ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Kuroko Yaoi) AkaKuro(●▽o)✄ เหมียวโรคจิตกับแวมไพร์จืดจาง

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 : ช็อก

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 57


    8
    ช็อก

     

                   ผ่านมาอีก3วันพวกเพื่อนๆในทีมก็ซ้อมกันปกติไม่มีใครผิดปกติแต่คิเสะก็ไม่มาอีกแล้วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตัวหรือเปล่าที่น่าแปลกว่านั้นแล้วเป็นเรื่องที่ทำให้เขาปวดหัวมากขึ้นคือตั้งแต่ตอนนั้นอาคาชิก็ไม่กลับมาที่บ้านอีกเลยโรงเรียนก็ไม่มาน่าแปลกเกินไปแล้วเมื่อวานอาโอมิเนะเพื่อนสนิทของเขาก็มาถามเขาเรื่องแปลกๆเกี่ยวกับแวมไพร์มันทำให้เขาถึงกับสะอึกอยู่หรอกแต่เพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้เขาจึงโกหกไปว่าไม่รู้อะไรทั้งนั้นเรื่องงมงายแบบนั้นมีจริงที่ไหนแน่นอนว่าใครๆก็พูดแบบนั้นเขาพูดตอบกลับไปก็เพื่อไม่ให้อาโอมิเนะสงสัย

                   ทำไมมีแต่เรื่องนะช่วงนี้...

                   สังหรณ์ไม่ดีเลย...

                    คุโรโกะนั่งพิงกำแพงผ้าขนหนูโปะหน้าหลังจากเลิกซ้อมตอนเย็นดื่มน้ำพอแก้กระหายและนั่งพักนานๆให้หายเหนื่อยก่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมกลับบ้านแต่หางตากลับเหลือบไปเห็นโมโมอิผู้จัดการสาวกำลังวิ่งมาทางเขาพลางโบกมือเรียก คุโรโกะหันตามเสียงเรียกและมองไปถึงคนข้างหลังที่เดินตามต้อยๆทำหน้าเหมือนเบื่อหน่าย

                   อาโอมิเนะ ไดกิ

                   ฟุ่บ...

                    พลั่ก!!!

                    “โอ๊ยยยยย…” แต่ก่อนจะได้สนใจอะไรอื่นไม่รู้ชะตาแกล้งหรืออะไรผู้จัดการสาวที่วิ่งทั่กๆมาหาเขาดันสะดุดขาตัวเองล้มพั่บไปคูดกับพื้นดีที่ใช้มือค้ำหยุดตัวเองไว้ได้ทำให้เข่าเธอไม่เป็นอะไรแต่ที่มือเนี่ยสิ...ถลอกจนเลือดซิบแล้ว

                   เลือด...

                   ดวงตาของคุโรโกะเรืองแสงขึ้นมาซะเฉยๆเจ้าของร่างบางรีบหันหน้าหนีและปิดปากตัวเองแน่นเพราะเขี้ยวเล็กๆที่เก็บเอาไว้อย่างมิดชิดบัดนี้มันได้งอกออกมาแล้ว อาโอมิเนะลอบมองเจ้าของร่างบางที่พยายามเบี่ยงตัวหลบการมองของพวกเขาอย่างเต็มที่ส่วนโมโมอิที่ไม่รู้เรื่องก็พยุงตัวเองขึ้นมาและบอกคุโรโกะให้จบๆ

                   “เท็ตสึคุงเห็นเดินกลับกับอาคาชิคุงบ่อยๆสินะช่วงนี้เขาไม่ค่อยมาโรงเรียนอย่างน้อยถ้าเจอช่วยบอกเขาทีได้มั้ยจ๊ะว่าโค้ดกับกัปตันตกลงกันว่าจะให้เขาเป็นรองกัปตันทีมเราน่ะ” โมโมอิพยายามเอียงตัวมองหน้าคนตัวเล็กที่หันหลังให้เธอ คุโรโกะปิดปากตัวเองแน่นเพราะกลัวเหลือเกินว่าความลับจะแตกกลิ่นเลือดที่แผลถลอกของโมโมอิยังโชยมาแตะจมูกจนเขาแทบจะห้ามใจตัวเองไม่ให้กระโจนเข้าไปกัดคอสูบเลือดจากตัวเธอไหว

