ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto NaruSasu] Sadistic Love นายหนีฉันไม่ได้หรอก!!

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 7 : กินข้าว...(หรือกินคน?)

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 56


    7
    กินข้าว...(หรือกินคน?)







    แสงสีขาว...วิ่งผ่านไป

    ร่างที่อยู่ในความมืด...

    มือยกขึ้นสูงพยายามไคว่คว้าเอาแสงนั้น

    และพยายามวิ่งตามมันไปให้ถึงที่สุด

    สิ่งเดียวที่รู้...ในตอนนี้...

    คือการวิ่งตามแสงนั้นไป...และ

    จะต้องออกไปจากความมืดนี้....
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

         “...โตะ!!...นารุ...โตะ.... ...นารุโตะ!!” เสียงแรกที่ได้ยินใบหน้าสวยๆที่คุ้นเคย มือใหญ่ยื่นขึ้นไปลูบใบหน้านวลนั้นเบาๆและเผยยิ้มให้...ภายในใจแน่นอนว่าไม่มีใครเห็นมีเพียงแววตาที่เป็นประกายนิดๆเท่านั้น

         “ท่านซึนาเดะคะนารุโตะฟื้นแล้ว!!” ซากุระที่อยู่ใกล้ๆรีบเปิดประตูเอ่ยเรียกหญิงสาวสูงวัยที่อยู่ข้างนอกและเดินมาเช็คอาการนารุโตะทันที...

     

       หลายวันต่อมา

     

      ลมอุ่นๆพัดผ่านเข้ามาในหน้าต่างหอบเอากลิ่นหอมหวานของฤดูร้อนเข้ามาและค่อยๆผ่านไป ร่างสูงนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงและเหม่อมองออกไปข้างนอกเขาเองก็พักฟื้นร่างกายมาหลายวันแล้วพรุ่งนี้เป็นกำหนดออกจากโรงพยาบาลด้วยถึงจะบอกว่ามีวิชานินจาช่วยก็เถอะแต่ไม่ว่ายังไงซากุระกับซึนาเดะก็ไม่ยอมให้เขากลับบ้านสักที

      เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนในสมัยที่อุจิฮะยังไม่ถูกสังหาร ตระกูลอูจิฮะถูกมอบภารกิจให้ไปกำจัดเจ้า3ตัวอันตรายที่เป็นภัยต่อหมู่บ้านแน่นอนในตอนนั้นทั้ง3คนไม่รู้ถึงพลังของเนตรวงแหวนจึงเสียท่าโดนผนึกเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีเข้าผนึกก็ต้องอ่อนแอลงไปธรรมดาจนมันคลายเองทั้ง3คนจึงตัดสินใจที่จะแก้แค้นอุจิฮะแล้วก็คงได้ยินเกี่ยวกับตระกูลนี้มามากสุดท้ายก็มุ่งเป้ามาที่ซาสึเกะเพราะเป็นอุจิฮะคนเดียวที่เหลือในตอนนี้แล้วการแก้แค้นเลยบังเกิดขึ้นเลยเป็นเหตุให้มันต้องการเนตรวงแหวนของซาสึเกะ...ก็เหตุผลเดิมแก้แค้นนั่นเอง ทุกวันนี้มันจะมีแต่การแก้แค้นและสงครามเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดถึงแม้จะลดๆลงบ้างแล้วตั้งแต่สมัยก่อนก็เถอะ

      นารุโตะปิดหนังสือลงและเอนร่างลงนอนพร้อมกับปิดเปลือกตาลงเขาเองก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันนั่นแหละอย่างน้อยก็พักสักหน่อยคงไม่เสียหายอะไร...

