คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : งานเข้า!
งานเข้า! 1
ชายหนุ่มวัย23ตำแหน่งหัวหน้าแผนกหน่วยงานพิเศษ ณ ตอนนี้นอกจากนั่งเซนเอกสารจากงานที่ตกค้างจากงานอื่นที่ลูกน้องไปทำเละไว้และเขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดแต่มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมากมายสำหรับเขาเรียกอีกอย่างว่าชินชาเขาชินกับการโดนเรียกไปพบตัวชินกับการถูกต่อว่าในหลายๆงานจนเบื่อที่จะคิดลาออกหรือบางทีเขาจะเป็นพวกมาโซคิสชอบให้คนด่าไปเสียแล้ว?
อ่า...แล้ววันนี้ก็เช่นกันหลังเซ็นเอกสารการรับผิดชอบทุกอย่างเสร็จเขา ‘ไฮเสะ ซาซากิ’ คนนี้จะต้องบากหน้าเดินขึ้นไปพบคุณหัวหน้าใหญ่ชั้นพิเศษ ’อาริมะ’ เพื่อหาข้ออ้าง...อ่า...ข้อแก้ตัวในเรื่องต่างๆที่เด็กๆเขาไปเล่นปาหี่จนพลาดพลั้ง ร่างบางของหนุ่มผมสีดำแซมขาวเลื่อนเก้าอี้ออกจากจอคอมพิวเตอร์เล็กน้อยก่อนเอนกายพิงพนักเก้าอี้ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายมือปล่อยวางเอกสารทั้งหมดที่เพิ่งเซ็นเสร็จและรายงานที่ต้องแก้อีกหนึ่งปึกลงบนโต๊ะอย่างเสียไม่ได้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเพดานมือข้างหนึ่งยกขึ้นถอดแว่นนวดหว่างคิ้วเล็กน้อยคลายอาการปวดตาตั้งแต่เขาออกมาจากบ้านเมื่อเช้าพอมาถึงที่ทำงานเหล่าเด็กๆที่แสนน่ารักก็วิ่งเข้ามาบอกเรื่องวุ่นวายที่ก่อไว้ตั้งแต่ต้นจนจบนั่นเล่นเอาไฮเสะแทบจะเป็นลมล้มพับเข้าโรงพยาบาลไปซะเดี๋ยวนั้นและก็เป็นเหตุให้เขามานั่งพิมพ์รายงานอีกหนึ่งปึกอยู่นี่...
ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกระรอกคิดไปก็เท่านั้นบ่นออกมาก็เป็นเรื่องเป็นราวอีกถ้าใครมาได้ยินเข้าคงไม่ดีงานเข้าอีกแหงๆคิดแล้วก็พาลให้อยากถอนหายใจอีกรอบแต่ถ้าขืนทำแบบนั้นไม่พ้นโดนนินทาอีกน่ะสิคนพวกนั้นจับผิดเก่งยิ่งกว่านักสืบชื่อดังในนวนิยายสืบสวนเสียอีก
เฮ้อ...
ทำไมชีวิตฉันมันยุ่งยากแบบนี้นะ...
ชักอยากกลับบ้านแล้วสิ...
มหาลัยคามิ
ระหว่างกำลังเก็บข้าวของไปเรียนคาบต่อไปก็มีคนมาเรียกที่หน้าห้องเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมห้องที่เป็นผู้หญิงเด็กหนุ่มเพียงสบตาด้วยและพยักหน้าเป็นอันว่ารับรู้เรียบร้อยเธอบอกเขาว่ามีคนอยากเจอเป็นกลุ่มแก๊งอันตรพาลดูไม่น่าไว้ใจเขาเองก็คิดอยู่แล้วว่ามันจะต้องมีเข้ามาหาทุกวี่ทุกวันพวกนี้ไม่รู้จักเข็ดหลาบหรือไม่เบื่อกันบ้างหรือไงกันนะหรือเป็นเพราะผมสีขาวที่แสนจะเด่นของเขาด้วยหรือเปล่านะมันถึงได้ดึงดูดพวกนั้นเข้ามาได้เรื่อยๆ...