                   “ทำไมไม่ไปบอกมิโดริมะคุงล่ะครับรายนั้นสนิทกับอาคาชิคุงมากกว่าผมอีก”

                   “มิโดรินกลับไปก่อนฉันจะได้ข่าวอีกน่ะสิแถมฉันรู้สึกว่าเท็ตสึคุงอยู่ใกล้อาคาชิคุงมากที่สุดกว่าอีก” โมโมอิมุ่ยหน้าและพยายามเอื้อมมือไปหมายจะคว้าตัวคุโรโกะให้หันมาเพราะเธอไม่รู้ว่าที่เธอพูดไปจะเข้าหูเจ้าตัวบ้างหรือเปล่าอีกอย่างปกติถ้าคุยกันต้องหันมองกันไม่ใช่เหรอ หรือเขาไม่สบายกันนะ “เท็ตสึคุง…เป็นอะไรรึเปล่า? คุโรโกะปัดมือโมโมอิเพราะไม่อยากกัดเธอก่อนจะรีบผละตัวออกมา

                   “ขอโทษครับ ผมไม่เป็นไรจะบอกอาคาชิคุงให้ครับ ว่าก่อนรีบปรีกตัวออกมาทันทีภายใต้สายตาของอาโอมิเนะที่มองอย่างจับผิด

                   “โธ่ จะเป็นอะไรมั้ยนะเท็ตสึคุง” โมโมอิมองตามแผ่นหลังบางที่รีบวิ่งออกจากโรงยิมก่อนยกมือตัวเองขึ้นดู

                   “โทษทีซัสสึกิกลับบ้านไปก่อนเถอะฉันมีเรื่องต้องทำต่อน่ะ” ว่าจบอาโอมิเนะก็เดินลอยชายออกจากโรงยิมโดยไม่สนใจเสียงโวยวายตามหลังของโมโมอิสักนิดเมื่อพ้นโรงยิมและแน่ใจว่าพ้นสายตาของโมโมอิแล้วเขาจึงรีบวิ่งตามคุโรโกะไปทันทีซึ่งเขารู้อยู่แล้วว่าคุโรโกะคงตรงกลับบ้านทันทีและบ้านคุโรโกะอยู่ตรงข้ามซอยบ้านเขาตอนนี้คงไม่น่าเดินไปได้ไกลเขาตามคุโรโกะมาทำไม?

                   มาตรวจอะไรให้แน่ใจน่ะสิ...

                   นั่นไงยังไม่ไปไหนไกลจริงๆ ร่างสูงรีบวิ่งตามแผ่นหลังเล็กไปทันทีก่อนกระชากข้อมือคนตัวเล็กให้หันมามองเขาคุโรโกะตกใจจนมือหลุดจากปากคนตัวเล็กรีบหลบหน้าอาโอมิเนะทันทีแต่ไม่อาจรอดพ้นสายตาเพื่อนสนิทไปได้อาโอมิเนะจับใบหน้าของคุโรโกะบังคับให้หันมาคนตัวเล็กหลับตาแน่นมือใหญ่บีบปากคนน่าสงสัยให้อ้าออกก่อนเบิกตากว้าง...หลักฐานปรากฎคาตา

                   ความแตกแล้ว!

