คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 12 : เข้าใจผิด (ไม่มีตอนนี้ไม่ได้สินะ)
12
เข้าใจผิด(ไม่มีตอนนี้ไม่ได้สินะ)
เวลานี้มันชั่งผ่านไปไวเสียจริงๆเลยหนา เอ๊ะ! รู้สึกจะพูดไปแล้วในตอนที่แล้วนี่หวา นารุโตะนั่งมองซาสึเกะอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างไม่มีท่าว่าจะลุกออกไปไหน
“เมื่อกี๊...นายพูดว่าอะไร” ซาสึเกะที่คิดว่ายังไม่ตื่นเอ่ยขึ้นโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย นารุโตะเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร อ่าจะโดนโกรธมั้ยเนี่ย
“ขอโทษนะ...ที่ฉันทำอะไรแบบนั้นลงไปแต่นายก็มาแกล้งฉันก่อนนี่” เฮ้ย!!โตะลูกผู้ชายเขาไม่แก้ตัวกันหรอกนะเว้ย>[]< ถึงงั้นก็เหอะแต่คำพูดนี้อีกฝ่ายก็เข้าใจดีว่ามันออกมาจากใจจริง
“พวกนายจะแข่งอะไรกัน” ซาสึเกะเอ่ยถามข้อข้องใจมาตลอดอีกคนก็มองประมาณว่าโกหกไปก็ไม่ได้อะไรแล้วสินะ
“รู้มั้ย...ฉันน่ะไม่ชอบหน้าไอ้หมอนั่นเลย” เหมือนได้ยินคำพูดนี้ที่ไหนนะ?= =; “แล้วเวลาที่หมอนั่นมาทำตีสนิทนายมาใกล้ชิดนายมาแตะตัวนายฉันก็รู้สึกโมโหสุดๆ ฉันไม่ชอบเลย” คิดว่าคงได้ยินจากปากใครสักคนในบ้านนี้แหละพูดทำนองเดียวกันเป๊ะ ให้ตายเขาควรจะทำยังไงกับทั้งคู่ดีนะ แต่เอ๊ะ?มันใช่เวลามาคิดเรื่องนี้รึไงต้องหาทางหนีเดะ
“...แล้วไง ก็เลยแข่งกันเพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉันรึไง?” เห็นใบหน้าหวานเริ่มจริงจังขึ้นมานารุโตะก็ดูสลดไปชั่วครู่แต่กระนั้นแล้ว...
“ฉันจูบเก่งกว่าหมอนั่นใช่มั้ย” ก็ฮึดถามขึ้นมา เล่นเอาอีกฝ่ายทำหน้างงตามไม่ทันกันเลยทีเดียว
“ถามอะไรปัญญาอ่อน” พูดจบก็สบัดหน้าไปทางอื่นแต่ถ้าแอบสังเกตดีๆจะเห็นว่าใบหน้าสวยนั้นมีสีแดงระเรื่อฟาดอยู่
“?”
“รู้มั้ย ว่าซากุระจะกลับมาตอนไหน” ซาสึเกะหันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยถามร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ นารุโตะตีหน้างงเพราะอยู่ๆอีกคนก็เปลี่ยนเรื่องซะนี่
“อย่าเปลี่ยนเรื่องเด้!!”
“ฉันถามไม่ได้ยินรึไง!!”
