ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto NaruSasu] Sadistic Love นายหนีฉันไม่ได้หรอก!!

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 14 : ไม่เป็นไรแล้วเนอะ

    • อัปเดตล่าสุด 8 ธ.ค. 56


    14
    ไม่เป็นไรแล้วเนอะ



     

           ปึง!!ปึง!!ปึง!!ปึง!!ปึง!!



           “นารุโตะเปิดประตูที...ซาสึเกะคุงอยู่รึเปล่า!!!” เด็กสาวทุบประตูด้วยความร้อนและกังวนเหลือเกินว่าเพื่อนชายจะเป็นยังไงบ้างไม่ใช่ว่าเจ้าของบ้านทำอะไรบ้าๆไปแล้วนะยังไงก็ขอให้ปลอดภัย... นารุโตะเปิดที!!” เด็กสาวตะโกนเรียกเสียงดังจนเจ้าของบ้านรีบมาเปิดให้กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นใหญ่โต



            “ว่าไง?



           “นารุโตะขอเข้าไปข้างในได้มั้ย!!!?? ซาสึเกะคุงล่ะ!! ซาสึเกะคุงเป็นไงบ้าง?!!” เด็กสาวรัวคำถามใส่อย่างไม่กลัวว่าคนฟังจะจับใจความได้ทันหรือไม่ นารุโตะทำหน้าฉงนและยอมปล่อยให้ซากุระเข้าไปด้านในบ้าน เด็กสาวไม่รอช้ารีบซอยเท้าเข้าไปภายในตัวบ้านทันที นารุโตะปิดประตูบ้านและรีบตามเข้าไปในหัวยังคงสงสัยอยู่ว่าเพื่อนสาวมีอะไรหรือเปล่า?ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น



      ซากุระรีบวิ่งไปยังห้องนั่งเล่นที่มีซาสึเกะนอนหลับพริ้มอยู่เธอนั่งลงข้างๆร่างของเด็กหนุ่มและกวาดตามองสำรวจไปทั่วร่างของเขาก่อนจะเบิกตาโพล่ง...



           “อย่าจ้องขนาดนั้นสิเดี๋ยวฆ่าซะนี่เด็กสาวสะดุ้งและหันมองข้างหลังเห็นนารุโตะยืนกอดอกพิงประตูสายตาจ้องมองร่างบางที่หลับไหลก่อนเบนมาสนใจซากุระและจ้องหน้าเธอเป็นสัญญาณว่าขืนเธอยังจ้องซาสึเกะอีกมีหวังโดนเชือดแน่ๆ



           “ขะขอโทษทีเธอถอยห่างจากร่างซาสึเกะและก้มหน้านิ่ง นารุโตะผละออกจากประตูและเดินเข้าไปหาร่างบางที่นอนอยู่เขาขยับผ้าห่มคลุมร่างให้อีกคนเบาๆเพราะกลัวว่าร่างนั้นจะตื่น



           “มีอะไร” เสียงเย็นๆของเพื่อนหนุ่มเอ่ยถาม ซากุระสะดุ้งน้อยๆก่อนจะตอบออกไปตรงๆ



           “เป็นห่วงน่ะ”



           “ทำไม?”



           “กลัวว่ากาอาระจะทำอะไรซาสึเกะคุงเลยจะมาดูว่าเป็นอะไรรึเปล่า...นายทำเขาเหรอ?”



           “เออ” ซากุระเงยหน้าขึ้น



           “นายไม่คิดบ้างรึไงว่าเขาจะเจอเรื่องร้ายๆมามากขนาดไหนแล้วนายยังมาทำแบบนี้กับเขานายมัน…นายมันบ้าที่สุดเลยนารุโตะ!! ไอ้เลว!!!” เด็กสาวพ่นคำด่ากราดใส่ร่างสูงที่เพียงยืนกอดอกดูอยู่ด้วยใบหน้านิ่งสุดๆ เขาเปรยตามองเพื่อนสาวที่เริ่มสะอื้นไห้เงียบๆถ้าเธอทุบอกเขารัวๆได้ก็คงทำไปแล้วติดอยู่ที่ว่ากลัวโดนเชือด...



