คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 19 : ตามหา
19
ตามหา
ร่างสูงหยุดยืนอยู่หน้าทางเข้าบ้านของใครสักคนที่อยู่คนละโลกกับเมื่อกี๊ ที่นี่มืดไปหมดรอบตัวบ้านถูกล้อมรอบไปด้วยความทะมึนไฟในบ้านยังคงส่องสว่างบ่งบอกให้รู้ว่าคนที่อาศัยอยู่ในนั้นยังไม่เข้านอน ร่างสูงเบือนหน้าไปมองคนที่พาเขามาส่งถึงนี่ซึ่งกำลังทำหน้าไม่รับบุญสุดๆ
"เป็นอะไรอ่ะ?"
"เอ่อคือเผ่าของผมไม่ค่อยถูกกับเผ่าหมาป่าน่ะ"
"งั้นเหรอ ขอบใจแล้วกันที่พาฉันมาถึงนี่" นารุโตะยิ้มให้และกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้านแต่ก็โดนอีกคนรั้งมือเอา ไว้ซะก่อน ใบหน้าคมหันมองคนรั้งด้วยสีหน้าไม่เข้า
"เข้าไปไม่ได้...ผมพามาดูเฉยๆว่าเขาอยู่ที่ไหนที่เหลือคุณต้องจัดการเอง" ร่างนั้นบอกก่อนจะหายไปต่อหน้าต่อตา
นา รุโตะเบิกตาโพล่งสติกลับมาครบถ้วนเขากวาดตามองรอบตัวแล้วก็ต้องอึ่งไป ชั่วขณะเจ้าปีศาจตัวนั้นเพียงแค่ฉวยโอกาสจับตัวเขาและแทรกเข้าไปในจิตของเขา บอกทีอยู่ของซาสึเกะแล้วฉายเป็นภาพให้เห็นเท่านั้นก่อนจะหายไป นารุโตะหยิบโทรศัพท์มืถือออกมากดโทรฯ
"หมอนั่นผ่านเขตไปรึยัง?"
'อืม...เพิ่งออกไปเมื่อกี๊มีอะไรจะถามงั้นเหรอ?" ที่นารุโตะโทรฯไปหาก็คือคนดูตั๋วผ่านทางนั่นเอง
"หมอนั่นมีตั๋วผ่านทางรึเปล่าล่ะ?"
'ไม่มีหรอก'
"อ้าว?!แล้วมันจะกลับถิ่นมันยังไงวะ?"
'ไม่ต้องหวงๆฉันทำหนังสือไปบอกฝ่ายโน้นก่อนแล้วล่ะ ก็นึกอยู่เหมือนกันคนอย่างนายมันใจดีเกินไปทำอะไรไม่ปรึกษาคนอื่นก่อน' เสียงจากปลายสายว่าดุๆซึ่งนารุโตะก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไปและฟังคำบ่นของคนดูตั๋ว
"ขอบใจ"
‘หา?’
“เปล่า…งั้นแค่นี้นะ”
‘อืม’
นารุโตะเก็บมือถือเข้ากระเป๋าก่อนจะตัดสินใจโดดเรียนวันนี้ซะเลยเพราะมันคงไม่ทันซะแล้วผ่านไปตั้งคาบนึงถ้าเขาเข้าไปในมหาลัยในตอนนี้คงมีแต่คนถามเขาว่าไปไหนมาเผลอๆอาจโดนลงโทษให้ทำรายงานเพิ่มก็ได้สู้ไม่ไปแล้วค่อยขอเพื่อนลอกงานที่ไม่ได้ทำวันนี้ยังจะดีซะกว่า
แล้วฉันจะไปหานายยังไงเนี่ยซาสึเกะ...
............................................................................................
หลายวันต่อมา
“เป็นอะไรนารุโตะ” ซาโซริที่เป็นบรรณลักษณ์ห้องสมุดเดินเข้าไปถามเจ้าตัวที่เอาแต่นั่งหน้าเครียดอยู่นานสองนานหนังสือก็วางกองอยู่เต็มโต๊ะแต่กลับไม่ยักจะหยิบอ่านสักเล่ม
นารุโตะเงยหน้ามองรุ่นพี่ที่เป็นแฟนของรุ่นพี่ที่เขารู้จักและยิ้มเจื๋อนๆให้ซาโซริตีหน้านิ่งกลับและยกหนังสือใกล้มือฟาดหัวรุ่นน้องจอมเก็บกดไปทีนึงแรงๆ นารุโตะร้องโอดครานและมองซาโซริตาขวางก่อนจะเริ่มวีน
“มาตีผมทำไมล่ะเนี่ยผมยังไม่ได้ยุ่งกับพี่เดอิดาระเลยนะ!”