                   เขี้ยวเล็กๆที่ยังไม่หายไปอาโอมิเนะเบิกตามองคุโรโกะด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเอง หยาดน้ำฝนโรยตัวลงมาปอยๆเนื่องจากยังไม่หมดฤดูเสื้อ เส้นผมและร่างกายของทั้งคู่เริ่มเปียกปอนคุโรโกะหลุบตาต่ำไม่มีอะไรจะแก้ตัวอาโอมิเนะมองคนตัวเล็กด้วยสายตาเย็นชาก่อนค่อยๆปล่อยมือจากคางมนและเหวี่ยงคนตัวเล็กลงกระแทกพื้น

                   “รีบไปซะเท็ตสึก่อนที่ฉันจะฆ่านาย...” น้ำเสียงเฉียบขาดและเย็นชาจนน่ากลัวฟังดูเหมือนไม่ใช่เพื่อนของเขาอีกต่อไปเหมือนฟ้าผ่ากลางใจจนตัวช้าไปหมดช็อกเสียยิ่งกว่าช็อกเมื่อรู้สึกถึงพลังมืดและกลิ่นไอน่ากลัวเหมือนพวกฮันเตอร์ที่ช่วงนี้เขาได้กลิ่นบ่อยเหลือเกินดวงตาเย็นชายังคงจ้องร่างบางสีหน้าที่อ่านไม่ออกและเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป ร่างเล็กๆลุกขึ้นและรีบวิ่งหายเข้าไปในป่าทันทีน้ำใสไหลอาบแก้มปะปนกับสายฝนที่สาดลงมากระทบกับร่างกายบางๆที่สั่นระริกฟันขบกันจนเกิดเสียงเขาพยายามไม่กัดลิ้นตัวเองตายระหว่างทางตาก็เหลือบไปเห็นเจ้าแมวขนสีสดุดตาสีแดง....พาลให้นึกถึงใครบางคนมันวิ่งนำหน้าเขาแต่เขาก็ไม่สนใจเพราะกำลังจิตตกอดทนกัดฟันวิ่งจนมาถึงบ้าน

                   ตึก...

                   เพล้ง!!

                   เสียงเหมือนมีอะไรหล่นลงมาเฉียดหลังเขาหันไปก็เจอกับกระถางต้นไม้ที่แตกละเอียดและแต่เดิมน่าจะอยู่บนระเบียงบ้านเขาแท้ๆแต่กลับตกลงมาได้ยังไงกันราวกับเป็นลางบอกเหตุว่ากำลังเกิดเรื่องที่อันตรายกับตัวเขา คุโรโกะที่ยังขวัญเสียเกิดกลัวจนต้องรีบเข้าบ้านปิดประตูและมานั่งหอบตัวโยนอยู่ที่โซฟาตัวโปรดร่างกายเล็กๆสั่นไม่หยุดน้ำตาเองก็ไหลไม่หยุดเหมือนกันไหลราวกับเขือนแตกเพราะเพิ่งเคยกลัวตายมากที่สุดก็ครั้งนี้ล่ะมั้ง

                   พรึ่บ...

                   “…!!??”

                   ผ้าขนหนูหล่นลงบนหัวเขาพอดิบพอดีพร้อมๆกับอ้อมกอดอบอุ่นจากใครสักคนที่เหมือนจะคุ้นเคยกลิ่นที่ไม่เคยลืมคุโรโกะนั่งนิ่งยอมให้อีกฝ่ายกอดและลูบหัวปลอบจากด้านหลังทั้งๆอย่างนั้นไปเรื่อยๆจนกว่าน้ำตาจะหยุดไหล

     

                   เป็นเวลาเย็นมากจนฟ้ามืดทีวีเปิดทิ้งไว้ทำลายความเงียบในขณะที่คนผมแดงกำลังตั้งใจเช็ดผมให้คนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าไม่พูดไม่จาเสื้อผ้าที่เปียกบัดนี้อยู่ในตะกล้าผ้าร่างบางใส่เสื้อเชิตตัวโปร่งของอาคาชิกางเกงนอนสบายๆและกอดหมอนใบใหญ่พร้อมเอาหน้าซุกตลอดเวลา