           “จะพูดยังไงก็ช่างเธอเถอะแต่ฉันไม่ต้องการให้บนร่างกายของซาสึเกะแปดเปื้อนก็เท่านั้น



           “หมายความว่าไง?” นารุโตะขมวดคิ้วเขาก็นึกว่าเธอจะรู้เรื่องอะไรแล้วเสียอีกเห็นว่ารุกรี้รุกรนเหลือเกิน



           “ยังไม่รู้เหรอ?”



           “รู้? อะไร” ซากุระขมวดคิ้วตามแน่ล่ะสิ่งที่เธอรู้ก็มีเพียงคำพูดปริศนาของกาอาระและพอมาเห็นซาสึเกะนอนหลับอยู่ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กแบบนั้นคิดได้เพียงเรื่องเดียวคือกาอาระคุยกับซาสึเกะและทำอะไรสักอย่างพอซาสึเกะกลับมานารุโตะก็โกรธเลยทำซะสลบเหมือดแบบนี้



      นารุโตะถอนหายใจมือหนายกขึ้นกุมขมับอย่างเหนื่อยหน่ายเขานั่งลงข้างๆร่างที่นอนอยู่และยกศรีษะร่างบางขึ้นมาช้าๆก่อนวางลงที่ตักตัวเองพร้อมกับเอาผ้าห่มคลุมให้ดีๆอีกรอบ



           “เธอรู้อะไรบ้างเนี่ย”



           “ก็แค่คิดว่านายโมโหซาสึเกะคุงที่ไปคุยกับกาอาระนานพอกลับมาก็เลยทำ...กับเขาจนหลับไปแบบนี้...เท่านั้นล่ะ” เธอว่าเสียงแผ่วประกอบกับแก้มแดงๆที่ไม่รู้ว่ามันแดงตั้งแต่เมื่อไหร่ นารุโตะถอนหายใจน้อยๆและวางมือลงบนผมนุ่มนิ่มของคนที่นอนหนุนตักเขาอยู่



           “จะบ้ารึไง? ฉันเป็นคนมีเหตุผลนะ” ได้ยินประโยคนี้ซากุระอยากจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปอ้วกให้รู้แล้วรู้รอดช่างกล้าพูด! ถึงอย่างนั้นการกระทำของเธอก็ยังไม่เปลี่ยนเพื่อนสาวเพียงนั่งฟังอยู่เฉยๆเท่านั้น กาอาระใช้คาถากับซาสึเกะโดยให้เจ้าตัวเขากินยาอะไรสักอย่างก็ไม่รู้เห็นเขาว่างั้นน่ะ แล้วก็บอกอีกว่าพอโดนกรอกยานั่นเข้าไปก็ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้แล้วกาอาระก็ปล้ำหมอนี่จนกลับบ้านมาฉันถึงได้รู้ว่าเขาไปเจออะไรมา” ซากุระเบิกตาโตด้วยความตะลึงเธอไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จอย่างกาอาระจะทำแบบนี้กับเพื่อนของเธอได้เด็กสาวเงียบและยังคงฟังอดีตเพื่อนหนุ่มเล่าต่อ



           “ตอนแรกฉันก็ตกใจอยู่หรอกแต่พอคลายคาถาได้ก็โล่งใจขึ้น…ซาสึเกะเอาแต่ขอโทษฉัน...ฮึ ก็ดีจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดที่ฉันเคยได้รับมันเป็นยังไงแต่ยังไง...เรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวกันล่ะนะ” นารุโตะว่าเบาๆโดยไม่มองหน้าซากุระเขาสนใจเพียงใบหน้างดงามของร่างที่นอนหลับไหลไม่รู้เรื่องอยู่บนตักเท่านั้น



            “แล้วเรื่องที่นายทำซาสึเกะคุงรอบนี้มันหมายความว่ายังไง?”



           “ก็แค่ลบรอยให้มันแปลกตรงไหนล่ะ



           “เขาทุกข์มากพอแล้วนะ!!”