“ก็ไม่ได้บอกให้ยุ่ง” นารุโตะคิ้วกระตุกและถอนหายใจยาวเพราะรู้ว่าเถียงกับชายคนนี้ไปก็ไม่ได้อะไร
“เปล่าผมไม่ได้เป็นอะไรนี่”
“อย่ามาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ สีหน้านายมันบ่งบอกชัดเจนขนาดนี้โง่อย่างเจ้าเดอิดาระยังดูออก”
ผัวะ!
“ว่าใครโง่ฟระ!!!” เดอิดาระที่โผล่มาตอนไหนไม่รู้ตวาดเสียงดังและจัดการใช้หนังสือเล่มเดียวกันที่ตบหัวนารุโตะไปฟาดหัวซาโซริที่บังอาจพูดไม่เข้าหู
“ก็ได้ยินนิยังจะถาม”
“ฉันแฟนแกนะเว้ยอืมม์!!...ฟะ..แฟะ..แฟน...เฮ้ย!ไม่ใช่!”
“หืมมมม?” ซาโซริแกล้งลากเสียงยาวและไล้มือไปตามแผ่นหลังของเดอิดาระที่เขินหน้าแดงไปหมดแล้ว
“ปล่อย เฮ้ย!” ไม่ทันระวังตัวร่างของเดอิดาระก็ถูกซาโซริโอบกอดเอาไว้ซะแล้วนารุโตะมองทั้งคู่ด้วยสายตาเศร้าสร้อยปนอิจฉาโดยไม่รู้เลยว่าซาโซริแอบสังเกตเห็น
“วันนี้กลับบ้านเองได้มั้ย?” อยู่ๆซาโซริก็เอ่ยถามร่างบางที่เขากอดอยู่ เดอิดาระมอลหน้าซาโซริงงๆเพราะปกติซาโซริจะคอยขอไปส่งตัวเองอยู่เรื่อยๆทั้งๆที่ไม่เคยขอร้องสักนิดแต่ก็ใช่ว่าเขาจะกลับเองคนเดียวไม่ได้
“ก็ได้อยู่หรอก…แล้วแกจะไปไหนอืมม์”
“ไม่ต้องรู้หรอก” ซาโซริว่าแค่นั้นก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มแดงๆนั่นทีหนึ่งด้วยความหมั่นเขี้ยว
“อย่ามาสวีทวี๊ดวิ้วต่อหน้าผมได้มั้ยเล่า”
นารุโตะที่นั่งเงียบอยู่นานในที่สุดก็เอ่ยขึ้นด้วยยความหงุดหงิดและลุกขึ้นจากโต๊ะพลางหอบหนังสือออกไปทันทีโดยไม่ลืมคืนอันที่ยืมไว้ด้วย ซาโซริกับเดอิดาระก็ได้แต่มองตามไปงงๆ
“เมื่อกี๊บอกกลับเองได้ใช่มั้ย?”
“ก็ได้น่ะเซ่!ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะอืมม์!” เดอิดาระวีนใส่เงียบๆขณะที่ซาโซริเพียงพยักหน้าเบาๆก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าเรียนและทิ้งท้ายไว้ด้วยความเป็นห่วงว่า
“ถ้าถึงบ้านแล้วก็โทรมาบอกฉันด้วย เข้าใจมั้ย?”
“เออ!”
.........................................................................................
นารุโตะเดินกลับบ้านเงียบๆคนเดียวขณะเดียวกันในหัวก็คิดถึงแต่คำพูดสุดท้ายของอิทาจิเมื่อสองปีก่อนและกำลังด่าตัวเองซ้ำไปซ้ำมาในเวลาสองปีนี้เขาทำอะไรอยู่ทำไมไม่รีบตามหาซาสึเกะให้เจอเร็วๆทำไม...ทั้งๆที่หาทุกวันกลับบ้านทุกวันตอนปีหนึ่งก็เกรดตกลงเรื่อยๆจนต้องให้กาอาระคอยสอนคอยติวให้ก่อนสอบทุกครั้งแล้วทำไมทั้งๆที่เจอแล้วแต่ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าที่นั่นมันคือๆที่ไหนทำไม...