สีแบบนี้มันเป็นมาตั้งแต่เกิดมาแล้วต่างหาก...
“นี่จะไปกันแล้วนะ!” เพื่อนอีกสองสามคนเอ่ยเรียกหน้าห้อง เคนเพียงครางตอบออกไปเบาๆและรวบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นลุกเดินตามออกไปมือเล็กเผลอยกขึ้นจับเส้นผมของตัวเองขณะที่ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกระเบียงแสงอาทิตย์วันนี้ค่อนข้างแรงนกตัวน้อยหุบปีกลงเดินที่พื้นดินภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ขณะที่อีกตัวพองขนทำตัวใหญ่จีบตัวเมียแข่งกับหนุ่มอีกหลายตัว...
หึ...ถ้าชีวิตคนมันง่ายแบบนั้นก็ดีสิ...
ร้อนก็หลบเมื่อยก็พักบินได้อย่างอิสระเวลาจะจีบสาวก็แค่ทำตัวให้พองๆดูใหญ่โตสามารถปกป้องเขาได้...แค่นั้นก็ได้คนรักมาครอบครองบางทีเขาก็คิดว่าควรจะเลิกหนีความจริงเสียทีทั้งๆที่ไม่อยากเจ็บมือเสียหมัดไปกระแทกหน้าใครแท้ๆแต่ในเมื่อหาเรื่องเองก็ช่วยไม่ได้เอ...แต่เดี๋ยวนี้เรื่องมันชักจะตรึงมือมากขึ้นยังไงก็ แค่เบาะๆก่อนดีกว่า
ปึก!
หลังจากเดินเอื่อยเลื่อนเวลาเรียนหรือเรียกง่ายๆว่าเนียนโดดร่มก็โดนชนเข้าให้กลางอกดังปึกเป็นเสียงที่ยืนยันได้แน่นอนว่าคนชนมันต้องพุ่งตัวมาแรงมากแต่ดูเหมือนอิกำแพงเมืองจีนนี่จะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดเพียงปลายตามองคนที่ล้มไปนั่งกลิ้งกับพื้นเท่านั้น
“นี่นายเดินดูทางบ้างสิ!” เอ๊า! ก็แม่นางวิ่งไม่ดูแล้วมาชนเขาเองไม่ใช่เรอะ เคนแอบเถียงเบาๆและด้วยความที่เป็นสุภาพบุรุษจึงโน้มตัวลงยื่นมือให้อีกส่ายเป็นหลักจับลุกยืนขึ้นพร้อมถามด้วยเสียงนุ่มดูเป็นมิตรว่า
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” แสดงถึงความเป็นพระเอกเสียเต็มประดาประมาณว่าตูเป็นคนดีนะหรือฉันเป็นฮีโร่นะและแน่นอนเพราะด้วยความหล่อที่เป็นทุนเดิมจึงทำเอาแม่สาวไข่ดาวซาลาเปาสองห่อบนหัวถึงกับหน้าแดงเป็นมะเขือเทศแล้วรีบบอกปัดว่าไม่ได้เป็นอะไรก่อนวิ่งหายวับเข้าซ่อ---เข้าห้องอาจารย์ไป
หลังจากหมดเรื่องหมดราวเคนก็เดินเพลินมาหลังมหาลัยที่เป็นที่นัดพบระหว่างแก๊งขี้แพ้ชวนตีกับตัวเขาพระเอกผู้เรืองรองก่อนอื่นก็ต้องยืนล้วงกระเป๋าเท่ๆให้สาวกรี๊ด...สาวมาจากไหน ไม่ต้องสงสัยเพราะทุกครั้งที่มีเรื่องแม่นางเหล่านั้นก็ยกโขยงมาจากไหนไม่รู้แล้วที่แน่ๆคือไปเอาข่าวมาไหนถึงได้รู้ว่าเขาจะโดนบวกในเร็วๆนี้กัน?