“ได้ยินอยู่น่าแต่นายก็ต้องตอบคำถามฉันก่อนดิ” ซาสึเกะมีท่าทีอ่อนใจกับคนตรงหน้าไอ้นิสัยเถียงไม่เคยชนะกับหมอนี่นี่มันอะไร้! อย่างน้อยขอเปลี่ยนเรื่องคราวนี้ให้ได้หน่อยไม่ได้รึไงนะ
“เฮ้อ~อืมเก่ง…เก่งมาก!!เล่นเอาฉัน...ฮึ!” สบัดหน้าหนีมาถึงตรงนี้ก็พูดประโยคต่อไปไม่ได้!!ไม่อยากจะบอกว่าหมอนี้เล่นเอาเขาเคลิ้มจนแทบสลบเลยทีเดียวเป็นเรื่องที่น่าอับอายเป็นที่ซูดดดดดด!!!(วิบัติเพื่อเสียง)
“อะไรเหลอ?OAO”
“...เปล่า ช่างมันเถอะต่อไปนายก็ตอบฉันสักที”
“อืม…ไม่รู้อ่ะ=v=”
“…”
“…”
“…”
พอกันที!!!เขาโง่เองแหละที่ถามมันน่ะ!!แหงล่ะหมอนี่มันนารุโตะ นารุโตะนี่นา ชิ! เป็นแค่นารุโตะแท้ๆ ...อืม...สงบๆ สงบไว้ๆอย่าเพิ่งนะถ้าเพิ่งมาขาดตอนนี้ไม่งั้นได้เดี้ยงกว่าเดิมแน่นอนแถมอาจจะได้โดนมันลากกลับโคโนฮะง่ายๆด้วยแบบนั้นมันซวยเสียยิ่งกว่าซวยเพราะงั้นอย่าทำอะไรวู่วามน่า สงบๆ
“นี่…”
“…”
“ทั้งๆที่ขาก็หายแล้ว…ทำไมนายยังจะอยู่ที่นี่อีกล่ะ”
“ฉันยังมีธุระที่จะต้องทำอยู่...เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย” เขาว่าก่อนจะลุกหนีเดินออกไปข้างนอก นารุโตะมองตามและลุกตามออกไปอีกคน เขายังมียังหวังอยู่ว่าซาสึเกะจะต้องกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งยังไงก็ยังคาดหวังไว้แบบนั้นไม่เปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้เลยว่าอีกคนเขาคิดยังไงกัน...
06:25 น.
แป๊ปๆก็6โมงซะแล้วเวลาชั่งผ่านไปไวเสียจริงหนา(อย่าสนใจเลยนี่มันคำนิยมของฟิคนี้น่ะ) ซาสึเกะแวะมาดูซาโยะที่ครัวก็พบว่าเธอกำลังรื่นเริงกับการทำกับข้าวเย็นให้พวกเขาอยู่ใจส่วนหนึ่งก็อยากไปช่วยอยู่หรอกแต่มีอย่างอื่นต้องทำนี่สิเรื่องธุระสำคัญที่เขาพูดกับนารุโตะนั้นเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ข้ออ้างที่ใช้แทนว่าโดนซากุระจับตามองอยู่หรอกนะแต่เขาคงเล่นมามากพอแล้วล่ะมั้งถึงเวลาออกไปสะส่างเรื่องของเขาสักที
ซาสึเกะที่หลบอยู่หลังประตูห้องครัวเดินผละออกมาและมองดูต้นทางว่ามีใครอยู่มั้ย นารุโตะก็คงนอนเล่นอยู่ที่ห้องส่วนมิซากิป่านนี้คงกำลังพักผ่อนละมั้งก็เพิ่งฟื้นจากอาการป่วยมาแหม็บๆถ้าไม่พักอาการคงทรุดทางทุกทางปลอดภัยเหลือแต่จะออกไปยังไงนี่สิถ้าจะใช้เส้นทางเหมือนทุกทีก็คงจะต้องผ่านห้องมิซากิ ป่านนี้คงหลับแล้วมั้งเอาน่าคงปลอดภัยรึไม่ก็หนีง่ายกว่านารุโตะแหละน่า คิดได้ดังนั้นร่างบางก็มุ่งหน้าไปยังห้องมิซากิทันที ร่างบางเปิดประตูห้องของอีกฝ่ายเบาๆน่าแปลกใจที่ไม่ได้ล็อกไว้...หรือว่ายังไม่นอน
“ซาสึเกะ?” นั่นไง! ยังไม่ทันขาดคำซาสึเกะไม่ตอบแต่เดินเข้าห้องของอีกฝ่ายไป มิซากิยืนมองตามอย่างงๆเมื่อกี๊เขาแค่ลุกขึ้นไปหาน้ำดื่มเท่านั้นเพราะรู้สึกหิวแล้วนี่มันเย็นแล้วซาสึเกะยังจะออกไปไหนอีก? คิดพลางเดินตามเข้ามาและเห็นอีกคนกำลังจะกระโดดลงจากหน้าต่างห้องเขา
“เดี๋ยว!!!” มิซากิจับแขนอีกคนไว้ทัน ซาสึเกะดูเหมือนอยากจะให้ปล่อยเหลือเกินแต่มิซากิไม่ยอมปล่อยเขาเลยพยายามกระชากแขนกลับแต่มิซากิก็รั้งเอาไว้เสียแน่นไม่มีท่าทีว่าจะหลุดออกไปง่ายๆแม้แต่นิด
“ปล่อยฉัน”
“นายจะไปไหน?!!” มิซากิกดเสียงหนักๆแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เล่น นี่มันเย็นแล้วยังจะไปไหนอีกอยากจะพูดประโยคนี้ออกไปจริงๆแต่ก็พูดไม่ได้เพราะเขารู้ว่าไม่มีใครจู่โจมซาสึเกะได้ง่ายๆ
“เรื่องของฉัน” ว่าแล้วกระชากข้อมือแรงๆอีกทีเพื่อให้หลุดจากพันธนาการนี้แต่มิซากิกลับกระชากแขนซาสึเกะจนตกจากหน้าต่างล้มเข้ามาในห้องเหมือนเดิม
“อ๊ะ!!?”