     

         “อ้าว!? ซาสึเกะคุง...มาเยี่ยมนารุโตะเหรอ?เมื่อพบร่างบางที่เดินเข้ามายังเคาเตอร์ซากุระก็ยิงคำถามใส่ทันที ซาสึเกะที่เพิ่งมาถึงอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขายาวสีเดียวกันเมื่อเจอคำถามนี้ก็เบนหน้าไปทางอื่นพร้อมขมวดคิ้วเหมือนไม่อยากตอบ เพื่อนสาวจึงไม่เซ้าซี้ต่อ พรุ่งนี้เขาก็กลับได้แล้วล่ะร่างกายก็แข็งแรงดีแล้วด้วยแค่แผลที่หัวยังไม่หายดีเท่านั้น ซากุระกล่าวด้วยความร่าเริงและยิ้มให้ร่างบาง ซาสึเกะมองหน้าเธอพักนึงและยื่นปิ่นโตให้ซากุระ เพื่อนสาวมองมันอย่างงงๆ

         “อะอะไรเหรอจ๊ะ?

         “ฉันไม่มีทางเข้าไปหาไอ้คนพันธ์นั้นหรอก...กล่าวจบก็เดินออกไปทันที แน่นอนว่าปิ่นโตอันนั้นมันไม่ใช่ของเธอแต่เป็นของเขา...ที่เคยทำให้ร่างบางตรงหน้านี้เจ็บปวด...

         “ซาสึเกะคุง!!” แต่ก่อนที่ซาสึเกะจะออกไปไกลเสียงใสของเธอก็หยุดเขาเอาไว้ ซาสึเกะหยุดยืนและไม่มีท่าว่าจะหันมามองเธอแต่ซากุระก็รู้ว่าเขารอฟังเธออยู่

         “นารุโตะคงไม่ดีใจหรอกนะ...ถ้าฉันเป็นคนเอาไปให้” ซากุระพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

         “ก็เรื่องของมัน” ซาสึเกะเองก็ไม่ยอมแพ้ไอ้การโน้มนาวเพียงแค่นี้มันไม่ทำให้เขาคล้อยตามได้หรอก ซากุระกัดริมฝีปากตัวเองอย่างกดดันอย่างน้อยก็น่าจะเจอหน้ากันหน่อยเธอเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หน้าซาสึเกะน่ะแค่มองก็รู้แล้วว่าอยากเจอนารุโตะแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็เห็นว่าร่างของซาสึเกะกำลังจะหายไปจากตรงนั้นซากุระจึงเผลอพูดออกไป...

         “แต่นารุโตะอย่างเจอซาสึเกะคุงนะ!!”

         “…”

    ได้ผลเมื่อร่างของเด็กหนุ่มหยุดชะงักลงทันที ซาสึเกะนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาวและหันมามองซากุระด้วยใบหน้าที่ไม่ต่างไปจากเดิมสักนิด...

     

       ณ ห้อง 420

     

       แกร๊ก...

      เสียงเปิดประตูที่แสนแผ่วเบาดังขึ้นก่อนที่ร่างบางจะเข้ามาในห้องเขาทำใจอยู่นานกว่าจะเข้ามาในห้องนี้ได้ก่อนหน้านี้เขาคิดว่านารุโตะมันคงกระโจนมาหาเขาและจับร่ามโซ่เป็นแน่แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงภาพที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือ ร่างสูงของคนบางคนกำลังนอนหลับพริ้มและไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ

      ร่างบางปิดประตูเบาๆและวางกระเบาลงบนโซฟาก่อนจะลากเก้าอี้เข้าไปนั่งใกล้ๆเตียงมือซ้ายยกขึ้นเท้าค้างมองคนที่นอนอยู่ด้วยใบหน้าที่อยู่ๆก็แดงขึ้นมา ทั้งๆที่มีโอกาสหนีไปได้แท้ๆแต่ทำไม...เขาถึงไม่หนีกันนะทั้งๆที่ออกมาจากโรงบาลได้ตั้ง2-3วันแล้วแท้ๆเพราะเป็นห่วงร่างที่นอนหลับอยู่นี่งั้นเหรอ

         “เฮ้อ…”

      ซาสึเกะถอนหายใจยาวและหันไปมองนาฬิกาทีแขวนอยู่ตรงผนังห้อง ห้องแบบนี้มันห้องVIPชัดๆนารุโตะไปเอาเงินมากมายมาจากไหนกันถึงได้นอนพักฟื้นในห้องแบบนี้ได้กันนะ จะว่าไปห้องของเขาก็VIPเหมือนกันนี่นาจึงเกิดความสงสัยว่าใครเป็นคนจ่ายเงินให้ล่ะเนี่ย?