           “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง?หมอนี่กอดฉันเขายั่วฉันเองนี่นาแถมยังยินยอมให้ฉันทำอีกต่างหาก” นารุโตะว่าด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากที่คุยกับซาสึเกะลิบลับ(คุยกับภรรยาเดี๋ยวนี้ต้องทำเสียงหวานๆเซ็กซี่ๆเข้าไว้=.,=)



           “นายมัน...!!”



           “อือ...”



           “..!!?!!” ยังไม่ทันได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ร่างบางที่นอนหลับไหลอยู่จู่ๆก็ครางขึ้นมาเบาๆเป็นสัญญาณว่าเขาเริ่มรู้สึกตัว ร่างบางพลิกตัวเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นมานั่งขยี้ตาและหาววอดๆอย่างไม่อายใครซึ่งท่าทางแบบนั้นหารู้ไม่ว่ามันทำให้ใครหลายๆคนเสียเลือดรวมทั้งซากุระและนารุโตะที่นั่งมองอยู่



           “…มีไรกัน อยู่กันครบเชียว” ร่างเล็กเอ่ยถามสั้นๆและมองหน้าร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆตนเป็นเชิงถาม



           “ก็เปล่า…ฉันไปล่ะ” นารุโตะว่าก่อนลุกขึ้นและเดินหนีไปจากตรงนั้น ในขณะที่มีดวงตาสองคู่มองตามหลังไป เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรซาสึเกะถึงได้เริ่มถามคนที่คิดว่ารู้เรื่องเมื่อกี๊ที่คุยกัน



           “พูดอะไรกันอยู่เหรอ?”



           “เปล่าจ้ะ...ก็เรื่องทั่วไปน่ะอย่าสนใจเลย” ซากุระตอบเธอไม่อยากบอกร่างบางตรงหน้าว่าคุยอะไรกับคนที่เดินออกจากห้องไปเมื่อกี๊เพราะยังคงกลัวคนคนนั้นอยู่ถ้าเขาฆ่าเธอจริงๆจะทำยังไงเล่า?



           “โอ๊ะ ลืมไปเลยแฮะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้านหลังเด็กสาว ซากุระแทบจะหันควับไปทันทีด้วยความตกใจจู่ๆคนที่คิดว่าออกไปแล้วก็กลับเข้ามาในห้องและเดินตรงเข้ามาหาร่างบางที่นั่งงัวเงียยังไม่ตื่นเต็มที่



           ฟอดดดดด~



           “ฉันลืมน่ะ” จากนั้นก็เดินหัวเราะร่าออกไปเลยมิได้สนใจว่าคนที่โดนฉกชิงหอมแก้มไปเมื่อกี๊จะหน้าแดงเป็นมะเขือเทศสุกแค่ไหนแถมยังตื่นเต็มตาภายในทันทีอีกด้วย...



           “บ้า...” คำด่าเล็กๆแต่ด้วยน้ำเสียงแบบนั้นแทนที่จะทำให้โกรธแต่มันกลับทำให้คนอื่นเขามองว่ามันน่ารักซึ่งรวมถึงซากุระที่นั่งฟังอยู่ในเหตุการณ์ด้วย



           “เออนี่ซาสึเกะคุง…2-3วันนี้อย่าออกจากบ้านนะถ้าจะออกก็ใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดด้วย เพื่อนสาวกล่าวเตือนเบาๆราวกับกำลังเป็นห่วง ร่างบางขมวดคิ้วก่อนถามกลับ



           “ทำไม?”



    เพื่อนสาวถอนหายใจก่อนเงยหน้ามองเด็กหนุ่มเธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยและยกนิ้วขึ้นชี้ที่ซอกคอตัวเองทำให้อีกคนงงกว่าเดิมเมื่อเห็นเพื่อนสาวจ้องหน้ากันขนาดนั้นเขาเลยวกกลับมาดูที่ซอกคอตัวเองโดยใช้กระจกแถวนั้นส่องดู...ในใจนึก หรือซากุระจะหมายถึงซอกคอของเขา เมื่อสายตาโฟกัสไปเห็นรอยแดงเป็นจ้ำๆอยู่เต็มไปหมดตั้งแต่ไหปาร้า ต้นคอ ซอกคอ และตามหน้าอก...เจ้าของร่างบางก็แทบอยากจะมุดดินหนีไปตอนนี้เขาอายนิดๆที่ถูกซากุระมาเห็นในสภาพนี้



