ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 8 : กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม
8
กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม
คุณเคยรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวไหม
เคยสูญเสียสิ่งที่เรารักไปไหม
เคยรู้สึกอ้างว้างจนและต้องการความรักบ้างไหม
เคยโหยหาคนที่รักและเชื่อใจได้สุดใจรึเปล่า?
แล้วคุณเคยเจอคนๆนั้นบ้างไหม
สำนักงานโฮคาเงะ
ร่างบอบบางสองร่างหอบเอาเอกสารที่จำเป็นและงานของโฮคาเงะรุ่นห้าที่ตอนนี้นั่งทำหน้าเครียดอยู่บนโต๊ะมาวางกันไว้ภายในห้องก่อนลูกศิษย์ทั้งสองจะเดินเข้าไปหา
ชิสึเนะคอยยื่นงานให้พร้อมๆกับซากุระที่ยกปึกใหม่มาไว้ซึ่งเวลาเอาจริงเอาจังซึนาเดะจะทำงานเร็วมากจนสองสาวแทบจะหางานมาให้ไม่ทัน ซากุระยืนก้มหน้านิ่งใบหน้าหวานสวยเจือไปด้วยความเศร้าซึ่งศิษย์พี่และอาจารย์เห็นใบหน้านั่นได้อย่างชัดเจน ซึนาเดะหยุดมือและเงยหน้าพูดกับศิษย์
“เป็นอะไรไปซากุระ”
เสียงของอาจารย์ปลุกซากุระที่อยู่ในภวังค์เด็กสาวสะดุ้งและยื่นกองเอกสารให้โดยไม่รู้เลยว่าเมื่อกี๊ซึนาเดะถามอะไรไป สาวใหญ่โบกมือปฏิเสธ
“ไม่ใช่...กังวนอะไรอยู่?”
“…”
เด็กสาวเงียบลงไปและนึกถึงเรื่องราวของเพื่อนชายทั้งสองที่กอดรัดกันอยู่ในห้องผู้ป่วย เธอไม่ได้ตั้งใจจะไปเห็นทั้งคู่ทำอะไรกันเพียงแค่ต้องการจะเดินไปถามว่ามีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยแต่ทว่าสิ่งที่ได้เห็นผ่านช่องตาแมวเล็กๆมันทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอสั่นครอน ซากุระกัดริมฝีปากตัวเองกลั้นใจและเอ่ยถามอาจารย์
“นารุโตะเป็นอะไรกันแน่คะ?!!”
“…”
“…”
ซึนาเดะกับชิซึเนะมองหน้ากันเจอคำถามนี้เข้าไปเธอเองก็ไปไม่ถูกและไม่รู้จะอธิบายให้สาวน้อยตรงหน้านี่เข้าใจได้ยังไง ชิสึเนะกำมือแน่นและเข้าไปตบบ่าร่างบอบบางของซากุระเบาๆ
“เรื่องมันยาวน่ะ”
“แต่สัญญาแล้วนี่คะว่าถ้าซาสึเกะคุงกลับมาจะยอมเล่าน่ะ! ตั้งแต่จบสงครามนารุโตะก็กลายเป็นคนแบบนั้นไปแล้ว...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันคะ!! ท่านซึนาเดะน่ะ!...ท่านซึนาเดะ…ก็ตรวจดูแล้วนี่นา อย่างน้อย...ก็น่าจะบอกหนูที่เป็นเพื่อนร่วมทีมให้รู้บ้างสิคะ!!” ซากุระรัวใส่เป็นชุดใบหน้าที่เจ็บปวดกับความไม่เข้าใจในหลายๆอย่างๆ เธอรอฟังคำตอบจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนินจาแพทย์ที่เก่งที่สุด ซึนาเดะขมวดคิ้วและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้สองมือยกขึ้นประสานกันตรงหน้าและเอ่ยปากเล่า
“หลังจากจบสงครามซาสึเกะก็หนีไปอีกสินะนั่นเพื่อไปหาอะไรหลายๆอย่างที่เจ้าตัวยังคาใจอยู่เรื่องนี้ซาสึเกะก็บอกแล้วสิ่งที่กำลังตามหายังไงก็ไม่เจอเพราะฉะนั้นเขาจึงล้มเลิกและเพราะเหตุนั้นเจ้าตัวเลยกลับมาที่หมู่บ้านในขณะเดียวกันนารุโตะในระยะเวลา2ปีก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิดๆเพราะถูกทำร้ายจิตใจมาหลายต่อหลายครั้งมันจึงแปรเปลี่ยนเป็นการระบายออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง”
“ระบายออกมาเหรอคะ?”