         “นารุโตะนารุโตะ!...นารุโตะเว้ย!!” ปลุกยังไงไอ้คนตัวสูงก็ไม่ตื่นสักทีไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ!ซาสึเกะจึงตัดสินใจที่จะไม่ปลุกต่อแต่ทำอย่างอื่นแทนซึ่งมันก็คือ

         ผัวะ!!

      ตบกบาลไอ้คนตัวสูงไปทีหนึ่งแรงๆจนคนบนเตียงถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าเลิกลั่กก่อนจะเหล่มองคนตัวเล็กที่ยืนข้างเตียงด้วยสายตาอาฆาตนิดๆ ซาสึเกะถอนหายใจและยื่นปิ่นโตให้ไอ้คนที่บาดเจ็บเพิ่งฟื้นตัวอยู่ตรงหน้า นารุโตะมองมันนิ่งๆสลับกับร่างบางก่อนจะสบัดหน้าไปทางอื่นพร้อมกับพูดว่า

         “ไม่กิน”

      สร้างความโมโหให้ร่างบางไม่น้อยเขาทำมาให้ก็บุญแล้วเถอะยังจะมาทำดื้อเป็นเด็กๆแบบนี้อีก ซาสึเกะมองหน้าอีกคนและยกมือประเคนหมัดให้อีกทีหนึ่งบนหน้าอีกคน

         ผัวะ!!

      นารุโตะกุมหน้าพร้อมกับร้องครางอย่างเจ็บปวดไม่วายมองหน้าคนต่อย ปฎิเสธตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วล่ะเพราะถ้าไม่กินตอนนี้ก็ไม่มีอะไรให้กินอีกแล้วก็ซาสึเกะไปบอกพบาลเองกับปากว่าไม่ต้องยกอาหารมาให้ไอ้คนป่วยปัญญาอ่อนนี่

         “…”

         “…”

      ยังจะเงียบอีก... ซาสึเกะถอนหายใจอีกรอบและตั้งใจจะวางปิ่นโตะไว้มันข้างๆเตียงนี่แหละถ้าหิวยังไงเดี๋ยวมันก็กินของมันเองและเขาก็ยังมีธุระทำต่ออีกตั้งเยอะแยะฝนฟ้าก็ทำท่าไม่ค่อยดีแล้วด้วยต้องไปเก็บผ้าที่ตากไว้ที่บ้านก่อนล่ะนะ ที่เขาแวะมานี่ก็แค่...เป็นห่วง... เผลอแป๊ปเดี๋ยวร่างเขาก็มาอยู่ที่นี่แล้ว

         “ป้อนดิ”

         “ไม่เอา”

      โลภมากไปแล้วเขายกโทษให้เรื่องมีเซ็กด้วยนี่ก็บุญแล้วยังจะให้เขาป้อนข้าวป้อนน้ำอีกเกินไปแล้วมั้ง นารุโตะหันมองเขาก่อนจะยิ้มให้ มือหนาค่อยๆขยับไปกอบกุมข้อมือบางของอีกคนช้าๆและฉกโอกาสที่ร่างบางกำลังงงกับการกระทำของตนรวบร่างนั้นอุ้มขึ้นมานั่งตักตัวเองบนเตียงสร้างความตกใจให้อีกร่างไม่น้อย ดวงตาสีดำเบิกมองใบหน้าที่ยิ้มทะเล้นให้อย่างนึกสนุก ซาสึเกะตั้งใจจะกระชากตัวหนีแต่มันไม่ทันเพราะนารุโตะอาศัยจังหวะที่เขาตกใจใช้เชือกที่ไหนไม่รู้มามัดข้อมือทั้งสองข้างของเขาติดกันเป็นเงื่อนตายแต่รู้สึกคราวนี้มันจะหละหลวมเกินไปหน่อยรึเปล่าก็ดันมัดไว้ข้างหน้าซึ่งมันแก้ง่ายกว่าข้างหลัง

         “สงสัยอะไรอยู่เหรอ?”