           “มันเห็นชัดมากน่ะ บางทีฉันก็นึกว่าหมอนั่นซาดิสต์นะ”



           “เธอเพิ่งรู้รึไง...ให้ตายเถอะแล้วเมื่อไหร่มันจะหายเนี่ย?!!” ร่างบางเริ่มบ่นอย่างหัวเสีย ซากุระหัวเราะแหะๆ



           “ไม่กี่วันก็หายแล้วมั้งนะ ฮะ ฮะ” จากนั้นเธอก็ชวนซาสึเกะคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยๆจนเกือบมืดโดยไม่รู้เลยว่ามีคนมองอยู่ซึงก็คือเจ้าบ้านนี่แหละเขามองทั้งคู่และยิ้มน้อยๆก่อนผละออกจากประตูกลับไปที่ห้องตัวเอง...



    .................................................................................................................................



      “ถ้างั้นฉันขอกลับก่อนนะ” ซากุระมองนาฬิกาชี้บอกเวลา1ทุ่มและลุกขึ้นลาซาสึเกะก่อนเดินออกไปร่างบางโบกมือหยอยๆส่งและถอนหายใจยาว



            “กลับไปแล้วเหรอ?”



       “…??!!” พอซากุระออกไปนารุโตะก็เขามาทันที ซาสึเกะสะดุ้งนิดๆและเงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามานั่งข้างๆเขาพลางเปิดทีวีดู ร่างบางมองหน้าและนึกเรื่องอะไรไปเรื่อยเปื่อย



             “อืม...”



             “หิวข้าวแฮะ”



           “...เออ เดี๋ยวทำให้” คนตัวเล็กตอบรับเบาๆในขณะที่ดวงตากลมโตะจ้องมองไปยังกล้องสี่เหลี่ยมใหญ่ๆที่ฉายรายการอะไรสักอย่างอยู่ ร่างสูงมุ่ยหน้า



           “อยากกินเดี๋ยวนี้



           “เออใช่...ฮินาตะฝากมาบอกแน่ะ



           “…??!!”



           “วันครบรอบอะไรนี่แหละให้ไปเยี่ยม..



           “อ๋อก็ว่าลืมอะไร...ไปด้วยกันมั้ยล่ะ?”



           “ตอนนี้นี่นะ? มันดึกแล้ว”



           “เออน่า...แป๊ปเดียว”



     ว่าแล้วก็ฉุดร่างอีกคนให้ลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้าดีๆจากนั้นจึงชวนกันออกจากบ้านไปนารุโตะล็อคประตูบ้านก่อนหันมองอีกคนที่..กำลังสั่นสาเหตุคงเพราะอากาศในเวลานี้เริ่มลดลงอย่างฮวบฮาบ



            “ก็บอกแล้วแท้ว่าให้ใส่เสื้อโค้ดทับอีกตัว”



        “ไม่นึกว่ามันจะหนาวขนาดนี้นี่หว่า” ซาสึเกะตอบหน้าตาเฉยราวกับตนไม่ได้ทำผิดอะไร ร่างสูงขำนิดๆโดยไม่ให้ร่างบางสังเกตเห็นเขาเดินเข้าไปใกล้อีกคนและรูดซิบเสื้อโค้ดของตัวเองออกให้หมดก่อนใช้แขนตัวเองโอบร่างบางๆนั้นไว้ข้างๆและออกเดินหากไม่สังเกตคนก็คงคิดกันแค่ว่าพวกเขาโอบคอเล่นกัน การทำแบบนี้มันทำให้อุ่นขึ้นมานิดหน่อยแต่จะช่วยได้มากถ้านารุโตะถอดเสื้อนั่นมาให้เขาใส่ซะ “พระเอกเนอะ”



               “ประชดป่ะ?...ฉันก็หนาวนะใส่ด้วยกันแบบนี้อุ่นดีออก



               “สำหรับนายคนเดียวล่ะมั้ง”