                   อาคาชิถอนหายใจมองอีกร่างที่เอาแต่เงียบอย่างน้อยก็น่าจะบอกอะไรแต่สภาพแบบนี้เขาคงไม่ควรเซ้าซี้อะไรสินะอาคาชิลุกขึ้นเมื่อผมของคุโรโกะแห้งดีแล้วเอาผ้าขนหนูไปตากก่อนเดินเข้าครัวไปก็ตั้งแต่คนตัวเล็กมาก็ไม่พูดอะไรแถมยังร้องไห้เอาๆไม่หยุดคงยังไม่น่ากินอะไรมาจากโรงเรียนหรอกเพราะฉะนั้นก็น่าจะเอาสารอาหารเข้าร่างบ้างล่ะนะที่สำคัญคงจะเจอเรื่องช็อกมาถึงขนาดร้องไห้แบบนั้นเขาอยู่กับคุโรโกะมาเกือบเดือนยังไม่เคยเห็นเจ้าตัวร้องไห้สักครั้งต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น...

                   คุโรโกะนั่งคิดมากอยู่นิ่งๆน้ำตาแห้งไปเมื่อไหร่ไม่รู้เสียงทีวีหรือข่าวสารบ้านเมืองไม่ได้เข้าหูเลยสักนิดไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาคาชิลุกออกไปตอนไหนรู้แต่ในหัวตอนนี้มันว่างเปล่าเขาไม่น่าเลย...ไม่น่าเผลอไม่น่าทำให้ความแตกเลยคราวนี้ชีวิตเขาคงอันตรายขึ้นแน่ๆมีเรื่องให้เครียดเพิ่มอีกแล้วคิเสะเป็นแวมไพร์รึเปล่าอาโอมิเนะเป็นแวมไพร์ฮันเตอร์งั้นเหรอ?แล้วสามวันนี้อาคาชิไปไหนมาความลับของเขาและหลายๆเรื่องที่มันมาพาเครียดในเวลาเดียวกันราวกับพายุหลายลูกมาโจมตีเมืองเมืองเดียวกันเลยเขาเหนื่อยและปวดหัวจะแย่ทำไมมันต้องมาเกิดขึ้นเอาตอนนี้นะ...

                   “เท็ตสึยะ…” เสียงเรียกชื่อเขาเบาๆข้างหูทำให้คุโรโกะเงยหน้าขึ้นจากหมอนใบหน้าหวานหันมองอาคาชิที่ถือถ้วยกับข้าววางไว้บนโต๊ะไอ้แมวนี่ก็เหมือนกันทำไมต้องทำให้เป็นห่วงด้วยนะ...แล้วทำไมเขาต้องเป็นห่วงมันด้วยนะ...

                   โอยยยย...ปวดหัวชะมัด

                   ตะเกียบที่คีบข้าวจ่ออยู่ที่ปากเขาบวกกับสายตาเหมือนเป็นห่วงเขาของอาคาชิทำให้เขาต้องจำใจอ้าปากรับข้าวเข้าปากไปเคี้ยวๆตามคำขอของแมวมือหนายกขึ้นทาบหน้าผากคุโรโกะและถอนหายใจ

                  “เชื่อเขาเลย...พรุ่งนี้นายจะเป็นหวัดมั้ยเนี่ย”

                  “ช่างผมเถอะครับ” คุโรโกะมุ่ยหน้าพลางสบัดไปทางอื่นราวกับกำลังเมินอาคาชิแต่ไม่นานใบหน้าหวานก็ถูกบังคับให้หันกลับมาสบตาสองสีของแมวน้ำแดงที่จ่อข้าวให้เขากินอีกแล้ว

                   “ช่างได้ยังไง...รีบกินซะ” มันคือคำสั่งสินะ คุโรโกะถอนหายใจน้อยๆและอ้าปากรับข้าวเข้าปากระหว่างเคี้ยวก็มองหน้าอาคาชิไปพลางเหมือนแมวตัวนี้จะมีความสุขเหลือเกินนะที่ป้อนข้าวเขาทำไมต้องทำหน้าเหมือนมีความสุขขนาดนั้นด้วยนะไม่รู้รึไงกันว่าดวงตาสองสีของตัวเองมันแสดงถึงอารมณ์ไหนมันตรงข้ามกับหน้าเลยไม่ใช่รึไง...