         “หา?!”

         “ทำอย่างอื่นก่อนแล้วกัน”

         “มะ...!อุ๊” ยังไม่ทันได้ตั้งหลักหรือเตรียมใจหรือแม้แต่ปฏิเสธริมฝีปากของอีกคนก็ทาบทับลงมาก่อนนึกโทษตัวเองที่ดันล็อคห้องไว้ถ้าไม่ล็อคก็น่าจะมีพยาบาลเข้ามาถามสารทุกข์สุกดิบและช่วยเขาไว้ทันแต่แบบนี้มันไม่มีแม้แต่3เปอร์เซนต์ที่คนข้างนอกจะรู้ว่านารุโตะมันกำลังทำอะไร ยิ่งเป็นห้องVIPยิ่งแล้วใหญ่

      นารุโตะจูบคนตัวเล็กนานพอจะทำให้อีกคนเริ่มขาดอากาศแต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้ถอนออกแต่อย่างใดแต่สอนการแลกอากาศให้อีกคนแทนลิ้นเรียวเกี่ยวพันกันช้าๆจนแทบจะหล่อมรวมกันเป็นหนึ่ง มือทั้งสองก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆนารุโตะเริ่มเร้าโรมอีกคนอย่างเนิบนาบลูบไล้ไปมาตั้งแต่ขาจนถึงหน้าท้องแบนราบและยังลูบขึ้นไปเรื่อยๆจนซาสึเกะเริ่มถดถอยกายออกห่างเขาแต่มันล้มเหลวเมื่อนารุโตะยกขาขึ้นกันไว้และใช้แขนข้างหนึ่งโอบร่างบางเข้ามาใกล้ปากก็ทำหน้าที่จูบต่อไปเรื่อยๆ

         “อื้อ!

    จนกระทั่งอีกคนเริ่มท้วงนั่นแหละเขาถึงยอมถอนปากออกใบหน้าที่แสนเย็นชาผิดกับเมื่อก่อนกับดวงตาสีครามที่ว่างเปล่าถูกจ้องมองโดยคนตัวเล็กที่ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

         “ไอ้บ้า! โรงพยาบาลนะเว้ย!”

         “แล้วไง?

         “…”

         “…”

    เออดีถ้ามันคิดได้แค่นี้คำตอบที่น่าพึงพอใจมากได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากของอีกคนเรียบๆ

         “ฉันก็ไม่ได้บังคับให้นายกินข้าวนี่

         “เกี่ยว?”

         “…”

         “ฉันอยากทำของฉันเอง เพราะงั้น...ครางเสียงหวานๆให้ฉันฟังทีนะ...คนดี” ว่าไปนั่น คิดว่าคำหว่านล้อมแค่นี้มันจะทำให้เขาคล้อยตามได้รึไงกันล่ะ ซาสึเกะกัดฟันกรอดมองไอ้คนที่กำลังลวนลามเขาเข้าไปทุกที มือเล็กยื่นไปปิดปากนารุโตะที่กำลังจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ยอดอกเขา

         “หยุด! ฉันไม่อยาก”

         “ก็ฉันอยาก”

         “ก็ไปช่วยตัวเองในห้องน้ำสิเว้ย!”

         “...”

         “โอ้ย!”

