ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto NaruSasu] Sadistic Love นายหนีฉันไม่ได้หรอก!!

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 12 : ไปหรือไม่ไปดีนะ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 56


    12

     

     

    ไปหรือไม่ไปดีนะ


     
     

      กาอาระพาซาสึเกะไปยังบ้านพักของตนที่ซึนาเดะจองไว้ให้มันไม่ใช่โรงแรมแต่เป็นบ้านขนาดกลางข้างนอกมีนินจาจากหน่วยลับของโคโนฮะและซึนะยืนจังก้าปั้นหน้าโหดเฝ้าตรวจการอยู่เกือบสิบคน ระหว่างที่กาอาระกำลังพาซาสึเกะเข้าบ้านร่างบางก็เผลอมองกับชาย4-5คนหน้าประตูเขาเข้าใจว่าชีวิตของคาเสะคาเงะมันสำคัญมากแต่จัดยามเฝ้าเยอะไปหรือเปล่าอย่างน้อยก็น่าจะให้เวลาส่วนตัว...เอาเถอะยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของเขานี่นา ซาสึเกะเมินพวกนั้นและเดินตามแรงดึงของกาอาระที่ไม่ได้รุนแรงเหมือนนารุโตะ ดวงตาสีดำจ้องมองไปยังมือหนาสีขาวของอีกฝ่ายที่กุมมือของเขาด้วยสายตานิ่งเรียบ...



           “ปล่อยซาสึเกะซะ!!”



      เสียงตะโกนลั่นตามไล่หลังมาเรียกให้คนแถวนั้นเอี้ยวคอหันมองกันแทบจะในทันทีรวมทั้งกาอาระและซาสึเกะด้วย นารุโตะวิ่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ากาอาระพร้อมกับเหล่านินจาซึนะที่ต่างก็วิ่งเข้ามากันร่างนารุโตะไว้ทันทีตามหน้าที่



      นารุโตะไม่ได้ขัดขืนเขายืนอยู่นิ่งๆและมองไปที่กาอาระด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองใบหน้าที่ไม่ได้แสดงถึงอารมณ์ร้อนใจหากแต่ข้างในหัวกลับโกรธและร้อนใจเป็นที่สุดเขาเบนไปสนใจร่างบางที่มองเขากลับด้วยหน้าที่สื่ออย่างชัดเจนว่าไม่เข้าใจ กาอาระก้มหน้ากระซิบอะไรสักอย่างกับซาสึเกะก่อนเจ้าของร่างบางจะพยักหน้าและค่อยๆเดินถอยไปหลบอยู่ด้านหลังกาอาระ



           “ฉันแค่จะคุยกับเขาเฉยๆและต้องการความเป็นส่วนตัว” อีกฝ่ายบอกเหตุผลและยกมือขึ้นมากอดอกเพ่งมองไปยังอีกคนที่เริ่มแสดงสีหน้าชัดขึ้น



           “ทำไมต้องมีลับลมคนในขนาดนั้น”



           “มันไม่ใช่เรื่องของนายนี่” กาอาระตอบกลับซึ่งมันได้กระตุ้นอารมณ์ของนารุโตะให้เดือดพุ่งพร่านมากกว่าเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วสองหนุ่มที่ส่วนสูงใกล้เคียงกันใบหน้าสวยไม่แพ้กันพละกำลังก็เยอะพอๆกันเหลือแต่ความใจเย็นที่รอว่าใครจะลดลงและหมดไปก่อนกันทั้งคู่จ้องตากันคล้ายจะสื่อถึงการเป็นศัตรูต่อกันตำแหน่งที่อีกคนกำลังจะได้ครอบครองและตำแหน่งที่อีกคนได้มาแล้วต่างกันเพียงแค่เวลา



      ท้องฟ้ามืดคลึมลงเรื่อยๆสายฟ้าแล็บแปร๊บเป็นสัญญาณว่าหยาดเม็ดฝนกำลังจะตกลงมาสู่เบื้องล่างในไม่ช้าแต่ทั้งเสียงร้องของฟ้าหรือแสงที่แล็บแปร๊บไม่สามารถเรียกความสนใจจากทั้งคู่ได้แม้แต่นิด ซาสึเกะแหงนหน้ามองบนฟ้าและมองกลับไปยังทั้งสองคนที่มองตากันไม่กระพริบ