เด็กหนุ่มกวาดตามองคู่ต่อสู้ตั้งแต่หัวจรดเท้าตั้งแต่เคราแพะยันรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาลแก่และผู้ติดตามหน้ากากประหลาดๆอีกสามคน ตั้งใจจะดูถูกกันรึไงเขายืนเฉยๆปล่อยให้พวกนั้นบุกเข้ามาก่อนเป็นไปได้ก็อยากจะให้คุยกันก่อนเผื่อจะได้ไม่ต้องตีกันมันเปลืองค่าสำลีหมอ
“...มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงและถ้อยคำสุภาพน่าคบหาทว่ากับครอบครัวนี้คนละเรื่องไม่รู้มันเป็นความลำเอียงแบบไหนเหมือนกันยิ่งกับคาเนกินี่ไม่ต้องพูดถึงแกล้งได้แกล้งเอาไม่มีเบื่อ
เอ่ยถามจบเหล่าสามเกรอก็หันไปซุบซิบๆกันส่วนตัวหัวหน้านี่เดือดเลือดขึ้นหน้าอย่างกับเขาเคยไปเผาบ้านมันอย่างไรอย่างนั้นเคนเอียงคอมองและยิ้มให้เล็กน้อย...หรือจะเรียกว่าแสยะดี?
“นะ…นายยยย คนที่อยู่กับคุณริเสะตอนนั้น! คบกันแล้วใช่ไหม!! แกเป็นใครฉันไม่รู้แต่...แต่ ฮว๊ากกกกก” แล้วหมัดรุ่นๆก็ส่งมาหมายกระแทกแก้มของเคนทันใดนั้นขณะเดียวกันเจ้าตัวก็หลบและพลิกตัวยกเข่ากระแทกสีข้างอีกฝ่ายเต็มแรง เจ้าหนุ่มที่พูดมากและร้องว๊ากๆฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อครู่กระอักและล้มลงไปนอนจุกอยู่กับพื้นทันใด เคนมองบุคคลตรงหน้าอย่างอึ้งๆเขาไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน...
นัดเดียวจอด...
แค่ตีเข่ามันก็น็อคเอาท์ไปซะแล้วเด็กหนุ่มส่ายหัวเบาๆและถอนหายใจก่อนเดินออกมาปล่อยให้ลูกน้องสองสามคนของเจ้าหนุ่มนั่นวิ่งเข้าไปดูอาการที่เหมือนจะโคม่าของหัวหน้า
“เดี๋ยว…”
หือ?...
โอ้ให้ตายเถอะอึดใช้ได้แฮะเคนพลิกหน้าหันกลับมาเมื่อขาเขาถูกสกัดโดยมืออีกคนซ้ำมันยังยึดจับไว้โดยไม่ปล่อยง่ายๆแน่นอนเจ้าของเรือนผมสีขาวนั่งลงยองๆและเอ่ยถามอีกครั้งทว่าก่อนจะได้เปิดปากพูดคนที่จับขาเขาไว้ก็ดันชิงถามขึ้นมาเสียก่อน
“นาย...เก่งขนาดนี้เชียวเหรอ...อ๊อค” แล้วก็ม่องเท่งไปในที่สุดทำเอาเหล่าลูกน้องร้องโหยหวนกันไปตามๆกันขณะที่เคนยังคงมึนอยู่กับสถานการณ์
“คือว่านะ…คุณบันจอยไม่ได้ต้องการมาหาเรื่องหรอก...เอ่อ หัวหน้าเรานะ”
“หือ...”
“โคตรจะกากเลยล่ะครับ” ว่าไปนั่น...
.......................................................................................................
เปลือกตาบางเปิดขึ้นเผยดวงตาสีเทาหม่นจนเกือบดำ บางทีไฮเสะก็คิดว่านี่เป็นวันซวยของเขาหรือไงกันนะ อา...อากาศดีจังน่าจะลุกจากเก้าอี้...อ่าไม่สินี่มันควรจะเรียกว่าเตียงเคลื่อนที่ต่างหากดีจริงๆดีจริงๆดีจนน้ำตาไหลเลยล่ะ ภาพแรกที่ปรากฎสู่ม่านสายตาของเขานั่นแหละคือสาเหตุ...เพราะมันคือ
แว่น...