    ถึงกับหลุดร้องออกมาเสียงดังเมื่ออยู่ๆนารุโตะมันก็แทรกนิ้วเข้ามากลางลำตัวเขาเข้ากระทันหันโดยไม่บอกไม่กล่าวกันสักนิดอารมณ์ที่ตอนแรกมีอยู่แค่นิดเดียวตอนนี้ถ้าเอาปลอทมาวัดนี่รู้เลยว่ามันพุ่งสูงขึ้นมาแค่ไหน ร่างบางบิดเกร็งด้วยความเจ็บและจุกสุดๆ ลองมันโดนแบบนี้บ้างสิเจ็บจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว

         “หยะ…อย่า นารุโตะ...ฉันบอกไม่เอาไง

         “ก็ฉันจะเอา”

      มันพูดได้น่าตบกระโหลกให้แหลกเลยจริงๆ ซาสึเกะกัดฟันกรอดๆด้วยความโมโหก่อนจะใช้สองมือที่ถูกมัดนั่นแหละผลักหน้าหล่อๆของอีกคนแรงๆจนแทบหงาย นารุโตะใช้มืออีกข้างที่เหลือรวบมือร่างบางไว้และมองดุๆ

         “มันเจ็บนะ”

         “ฉะ…ฉันไม่เจ็บรึไงเล่า อ๊ะ!” นารุโตะปล่อยให้ร่างบางปริปากด่าว่าอะไรเมื่อได้โอกาสก็ขยับนิ้วทันทีส่งผลให้ซาสึเกะร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้สองมือเล็กรีบยกขึ้นปิดปากตัวเองเองไว้ทันทีขืนคนข้างนอกได้ยินมีหวังวุ่นวายแหงๆแล้วนี่มันโรงพยาบาลถ้าได้ยินเสียงเอะอะของเขาแล้วพวกนั้นพากันพังประตูเข้ามาเห็นสภาพนี้ของเขาล่ะก็...ร่างบางแทบไม่อยากจะคิด

         “อ๊ะ...อื้อ”

         “ซาสึเกะ ร้องเบาๆสิเดี๋ยวข้างนอกก็ได้ยินหรอก”

         คนที่ผิดมันนายต่างหาก...

         “อึ๊…อื้อ

      ถึงจะปิดปากกลั้นเสียงแล้วก็เถอะแต่ไอ้คนที่กำลังเบิกทางเขาอยู่นี้จะจงใจแกล้งเขาไปถึงไหนปกติมันไม่นานขนาดนี้นี่หว่า นารุโตะถอดกางเกงของอีกคนออกพร้อมๆกับของตัวเองที่ดึงลงมานิดหน่อยพอให้เอาส่วนนั้นแทรกแทนนิ้วมือเข้าไปได้  ปากที่อยู่ว่างๆก็เข้าดูดเม้มยอดอกของอีกคนแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บไปหมดแต่มันก็ปลุกเร้าอารมณ์เขาไม่น้อยเหมือนกัน

         “อ๊ะ  อื้อ...ฮึก อื้อ!!!”

         “แค่3-4วันเอง…ทำไมมันถึงได้คับขนาดนี้เนี่ย...นายช่วยตัวเองบ้างรึเปล่าเนี่ยซาสึเกะ

         “บ้า! ฉันไม่ได้หมุกมุ่นเหมือนนายนี่เจ้าเซอะเบ๊อะ! อ๊า!!”

         “เฮอะ!”

      นารุโตะหยุดการกระทำทุกอย่างและก้มตัวลงหยิบกระเป๋าที่อยู่ใต้เตียงของตัวเองขึ้นมาค้นหาอะไรสักอย่างในขณะที่ร่างบางก็มองตามด้วยที่ใบหน้าที่แดงขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งนารุโตะหยิบขวดอะไรสักอย่างออกมามันก็ทำให้เขาถึงกับหน้าแดงจนแทบจะระเบิด

         “ไอ้บ้า! เตรียมของแบบนี้ไว้ตลอดเลยรึไงห๊า!!”