      หยาดเม็ดฝนก็โปรยปลายลงมาที่ละนิดจนในที่สุดสายฝนก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้านเด็กเล็กและชาวบ้านต่างวิ่งวุ่นชุลมุนเพื่อหาที่หลบฝนสายฝนนี้หาใช่เบามันทั้งแรงและกระหน่ำซัดลงมาราวกับพายุเปรียบเหมือนอารมณ์ของใครบ้างคนที่แทบจะระเบิดอยู่ร่อมร่อ ซาสึเกะมองทั้งคู่อยู่นานท่ามกลางสายฝนที่สาดซัดลงมาจนรู้สึกเจ็บแสบ เม็ดฝนไหลลู่ลงตามผิวหน้าของร่างสูงทั้งสองเส้นผมลู่ลงแนบกับใบหน้าดวงตาสีฟ้าและสีเขียวมรกตก็ยังคงจ้องท้ากันอย่างไม่ใครยอมใคร



      ร่างบางยกมือขึ้นกอดร่างตัวเองเพราะความรู้สึกที่หนาวเหน็บมันโจมตีเข้ามาใบหน้าหวานเรียบนิ่งเหมือนเคยภายในหัวตั้งคำถามถามตัวเองวนซ้ำๆว่า ตัวเขากำลังทำอะไรอยู่... ทำแบบนี้มันมีแต่จะทำให้อีกร่างที่อยู่ตรงหน้าโกรธก็เท่านั้น...อันที่จริงเขาน่าจะปฎิเสธเสียด้วยซ้ำ...



           “...



           “…”



           “พวกนายสองคน...จะจ้องกันไปถึงไหน” เสียงเล็กๆเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากบางใบหน้าหวานก้มลงต่ำสองมือกำแน่นเรียกความสนใจจากทั้งคู่ได้มากพอสมควรกาอาระหันกลับไปหาร่างบางก่อนจะบอกให้เข้าไปข้างในก่อนโดยไม่วายหันมองร่างสูงอีกคนที่ยืนก้มหน้าแต่สายตายังคงจ้องมาที่เขา



           “ฉันไม่ยอมยกให้นายหรอกนะ” นารุโตะว่าเบาๆแต่มันก็ดังพอที่กาอาระจะได้ยินเจ้าตัวยังคงมองนารุโตะท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาเสียงที่ดังซู่ซ่าในทุกๆวินาที



           “ฮึ” ทุกอย่างมันน่ารำคาญพออยู่แล้วเพียงเสียงเดียวของอีกคนที่หันกลับไปและเดินตามร่างบางเข้าไปข้างในเขาก็แทบจะวิ่งเข้าไปซัดให้รู้แล้วรู้รอดหากแต่ถ้าเขาทำแบบนั้นทุกอย่างก็ศูนย์เปล่า...



           “หะ...หัวหน้า” เหล่าลูกน้องที่ได้รับคำสั่งให้มาคอยเฝ้าดูที่นี่ก็ต่างเดินเข้ามาหาหัวหน้าของตนด้วยความเป็นห่วง นารุโตะจ้องมองบานประตูที่ค่อยๆปิดลงจนมันปิดสนิทสักพักเขาก็หันหลังเดินกลับไปยังเส้นทางเดิมโดยไม่สนสายตาที่ส่งความเป็นห่วงในเรื่องต่างๆของลูกน้องแม้แต่นิด นารุโตะเดินตากฝนกลับไปที่บ้านระหว่างทางเขาเดินสวนกับฮินาตะและคิบะ



           “อ้าวนารุโตะ...คุง...” เขาเดินผ่านเธอไปราวกับเห็นเธอเป็นเพียงอากาศธาตุดวงตาสีขาวราวมุกมองตามแผ่นหลังของเด็กหนุ่มไปด้วยความเป็นห่วงก่อนโดนคิบะฉุดให้รีบเดินออกห่างๆทำให้เธอสงสัยไม่น้อย

          

           “ดะ...เดี๋ยวคิบะคุง”



           “หมอนั่นกำลังโมโห...ตอนนี้อย่าไปยุ่งด้วยจะดีกว่านะ ฮินาตะ” เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงจริงจังผิดปกติเธอจึงยอมก้มหน้าเชื่อแต่ก็ไม่วายหันกลับไปมองร่างสูงที่เดินไปไกลด้วยความกังวนใจอยู่ดี



    ...................................................................................................................................