        “แล้วจะเอาไง…ไม่ให้กอด?โอเค” ว่าก่อนจะเอาแขนออกเมื่อนารุโตะเอาแขนออกความหนาวก็เข้าปกคลุมตัวเขาทันทีมันเย็นจนแทบจะแข็งเป็นน้ำแข็งร่างเล็กยกมือขึ้นกอดร่างตัวเองไว้ทันที



             “หนาว” และก็ต้องยอมแพ้ต่ออากาศที่บีบครั้นให้เขาต้องเข้าไปในอ้อมกอดของอีกคนเหลือเกิน นารุโตะเชิดหน้าให้อย่างถือไพ่เหนือกว่าก่อนเข้าไปกอดร่างบางอีกรอบพร้อมเอ่ย



                   “ก็แค่นั้น”



     

      ณ แท่นศิลา...(ซิลาจาลึกชื่อวีระบุรุษมันเรียกว่าไรนะลืม?)



     

      ร่างบางๆของสาวน้อยเรือนผมสีดำนั่งเป่ามือตัวเองอยู่หน้าศิลาราวกับรออะไรสักอย่างกับเพื่อนชายที่แทบจะหลับทั้งยืนเพราะว่างจัดและไม่นานคนที่เธอรออยู่ก็มาถึงพร้อมกับเพื่อนในทีม..น่าจะเรียกว่าแฟนมากกว่า



                 “นารุโตะคุง...”



                 “ไง...โทษทีนะที่ช้า” เด็กสาวส่ายหน้า



          “ไม่เป็นไรจ้ะเธอมาก็ดีแล้วแล้วดอกไม้นั่น” เธอว่าพลางจ้องมองดอกไม้สีน้ำเงินออกม่วงที่มือของนารุโตะ ร่างสูงชะงักนิดๆและยื่นวางไว้หน้าศิลา



              “ก็นะ...เอามาให้เขาไงล่ะ” เด็กสาวเบิกตามองด้วยความปราบปรื้มยินดีเธอหลับตาลงอีกครั้งและเอ่ยขอบคุณเบาๆก่อนหันไปมองอีกร่างที่ยังคงงงอยู่



            “พี่เนจิเสียชีวิตในสงคราม...วันนี้เป็นวันครบรอบวันที่พี่เสียไปน่ะจ้ะ” เธอว่ายิ้มๆจนเจ้าของร่างบางนิ่งค้างไปเขาเมินหน้าไปทางอื่นก่อนนั่งยองๆหน้าศิลาและเอื้อมมือไปแตะชื่อของทุกคนที่เสียไป



          “ทุกคนก็เสียใจกันทั้งนั้น ให้เขาหลับสบายๆไม่ดีกว่าเหรอ” ซาสึเกะลุกขึ้นยืนและยื่นมือไปแตะที่รอบดวงตาของฮินาตะ



         “เธอน่าจะเลิกร้องไห้ได้แล้วมั้ง... ทุกคนเงียบฮินาตะจ้องตาซาสึเกะอึ่งๆ เธอหลับตาลงอีกครั้งก่อนยกมือแตะมือซาสึเกะเบาๆและเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นครอนเล็กน้อย



           “ขอบใจนะ…ฉันเข้าใจเรื่องนั้นดี...ก็แค่จู่ๆมันก็ไหลออกมาเอง” ฮินาตะยิ้มให้อีกครั้ง



          “ว่าแต่ดอกไม้เนี่ยมันดอกอะไรอ่ะ” คิบะที่อยู่นิ่งๆไม่พูดไม่จาเป็นตัวประกอบอยู่นานก็ได้ฤกษ์มีบทกับเขา นารุโตะมองหน้าคนถามก่อนนึก...