         “เตรียมไว้ใช้กับนายโดยเฉพาะเลยแหละ...งั้นเรามาเริ่มกันเลยเถอะ” นารุโตะว่าพลางยกขวดเจลหล่อลื่นโชว์ เล่นเอาอีกคนพูดไม่ออกเลยทีเดียว ซาสึเกะมองมันอย่างขยาดสุดและพยายามเคลื่อนตัวลงจากตักนารุโตะทันทีแต่มีหรือจะรอดพ้น นารุโตะใช้แขนข้างเดียวก็สกัดร่างบางไว้ได้แล้วเข้ายกร่างบางมานั่งบนตักเขาอีกครั้งในท่าที่ใบหน้าหันเข้าหากันมือก็อ้อมไปด้านหลังและบีบเจลลงบนมือก่อนจะวางขวดมันไว้ข้างๆนี่แหละ และแทรกนิ้วเข้าไปอีกทีจนร่างบางถึงกับต้องกัดฟันทนความเสียวซ่านที่แล่นไปตัวร่าง

         “อื้อ นะ...นารุโตะ”

         แคว่ก!

         “…?!!”

         “นาย!...”

         “อะไร?...”

         “มะ…มาใช้อะไรตอนนี้ มันก็คือถุงยางนั่นเองที่อยู่ในมือนารุโตะและเขากำลังฉีกซองมัน

         “ฉันก็ใช้ทุกครั้งนะ”

         “ทำไมฉันไม่เห็น”

         “ก็นายมัวแต่ครางจะมาทันสังเกตได้ไง...โอ๊ะก่อนที่ฝ่ามือพิฆาตจะถึงกระบาลนารุโตะก็ยกมือขึ้นรับหมัดนั้นไว้ได้ทันก่อน “เอาเถอะอย่าเกร็งแล้วกันฉันจะเข้าไปแล้ว”

         “อายบ้างมั้ย!ทุกคำที่พูดน่ะ

         “ทำไมต้องอายอ่ะ?”

         “โอ๊ย!!...นะ...นารุโตะ....อ๊า ถึงจะไม่เจ็บเท่าคราวที่แล้วแต่มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ นารุโตะกดร่างซาสึเกะให้นั่งลงจนเขาสามารถแทรกไปจนมิดด้ามได้ส่งผลให้อีกคนร่างร้องซะเสียงดังด้วยความเจ็บและจุกพอๆกับที่เขาเองก็จุกเหมือนกัน

         “อ๊ะ…ทะ ทำไมมันใหญ่กว่าปกติล่ะ

         “ทำที่โรงบาลมันตื่นเต้นนี่นา” เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรบ้าๆบอๆซาสึเกะก็ถึงกับสะดุ้ง

         “รัดแน่นไปแล้ว...ซาสึ...เกะ...ใจเย็นๆสิ ก่อนจะจูบปลอบเบาๆและทิ้งไว้สักพักให้ร่างบางผ่อนคลายและเมื่อซาสึเกะเริ่มชินเขาจึงค่อยๆขยับ

         “อ๊ะ...นะ นารุ...อ๊า อ๊า” นารุโตะล้มตัวนอนลงและยิ้มเจ้าเลห์ให้ร่างบางสองมือที่ทำการเร้าโรมก็หยุดลง... ซาสึเกะก้มมองร่างสูงด้วยความสงสัย

         “หยะ...หยุดทำไม” ในตอนที่เขาอยากมันกลับหยุดจงใจแกล้งเขาจริงๆสินะ

         “หึ…ขยับเองดิ...ฉันเหนื่อย” น่าน!มันต้องการอะไรจากเขา! เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่มีท่าทีว่าจะทำต่อบวกกับรอยยิ้มเจ้าเลห์แบบนั้นมันก็คงช่วยไม่ได้แล้วสินะ ปล่อยมันค้างไปมันก็ไม่ดีรีบทำรีบเสร็จไม่ดีกว่ารึไง? เมื่อคิดได้ดังนั้นซาสึเกะจึงจำใจทำเอง มือเล็กวางลงบนท้องแบนราบของร่างสูงเพื่อเป็นหลักให้กับร่างก่อนจะยันกายขึ้นและนั่งลงไปใหม่สร้างความเสียวซ่านให้กับทั้งตัวเขาเองและอีกคนที่นอนอยู่ด้วย

         “อ๊ะ...อื้อ...อ๊ะ ฮะ...อา อ๊ะ”

         “ซะ..ซาสึเกะ”

         “อ๊ะ...อ๊า นารุ...โตะ”