ทำไมกันนะ
ปิ๊นๆ!!
ซาสึเกะ...นายอยู่ที่ไหน
“เฮ้ย!ระวัง!”
“อ๊ะ!!!”
โชคดีที่มีมือของใครบางคนฉุดเขาเอาไว้ไม่งั้นรถคงชนเขาและดับชีวิตของเขาเป็นแน่ นารุโตะยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊ไม่หายนี่เขาเพ้อถึงแต่ซาสึเกะจนลืมนึกถึงตัวเองรึไงนะ...
“เฮ้ย!ฉันว่านายแย่แล้วนะ หัดระวังซะบ้างสิคนอื่นเขาเดือดร้อนรู้มั้ยเจ้าบ้า!”
นั่นสินะฉันมันงี่เง่าเอง ขอโทษที
“เฮ้ย!ฟังอยู่รึเปล่านารุโตะ!นา...ฟัง..รึ...นารุ..”
เสียงตะโกนเรียกเขาซ้ำแต่ก็ไม่อาจปลุกเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ตกอยู่ในภวังค์ได้ซาโซริพยายามตะโกนเรียกแต่เบื้องหน้าดเขาก็มีแต่เพียงสายตาที่เลื่อนลอยจ้องกลับมาเท่านั้นในที่สุดร่างที่ไม่ได้นอนมาหลายวันก็ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาดีที่เขารับร่างนั้นไว้ทันซาโซริยกมือขึ้นอังหน้าผากของนารุโตะและก็ต้องเบิกตาโตเมื่ออุณภูมิร่างกายของเด็กหนุ่มร้อนมากถึงกับต้องชักมือออกนิดๆเขาส่ายหน้าและตัดสินใจอุ้มร่างที่นอนสลบไม่รู้เรื่องรู้ราวมุ่งหน้ากลับไปที่บ้านของเจ้าตัวเขา
2:30น.
นารุโตะขยับตัวนิดๆและลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะมองไปรอบตัวแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองกลับมาอยู่ที่บ้านร่างสูงลุกขึ้นนั่งและนวดขมับตัวเองช้าๆพลางทบทวนเรื่องราวเมื่อตอนเย็น เขาจำได้ว่าตัวเองกำลังจะโดนรถชนและซาโซริก็มาช่วยไว้จากนั้นก็...
“จำไม่ได้แฮะ”
ติ๊ด ติ๊ด
เสียงโทรศัพท์ดังต่อเนื่องอยู่ที่หัวเตียงนารุโตะชังใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอื่อมมือไปหยิบโทรศัพท์และกดรับสายก่อนจะรอฟังเงียบๆเขาเหนื่อยจนไม่มีแรงจะคุยกับใครแถมยังรู้สึกว่าร่างกายหนักอึ่งสุดๆลองเอามือทาบหน้าผากตัวเองดูยังสามารถรับรู้ได้เลยว่าตัวเองตัวร้อนขนาดไหน
‘เป็นไงบ้างเจ้าเด็กโข่ง’
“เฮียโซ”
‘เสียงงัวเงียเพิ่งตื่นเรอะ?’
