่ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้ น้องผิงจะคั้นให้ไหม อ้าว !” ชิษณุเกาหัวตัวเองเมื่อตรงหน้าเขาไม่มีร่างเล็กๆ ของพัทราวีอย่างที่คิด
“เวรและ เดี๋ยวองค์ลงไอ้พีอีก กูจะซวยเอา”
พัทราวีเดินตรงเข้าไปเกาะแขนธนภัทรไว้แน่น ก่อนจะจิกตาใส่สาวๆ ที่บังอาจมายุ่งวุ่นวายกับผู้ชายของเธอ การกระทำของหญิงสาวสร้างความรำคาญใจและความเบื่อหน่ายให้กับธนภัทรเป็นอย่างมาก
“คุณพีมีแฟนแล้วเหรอคะ” หนึ่งในนั้นถามด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“ใช่ ถ้ารู้แล้วก็รีบไปสักที ฉันชื่อผิงเป็นคู่หมั้นของผู้ชายคนนี้” เธอพูดเรื่องจริงไม่ได้โกหกเลยสักนิด เป็นเขาเองนั่นแหละที่พยายามลืมคำพูดของตัวเอง ถ้าตอนนั้นเทคโนโลยีมันทันสมัยเหมือนกับตอนนี้เธอคงอัดคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐานไปแล้ว
“พัทราวี !”
ธนภัทรสลัดแขนตัวเองอย่างแรงจนร่างบางเซเกือบล้ม ดีที่ชิษณุคว้าไว้ทันไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กคงเจ็บตัวอีก เดี๋ยวโดนพี่ชายของหญิงสาวเล่นงานอีก
“พี่พี...” พัทราวีเรียกชายหนุ่มเสียงสั่นเครือ เขาทำร้ายเธอต่อหน้าผู้หญิงพวกนี้อย่างนั้นเหรอ
“ไอ้พีเล่นแรงไปเปล่าวะ ถ้าฉันรับไม่ทันน้องผิงคงเจ็บตัวไปแล้ว” ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างพัทราวีแค่ผลักเบาๆ ก็แทบจะปลิวอยู่แล้ว ไอ้นี่เล่นสะบัดเต็มแรงหากได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจะว่าอย่างไร
“รำคาญไม่เข้าใจหรือไง ต้องให้พูดอีกสักกี่รอบ ไปให้พ้นๆ หน้าซะ” แทนที่คนตัวโตจะเห็นใจแต่ไม่เลย เขาตวาดลั่นอย่างเดือดพล่านจนพัทราวีน้ำตาตกแต่ก็พยายามจิกมือเข้าหากันแน่น “เธอตามตอแยทุกวันและฉันก็ไล่เธอทุกวัน คนไล่ยังเบื่อ แล้วคนอย่างเธอทำไมถึงได้หน้าด้านแบบนี้”
“เฮ้ยไอ้พี !” เจตรินทร์ที่เพิ่งเดินออกมาเข้ามาห้ามทัพ “พูดแรงไปนะ ยังไงพวกเรากับน้องผิงก็คนรู้จักกัน แกเองก็สนิทกับน้องเขา” ผู้หญิงกลุ่มเมื่อกี้รีบเดินออกเพราะกลัวจะโดนหางเลขไปด้วย
“พี่พีลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับผิงไปแล้วใช่ไหมคะ” พัทราวีฝืนใจเดินเข้าไปหาเขาอีกรอบ เธอมองชายหนุ่มที่มองเธอด้วยแววตาเย็นชา “หรือแค่หลอกให้เด็กคนหนึ่งดีใจเล่นก็เท่านั้น”
ธนภัทรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเบื่อกับการที่มีผู้หญิงน่ารำคาญเดินตามต้อยๆ อยู่ตลอดเวลา จะหยิบจะจับทำอะไรก็ไม่มีความเป็นส่วนตัว พัทราวีรุกล้ำความเป็นส่วนตัวเกินไป ถ้าไม่เห็นแก่ณดลที่เป็นพี่ชายของเธอรวมถึงเป็นเพื่อนสนิทแล้วละก็ เขาจัดการยัยผู้หญิงคนนี้ไปนานแล้ว
“ฟังดีๆ นะพัทราวี ฟังแล้วจำให้ขึ้นใจ” คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่กำลังบีบน้ำตาเรียกร้องความสงสารให้เขาเห็นใจ มันก็แค่มุกเดิมๆ ตั้งแต่ตอนเด็กที่เธอชอบใช้ “ฉันไม่เคยลืมไอ้สัญญาบ้าบออะไรนั่น แต่ฉัน...ไม่เคยคิดจะจำมันเลยต่างหาก เธอเองนั่นแหละที่คิดเองเป็นตุเป็นตะ เข้าใจแล้วก็ช่วยไปให้พ้นๆ หน้าฉันสักที !”
บรรยากาศรอบข้างเงียบลงทันใด เหมือนกับหัวใจของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังจะหยุดเต้นลงในไม่ช้า ถ้อยคำไร้ซึ่งความอ่อนโยนแต่มันบาดลึกลงกลางใจทำให้พัทราวีรับมันไม่ไหว
“ค่ะ ผิงจะไป...จะไม่มาให้พี่พีรำคาญใจอีกต่อไป” เหนื่อยไหมกับการเฝ้าทวงคำสัญญา สุดท้ายมันไร้ความหมายในเมื่อคนพูดไม่เคยจำ เพราะไม่มีค่าไม่มีความหมายเขาเลยไม่จำให้รกใจ ต่างจากเธอ...ที่ยึดมั่นมันมาตลอด
“ดี...หวังว่าฉันจะไม่ต้องเจอผู้หญิงน่ารำคาญอย่างเธออีก !”
เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นเต็มใบหน้างามที่กำลังส่ายไปส่ายมาราวกับเธอกำลังฝันร้าย มือบางกำเข้าหากันแน่นจนคนที่เพิ่งเดินเข้ามามองแล้วใจไม่ดีรีบเขย่าตัวหวังให้น้องสาวตื่นจากฝันร้าย
“ผิงตื่น ผิง !” ณดลตบแก้มใสเบาๆ นี่เป็นไม่กี่ครั้งที่เห็นพัทราวีฝันร้าย
“พี่ดิน” เปลือกตาบางลืมขึ้นมา สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกคือใบหน้างุนงงของพี่ชายทางสายเลือดแท้ๆ อย่างณดล เธอฝันร้าย...อีกแล้ว
“ก็ฉันน่ะสิ แกเป็นอะไรของแกฮะ ฝันร้ายอะไรขนาดนั้น” คนเป็นพี่เอี้ยวตัวไปดึงกระดาษทิชชู่มาซับหน้าให้นางสาว ถึงจะเป็นพี่น้องที่พูดคุยกันออกแนวห่ามๆ แต่เขาก็รักยัยตัวเล็กมาก เหลือกันอยู่สองคนแล้วนี่ ไม่ดูแลมันจะให้ไปดูแลหมาที่ไหน
“ไม่มีอะไรหรอก แล้วตัวเข้าห้องเขามาทำไม นี่มันห้องผู้หญิงนะ” เรื่องราวในอดีตที่น่าปวดใจณดลยังไม่รู้
และดูเหมือนไม่มีใครเล่าอะไรให้พี่ชายเธอฟังเช่นกัน เพราะธนภัทรก็ยังเป็นเพื่อนรักของพี่ชายเธอ
“กล้าพูด ? นี่สภาพห้องผู้หญิงเหรอ ชาตินี้จะมีผัวหรือเปล่าถามจริง” นิ้วชี้จิ้มหน้าผากมนอย่างขบขัน จนพัทราวีย่นหน้าใส่ก่อนจะปัดมือพี่ชายทิ้ง
“สวยขนาดนี้ ผู้ชายตามก้นยาวยิ่งกว่าหางว่าวอีก”
“ถ้าเป็นจริงอย่างที่แกพูด แล้วไหนแฟนล่ะ มาอยู่ที่นี่ตั้งกี่ปีไม่เห็นจะมีฟงมีแฟนกับเขา” พัทราวีสะอึกข้างในอก จะให้บอกได้อย่างไรที่ไม่มีเพราะหัวใจมันยังเจ็บไม่หายจะรักใครก็ไม่กล้า “เฮ้ย ! ขนลุกมากอดทำไมไปอาบน้ำได้แล้ว เดินทางคืนนี้นะอย่าลืม”
“ไม่กลับได้ไหม ให้ผิงอยู่ที่นี่ต่อเถอะนะ” กลับไปก็ต้องเจอเขา
“ไม่ได้ ใจคอแกจะปล่อยให้ฉันทำงานงกๆ เลี้ยงแกอย่างเดียวหรือไง ไปช่วยฉันทำไร่ได้แล้วไม่งั้นจะจุดธูปฟ้องพ่อกับแม่” หนีมาอยู่ที่นี่ตั้งนาน ให้เขาอยู่คนเดียวมันก็เหงาปากไม่มีใครให้ตอบโต้แบบนี้ คิดถึงแต่ไม่บอกหรอกมันกระดากปาก ถึงเพื่อนฝูงจะแวะเวียนมาเยี่ยมบ่อยๆ แต่มันก็ไม่เหมือนกัน
“รู้แล้วน่า กลับก็กลับ” เธอยิ้มกว้างแล้วผละตัวออกมาก่อนที่พี่ชายจะย้ำอีกรอบให้อาบน้ำ ประตูห้องปิดลงพร้อมกับรอยยิ้มที่เลือนหายไปจากใบหน้า พัทราวีทิ้งตัวลงกับฟูกขาวด้วยความอ่อนล้าหัวใจ แค่หลับตาลงภาพในวันวานก็ย้อนกลับเข้ามาทำร้ายหัวใจอีกครั้งและอีกครั้ง พร้อมไหมกับการกลับไปแล้วต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้น เธอรู้คำตอบดีว่าการที่ลงทุนมาเรียนต่อที่นี่มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย เธอยังลืมเขาไม่ได้...
“ฉันไม่เคยลืมไอ้สัญญาบ้าบออะไรนั่น แต่ฉัน...ไม่เคยคิดจะจำมันเลยต่างหาก เธอเองนั่นแหละที่คิดเองเป็นตุเป็นตะ เข้าใจแล้วก็ช่วยไปให้พ้นๆ หน้าฉันสักที !”
“ขอโทษนะคะพี่พี ขอโทษที่ผิงยังลืมพี่ไม่ได้”แต่เธอสัญญา...ว่าจะหลบเลี่ยงไม่โผล่หน้าไปเจอเขา ต่อให้อยากเห็นอยากพูดคุยมากเพียงใดก็ตาม
ความคิดเห็น