    ทำไมมันถึงได้เปร่งเสียงออกมาอยากขนาดนี้นะ ซาสึเกะบ่นอยู่ในใจและขยับต่อไป นารุโตะรู้สึกมันไม่ทันใจเท่าไหร่ใจหนึ่งก็อยากจะลุกขึ้นจับอีกร่างกดและทำเองให้รู้แล้วรู้รอดแต่อีกใจมันก็อยากลองแกล้งและดูร่างบางทำให้เขาบ้างนี่นา

         “อึ๊ อื้อ…อา ...อ๊ะ เสียงครางหวานๆยิ่งปลุกอารมณ์ร่างสูงเข้าไปใหญ่

         “เร็วอีกหน่อยสิซาสึเกะ

         “ก็มัน...อ๊า!”

         ฟุบ!

         “เอ๊ะ…นารุ...โตะ? อ๊า อ๊า อ๊า!” นารุโตะที่เริ่มทนไม่ไหวก็ได้จับร่างบางกดลงไปนอนราบเสียเองก่อนจะแทรกกายเข้าไปแรงๆจนคนตัวเล็กร้องไม่เป็นภาษา และเริ่มเร็วขึ้นจนร่างบางเกือบเสร็จแต่นารุโตะก็ไม่ยอมให้อีกคนปล่อยมือที่ว่างอยู่ก็จับส่วนนั้นไว้และจงใจปิดให้ยอมให้ปล่อยออกมาง่ายๆก็เขายังไม่ถึงเลยนี่นา

         “อ๊า...หยุด...พอแล้ว นะ นารุโตะ!” ถึงจะพูดยังไงร่างสูงในตอนนี้มันก็คงไม่ฟังเขาอีกแล้วล่ะนารุโตะทำเขาแรงมากจนทำให้เขาแอ่นร่างรับแบบไม่รู้ตัว

         “อ๊า

    จนกระทั่งอีกคนใกล้จะถึงฝฝั่งเขาถึงได้เป็นอิสระสักทีนารุโตะเข้าไปครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยออกมาข้างนอกดีที่มันไม่เลอะที่นอน ซาสึเกะจำได้ว่าตัวเองก็ไม่ใช่เล่นๆก่อนจะถึงเขาโอบกอดรอบคอนารุโตะไว้และฝากรอยเล็บไปที่แผ่นหลังของเจ้าตัวด้วยถึงจะโดนมัดอยู่ก็เถอะและเพราะแบบนั้นมันถึงได้เสียดสีจนทำให้ข้อมือเขาแดงจนบางจุดก็มีเลือดซิบอยู่นิดหน่อยด้วย

      และพอเสร็จกิจไอ้คนตัวดีมันก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลยปล่อยให้เขานอนหมดแรงหอบแฮ่ก แฮ่กอยู่บนเตียงนั่นแหละ

         “ชิ!...เจ้าบ้า”

     

       บ่าย2

     

      เออดีเพิ่งจะได้ฤกษ์กินข้าวกินปลากันบ่าย2เพราะนารุโตะคนเดียวแท้ๆเล่นไม่ยั้งเลยแถมแกล้งเขาอีก หลังจากที่ใส่เสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้วซาสึเกะก็กลับมานั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนเดิมมองไอ้คนบนเตียงนั่งกินข้าวอย่างมีความสุข...

         “ฉันบอกไม่อยากทำไง

         “แล้วใครที่มันมานั่งขย่มบนตัวฉะ อุ๊บ!”

         “หยุดพูดไปเลย!” ซาสึเกะใช้สองมือรีบปิดปากไอ้บ้าตรงหน้าทันทีเรียกว่าตบหน้าดีกว่า= =

         “หึ...”

         แผร่บ

      นารุโตะยึดมือข้างหนึ่งของซาสึเกะไว้และเลียมันอย่างหิวโหยแต่อีกคนกลับขนลุกเกรียวอย่างมิได้นัดหมายและเกือบชักมือกลับไม่ทัน นารุโตะมันโรคจิตเกินไปแล้ว!!