…………………………………………………………………
อืม นอนอยู่ในห้องโดยไม่ทำอะไรเลยแบบนี้มันสบายจริงๆเลยแฮะ...ทำไมซาสึเกะยังไม่กลับห้องอีกนะ...หรือว่าแอบไปกินข้าวก่อนคนเดียวโดยไม่บอกเขา ให้ตายสิหมอนี่ นารุโตะลุกขึ้นจากเตียงและออกจากห้องตรงไปยังห้องอาหารที่เคยกินด้วยกัน
“…อ้าว!!?ไม่อยู่แฮะ” ว่าพลางจะเดินออกไปแต่ก็ต้องชะงักกึกเมื่อเห็นแม่บ้านที่เพิ่งยกอาหารมาให้พวกเขา
“หืม?...ซาสึเกะคุงล่ะจ๊ะ?” ซาโยะเดินเข้ามาถามพลางวางอาหารลงบนโต๊ะ นารุโตะทำหน้าอึ่งๆอ้าว...ไม่อยู่กับซาโยะ...แล้วไปไหนล่ะ
“เอ่อเดี๋ยวผมไปตามให้นะครับสงสัยหมอนั่นนอนลืมแน่เลย” แถไปๆเพื่อไม่ให้ซาโยะเป็นห่วงด้วยอีกคน
“รีบๆกินเข้าล่ะเดี๋ยวเย็นซะก่อนจะไม่อร่อย”
“ครับ^^” เมื่อได้ยินคำขานรับก็เดินออกไป นารุโตะมองตามแผ่นหลังของซาโยะจนลับตาก่อนจะเดินออกจากห้องอาหารและตรงไปยังห้องมิซากิ ถึงจะคิดเว่ายังไงซาสึเกะก็ไม่มีวันไปห้องหมอนั่นแต่ก็ดันมีอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้ไปแต่ไปก็ไม่เสียหายหรอกเนอะจะดูด้วยว่าหมอนั่นอาการเป็นไงบ้างไม่ใช่ทรุดลงหลอกนะถึงจะไม่ชอบหน้า...แต่ก็ช่วยไม่ได้
ครืด!!!!
“เฮ้ย!!แก!!!...ซา..สึเกะ” อึ่งสิครับพี่น้อง!! ภาพแรกหลังประตูที่นารุโตะเห็นคือซาสึเกะนั่งคร่อมมิซากิอยู่แล้วหน้าแดงแปร๊ดแล้วมิซากิที่อยู่ข้างใต้นั่นก็เอาแขนโอบเอวซาสึเกะเอาไว้หลวมๆใบหน้าดูอึ่งพอๆกับเขาแถมออกแดงๆอีกแน่ะนี่มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่กันครับพี่น้อง!!!
“นารุโตะ…มะ ไม่ใช่นะ” อ๋อเหรอ!! เข้าใจแล้ว...นายเลือกหมอนั่นสินะ ฮึ! โอเคฉันมันโง่เองแหละขอบใจสำหรับทุกอย่างนะ นารุโตะคิดลอยใบหน้าเรียบนิ่ง กำมือแน่นอย่างเจ็บใจยิ่งกว่าอะไรคงไม่มีใครทำให้เขาเจ็บเท่าหมอนี่อีกแล้วสินะ
“เข้าใจล่ะ นายเลือกหมอนั่นสินะ”
“เดี๋ยวสิเจ้าบ้า!! ฟัง...”
“โอเค ฉันจะไม่มาขวางพวกนายอีกก็แค่จะมาบอกว่าข้าวทำเสร็จแล้ว...โทษทีนะ” ทิ้งคำพูดสุดท้ายแล้วก็เดินจากไป โทษทีนะ เหรอ....โทษทีนะบ้าอะไรกัน!!ไม่ฟังคนอื่นเขาพูดก่อนแล้วหนีไปหน้าด้านๆเนี่ยนะ บ้าชะมัด...ทำไม? ทำไมกัน!! ทำไมเขาต้องรู้สึกหวั่นไหวกับหมอนั่นขนาดนั้น แล้วทำไมต้องหงุดหงิดเวลาหมอนั่นโกรธด้วย!!! ทำไมกันนะ ร่างบางก้มหน้าลงต่ำเนื้อตัวสั่นเทิ้มมือเล็กๆกำแน่น อยากจะกลั่นเอาไว้...