      หยดน้ำไหลลู่ลงบนหน้าต่างท่ามกลางสายตาของสาวทั้งสองคนที่มองจากห้องโฮคาเงะ ซากุระรู้สึกกังวนใจตั้งแต่เมื่อกี๊ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้สาเหตุว่ามันเป็นเพราะอะไรแต่ภายในใจมันร้อนรุ่มและสังหรณ์ใจไม่ดีสุดๆกลัวและเป็นห่วงอดีตเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคนเหลือเกิน...



      และซึนาเดะเธออ่านใจและดูสีหน้าของศิษย์ออกใบหน้าที่หมองมนคิ้วที่ขมวดเข้าหากันดวงตาเหม่อลอยเธอถอนหายใจและเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ก่อนเอ่ยขึ้นพอให้ได้ยินกันแค่สองคน



           “ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเขานักหรอกน่า...”



           “แต่ซาสึเกะคุง...เป็นคนที่อ่อนไหวง่ายนี่คะ โดนหว่านล้อมนิดเดียวก็ไปแล้ว



           “ถ้าไปกับกาอาระก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายเลยนี่นา” ซึนาเดะตอบทำให้ซากุระหันมามองครูด้วยสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก



           “ถ้านารุโตะเกิดบ้าไม่สนตำแหน่งแล้วไปถล่มแคว้นทรายขึ้นมาล่ะคะมันกลายเป็นสงครามระหว่างหมู่บ้านไปนะ คาเสะคาเงะก็เป็นบุคคลสำคัญกับหมู่บ้านเราเหมือนกันนะคะ ขาดกำลังพันธมิตรไปล่ะก็เราจะเสียกำลังคนไปเท่าหนึ่งเลยนะคะ!” ซากุระว่าเป็นงานเป็นการใหญ่ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เธอว่าซึนาเดะขมวดคิ้วก่อนจะยกนิ้วขึ้นมากัด



           “ไม่หรอก...ยังไงก็แค่ชั่วคราวถ้าหมอนั่นฉลาดพอ...ได้เป็นโฮคาเงะและครองอำนาจทั้งหมดซาสึเกะกลับมาที่หมู่บ้านนารุโตะได้เป็นโฮคาเงะคราวนี้ก็ไม่ต้องถูกกักตัวแถมเรายังได้จับตาดูได้ง่ายขึ้น...เท่ากับยิงนัดเดียวได้นกสองตัวเชียวนะ”



           “หนูไม่เข้าใจ”


           “เอาเถอะยังไงก็ต้องคอยดูไปก่อนยังไงก็เหลือเวลาอีกตั้ง2วัน



           “เวลาแค่นั้น...”



           “ถ้าซาสึเกะห้ามนารุโตะและหลอกล่อเจ้านั่นได้และไปทำงานที่ซึนะชั่วคราวจนกว่าเทมาริจะคลอดและออกจากโรงพยาบาลพักฟื้นจนพอทำงานต่อได้ระหว่างนั้นนารุโตะก็ไม่ยึดติดกับใครนอกจากซาสึเกะและพยายามดันตัวเองให้สูงขึ้นพอได้ตำแหน่งและครองคนทั้งหมู่บ้านซาสึเกะกลับมาทุกอย่างก็น่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะ



           “แล้วบุคลิกของนารุโตะที่เปลี่ยนไปละคะ



           “เรื่องนั้นต้องค่อยๆแก้



           “ถ้างั้น...ให้ซาสึเกะคุงอยู่ที่นี่และทำให้นารุโตะกลับมาเหมือนเดิมก่อนน่าจะดีกว่านี่คะ



           “เวลาไม่มีแล้วซากุระคนทางโน้นก็ยุ่งไม่แพ้ทางนี้” ซึนาเดะว่าพลางจ้องตาเด็กสาวสื่อให้รู้ว่าเธอเองก็กังวนไม่น้อยไปกว่าเธอ ซากุระเงียบลงสองมือกุมอยู่ระหว่างอกก่อนจะเบิกตาโต



           “ท่านซึนาเดะคะ” เธอเอ่ยเรียกอาจารย์อีกครั้งซึนาเดะมองหน้าเป็นเชิงถามเธอจึงกล่าวต่อด้วยสายตามุ่งมั่น “หนูว่ายังมีอีกคนที่พอจะไปแทนซาสึเกะคุงได้อยู่นะคะ” ซึนาเดะขมวดคิ้วมองหน้าซากุระอย่างสงสัย



    ....................................................................................................................