         “อ๋อใช่...นายลองไปดูตรงผ้าม่านดิ”

         “…!!??” ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ก็ยอมเดินไปดูซาสึเกะมองดูมันอยู่ครู่หนึ่งก็พบว่าหลังผ้าม่านมันมีกล้องวีดีโอตั้งไว้และหันไปทางเตียง... "นาย...อย่าบอกนะว่า...

         “อื้ม…อัดไว้ทุกช็อตเลยล่ะ เมื่อได้ยินประโยคนี้ซาสึเกะก็รู้สึกเหมือนมีเห็ดโพล่ออกมาบนหัวพร้อมกับชูป้ายว่า โง่แท้

         “นาย...มัน” รู้สึกโมโหและอยากฆ่าคนขึ้นมายังไงไม่รู้

         “อะไร...”

         “ลบเดี๋ยวนี้!!!”

         “เรื่องดิก่อนจะฉวยโอกาสหยิบกล้องและถอดฟิมส์ออกมาเก็บและผนึกไว้ทันทีเล่นเอาอีกคนอ้าปากค้าง

         “นาย...!!”

         “ช่างเหอะฉันไม่เอาไปประจานหรอกน่า...แต่เก็บไว้ดูเองต่างหากนารุโตะว่าพลางเอนตัวนอนลงและวางปิ่นโตเปล่าๆไว้ข้างเตียง

         “เฮอะ!”

         “อีกอย่างจะได้แบล็คเมย์นายได้ด้วยเวลานายจะหนี

         แบบนั้นก็ยิ่งต้องลบเลยเว้ย!!

      อยากจะตะโกนบอกออกไปแบบนั้นจริงๆแต่ที่ไม่ทำก็เพราะขาก็รู้ว่ายังไงนารุโตะก็ไม่ยอมลบอยู่ดี

         แต่ว่าเจ็บไปทั้งตัวเลยแฮะ...เจ้าบ้านารุโตะ...นายคิดยังไงกับฉันกันแน่หรือแค่แกล้งเล่นงั้นเหรอ...ที่นายเป็นแบบนี้เพราะฉันสินะ...

         ฉันขอโทษ...

    ซาสึเกะได้แต่เก็บคำขอโทษไว้ในใจเพราะไม่อยากจะพูดมันออกมาและไม่อยากนึกถึงเรื่องนั้นอีกวันนี้นารุโตะอาจจะแค่ใจดีแต่ต่อไปเขาอาจจะโดนมากกว่านี้...คิดพลางมองใบหน้ายามหลับของอีกคนนิ้วมือเขี่ยผมที่ปรกหน้าของร่างสูงเบาๆ...

         กลับมาเหมือนเดิมสักทีสิ...นารุโตะ

    ..................................................................................
    แล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง555 สงสัยเบื่อกันแล้วมีตูบ้าอยู่ตัวเดียวใช่มั้ยนี่555
    บ่นอะไรของเอ็ง! ก็ขอบคุณสำหรับคอมเม้นตอนที่แล้วนะคะ^^เอ่อตอนนี้...หวานแล้วนะคะ5555
    ตรงไหน? โตะน่าไม่อายโรงบาลนะเฟ้ย! 
    โตะ : ใครเขียนบท?
    มายด์ : ใครอ่ะ?
    โตะ : ยัยเบ๊อะ!!
    แล้วจากนั้นนารุโตะคุงก็มาทวงค่าตัวกับดิฉันจนกระเป๋าแฟ่บ
    ก็อยากจะบอกว่า...โดเนี่ยคาดว่าไม่น่าจะแปลเสร็จฟ่ะ555พูดอีกอย่างคือขี้เกียจ55(ตลกเรอะ!)เลยจะเปลี่ยนเรื่อง


    เป็นเรื่องนี้แทนถึงจะไม่เรท(ไม่เรทแหละดีแล้ว555)แต่ก็น่ารักดีนะ^^555
    เอาเป็นว่าขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน ซียู♥
    เหมียว หง่าว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×