“?” มิซากิยกมือขึ้นลูบใบหน้าเรียวของร่างเล็กก่อนจะลุกขึ้นมานั่งสบตากับร่างนั้น
“นาย...ชอบหมอนั่นรึเปล่า”
“ฉันจะไปชอบหมอนั่นได้ยังไงกันเล่า!!” ซาสึเกะตรอกกลับ
“งั้นบอกมาซิว่าตอนนี้รู้สึกยังไง”
“เรื่องของฉัน!!!” เล่นเอามิซากิถอนหายใจ ‘ดื้อ’ มันคือคำเดียวที่เขาคิดออกตอนนี้
“เอาน่าๆบอกมาเถอะ คิดซะว่าฉันเป็นพี่นายอีกคนแล้วกัน” มิซากิว่าพลางขยับหน้าเข้าไปใกล้กับซาสึเกะ
“...”
“บอกนะ” ไม่มีคำพูดใดๆอยากมาจากปากจนกระทั่งซาสึเกะพยักหน้าเบาๆและเริ่มบอกไปทีละขั้นด้วยเสียงเบาๆนั้นและได้ใจความในตอนนี้สั้นๆว่าเจ้าตัวเขาเริ่มจะหวั่นไหวกับนารุโตะในหลายๆเรื่องที่ผ่านมาแถมยังรู้สึกเป็นห่วงมากกว่าคนอื่นๆ...เท่านี้ก็พอจะเดาได้บางส่วนแล้วล่ะนะ มิซากิประคองใบหน้าของซาสึเกะขึ้นสบตาก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ซาสึเกะ…นายอยากจะให้หมอนั่นโกรธต่อไปแบบนี้รึไง”
“ก็ดีแล้วนี่มันจะได้เลิกยุ่งกับฉัน”
“มันจะแน่เร้อ~”
“หมายความว่าไง…อีกอย่างหมอนั่นเลิกยุ่งกับฉันนายน่าจะดีใจนี่”
“ฉันไม่ดีใจหรอกนะ...ฉันแค่ลองใจหมอนั่นเท่านั้นแหละ”
“ลองใจ?”
“ก็ถ้านายที่เป็นเหมือนน้องชายของฉันโดนหลอกขึ้นมาก็คงจะเสียใจไม่น้อยเลยสินะ ยิ่งตระกูลอุจิวะแล้วยิ่งเป็นพวกรักเดียวใจเดียวด้วยนี่สิ”
“อะไร?แล้วทำไมนายจะต้องบอกฉันเป็นทำนองเดียวกับนารุโตะด้วย”
“ถ้าไม่หลอกพวกเดียวกันก่อนการจะหลอกให้คนอื่นตายใจมันก็เป็นเรื่องยากนา”
“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง”
“เออๆ ช่างมันเถอะแต่เรื่องที่ฉันไม่อยากให้นายเสียใจน่ะ...เป็นเรื่องจริงนะ” มิซากิแสดงสีหน้าจริงจัง ใช่ เรื่องนี้เขาก็รู้ดีแต่...ไม่อยากจะให้ใครเข้ามายุ่งเรื่องของตัวเองอีกแล้ว “เป็นแบบนี้ทุกที...ชอบแบกภาระไว้กับตัวเองตลอด!!” ราวกับอ่านใจได้มิซากิก็เอ่ยขึ้น
“เอ๋?”
“แบ่งมาให้ฉันบ้างก็ได้” มีสีหน้าตกใจนิดหน่อยแต่กลับก้มหน้าลงต่ำเหมือนเดิม ภาระของเขาไม่ใช่ว่าใครจะมารับไปได้มันหนักเกินไปสำหรับ มิซากิ.... “เรื่องของนายน่ะช่างมันเถอะไปหานารุโตะแล้วอธิบายให้หมอนั่นฟังซะ”
“ไม่เอา”
“?”
“ฉันบอกไปแล้วไง ว่าไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งเรื่องของฉัน”
“นายมีปัญหาอะไรกับทางหมู่บ้านรึไง”
“เอ๊ะ?”
“มีสินะ”
“อึก...เจ็บ มิซากิ” อยู่ๆมิซากิก็กระชากตัวเขาเพื่อเค่นถามเหตุผลไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงพูดเรื่องนี้แต่ทำไมมิซากิถึงได้ “นายไปทำอะไรไว้!!”