และสิ่งที่ตามมาก็คือใบหน้านิ่งจนเปลี่ยนเป็นเย็นชาสายตาที่จ้องมองมาอันแสนอบอุ่นและอุ้งมือที่วางแตะอยู่บนหัวของเขาอย่างรักใคร่เอ็นดูปานจะกลืนกินช่างเป็นคุณพ่อในฝันจริงๆ อบอุ๊นอบอุ่นอ่ะ...
“อะ...อรุณสวัสดิ์ครับคุณอาริมะ” นั่นปะไร อุส่าบอกน้องๆแล้วว่าวันนี้ไม่ได้นัดประชุมแต่เพราะเมื่อเช้าเด็กๆหาเรื่องมาให้เลยโดนเรียกตัวแล้วพองานเสร็จก็ดันคิดอะไรเพลินมันเลยเผลองีบรู้สึกตัวอีกทีก็มานอนหนุนตักคุณอาริมะซะแล้วแถมเขายังรู้ทันกั๊กตัวไว้ไม่ให้หนีได้อีกต่างหากมือที่วางอยู่บนหัวกะจะล็อคไว้ไม่ให้ลุกขึ้นเลยสินะ...
“นี่เที่ยงแล้วไฮเสะ” อ๋อเหรอครับ? อยากจะแสร้งถามแบบนั้นเพื่อเปลี่ยนเรื่องจริงๆแต่ดูเหมือนพูดไปก็เหมือนขุดหลุมฝังตัวเองเองนั่นแหละ
“เอ่อ...คือ บางทีผมก็คิดว่าควรจะลุก”
“อืมนั่นสินะ ขอโทษด้วยแล้วกัน” แล้วเขาก็ปล่อยให้ลุกทว่าพอจะยืนเขาก็ฉุดให้ลงมานั่งเสียอย่างงั้นไฮเสะมองเจ้านายด้วยความไม่เข้าและด้วยความที่มีความซื่อ(บื่อ)อยู่เป็นทุนเดิมเลยไม่คิดจะถามเรื่องที่ว่าตัวเองไปนอนอยู่บนตักคุณอาริมะได้อย่างไรและใครที่ไหนเป็นคนอุ้มมา...
“เอ่อคือ...เรื่องที่...เด็กๆไปก่อเรื่องมาเมื่อวันก่อน..” คนข้างๆเอ่ยขึ้นเบาๆด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนักใบหน้านั้นก้มต่ำราวกับกำลังหนีสายตาของอีกฝ่ายที่จับจ้องมองมา อาริมะเพียงมองใบหน้าด้านข้างของไฮเสะและดันแว่นให้ตรงสายตา
“ค่าเสียหายก็เยอะพอดูเลยล่ะ”
ฉึก!
“และดูเหมือนทางนั้นจะไม่ค่อยพอใจด้วย”
ฉึก!
“แถมบอกว่าพนักงานไม่เต็มใจเสนอสินค้าแล้วยังทำหน้าไม่รับลูกค้าอีกต่างหากโดนหมิ่นหลายข้อหาเลยล่ะ”
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
ที่พูดมาทั้งหมดก็ควรค่าแก่การเสียน้ำตาแล้วล่ะครับคุณอาริมะ ไฮเสะแอบร้องไห้เบาๆแทงใจไปหลายดอกกันเลยทีเดียวแล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้แล้วเขาจะแก้ข่าวเสียๆหายๆกับทางบริษัทนี้ยังไงแล้วเขาจะหาลูกค้าที่พร้อมจะจ่ายตังค์แบบนี้ได้ที่ไหนอีกแล้ว...แล้ว...แล้วเขาจะโดนไล่ออกไหมมมม!!