“ใช่...ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมารที่เสียสิ่งสำคัญไป...มันถึงเวลาที่จะระเบิดออกมาเวลาเก็บเอาไว้นานเข้าๆตอนแรกฉันก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ที่หมอนั่นแสดงออกมาให้แค่คนที่สนิทและคนที่เคารพอย่างฉันรู้นั่นก็เพราะยังมีจิตใต้สำนึกของนารุโตะคนเก่าเหลืออยู่นิสัยยังไม่เปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์เพราะฉะนั้น...”
“เดี๋ยวก่อนสิคะ...แล้วที่ว่าระบายออกมานั่นหมายความว่ายังไง” ซากุระถามเสียงแข็ง
“ก็อย่างที่เห็นอารมณ์เสียง่ายกว่าเดิมรุนแรงและไม่ฟังใครทั้งนั้นจนซาสึเกะมาก็ทำแบบนั้นไปแล้ว...เห็นรอยคิสมาร์กที่หลังคอรึเปล่าล่ะ?” ซึนาเดะว่าดวงตาสีอัมพันตวัดมองลูกศิษย์ ซากุระนิ่งอึ่งไปชั่วขณะเธอกลับมาอีกทีในตอนเย็นวันนั้นตั้งใจจะไปดูอีกทีว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีรึเปล่าขณะเดียวกันซาสึเกะก็เดินสวนออกมาจากห้องพอดีเพียงเสี้ยววินาทีที่เธอสังเกตเห็นรอยแดงเป็นจ้ำอยู่บนคอของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นรอยจูบ...
“ถ้างั้นซาสึเกะคุงก็คงแย่” เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงสองมือกอบกุมอยู่ระหว่างอกดวงตาสีอัมพันยังคงมองลูกศิษย์ที่มีท่าทีหนักใจ ซึนาเดะมองออกไปนอกหน้าต่างและเอ่ยเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอก...เห็นๆอยู่แล้วว่าต้นเหตุก็คือเขายังไงซาสึเกะก็คงหาทางทำให้นารุโตะกลับมาแน่นอน นารุโตะเองก็ต้องการซาสึเกะไม่ใช่หรือ” ดวงตาสีมรกตเบิกกว้างมองอาจารย์ก่อนจะค่อยๆเผยยิ้มออกมาน้อยๆและครางตอบกลับไปเบาๆ
...................................................................................................................
หลายวันต่อมา
กิ๊งก๊อง! กิ๊งก๊อง!ๆๆ
กิ๊งก๊อง!...ๆๆ
‘เออ...มาแล้วน่า’
แกร๊ก!
ใบหน้าหวานของเด็กผมโผล่ออกมาข้างนอกหลังจากเปิดประตูบ้านให้เพื่อนสาวที่กดกริ๊งรัวๆน่าหนวกหูอยู่นานกลุ่มผมสีดำปริวตามการเคลื่อนไหวของร่างที่เดินนำเข้าบ้านไปแล้วและทุกๆครั้งก็จะมีเสียงคร้องเคร้งตามมาอยู่เสมอเป็นเสียงของโซ่ที่ร่ามข้อเท้าของร่างบางอยู่นั่นเอง ซากุระขมวดคิ้วมองด้วยใบหน้าปนเศร้า
อีกแล้วเหรอ?
“รบกวนหน่อยนะจ๊ะ” ว่าพลางถอดรองเท้าบู๊ทของตัวเองออกวางไว้ดีๆ
เมื่อเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ธรรมดาๆแต่มองก็รู้ว่ามีบางอันที่แพงเฉียดแสนไม่รู้คนซื้อไปหอบเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าทำงานเป็นหน่วยอันบุแถมเป็นหัวหน้าแต่แบบนี้มันไม่ฟุ่มเฟือยไปหน่อยหรือ?