           “ดอกไอริสน่ะ



           “เอาดอกไอริสมาให้คนตายเนี่ยนะ”



           “ความหมายมันออกจะดี”



           “มันแปลว่าไรอ่ะ”



           “ ดอกไอริสเป็นสัญลักษณ์ถึง  “ดวงตาแห่งสวรรค์”  ซึ่งมีความหมายว่า  เมื่อเราถือดอกไอริส ก็เหมือนกับเราได้นำสวรรค์ติดตัวเราไปด้วย  ดอกไอริสนั้นบ่งบอกถึงไอเดียและความนัยต่างๆ ใบเลี้ยงทั้งสามใบนั้นหมายถึง ความศรัทธา , ความรอบรู้และความกล้าหาญ ประมาณนั้นมั้ง...ฉันลอกมาจากหนังสือน่ะ



           “เห...นายจำอะไรในหนังสือได้ด้วยแฮะ เป๊ะทุกตัวป่ะ?”



           “เออ” อีกสองคนที่อยู่เฉยๆก็ยืนขำสองหนุ่มที่เถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร สองผมมองแฟน(?)ตัวเองหัวเราะก็ยิ้มออกมาเพราะการที่ทั้งคู่หัวเราะไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นกันได้ง่ายๆเลยเชียว...



           “งั้นกลับล่ะนะ”



           “บายยยยย”



    ……………………………………………………………………………………………..



      เที่ยงของอีกวัน

     

           “ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ โอยยยยยย ไม่ไหวแล้วว่ะวีรกรรมมึงโคตรเจ๋งเลยว่ะนารุโตะ คิบะหัวเราะจนท้องแข็งไปหมดและไม่ได้มีเสียงเขาคนเดียวแน่นอนวันนี้มันเป็นวันนัดรวมญาติ(?)เหมือนจะไม่ใช่ มันคือวันหยุดพักผ่อนของเหล่านินจาหนุ่มทั้งหลายพวกเขาจึงมารวมตัวกันอยู่ที่บ้านและห้องนั่งเล่นของเจ้าของบ้านหัวทองคนนี้



           “ฮะ ฮะ” ซึ่งไอ้คนหัวทองร่างสูงก็ได้ร่วมเฮฮาปาตี้ไปกับเขาด้วยแต่ยกเว้ยซาสึเกะไว้คนนึงละกันเพราะเจ้าตัวกำลังนั่งอมทุกข์อยู่เพราะกำลังถูกคนตัวสูงผู้เป็นฝาละมีแกล้งอยู่



           “อึก…อือ...” ร่างบางต้องกลั้นเสียงตัวเองไว้ส่วนหน้าแดงๆของตัวเองก็รอดไปเพราะบนโต๊ะมีแอลกอร์ฮอลเพียบอ้างว่าเขาดื่มมากไปก็จบแต่เสียงร้องนี่มันแทบจะกลั้นไว้ไม่อยู่มือของอีกคนที่เล่นกับส่วนอ่อนไหวของเขาข้างล่างก็กึ่งเล่นกึ่งแกล้งกะจะทำให้ครางออกมาต่อหน้าทุกคนให้ได้เลยสินะ...



           “อึ๊ก...” ใบหน้าสวยแดงก่ำจนสังเกตเห็นได้ชัดเจนคนที่แกล้งก็ทำเป็นไม่สนใจเนียนๆเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ยังคงเฮฮาปาตี้กับเพื่อนต่อดีที่โต๊ะกันไว้อยู่ไม่งั้นความแตกแน่ๆ



           “เป็นอะไรน่ะซาสึเกะ...หน้านายแดงมาก



            “อะ...ห๊ะแดงเหรอออออ” ต้องจำใจพูดเสียงยานคางไม่งั้นเพื่อนๆคงไม่เชื่อว่าเขาเมา...ซาอิทำหน้างง



           “ซาสึเกะคุงคออ่อนขนาดนั้นเลยเหรอครับผมเห็นเพิ่งดื่มไป2แก้วเองเริ่มมึนแล้วเหรอ” แล้วเจ้าตัวก็หันไปถามนารุโตะ นารุโตะหันมองคนข้างๆและยิ้มแสยะให้ก่อนเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นจนร่างบางเกือบหลุดร้องดีที่ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองทัน



           “ก็นะ...”