“อืม”
‘แล้วเป็นไงบ้างตัวยังร้อนอยู่ใช่มั้ย?กินยาซะฉันวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง’ือ
“อืม...ว่าแต่...เฮียรู้ได้ไงว่าบ้านผมอยู่ไหน” นารุโตะยิงคำถามใส่ทันทีขณะหยิบยาล้ำหัวเตียงขึ้นมากินตามที่คนในสายสั่ง
‘ฉันโทรถามเดอิดาระ’
“งั้นเหรอ?แล้วง้อเมียยังอ่ะป่านนี้งอนแล้วมั้งที่เฮียไม่ไปส่ง”
‘จะบ้ารึไง หมอนั่นไม่โกรธกับเรื่องแค่นี้หรอก’
“เอ๊า!ก็ไม่แน่นะ” นารุโตะพูดติดตลกซึ่งสามารถทำให้คนปลายสายเต้นไปตามเกมได้อย่างสมบูรณ์
‘อย่าพูดแบบนั้นดิคนยิ่งกังวนอยู่’
“ฮะ ฮะ ผมล้อเล่น เอ่อ ผมไม่เป็นอะไรแล้วขอบคุณนะครับแล้วก็แค่นี้นะ”
‘เออ!ฉันน่าจะปล่อยแกให้นอนตายอยู่ตรงนั้นซะเลย’ คนปลายสายตะคอกกลับมานารุดตะก็ได้แต่หัวเราะแหะๆและกดวางสายทันทีเมื่อไม่มีอะไรจะคุยกันแล้ว เขารู้จักกับซาโซริมาตั้งแต่อยู่ม.ปลายเพราะรุ่นพี่คนนี้ตามจีบรุ่นพี่ที่เขารู้จักมานานจนในที่สุดก็เพิ่งได้เป็นแฟนกันเมื่อปีที่แล้วเพราะซาโซริเกิดทนไม่ไหวเลยตะคอกใส่หน้าเดอิดาระท่ามกลางสายตาของคนทั้งมหาลัยแล้วก็ขอเป็นแฟนซะดังลั่นพูดทุกอย่างที่อั้นมานานซึ่งมันทำให้เดอิดาระรู้ว่าซาโซริจริงใจกับเขามากเลยยอมตกลงคบกันเป็นแฟนในที่สุด
คิดมาถึงตรงนี้นารุโตะก็หลุบตาต่ำลงด้วยสายตาที่เลื่อนลอยเหม่อมองไปเรื่อยหลายวันมานี้เขาคงโหมนักเกินไปจนลืมคิดถึงตัวเองตั้งแต่รู้ว่าซาสึเกะอยู่ที่ไหนเขาก็ออกตามหน้าบ้านที่มีลักษณะนั้นมาตลอดด้วยความหวังไว้ว่าจะมีสักหลังที่เขาจะได้พบกับซาสึเกะทว่าหากมีสักหลังก็คงดีมันกลับไม่มีเลยจนวันนี้ขัดจำกัดของเขาก็สิ้นสุดลงเขาเหนื่อยเหลือเกิน
ขอโทษซาสึเกะ...ฉันขอพักสักหน่อยฉันสัญญาจะหานายให้เจอ
...................................................................................
ภายในโลกแห่งหนึ่งโลกที่มีแต่เพียงความมืดเข้าครอบงำโลกที่มีแต่กลิ่นคาวเลือดเต็มไปด้วยไอพิษซึ่งไม่มีมนุษย์คนไหนเคยเข้ามาและมีชีวิตรอดกลับไป บ้านสองชั้นตั้งตระง่านอยู่กลางสวนที่ตกแต่งแปลกตาภายนอกมีสุนัขตัวใหญ่สองตัวนอนหลับพริ้มตัวหนึ่งมีขนสีขาวเรียบถูกล่ามโดยโซ่และปลอกคอสีแดงอีกตัวมีขนสีน้ำตาลแดงยาวนิ่มถูกล่ามโดยโซ่และปลอกคอสีทองบ่งบอกถึงอณาเขตของหนาป่าาลึกเข้าไปภายในบ้านที่เปิดไฟเลออนสีส้มร่างบางในชุดสีดำยาวปิดต้นขานั่งไหว้ขาบนเก้าอี้นวมเท้าคางมองแสงเทียนซึ่งถูกจุดไว้ทุกครั้งเมื่อถึงเวลานี้เป็นการบ่งบอกอณาเขตอีกครั้ง เปลือกตาปรือลงใกล้ปิดนั้นยังคงเหม่อมองไปยังแสงเทียนที่ไม่มีท่าทีว่าจะดับ
“ทำไมยังไม่นอนอีก” ร่างบางของผู้เป็นพี่เดินลงมาจากชั้นบนพลางเพ่งมองไปยังร่างบางของผู้เป็นน้องที่ยังคงนั่งเหม่อมองแสงเทียนและไม่มีท่าว่าจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปนอนง่ายๆ “สองปีแล้วพี่ยังไม่เห็นหัวมันซักนิดเลิกหวังสักทีเป็นห่วงตัวเองบ้างได้มั้ย?”