       ณ ห้องกาอาระ

     

          “ได้มั้ย?” กาอาระถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจกลัวร่างบางไม่ได้ยิน ซาสึเกะช็อคยิ่งกว่าเดิมกาอาระขอให้เขาไปช่วยงานก็ช็อคพอแล้วแต่เรื่องนี้มันเหนือการคาดหมาย
     


          “ฉัน...”



        “นายลังเลอยู่...งั้นเหรอ?” กาอาระถามขึ้นอีกครั้งมือหนาบีบไหล่บางเบาๆและออกแรงพลักร่างบางให้ล้มลงไปนั่งบนเตียงซึ่งร่างบางก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร



           “…”



         “ให้ฉันช่วยมั้ยล่ะ...นายจะได้แน่ใจขึ้น...” กาอาระกระซิบข้างหูซาสึเกะเสียงแหบทุ้มเล่นเอาร่างบางสะดุ้งนิดๆ ดวงตาสีดำกรอกมองหน้าคนที่ยืนคล้ำหัวก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้นสองมือกุมกันแน่นอย่างใช้ความคิด



       “ฉันไม่รู้...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเบาๆราวกระซิบถึงจะเบายังไงก็ไม่พ้นหูคนตรงหน้าอยู่ดีกาอาระมองร่างบางด้วยสายตานิ่งเรียบเขาย่อตัวลงนั่งตรงหน้าซาสึเกะก่อนจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าขาวสวยนั้นเบาๆและเชยคางร่างบางขึ้นสบตาซาสึเกะตกใจนิดๆแต่ก็ไม่แสดงท่าทีอะไรเขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวมรกตของชายตรงหน้าก่อนคนข้างหน้าจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เขาร่างบางมิอาจละสายตาจากกาอาระได้แม้แต่น้อยจะหันหนีพลันร่างกายก็ไม่ยอมตอบสนองได้แต่รับจูบเบาๆของกาอาระเท่านั้น



    ทั้งคู่จูบกันนัวเนียซึ่งมีกาอาระเป็นฝ่ายเริ่มก่อนและค่อยๆกดร่างอีกคนลงบนเตียงแผ่นหลังบางแนบลงกับฟูกนุ่มๆโดยแรงกดของอีกคนซาสึเกะปรือตามองกาอาระที่คร่อมอยู่บนร่างก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งเมื่อจูบนี้เริ่มรุนแรงขึ้นและเริ่มหายใจไม่ออก กาอาระลืมตามองดูร่างบางที่เริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ มือหนาค่อยๆสอดเข้าไปในสาบเสื้อลูบไล้แผ่นหลังและแผ่นอกของอีกคนเพื่อปลุกเล้าอารมณ์ให้ก่อนจะวนบีบและบดขยี้ยอดอกของอีกฝ่ายอย่างมันส์มือและคอยมองดูอาการของร่างบางไปพลางเขาถอนปากออกและเลื่อนลงมาเลียซอกคอของอีกฝ่ายลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าอกเรียวลิ้นโรมเลียยอดอกของอีกคนเบาๆก่อนเข้าครอบครองมันมืออีกข้างก็คอยบีบและบดดขยี้ยอดอกอีกข้างที่เริ่มแข็งเป็นไต...





      ภายในห้องที่เต็มไปด้วยเสียงครางและเสียงเนื้อกระทบกันแรงๆกลิ่นหอมหวานจากกายร่างเล็กและเรือนร่างที่เต็มไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นใบหน้าแดงเรื่อจากความราคะสภาพเปือยเปล่ามันช่างยั่วยวนเชิญชวนให้เสือหนุ่มกระโจนเข้าไปหาอีกรอบเสียจริงหากแต่ชื่อที่เล็ดลอดออกจากริมฝีปากของร่างเล็กกลับไม่ใช่ชื่อของเขาแสดงให้เห็นว่าคนที่ครอบครองร่างเล็กได้ไม่ใช่เขา...