           “อ้าวเป็นไรจะอ้วกเหรอ?” นารุโตะแกล้งถามร่างบางในขณะที่มือยังคงขยับช่วยหรือแกล้งร่างนั้นอยู่ “เอามือออกซะ” ก่อนเข้าไปกระซิบข้างหูอีกคนเบาๆจนคนถูกกระซิบสะดุ้ง เขามองหน้าร่างสูงก่อนส่ายหน้ารัวๆเพราะถ้าหากเอามือออกเสียงเขาคงหลุดออกไปแน่นอน



            “หึ...” นารุโตะยิ้มเจ้าเลห์ให้ก่อนขยับตัวไปใกล้ร่างบางและกระชากมือนั้นออกต่อหน้าเพื่อนทั้งหมดพร้อมทำหน้าตกใจสุดขีด “นายเป็นไรรึเปล่า? เห็นปิดปากตั้งแต่เมื่อกี๊ถ้าไม่ไหวก็ไปอ้วกในห้องน้ำนะ...เอแต่แค่มึนเองไม่ใช่เหรอ” นารุโตะพูดเองออเองเล่นเอาเพื่อน3-4คนหันมามองกันเป็นแถวด้วยความเป็นห่วงเจ้าของร่างบาง ในขณะที่นารุโตะยังคงแกล้งร่างเล็กๆนั้นต่ออย่างไม่สะทกสะท้านมือยังคงขยับส่วนอ่อนไหวของอีกร่างจนในที่สุดร่างบางก็เกือบจะเสร็จ มือข้างหนึ่งของนารุโตะยังคงจับมือของร่างบางที่ปิดปากเมื่อครู่เอาไว้ในตอนนี้คนตัวเล็กคงกลั้นเสียงไว้ไม่อยู่เมื่อการทำภารกิจ(?)ใกล้เสร็จสิ้น



           “อึ๊...อะ...อา อ๊า



      และในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยออกมาเต็มมือของอีกคน นารุโตะถอดมือออกและยกขึ้นเลียน้ำสีขาวขุ่นที่เลอะติดมือด้วยใบหน้ายิ้มๆ ร่างบางแทบจะล้มไปกองอยู่ตรงนั้นมือเล็กยึดเกาะบ่าของอีกร่างไว้ใบหน้าแดงดวงตากลมโตมองร่างสูงด้วยสายตาตำหนิแต่ก็เหนื่อยเกินพอลมหายใจหอบถี่ยังดีที่เสียงร้องเมื่อกี๊ของเขามันไม่ดังมากจึงไม่มีใครสงสัยอะไรเพื่อนๆก็ยังคงเฮฮาปาตี้กันต่อเพราะคิดว่าพวกเขาเล่นกันอยู่



           “นะ…นารุโตะ



           “ก็อุตส่าบอกแล้วแท้ๆว่าอย่ามองใครนอกจากฉัน” แต่คนที่เขามองมันคือเพื่อนของเจ้าของร่างสูงตรงหน้าเองไม่ใช่รึไงแถมไม่ได้มองไปมากกว่าเพื่อนเลยด้วย...ให้ตายเถอะแค่นี้โกรธรึไงกัน



           เจ้าบ้าเอ๊ย! อ่อนโยนให้มันนานๆหน่อยเซ่!!



    .............................................................................................................................

    อ่ะนะขอบคุณที่เม้นตอนที่แล้วให้นะค้า>.,<สุดท้ายไอ้ดตะก้ยังเหมือนเดิมคึคึ...ถึงจะใจดีขึ้นมาหน่อยก็เถอะ

    รู้สึดส่งสารซัส555 สวัสดีทุกคนด้วยนะคะ อัพอาทิตย์นี้พร้อมกัน3เรื่องเลยเฮ้ยชมตัวเอง//เรานี่ก็เก่งเหมือนกันแฮะ

    จะทำก็ทำได้นี่หว่า555//ตรูบร้าไปแล้ว...ยังไงก็ขอบคุณนะคะรักรีดเดอร์ทุกคนเลยตามเม้นให้ตลอด=w=

    ยังไงก็ก็ให้ติดตามกันจนจบนะคะ ขอบคุณจ้าวววว ไปละ

    ซียู♥
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×