ไม่มีคำตอบจากร่างบางดวงตาสีดำปรือนั้นยังคงนิ่งเขาหวังว่าคนที่เป็นเจ้านายของเขาจะหาเขาเจอแต่สองปีแล้วเขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเขารู้ว่าหมอนั่นไม่มีทางหาเขาเจอก็พี่เขาพากลับมายังโลกปีศาจแบบนี้คงจะหาเจออยู่หรอกหมอนั่นก็งมโข่งไปเถอะ
“ไปนอนได้แล้ว”
“ไม่เอา”
“ซาสึเกะ อย่าดื้อ”
“ไม่เอา”
อิทาจิมองน้องด้วยสายตาตำหนิละคนเป็นห่วงเขาถอนหายใจแรงๆก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างบางที่นั่งนิ่งไม่ไหวติง
“ทำไม...พี่ถึงพาผมกลับมาทั้งๆที่รู้ว่ายังไงนารุโตะก็หาผมไม่มีทางเจอ”
“พี่บอกแล้วไงถ้ามันมีปัญญาหาเจอก็ต้องเจอ”
“โลกปีศาจเนี่ยนะ!ใครจะคิดถึง!” ซาสึเกะลุกขึ้นเผชิญหน้าพร้อมกับตวาดเสียงดังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจะอิทาจิอดตะลึงไม่ได้
“พี่เข้าใจ”
“แล้วทำไม?ยังจะ...ฮึก...” ร่างบางมองหน้าคนเป็นพี่ก่อนทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าพลางซุกใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตนลงกับเข่าและสะอื้นเงียบๆท่ามกลางความตกตะลึงของอิทาจิ ผู้เป็นพี่เมื่อได้สติกลับมาก็รีบปรี่เข้าไปรวบร่างบางของน้องเข้ามากอดทันที
“โอ๋ๆ อย่าร้องสินารุโตะไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกต้องมีสักวันนั่นแหละใจเย็นๆไว้”
“พรุ่งนี้...ก็หมดสัญญาระหว่างผมกับเขาแล้วนะ” ซาสึเกะว่าเสียงสั่น
“ไม่เอาน่า...พี่ได้ยินจากคาคาชิว่าหมอนั่นตามหานายตลอดแถมยังทำหน้าที่ผู้รักษาเขตแดนได้เป็นอย่างดีด้วย”
“ฮึก..”
“นายไม่ต้องกลัวหรอกก็นายรักหมอนั่นมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอไม่งั้นคงไม่เลือกหมอนั่นให้เป็นเจ้านายหรอกใช่มั้ย?...เชื่อในตัวเขาหน่อยสิ” อิทาจิว่าพลางลูบหัวน้องเพื่อปลอบให้เงียบลงซะเดี๋ยวคนอื่นก็หาว่าเขารังแกน้องอีกแน่ะ แต่...ความรักของหมาป่าผู้พิทักษ์มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเพราะชะนั้นให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมโกงโชคขะตาเด็ดขาดถ้ามันกำหนดให้เจอก็ต้องเจอโตะจะได้เจอเกะแล้วๆ แหม่ไม่อยากจะบอกว่าเรื่องนี้มันใกล้จะจบแล้วอีก2-3ตอน
ฮ่าๆๆบางคนอาจจะคิดว่าเรื่องแมร่งดำเนินเร็วไปเปล่าวะ? เอิ่ม...เราพยายามยืดแล้วนะT^T
ว่าจะดราม่าซะหน่อยแหม่ดราม่าไม่ลงซะงั้น- -เพราะไม่อยากให้หนูเกะช้ำใจพี่อิจจี้ก็ใจร้ายชะมัดเลยง่ะ
แต่เราไม่แคร์เพราะยังไงตอนจบก็ได้คู่กันอยู่ดีนี่ไม่ใช่ฟิคดราม่านี่หว่า
อดใจรออีกนิดเดี๋ยวก็หวานกันแล้วนะเออวันนี้ขอกราบลาเลยแล้วกันสวัสดีค่ะ
เกะสวยไปลูก=..,=
ซียู♥
เหมียว หง่าว
ความคิดเห็น