ซากุระสลัดความคิดเพ้อเจอออกและเดินตามร่างบางไปนั่งทีโซฟาเขาหยิบรีโมตเปิดทีวีให้เธอดูไปพลางๆระหว่างที่ลามือจากตรงนี้ไปชงชาในครัวให้เธอเมื่อเห็นว่าร่างบางเดินหายเข้าไปในครัวแล้วเธอจึงเริ่มกวาดตามองไปรอบๆเพื่อหาเจ้าของบ้านนี้แต่ทว่า...ไม่มีแม้แต่เงา
“หาฉันอยู่เหรอ?”
“ว้าย…?!!!”
จู่ๆคนที่หาตัวอยู่ก็มาโผล่ข้างหลังเธอกระซิบข้างหูจนขนลุกซู่ไปทั้งตัวจนแทบจะเด้งตัวหนีไม่ทันซากุระมองนารุโตะที่จู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้อย่างหวาดๆ ร่างสูงในชุดเสื้อกล้ามสีส้มและกางเกงขาสามส่วนสีดำธรรมดาหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามร่างและใบหน้ากลุ่มผมที่เปียกโชก เธอเดาว่าเขาเพิ่งจะอาบน้ำมามาดๆ
นารุโตะกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานตัวเองยกกองเอกสารหลายๆที่อยู่ในลังออกมาเซ็นและอ่านตรงนั้นเงียบๆระหว่างนั้นซากุระก็ไม่ได้มองอะไรต่อเธอกลับเข้าสู่การชมรายการทีวีต่อจนซาสึเกะออกมาจากครัวพร้อมชากับคุกกี้ซาสึเกะวางทั้งสองอย่างลงบนโต๊ะและถือชาอีกแก้วเดินไปทางนารุโตะก่อนจะยื่นให้เงียบๆซึ่งเจ้าตัวคงจะทำแบบนี้ประจำนารุโตะรับมาดื่มในขณะที่มือยังเขียนอะไรยุกยิกๆไม่หยุด
ส่วนซาสึเกะก็เดินกลับมาที่โซฟานั่งดูทีวีไปเรื่อยๆนี่ก็เพิ่งจะ8โมงครึ่งอยู่บ้านก็ไม่ทำอะไรแค่เป็นขี้ข้านารุโตะไปวันๆเท่านั้นซาสึเกะแอบบ่นในใจและหยิบของกินเข้าปากเช่นเดียวกับซากุระที่นั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันบ่อยครั้งที่ซากุระมาหาเขาด้วยความเป็นห่วงเช่นเดียวกันกับวันนี้
“งานเยอะน่าดูเลยนะ” ซากุระกระซิบเบาๆ ดวงหน้ามนหันมองเพื่อนสาวก่อนจะเหลือบไปมองเจ้าคนบ้างานเบื้องหลัง
“อืม หมู่นี้ไม่ค่อยห่างจากบ้านหรอก”
“งั้นเหรอ...แล้วนี่อยู่แบบนี้นายไม่เป็นไรแน่นะ” ซากุระถามด้วยความเป็นห่วงร่างบางตวัดตามองอีกครั้งก่อนจะกลับไปสนใจทีวีต่อ
“ก็ไม่นี่...”
“แต่ยังร่ามนายไว้อยู่เลยนี่นา” ซากุระพยายามพูดประโยคนี่ให้เบาที่สุดซาสึเกะนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะหยิบคุกกี้ยัดปากยัยคนปากมาตรงหน้าจนซากุระแทบสำลัก
“หมอนั่นถ้าไม่โมโหจริงๆก็ไม่บังคับฉันหรอกอีกอย่างถ้างานเยอะไม่ขาดสายแบบนี้คงไม่มีเวลามาคิดเรื่องหื่นๆกับฉันหรอกน่า” ซาสึเกะว่าพลางหยิบคุกกี้มากินบ้างขณะที่ซากุระก็เพียงมองร่างบางงงๆและเคี้ยวคุกกี้ตุ่ยๆอยู่ในปากอย่างเอร็ดอร่อย
“ถ้างั้นมีอะไรก็โทรบอกฉันได้นะ” ซากุระว่าซึ่งร่างบางก็พยักหน้ารับช้าๆ
หลังจากนั่งคุยกันอยู่นานโทรศัพท์ของซากุระก็ดังขึ้นเธอมองหน้าซาสึเกะพักหนึ่งก่อนจะเดินออกไปนอกระเบียงเพื่อคุยอะไรสักอย่าง ซาสึเกะมองตามไปและหันกลับไปสนใจทีวีต่ออยู่บ้านเฉยๆทั้งวันแบบนี้ก็ได้แต่ยั่งดูมันนั่นแหละถ้างานบ้านล่ะก็ทำเสร็จไปตั้งแต่เช้าแล้วมาตอนเที่ยงแบบนี้ก็ว่างน่ะสิเหลือบไปมองอีกคนหนึ่งก็ไม่มีท่าว่าจะลุกจากเก้าอี้ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงนะทำงานแบบนั้นทั้งวันปกติก็คงบ่นไปนานแล้ว
“ซาสึเกะคุง”
“…?!!”