           “นา...นา..รุโตะ อา”



      เสียงแผ่วเบาราวกระซิบหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บปวดถึงขั้วหัวใจร่างบางๆซุกหน้าเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่ายและค่อยๆหลับไป



    กาอาระมองหน้าคนที่อยู่ในอ้อมกอดและโอบรัดร่างนั้นเอาไว้แน่นกว่าเดิมเขารู้สึกเจ็บปวดแต่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้มือหนาลูบผมนุ่มของร่างบางเบาๆยังคงได้กลิ่นหอมจากร่างบางอยู่นิดหน่อย...



           “นายน่าจะรู้ได้แล้วนะ...ว่าใครสำคัญกับนายที่สุด...”



     

      13:34 น.

     



      เปลือกตาบางค่อยๆเปิดขึ้นและมองไปรอบตัวร่างกายของเขายังคงนอนอยู่ที่บ้านของกาอาระซาสึเกะค่อยๆลุกขึ้นและมองข้างๆตัวเองพบว่ากาอาระไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วแต่ที่โต๊ะหัวเตียงกลับพบโน๊ตกับชามข้าวที่มีอาหารอยูเต็มชามมันก็คือราเม็งนั่นเองร่างบางมุ่ยหน้าและเริ่มมองสำรวจร่างกายตัวเองเสื้อของเขามันเปลื้อนไปหมดแล้วและถูกถอดออกหมดแต่ที่พื้นมันไม่มีเดาว่ากาอาระคงเอาไปซักให้และเสื้อที่เขาสวมอยู่นี่มันคงไม่พ้นของใครบางคนในบ้านนี้แต่นอนแล้วทำไมถึงให้เขาใส่เชิตตัวเดียวแบบนี้ด้วย?ถึงจะตัวใหญ่ก็เถอะ...แต่มันนางเอกไปไหม!!



      ซาสึเกะถอนหายใจและมองไปยังเจ้าถ้วยราเม็งที่อยู่โต๊ะหัวเตียงกับกระดาษโน๊ตที่มีรอยปากกาที่เขียนด้วยลายมือเขาตัดสินใจเลือกหยิบกระดาษโน๊ตนั้นมาอ่านดูก่อน

     

    ฉันออกไปข้างนอกตื่นมานายคงหิวฉันไม่รู้ว่านายชอบอะไรเอาของง่ายๆกินไปก่อนแล้วกัน

    เสื้อผ้ายังไม่แห้งดีนายใส่เสื้อฉันไปก่อนแล้วกันส่วนกางเกง

    ฉันเลือกให้ไม่ถูกหาใส่เอาเองในตู้แล้วกัน

    แล้วถ้าจะกลับก็กลับเลยนะไม่ต้องรอฉันก็ได้เรื่องที่จะคุยก็คุยไปแล้ว

     ปล.ทำถึงขนาดนี้นายน่าจะรู้ตัวได้แล้วนะ

    “Gaara”



      บางทีเขาก็คิดว่าเจ้าของลายมือนี้พูดมากเกินไปหรือเปล่าแต่ก็เอาเถอะ ซาสึเกะหยิบถ้วยราเม็งมานั่งซดกินอย่างไม่อายใครก็เขาอยู่ในห้องนี้คนเดียวนี่หว่าและเมื่อนั่งกินไปนานกว่า10นาทีเขาถึงไปลุกขึ้นและเข้าไปในห้องน้ำทำความสะอาดร่างกายและมองดูตัวเองในกระจก กาอาระไม่ได้ทำรอยเอาไว้เขารู้สึกผิดนิดๆที่เรียกชื่อนารุโตะออกมาระหว่างที่กอดกับกาอาระแต่เจ้าตัวก็เสนอจะช่วยเขาเองมันช่วยไม่ได้และวันนี้เป็นวันที่เขาเหนื่อยที่สุดเลยให้ตายสิ



      ร่างบางออกมาจากห้องน้ำและเปิดตู้หากางเกงใส่เขาเลือกเอากางเกงขา3ส่วนสีดำออกมาถึงจะตัดและไม่เข้ากับเชิตสีขาวที่ใส่อยู่ตอนนี้ก็เถอะ เมื่อใส่และทำธุระอะไรเสร็จแล้วเขาก็มองเจ้ากระดาษโน๊ตนั่นสักพักและถอนหายใจก่อนเดินไปหยิบปากกาและขีดๆเขียนๆลงอีกหน้าของกระดาษและมองออกนอกหน้าต่างฝนก็หยุดตกแล้วด้วย...ก่อนเดินออกจากห้องมุ่งหน้ากลับบ้าน...