    .........................................................................................................................

                   อาโอมิเนะ ไดกิ ณ ตอนนี้เขากำลังอารมณ์เสียอย่างที่สุดเมื่อครู่มีลูกน้องโทรมาบอกว่าหน่วยรักษาพยาบาลโดนทำลายยกหมู่ไม่รู้ว่าฝีมือใครไม่ใช่แวมไพร์หรือกองโจรแถบชายแดนด้วยแล้วถ้าไม่มีหน่อยพยาบาลตอนออกล่าแวมไพร์จะทำยังไงเล่าต้องรีบฟื้นฟูหน่วยใหม่ให้เร็วที่สุด เรื่องคุโรโกะอีกที่ผ่านมาเขาไม่เคยเชื่อว่าเพื่อนสนิทของเขาจะเป็นตอนแรกที่เจอกันก็คิดว่าเพื่อนคนนี้คงโดนแวมไพร์จ้องจะกินอยู่เพราะรอบตัวมีกลิ่นแวมไพร์เลยไม่ใส่ใจแต่เมื่อมารู้ความจริงก็อดช็อกไม่ได้ที่จริงองกรณ์ฮันเตอร์ของเขาก็สงสัยคุโรโกะอยู่แล้วช่วงนี้เลยจับตาดูมาตลอดแต่คุโรโกะก็ไม่เคยดูดเลือดใครเขาเลยไว้ใจคุโรโกะและแต่พอมารู้ความจริงว่ากลิ่นแวมไพร์รอบกายคุโรโกะไม่ใช่ของใครแต่เป็นของเจ้าตัวเองเขาก็แทบจะเข่าอ่อนล้มพับไปตรงนั้น....เขาคิดว่าจะปล่อยไปแค่ครั้งเดียวปกติถ้าเจอแวมไพร์เขาฆ่าไปแต่...เป็นคุโรโกะเขาทำใจฆ่าไม่ลงหรอก

                   ไม่เคยกินเลือดเลยเหรอ...

                   หิวน่าดูเลยสินะ...

                    นายทนได้ยังไงเท็ตสึตั้งหลายปี....

                    พลันสายตาก็เหลือบมองแวมไพร์ในห้องที่นอนหลับสนิทผิดกันจริงๆถ้าเป็นคิเสะหิวมากๆก็ออกไปหากินแถมกินทุกวันจนเขาต้องล่ามโซ่ใส่กุญแจมือลงอาคมไม่ให้มันออกไปวุ่นวายชาวบ้านเรื่องฆาตรกรต่อเนื่องนั่นมันก็คือไอ้คิเสะที่หิวจนไปไล่กัดคนอื่นเขานั่นแหละเขาเลยแก้ปัญหาให้มันมากินเลือดเขาเองคำถาม...ทำไมเขาไม่ตาย คำตอบ...เขาไปหยอดเลือดที่องกรณ์เลยไม่เป็นไรแต่เรื่องเลี้ยงแวมไพร์อย่างคิเสะไว้ที่บ้านเขายังไม่บอกกับองกรณ์หรอกนะส่วนเรื่องฆาตรกรต่อเนื่องนั่นต้องปล่อยให้พวกตำรวจเดาเอามั่วๆจนข่าวมันหายไปเองนั่นแหละ