“เอ่อคือ…ผะ...ผม”
ชิบหายละตูจะแก้ตัวยังไงดี?
ในขณะที่กำลังกังวนในหลายๆเรื่องอยู่นั้นคุณอาริมะก็เข้ามาจับบ่าเขาเบาๆเรียกสติอีกฝ่ายและใบหน้าติดหวานนั้นให้หันไปมองถ้าคิดในแง่ดีเขาอาจจะไม่ไล่ออกแต่ลดตำแหน่งและย้ายไปแผนกอื่นแทนแต่ถ้ากลับกันเขาอาจจะโดนเตะออกจากที่นี่น้องชายสองคนคงอยู่กันเองไม่ได้แน่นอนสมัยนี้งานไม่ได้หากันง่ายๆด้วยมีหวังอดตายกันทั้งบ้านแหงๆ
“ผมจะ...ผมจะรับผิดชอบแทนพวกเขาเองจะ...จะให้ผมทำอะไรก็ได้ครับ ผม...” ผมไม่รู้จะใส่ไข่ยังไงแล้วครับพ่อคุณอย่าไล่ตูออกเป็นพอ ไฮเสะกำลังพึ่งดวงที่ไม่ค่อยจะมีของตัวเองอย่างสุดชีวิตและภาวนาเว้าวอนขอพระเจ้าที่ไม่รู้มีอยู่จริงไหมให้ช่วยบรรดารให้เขาสมปรารถนาที่เถิดดดด
ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายปลายตามองคนที่กำลังสั่นกลัวอยู่ข้างๆและน้ำตาปลิ่มจะร้องไห้อยู่รอมร่อเขาถอนหายใจเรื่องที่เจ้าเด็กพวกนั้นหาเรื่องเหนื่อยมาให้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้คนข้างๆเขาต้องหนักใจและเข้ามารับผิดชอบเสียทุกเรื่องด้วยความเป็นหัวหน้าแต่...เขาก็เข้าใจ
“เรื่องที่เกริ่นมาทั้งหมดฉันช่วยรับผิดชอบให้หมดแล้ว…นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
“เอ๋?”
พวกนั้นไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ก็แค่อยากจะช่วยให้หัวหน้าตัวเองมีชื่อในทางที่ดีบ้าง...ก็เท่านั้น
“แต่...มีข้อแลกเปลี่ยนเพราะฉันคงไม่ทำให้ฟรีหรอกนะ”
เพื่อแก้ไขคำติฉินนินทาทั้งหลายเพื่อให้คนเหล่านั้นได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วเจ้านายของพวกเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เขาลือกันก็แค่อยากให้พวกนั้นมองในทางที่ดีบ้างแม้สักเล็กน้อย...
“ครับ” ไฮเสะในเวลานี้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วขอแค่ไม่โดนไล่ออกข้อแลกเปลี่ยนนั้นจะเปลืองเนื้อเปลืองตัวแค่ไหนเขาก็จะยอมทำ
ร้านกาแฟอันเทย์กุ
“นี่นาย...จะทำ Part time ร้านนี้จริงดิ...” นากาชิกะ ฮิเดโยชิ เพื่อนสนิทสุดซี้ของคาเนกิวันนี้หลังเรียนเสร็จเขาก็มาเป็นเพื่อนคาเนกิซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์แอบรักสาวแว่นอกหนองโพไปก็ชวนเดทกันแล้วก็ถูกแม่นางฉกกระเป๋าตังค์หมดเนื้อหมดตัวกันไปแล้วหวิดเกือบโดนลักไปฆ่าแต่ยังโชคดีที่มีสาวน้อยคนนึงมาเห็นเข้าเลยช่วยเรียกคนแถวนั้นมาช่วยได้ทันและ...เธอคนนั้นก็ทำงานอยู่ที่นี่แหละ...