“มานี่หน่อยสิ”
ซาสึเกะลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียงตามเสียงเรียกของซากุระแต่ไม่วางลอบมองอีกคนที่นั่งทำงานอยู่ด้วยความกังวน นารุโตะยังคงง่วนอยู่กับการเขียนแต่แว่บหนึ่งที่ดวงตาสีฟ้าตวัดมองมาทางเขาและส่งยิ้มให้มันไม่ใช่การยิ้มทักแต่เป็นยิ้มที่มีเลศนัย
“มีอะไรเหรอ”
“ท่านซึนาเดะบอกว่านายเป็นคนเดียวที่จะทำให้นารุโตะกลับมาเป็นคนเดิม” ซากุระเอ่ยเสียงเบาสองมือกอบกุมกันแน่นดวงหน้าสวยเบ้ลงราวกับกำลังเจ็บปวด
“ทำไมต้องฉัน” ซาสึเกะถามเสียงเบา
“ก็นายเป็นต้นเหตุ...ที่ทำให้นารุโตะกลายเป็นแบบนี้” ประโยคหลังซากุระเอ่ยเสียงแผ่วลงเพราะเธอก็ไม่อยากพูดว่ามันเป็นความผิดของซาสึเกะทั้งหมด ร่างบางชะงักริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันคิ้วขมวดดวงตาหลุบต่ำลงทำท่าคิด...
มันก็ถูกอย่างซากุระว่าเป็นเพราะเขาเอาแต่ใจไม่ยอมกลับมาตั้งแต่แรกแต่นารุโตะถึงกับเปลี่ยนไปเลยแบบนี้มันต้องไม่ใช่เพราะเข้าอย่างเดียวสิ
“แต่ทำไม”
“นารุโตะเห็นซาสึเกะคุงเป็นคนสำคัญนะเป็นคนที่เปลี่ยนชีวิตเขาเพราะฉะนั้นซาสึเกะคุงฉันก็ไม่อยากจะขอร้องเพราะมันดูเห็นแก่ตัวเกินไปในขณะที่ฉันมัวแต่ขอให้เธอช่วยแต่ตัวฉันเองกลับไม่ทำอะไรเลยฉัน…ฉันน่ะ...มันแย่ที่สุ...”
“ซากุระ” ซาสึเกะยื่นมือไปแตะบ่าเพื่อนสาวและบีบเบาๆ
“…”
“เธอก็ทำอยู่นี่ไง...เธอมาขอร้องฉันมันก็ถูกแล้วมาขอคนที่ทำได้ดีกว่าทำด้วยตัวเองแล้วล้มเหลว...คนเราถึงจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็คงไม่ละทิ้งความเป็นตัวเองเพราะฉะนั้นในจิตใต้สำนึกของหมอนั่นก็คงเหลือตัวตนของคนเดิมอยู่”
“ถ้างั้น...”
“ก็คงต้องใช้เวลาสักพักนั่นแหละ...ไม่ต้องห่วงหรอก” ซาสึเกะยิ้มให้ซากุระและใช้มือของเขาลูบหัวเธอเบาๆเป็นการปลอบใจในขณะที่ซากุระเองก็ยิ้มให้
ปึก!
“…!!??”
“…!!??”
“นะ…นารุโตะ...”
“คุยอะไรกันตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว...เห็นแล้วมันหงุดหงิดว่ะ” ซาสึเกะมองผนังข้างประตูที่เริ่มร้าวอยู่นิดหน่อยสลับกับนารุโตะที่ยืนคล้ำหัวเขาตีหน้าดุใส่ก่อนจะกอดอกมอง
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย”
“เฮอะ! ฉันน่าจะบอกแล้วนะว่าห้ามคุยกับคนอื่นจนกว่าฉันจะอนุญาต”
“นายไม่ใช่คนบงการชีวิตฉันอย่ามาสั่ง”
“ซะ…ซาสึเกะคุง” ซากุระทำท่าจะเข้ามาห้ามไม่ให้เพื่อนชายทั้งสองมีเรื่องกันแต่ซาสึเกะก็ใช้แขนกันร่างเธอไว้เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าห้ามเธอเข้ามายุ่ง นารุโตะที่ตอนนี้ทำหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเดาอารมณ์ได้ง่ายๆว่าเจ้าตัวกำลังไม่สบอารมณ์สุดๆ ส่วนซาสึเกะก็เพียงแค่ยืนจ้องหน้านิ่งๆ
“แล้วจะได้เห็นดีกัน” กล่าวจบนารุโตะก็เข้ามายกร่างบางขึ้นพาดบ่าโดยไม่สนใจซากุระที่ร้องโวยวายห้ามเขาด้วยความตกใจส่วนซาสึเกะทันทีที่ถูกอุ้มก็ใช้ทั้งแรงขาแรงแขนทำการเตะต่อยคนตัวสูงที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวแต่คนที่มีภูมิต้านทานและรู้ทิศทางการโจมตีของร่างบางแล้วมีหรือจะสะทกสะท้าน นารุโตะขึ้นไปชั้นสองและเปิดประตูเข้าห้องไปทันที ซากุระที่วิ่งตามขึ้นไปตั้งใจจะเข้าไปช่วยแต่ประตูก็ล็อกเสียแล้วครั้นจะพังเข้าไปก็กลัวว่าตัวเองจะไปมีเรื่องกับนารุโตะและจะโดนเขาไล่จนไม่มีโอกาสพบกับซาสึเกะอีกจึงได้แต่ทรุดลงนั่งกอดเข่าอยู่หน้าประตูเท่านั้น
เมื่อเข้ามาในห้องนารุโตะก็โยนร่างบางลงบนเตียงแรงๆจนอีกคนรู้สึกจุกก่อนจะตามไปคร่อมสองมือจับข้อมืออีกคนตรึงไว้ข้างศรีษะก่อนจะโน้มใบหน้าลงๆผใกล้จนนในที่สุดซาสึเกะก็หยุดดิ้น นารุโตะยกยิ้มมุมปากและเอ่ยปากถาม
“คุยอะไรกัน” ซาสึเกะขมวดคิ้วมองจ้องหน้าอีกคนก่อนจะบิดข้อมือพยายามจะทำให้ตัวเองหลุดออกจากวงแขนของอีกฝ่าย
“ปล่อย”
“ไม่”
ร่างบางเม้มปากด้วงความชังใจ นารุโตะก็กักร่างเขาไว้ขนาดนี้คงหนีไม่รอดแล้ว
"สัญญาก่อนว่าจะไม่ทำ”
“…” นารุโตะนิ่งคิดก่อนจะเผยยิ้มเจ้าเลห์
“โอเค” ซาสึเกะถอนหายใจและเบนหน้าไปทางอื่น ข้อมือที่ถูกตรึงก็ยังคงบิดไปมาราวกับไม่ยอมถูกให้กักกันเรียวปากที่เม้มกันคลายออกและเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ก็แค่คุยกันเรื่องที่คราวหน้าซากุรจะมาหาฉันวันไหน...แค่นั้น”
“แล้วทำไมต้องคุยกันข้างนอก”
“ใครมันอยากจะหมกอยู่แต่ข้างในล่ะ”
“…หึ!”