                  ตอนที่เขาไปส่งคิเสะก็โดนมันกัดเข้าไม่ทันตั้งแต่เขาเลยใช้วิชาแวมไพร์ฮันเตอร์ที่เรียนมาจับตัวมันมาซ้อมที่บ้านได้สำเร็จไม่เคยนึกหรอกนะว่ามันจะเป็นแวมไพร์แต่ก็เป็นไปแล้วนี่หวังว่าคนใกล้ตัวเขาจะไม่เป็นตัวประหลาดไปมากกว่านี้หรอกนะ กับคิเสะพอซ้อมมันและถามหลายๆคำถามก็ได้คำตอบจากมันมาว่าเป็นแวมไพร์ตั้งแต่เกิดและเก็บซ่อนตัวเองมาตลอดจนมาอกหัก(?)เพราะคุโรโกะนั่นแหละถึงได้ลืมตัวจนกัดเขาเข้า ตอนคุโรโกะถามถึงตอนไปส่งคิเสะก็ตกใจอยู่แต่ก็ต้องโกหกไปก่อนเพราะตอนนั้นเขายังไม่รู้ความจริงและที่แปลกว่านั้นคือตั้งแต่คิเสะกัดเขาตอนนั้นและเขาพามันมาอยู่บ้านมันก็แปลกไปจะว่า...

                   เจ้าเลห์ขึ้น...

                   ยั่วโมโหเก่งขึ้น...หรือแม้แต่

                    “อือ....อาโอมิเนจจิกลับมาตอนไหนน่ะ...รักนะ...” มันมาบอกรักเขาแบบนี้ไม่รู้ว่าพูดเล่นหรือจริงแต่ก็เล่นด้วยยากไม่เหมือนก่อนหน้านั้นเลยสักนิด อาโอมิเนะมองอีกฝ่ายที่นอนบ่นงึมงัมๆเหมือนคนเพิ่งตื่นบนเตียงปราดหนึ่งก่อนลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไม่แม้จะสนใจเพราะเขากำลังจะเป็นบ้าหลายเรื่องที่มันประดังประเคเข้ามามันทำให้ช็อกยิ่งกว่าช็อกพูดง่ายๆก็มันทำให้เขาปวดหัวช่วงเวลานี้อยากออกไปเที่ยวอ่านหนังสือของไมจังเหมือนทุกทีอยากสมองปลอดโปร่งเหมือนเดิมชะมัดการมาเป็นหัวหน้าหน่วยบุกทะลวงมันงานหินไม่ใช่เล่นรู้งี้ไม่น่าหาเรื่องไปเข้าองค์กรบ้าบอนี่เลยสักนิด...

                   เฮ้อ...

     
     

                   เช้าวันต่อมาอากาศของเช้านี้ช่างสดใสเหมาะแก่การถีบแมวเล่นเป็นอย่างมากเตียงก็มีทำไมต้องมานอนกอดเขาบนฟูกข้างล่างด้วย?ก็รู้ว่าเห็นเขาซึมๆแล้วเป็นห่วงแต่แหมจะเป็นห่วงกันมากไปรึเปล่าไม่ใช่เด็กแล้วสักหน่อยหลังจากการฝ่าอ้อมกอดของแมวที่แกล้งหลับทั้งๆที่ตื่นก่อนเขาและทำข้าวเช้าไว้ให้เสร็จสรรพแต่มันยังอุตส่ากลับมานอนกอดเขาเพื่อแกล้งเล่น? คุโรโกะอาบน้ำแต่งตัวและลงมานั่งอ่านหนังสือ(ไรโนเวล)ด้านล่างหลังกินข้าวฝีมือแมวเสร็จอาคาชิที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียงเล็กๆข้างล่างก็กลิ้งอยู่แบบนั้นนั่นแหละด้วยความว่าง

                   “เท็ตสึยะ…”

                   “ครับ”

                    “…”

                    “…”

                    “เมื่อวานร้องไห้ทำไม” เจออาคาชิยิงคำถามนี้ใส่ก็ไม่รู้จะบอกยังไงทำไมต้องมาทำให้เขากลัวอีกแล้วล่ะเนี่ยอุตส่าทำใจได้แล้วเชียว เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบอาคาชิก็ปายางลบแถวๆนั้นใส่หัวคุโรโกะจนคนตัวเล็กหันมาค้อน

                    “ทำไมต้องบอกครับ?”