“...” ซาสึเกะเบือนหน้าหนีแล้วก็ต้องร้องออกมาเบาๆเพราะมิซากิบีบแขนเขาแรงขึ้น
“บอกฉันสิ!!”
“ฉัน...เจ็บ!!ปล่อยก่อนได้มั้ย” ซาสึเกะบอกถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ปริปากพูดแบบนี้แน่แต่เพราะเป็นคนสนิทและวางใจที่สุดอย่างมิซากิเลยเผลอ มิซากิผ่อนแรงลงและเอ่ยถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนกว่าเดิม
“นายทำไมถึง”
“ตอนนั้นแค่คิดว่าอยากได้พลังที่จะแก้แค้นอิทาจิ...แล้วหลังจากนั้นก็รู้ว่าหมู่บ้านทำยังไงกับตระกูลฉัน...ฉันเกลียด”
“ซาสึเกะ”
“?”
“นายก็ไม่ได้เกลียดทุกคนซะหน่อยนี่นะ...ไปหานารุโตะเถอะ” มิซากิว่าพลางฉุดซาสึเกะให้ลุกขึ้นและพาเดินไปยังห้องอาหารที่คาดว่าโตะคงนั่งรับประทานอาหารอยู่ละมั้ง มิซากิผลักซาสึเกะเข้าไปและเดินผละออกไปทันที
“นะ...นารุโตะ” ซาสึเกะพึมพำเบาๆ พลางเหลือบมองอีกร่างที่นั่งกินอาการอย่างเงียบๆ นารุโตะเหลือบมองซาสึเกะและหันกลับมาสนอาหารอีกครั้งทำไมล่ะ...ทำไมเขาต้องสนซาสึเกะด้วยล่ะ “นี่”
“….” เงียบ สถานการณ์ตรึงเครียดทำไมเขาต้องมาง้อหมอนี่ด้วยนะไม่กล้าแม้แต่ขยับเข้าไปใกล้ อยากจะเดินหนีไปซะจริงๆแต่ก็ไม่กล้าอยู่ดีนั่นแหละมันจะเป็นไปไม่ได้เลยใช่มั้ยห๊ะที่จะไม่มีตอนนี้เนี่ยฟิคทุกเรื่องเลย ให้ตายสิแต่ที่แย่ที่สุดคือทำไมเขาต้องเป็นฝ่ายง้อกันเล่า
“หยุดกินแล้วฟังฉันก่อนสิเจ้าโง่!!” ความอดทนต่ำจริงๆเลยให้ตาย นารุโตะชะงักและหันมองด้วยใบหน้าเรียบนิ่งคงจะโกรธเข้าจริงๆ คนโกรธแล้วเงียบนี่น่ากลัวชะมัดแต่เอ๊ะเขาก็เป็นนี่หว่าแต่สำหรับหมอนี่เขาไม่เคยเห็นมันโกรธขนาดนี้มาก่อนเลยแฮะ นารุโตะลุกเดินเข้ามาใกล้ๆและประคองใบหน้าซาสึเกะเข้ามาใกล้ๆก่อนจะประกบจูบแน่นๆพร้อมกับสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานส่งความรู้สึกที่น่าอึดอัด คิดถึง โหยหา ห่วง โกรธ ไปให้อีกฝ่ายรับรู้มันเป็นจูบที่อ่อนโยนและหอมหวานจริงๆ นารุโตะถอนปากออกและสบตากับร่างบางที่ตอนนี้ใบหน้านั่นแดงเรื่ออย่างช่วยไม่ได้
“เด็กชะมัด” พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ก็รู้สึกอบอุ่นไม่รู้สึกว่าจะเกลียดเขาเลยสักนิด
“ขอโทษนะ” พูดจบก็เบือนหน้าหนี
“อืม” นารุโตะครางตอบเบาๆ
.........................................................................................................................
สวัสดีทุกๆคนด้วยนะคะมาพบกันเราอีกครั้งวันนี้รู้สึกจะเขียนเพลินไปหน่อย
เล่นซะเยอะเอิ่มผิดพลาดประการใดขอโทษนะเออรู้สึกมันเงียบๆ....
แต่ก็ช่างมันเต๊อะ
คิดจะแถมภาพทุกตอนเลยรึไงเอ็ง= =
แหมๆก็นะ เจอกันใหม่นะคะ ซียู♥
อัพเดตเมื่อ 25 มีนาคม 2556
ความคิดเห็น