“!!??” ริมฝีปากสีซีดประกบลงบนริมฝีปากสีชมพูของอีกฝ่ายใบหน้าที่เรียบนิ่งในคราแรกก็เปลี่ยนเป็นตกใจลิ้นร้อนที่รุกล้ำเข้ามาในโพลงปากควานหาความหอมหวานและเริ่มเล่นกับอีกคน นารุโตะกดจูบหนักๆจนร่างบางหน้าแดงเพราะขาดอากาศหายใจดวงตาสีดำปรือลงในขณะที่หางตาเริ่มมีน้ำใสๆเอ่อคลออยู่นิดหน่อยสักพักก็ถอนจูบออก
“ไหนบอกไม่ทำไง!” ซาสึเกะว่าพลางเช็ดน้ำใสๆที่เลอะอยู่มุมปากผลจากการจูบที่หนักหน่วงของอีกคนและจ้องตานารุโตะด้วยใบหน้าที่แสดงออกว่าโมโหอย่างเห็นได้ชัด นารุโตะปล่อยข้อมือเขาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้แต่ที่รู้ตอนนี้คือเขาคงจะรอดแล้ว
“โกหกไม่เก่งเลยนะ...เอาเถอะตอนนี้ฉันจะปล่อยไว้ก่อน...รอคืนนี้ดีกว่า” กล่าวจบก็เข้าไปหอมแก้มซาสึเกะฟอดหนึ่งก่อนจะเปิดประตูกลับออกไปปล่อยให้ซากุระที่นั่งอยู่หน้าประตูวิ่งเข้ามาดูอาการของอีกคน
“ซาสึเกะคุง!”
“ฉันไม่เป็นไร”
“นารุโตะไม่ได้ทำอะไรนายใช่มั้ย”
“อืม” ถึงจะตอบไปแบบนั้นแต่สัมพัสที่ริมฝีปากมันกำลังบอกว่าคลื่นลูกใหญ่กำลังจะมา…
.........................................................................................................................
เย็นวันนั้น
“งั้นฉันกลับก่อนนะ…ซาสึเกะคุง..ไม่เป็นไรแน่นะ”
“อืม” ร่างบางขานรับก่อนโบกมือให้เธอและปิดประตูเข้าบ้านไปซากุระยังคงนึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อยแต่เธอต้องรีบไปหาซึนาเดะแล้วเพราะเมื่อกี๊อาจารย์โทรฯเรียกเธอซากุระจึงรีบวิ่งไปที่สำนักงานโฮคาเงะทันที
ปึ่ง!
“ท่านซึนาเดะ” เด็กสาวเปิดประตูเข้ามาในห้องและหอบแฮ่กแฮ่กอยู่หน้าประตู ซึนาเดะทำหน้าฉงนมองลูกศิษย์
“มาแล้วเหรอ...ทำไมหอบมาแบบนั้นล่ะ” ซากุระสะอึกและเกาแก้มแก้เขินพร้อมหัวเราะให้แห้งๆ
“หนูวิ่งมาน่ะค่ะคิดว่าเป็นเรื่องด่วน” ซึนาเดะเลิกคิ้ว
“เหรอ...เอาเถอะก็เรื่องด่วนอยู่หรอก...อีก3วันคาเสะคาเงะจะมาที่นี่”
“เอ๋!!!! ทำไมล่ะคะ!!!”
“ก็แค่มาดูเรื่องการสอบจูนินน่ะรู้สึกจะส่งเด็กหมู่บ้านตัวเองมา2ทีมน่ะนะ”
“งั้นเหรอคะ” รู้สึกโล่งใจเธอนึกว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นซะอีก
“งั้นหนูจะไปบอกทุกคนนะคะ”
“อืม...ซื้อเหล้ามาให้ฉันด้วยนะ”
“ค่ะ”
“ท่านซึนาเดะคะ!!!” ทันทีที่ซากุระรับคำชิสึเนะก็สวนขึ้นมาทันทีเป็นแบบนี้ประจำพอใช้พลังงานกับการทำงานหมดก็ต้องเติมพลังกันหน่อย...
.........................................................................................................................................
ขณะเดียวกัน
“อืม” ร่างบางขานตอบเบาๆและโบกมือให้สาวร่างบางที่เดินจากไปก่อนจะค่อยๆลดมือลงและปิดประตูบ้านก้าวเท้าเข้าไปในบ้านอีกครั้งทว่า
“…!!??” นารุโตะรุดเข้ามากอดเขาจากด้านหลังดวงตาสีดำเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนหันไปมองต้นเหตุ
“จำได้มั้ยว่าเมื่อกลางวันฉันบอกว่าไง” นารุโตะว่าและออกแรงลากร่างบางๆไปที่โซฟาและกดร่างนั้นลงซาสึเกะที่เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าตัวเองจะโดนอะไรก็รีบถอยล่นไปติดอยู่ปลายโซฟาพร้อมกับเอาหมอนใหญ่ๆมากอดบังร่างตัวเองไว้
“ทำแบบนั้นก็ไม่ช่วยหรอกน่า”
“ไม่เอา...”