“อืม...ฉันกับพวกพี่ๆชอบมากินกาแฟร้านนี้ตอนจะกลับบ้านน่ะ ก็ว่าทำไมเธอหน้าคุ้นๆที่แท้ก็เด็กร้านนี้” คาเนกิว่ายิ้มๆและผลักประตูหลังร้านเข้าไปพบผู้จัดการร้านที่เป็นชายแก่แต่ดูเป็นผู้ดี “คือว่า…ผมอยากทำงานที่นี่...น่ะครับ”
ชายแก่อมยิ้มให้และเชิญคาเนกิเข้ามาด้านในร้านก่อนยกกาแฟมาวางตั้งและนั่งคุยกันด้านในร้านอย่างเป็นกันเองสักพักคาเนกิก็ออกมาและยิ้มให้ฮิเดะที่ยืนรอเป็นเพื่อนอยู่ด้านนอก
“เป็นไงบ้าง?”
“อืม…เขาบอกให้เริ่มงานได้พรุ่งนี้เลย ยังไม่ได้เจอเด็กคนนั้นหรอกคุยกับผู้จัดการคนเดียวน่ะ” เมื่อเห็นสายตาฮิเดะที่จ้องมองมาราวกับจะถามหาเธอคนนั้นคาเนกิก็ชิงตอบกลับไปก่อนและเดินกลับมหาลัยไปอีกครั้งเพื่อเรียนคาบบ่ายอีกคาบหนึ่งและนั่งรอฝาแฝดที่วันนี้มีเรียนมากกว่าเขาหนึ่งคาบ
......................................................................................................
“หา!! ฝาแฝด!” ชายหนุ่มหลุดเสียงดังด้วยความลืมตัวว่าตัวเองอยู่ในห้องพยาบาลของมหาลัยที่มาหมอบอยู่นี่ได้ก็เพราะเคนช่วยแบกมาและรอให้เจ้าตัวตื่นโดยฟังคำเล่าจากลูกน้องของเจ้าหมอนั่นแทน
“อืม…ที่นายพูดถึงคงเป็นคาเนกิล่ะสิ...เห็นว่ามีผู้หญิงมาหลอกหุกทรัพย์หมดตัวมาเมื่อวันก่อน” พูดแล้วก็ก็อดขำไม่ได้ทำไมน้องเขามันซื่อขนาดนั้นนะหรือว่าได้พี่มา?
“เอ่อ...งั้น...พวกเราก็ต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด!!” หนุ่มเคราแพะก้มหมอบขอโทษขอโพยอย่างเอาเป็นตายเล่นเอาเคนเองก็รู้สึกเกรงใจเล็กน้อยอันที่จริงไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย...
“ลุกขึ้นเถอะครับ แล้วก็ทำไมถึงโกรธล่ะ?”
“หา? เอ่อเปล่าหรอกไม่ได้โกรธ ฉันก็แค่ช็อคที่คุณริเสะมีแฟนแล้วเท่านั้นเอง” ว่าพลางหน้าหงอยจนเคนชักจะเริ่มสงสัยแล้วว่าไอ้นี่มันเกี่ยวข้องอะไรกับยัยริเสะนั่นกันแน่(วะ)นะ
“เอ่อแล้วทำไมจะต้องมาชวนผมทะเลาะด้วยล่ะ?”
“หา? อ๋อก็แบบว่าพอรู้ว่าเป็นแฟนคุณริเสะก็เลยเผลอ...” เคนส่ายหน้าแล้วไหงไอ้หมอนี่มันถึงได้คิดไปเองเป็นตุเป็นตะขนาดนั้นฟระเขายังไม่ได้พูดสักคำว่าเขาหรือคาเนกิเป็นแฟนริเสะเสียหน่อย
“อ่า ไม่ใช่หรอกคาเนกิไม่ได้เป็นแฟนริเสะ...”