                    “เพราะฉันสั่ง...”

                    “เรื่องที่เป็นแวมไพร์แตกแล้วครับอาโอมิเนะคุงรู้แล้ว” ... บางทีจะตอบอะไรก็ง่ายไปรึเปล่านะคนคนนี้อาคาชิกำลังคิดว่าเขาควรจะถามต่อมั้ยช่วงนี้เขาไม่ค่อยอยากให้คุโรโกะออกจากบ้านดีที่วันนี้เจ้าตัวช็อกเรื่องเมื่อวานเลยไม่ยอมไปโรงเรียนหรือว่าจะกลัวอาโอมิเนะซะแล้ว?

                   “นายตอบง่ายจนฉันตกใจเลยล่ะ...

                  “จริงสิ...โมโมอิซังบอกว่าคุณจะได้เป็นรองกัปตันทีมน่ะครับ”

                  “…!?” จะว่าตกใจมั้ยก็นิดหน่อยแล้วมามอบตำแหน่งอะไรให้เขาตอนนี้ล่ะเนี่ยช่วงนี้มันช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อด้วยเขาคงต้องหยุดเรียนและไม่เข้าชมรมอีกนานเพราะอะไร?...มีเรื่องที่จะต้องจัดการน่ะสิ

                   ไหนๆก็ไม่มีหน่วยพยาบาลแล้วคงมีประมาทกันบ้างแหละประสิทธิภาพในการทำงานก็น่าจะน้อยลงด้วย....

                  อาคาชิคิดพลางอมยิ้มและลอบมองเจ้าของร่างเล็กไปเพลินๆรอยยิ้มนั้นมองธรรมดาก็เหมือนคนมีความสุขทั่วไปแต่หารู้ไม่มันแอบแฝงความเจ้าเลห์และความหมายหลายๆอย่างราวกับคนที่กำลังสนุกกับอะไรบ้างอย่าง
     

    ..............................................................................................
    โย่! สวัสดีค่ะ เม้นน้อยลงหรือเปล่า? ไม่เป็นเป็นไม่ทวงแล้วแต่คนอ่าน5555
    ขอบคุณสำหรับแม้นตอนที่แล้วค่ะดีใจเหมือนเดิมมีบางคนเดาถูก555อาโฮ่คุงเป็นแวมไพร์ฮันเตอร์ค่ะ
    นี่พล๊อตเรามันเดาง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ555(แหมก็เล่นบรรยายซะ) เอาเถอะยังไงก็
    ขอบคุณสำหรับคำติคำชมนะคะดีใจค่ะแฟนคลับเรื่องนี้ก็เยอะขึ้นด้วย แฮะ แฮะ
    สรุปไม่มีไรนอกจากจะมาขอบคุณหลายคนคงกำลังสอบหรือสอบเสร็จแล้วหรือกำลังเตรียมสอบกันอยู่สินะไหนๆก็ใกล้ปิดเทอมแล้ว วางแผนไปเที่ยวไหนกันรึเปล่า555เราเหรอ? อยู่บ้านนี้แหละค่ะ
    กะจะเรียนวาดรูป ทำไม?หัวด้านศิลปะไม่มีรึ เปล่าค่ะเราว่าเราค่อนข้างวาดโอเค
    แต่สัดส่วนยังผิดเยอะเลยอยากเรียนแต่ก็นะเรียนไปงั้นอยู่บ้านเฉยๆก็ใช่เรื่อง55
    สรุปมาพูดแค่นี้ท่านอาคาชินี่ความลับเยอะเหลือเกินเนอะ555ไปดีกว่า
    ซียู♥

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×