“...”
“นารุโตะ…อย่า” เสียงร่างบางสั่นครอนเพราะเจ้าตัวดีดันจับขาของเขาเอาไว้ นารุโตะจับขาเรียวของอีกฝ่ายไว้และเลียตั้งแต่นิ้วเท้าขึ้นไปจนถึงขาอ่อนขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงหน้าท้องเลียปานจะกลืนกินร่างงามนั่นเข้าไปให้ได้หมอนที่ใช้บังร่างก็ถูกปัดกระเด็นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มือแกร่งที่ไล้ไปตามแผ่นหลังลิ้นอุ่นๆที่โลมเลีบขึ้นไปถึงหน้าอกซาสึเกะแทบอยากจะหายไปจากตรงนั้นใบหน้าหวานแดงก่ำนารุโตะจูบเบาๆที่ซอกคอและไล่ขึ้นไปจนถึงริมฝีปากบางเขากดจูบลงไปและจับสองมือของร่างบางตรึงไว้เหลือศรีษะจากนั้นถึงค่อยๆเริ่มเล่นบทรักกับร่างข้างใต้อย่างไม่ปราณีแต่ดีกว่าตอนแรกๆหน่อยเพราะคราวนี้นารุโตะไม่ทำให้เขาเจ็บแล้ว
20:15 น.
ซาสึเกะนั่งชันเข่ากอดหมอนนิ่งไม่แม้แต่มองร่างข้างๆที่กำลังใส่เสื้อผ้าสักนิดเขาบอกแล้วแท้ๆว่าห้ามแตกข้างในแต่อีกคนมันฟังที่ไหนกันหลังจากอาบน้ำเสร็จร่างบางจึงอู้ไม่ยอมทำกับข้าวให้อีกฝ่ายสักที
“จะงอนไปถึงไหนอ่ะ!”
“…”
“โอเคนายอยากทำต่อสินะ” นารุโตะว่าก่อนจะทำท่าจะถอดกางเกงอีกรอบซาสึเกะจึงรีบเด้งตัวออกจากโซฟาและเข้าไปในตัวทันที ถ้าหิวก็บอกเขาดีๆก็ได้นี่!!
“หึ!” นารุโตะยิ้มตามแบบฉบับตัวเองก่อนจะหยิบรีโมตมาเปิดทีวีดูอีกรอบงานของวันนี้ก็ทำเสร็จไปแล้วเหลือแต่ของพรุ่งนี้เดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยมีเวลาว่างเลยสักนิดจะออกไปที่ทำงานสักหน่อยแต่ลูกน้องกลับบอกให้เขาพักอยู่บ้านบ้างอยู่เล่นกับเมียบ้างซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ถึงมาอยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้เล่นกันหรอกเขาจะนั่งทำงานซะส่วนใหญ่และปล่อยให้ซาสึเกะทำอย่างอื่นแทน ส่วนไอ้เรื่องที่ซาสึเกะจะขอออกไปทำงานข้างเหรอ หึ อย่าหวังเขาไม่ยอมปล่อยไปหรอก
“นารุโตะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปตลาดซื้อข้าวมาด้วย จะหมดแล้ว” ร่างบางในครัวว่านารุโตะก็เพียงรับรู้ไว้แต่ไม่ยอมตอบกลับไปซึ่ง ร่างบางก็พอจะรู้จึงไม่บอกอีก...
เขาจะทำยังไงให้เจ้าของร่างสูงกลับมาเหมือนเดิมนะ...
..................................................................................................
กราบสวัสดีทุกท่านกลับเข้าสู่สายเดิมนะคะมาอัพได้อาทิตย์ละครั้งค่ะ555เนื่องจากคุณครูที่รักให้งานเยอะเหลือเกินจนแทบจะล้นมือเพราะฉะนั้นรอต่อไป(โดนตบ) 555เอาล่ะสิท่านคาเสะจะมาจะเกิดเรื่องวุ่นวายไหมนี่555 ก็ขอบคุณที่เม้นให้นะคะ ไม่มีไรจบ ซียู♥รู้สึกว่ารูปจะเก่าแล้ว?...ชั่งมันเต๊อะ//โดนถีบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น