    ขอโทษ...

    “Sasuke”



      ร่างบางหยุดยืนอยู่หน้าบ้านเขามองกรอนประตูอยู่ครู่หนึ่งอย่างหนึ่งที่ทำให้เขารู้ว่านารุโตะกลับมาก่อนและคงนั่งรอเขาอยู่ข้างในแน่ๆและบ้านไม่ล็อคสิ่งต่อไปที่เขาจะเจอคงเป็นแรงโทศะและเสียงตะคอกของนารุโตะเป็นแน่จะว่าไปนารุโตะจะกินอะไรบ้างหรือยังนะ...ทำไมเขาต้องเป็นห่วงหมอนั่นด้วยนะ...เป็นแบบนี้ทุกทีเลยให้ตายเถอะ



           แกร๊ก!



      ลูกบิดถูกบิดประตูเปิดออกพร้อมร่างบางที่ก้าวเข้าไปในตัวบ้านร่างบางเลือกที่จะเขาไปในห้องนั่งเล่นก่อนแต่ก็ไม่พบร่างสูงแม้แต่เงาบ้านเงียบจนเขาได้ยินเสียงน้ำหยดจากในห้องน้ำดังติ๊งๆเป็นระยะๆ ซาสึเกะเข้าไปอีกห้องซึ่งก็คือห้องที่ติดกับห้องนั่งเล่นที่นารุโตะเคยล็อคเอาไว้แต่ตอนนี้มันไม่ได้ล็อคเปิดเข้าไปก็เจอแต่ห้องเปล่าๆเขาเดินกลับออกมาอีกครั้งและตรงไปยังห้องของเจ้าของบ้านอย่างไม่ลังเล



           ปึง!



      และเมื่อเปิดเข้าไปก็พบเพียงเตียงนอนกับหมอนผ้าห่มที่พับไว้เรียบร้อยกับโต๊ะทำงาน...แค่นั้นไม่มีวี่แววของร่างสูงเลยสักนิดคราวนี้ร่างบางตรงไปที่ห้องสุดท้ายทันทีเพราะเหลืออยู่เพียงที่เดียวนารุโตะน่าจะอยู่และคงนั่งรอเขาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวเป็นแน่แท้!



           ปึง!!



      และเมื่อเปิดเข้ามาทุกอย่างมันยิ่งทำให้เขาร้อนใจห้องนี้ไม่มีอะไรซาสึเกะลองเข้าไปดูในห้องน้ำแต่ก็ไม่พบร่างสูงเลยเขาดินมานั่งหน้าเครียดอยู่บนเตียงนอนตัวเองก่อนทุกอย่างจะเงียบลงอีกครั้งเสียงลมพัดเข้ามา...



           เสียงลม?



      ในบ้านนี้ที่เขาเข้าไปค้นทุกห้องยังไม่เห็นห้องไหนเปิดหน้าต่างไว้สักบานร่างบางลุกขึ้นยืนและเดินให้เสียงเบาที่สุดตามลมเย็นๆที่พัดเข้ามาในตัวบ้านและเขาก็พบว่าต้นเหตุของลมมันพัดมาจากห้องว่างๆที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นซาสึเกะเดินเข้าไปในห้องนั้นประตูห้องปิดลงเขาเดินสำรวจดูในห้องและพยายามจับทิศทางของลมว่ามันมาจากทางไหน



           ทางซ้าย...