“หา! คุณริเสะยังไม่มีแฟนเหรอ!” บันจอยลุกขึ้นพรวดพลาดยื่นหน้าเข้าใกล้เคนและถามเสียงดังเรียกสายตาจากทุกคนในห้องพยาบาลอีกรอบ เคนเบิกตามองเล็กน้อยและยกมือขึ้นดันอกอีกฝ่ายออกก่อนกดให้อีกคนนั่งลงดีๆ
“ครับ แล้วทำไมถึงถามหาเธอขนาดนั้นล่ะ” เคนเข้าเรื่องถามตรงประเด็นและนั่งประสานมือมองอีกฝ่ายที่ทำท่าจะปรึกษากันว่าจะเล่าดีไม่เล่าดีแต่สุดท้ายไม่นานบันจอยหัวหน้ากลุ่มก็เอ่ยปากตอบในที่สุด
“อ๋อ คืองี้นะริเสะเป็นพวกหาตัวจับยากเธออยู่ไม่เป็นหลักแหล่งและเธอเคยอยู่บ้านข้างๆฉันมาก่อนดูเหมือนจะเป็นบ้านญาติแล้วทุกวันๆฉันสังเกตมาหลายครั้งเธอถูกพวกนั้นทำร้ายจนเธอทนไม่ได้และหายไปตอนนั้นฉันก็คิดว่าดีแล้วที่เธอหายไปแต่ว่าหลังจากนั้นฉันก็เห็นคนพวกนั้นพยายามตามตัวเธอฉันคิดจะไปบอกเธอแต่ก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนจนเมื่อวันก่อนเห็นเอ่อ...แฝดนายไปนั่งอยู่กับเธอก็เลยคิดว่าน่าจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนเพราะวันนั้นฉันคลาดกับเธอหลังจากสะกดรอยตามไป...”
“งั้นเหรอครับ” เคนเพียงตอบกลับสั้นๆเขาไม่เคยคิดว่ายัยผู้หญิงที่ฉกเงินน้องชายเขามันจะมีปริศนาชวนดราม่าแบบนี้ด้วยเด็กหนุ่มมองอีกฝ่ายเงียบๆและลุกขึ้นยืนเรียกบันจอยและเหล่าลูกน้องให้หันมอง “เอาเป็นว่าผมไม่รู้หรอกนะว่าเธออยู่ที่ไหนเพราะคาเนกิบอกว่าเธอเอาเงินเขาไปและหายไปเลย” เคนว่าก่อนลุกขึ้นยืนและเอ่ยเป็นครั้งสุดท้าย
“แต่ถือว่าเราแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้วถ้าหากผมเจอเธอจะบอกให้แล้วกัน” กล่าวจบก็เดินออกจากห้องพยาบาลไปทันทีปล่อยให้บันจอยกับเหล่าลูกน้องหันมองหน้ากันและรีบวิ่งตามออกไปก่อนแหกปากถาม
“เดี๋ยว! นายชื่ออะไร?!” เคนเพียงหันกลับมาครึ่งหน้าและเอ่ยตอบแบบปัดๆก่อนเดินหายลงบรรไดไปโดยไม่รอให้ใครซักอะไรอีก
“ไฮเสะ เคน”
.................................................................................................................................
จบไปอีกหนึ่งตอนพิมพ์ผิดตรงไหนก็บอกได้นะคะ><
ผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ ><
แล้วเราจะพยายามแต่งต่อไปค่ะขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ555
ข้อแลกเปลี่ยนของคุณอาริมะคืออะไรนะ อยากรู้ก็ขอให้ติดตามต่อตอนต่อไป
เราปิดเทอมแล้ววว มีเวลาว่างอัพมากขึ้นไม่ต้องกังวนเรื่องงานแล้วค่ะเย่!!
เฮ้อหัวสมองจะได้แล่นสักที=w= เข้าใจนักเขียนที่กำลังอยู่ในช่วงที่จะต้องเลือกเรียนเลยค่ะว่าทำไมไม่อัพนิยายกันสักที
มันกังวนอ่ะเนอะหัวไม่แล่นเลยต้องผ่านช่วงนั้นมาก่อน555เอาล่ะทักทายกันยาวเหลือเกิน
ขอบคุณนะคะวันนี้ขอลา
ซียู♥
ความคิดเห็น