      เมื่อมองไปก็เห็นกำแพงสีขาวเปล่าๆไม่มีอะไรร่างบางเดินไปดูใกล้ๆก็ยังไม่พบอะไรเขาจึงแนบหูเข้าไปที่กำแพงฟังเสียงดูก่อนจะยกมือขึ้นเคาะไปเรื่อยๆหาเสียงที่ดังก้องที่สุดและเมื่อเจอจุดที่เสียงก้องที่สุดจากซ้ายมือสุดและมุมอับของห้องเขาก็ค่อยๆดันกำแพงนั้นออกเบาๆจนกระทั่งมันเปิดออกที่ห้องนี้ไม่มีอะไรแต่หากมันเป็นทางผ่านของห้องลับสิ่งที่เขาสงสัยมานานตั้งแต่เข้ามาในบ้านนี้คือห้องที่ดูจากภายนอกใหญ่สุดๆแต่พอเข้ามากลับเล็กงั้นกำแพงที่ต่อไปอีก4ตารางวานั่นมันอะไรกันถึงจะดูแคบก็เถอะแต่เพราะมันมีต่ออีกห้องนี่เองสินะแท้จริงมันมีสองห้องแต่มีประตูเข้าจากข้างนอกแค่หนึ่งบ้านอีกหนึ่งบ้านอยู่ในห้องที่ติดกันนี่เอง



    ร่างบางเดินเข้าไปในห้องก็พบร่างสูงกำลังนอนหมอบฟุบอยู่บนโต๊ะอบขาแอบคิดว่ามันจะรวยไปไหนมีโต๊ะอบขาตั้งสองตัวและบานหน้าต่างที่รับลมเข้ามาในห้องแต่ยังไงลมก็ไม่น่าจะเล็ดลอดออกมาจากห้องนี้ได้นี่นาเพราะบานประตูปิดสนิทซาสึเกะเหลี่ยวไปมองบานประตูอีกครั้งก็พบว่ามันเปิดอ้าอยู่และในห้องนี้มียันต์เต็มไปหมด



           คาถาลวงตา?



      มันคือคาถาลวงตาแต่เขากลับสัมพัสมันได้ซาสึเกะขมวดคิ้วคิดอีกครั้ง



           “คาถาลวงกาย” ร่างสูงที่คิดว่าหลับไปแล้วจู่ๆก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงียสุดขีด



           “ลวงกายบ้าอะไรของนาย?”



           “ไม่เคยได้ยินเหรอ? ก็ไม่แปลกอ่ะมันเป็นคาถาที่ฉันคิดขึ้นจากผลึกมองจากข้างในจะเห็นประตูเปิดอยู่ซึ่งมันคือความจริงแต่ถ้ามองจากข้างนอกจะเห็นมันปิดและพอดันเข้ามาก็เข้ามาในห้องนี้ได้และพออยู่ในห้องนี้คาถานี้ก็จะคลายทันที



           “แล้วยันต์พวกนี้ล่ะ”



           “เป็นส่วนหนึ่งของการใช้คาถา...” นารุโตะก่อนจะทำท่าลงไปฟุบอีกรอบ ซาสึเกะเห็นดังนั้นก็เรียกเอาไว้ก่อนและนั่งลงข้างๆ



           “นายไม่โกรธฉัน”



           “โกรธ...มากด้วย” ร่างบางถึงกับสะดุ้งกับน้ำเสียงของอีกฝ่ายก่อนจะทำใจกล้าเอ่ยถามไปอีก



           “แล้วทำไม”



           “เหนื่อยคืนนี้ค่อยว่ากันก็แล้วกัน” ประโยคสั้นๆถูกพูดออกมาจากริมฝีปากของอีกคนและร่างสูงก็ค่อยๆปิดเปลือกตาลงท่ามกลางสายตาของร่างบางซาสึเกะมองดูหน้านารุโตะยามหลับก่อนจะนึกขอโทษร่างสูงเบาๆ



          ฉันรู้สึกสับสนในหลายๆอย่างที่นายทำแต่ว่า...นายกลับมาเป็นเหมือนเถอะฉันขอโทษฉันไม่อยากไปกับกาอาระหรอกนะ...

    ...................................................................
    สวัสดีจ้าเรามาอัพดึกมากกกกกกไปเข้าค่ายกลับมาแล้ว
    โหดมากT^Tแล้วก็สนุกมากขอบคุณที่เม้นให้กันนะคะ
    ไปละซียู♥

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×