คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 13 : ไม่ปล่อยไปอีก
13
ไม่ปล่อยไปอีก
บรรยากาศในห้องถูกครอบง้ำด้วยความเงียบ...ทั้งคู่นั่งทานข้าวกันเสร็จแล้วจานก็เอาไปเก็บหมดแล้วแต่นารุโตะยังไม่กลับห้องแถมยังห้ามไม่ให้อีกคนกลับด้วยเพราะเดี๋ยวจะหนีไปไหนอีก นี่มันอะไร!!อยู่ๆก็มากักตัวกันแบบนี้!!นารุโตะฟุบลงกับโต๊ะส่วนอีกคนที่นั่งตรงข้ามก็เอาแต่เงียบจะพูดอะไรก็ไม่อยากเพราะขี้เกียจถียงด้วยมันน่ารำคาญทำไมเขาต้องมานั่งอยู่นี่ล่ะแทนที่จะได้ไปทำธุระอะไรๆให้มันเสร็จ
“นายจะไม่กลับไปกับฉันจริงๆเหรอ” นารุโตะเอ่ยถามเสียงเบาๆสายตาเลื่อนลอยเหม่อมองออกไปข้างนอก ซาสึเกะหรี่ตามองนิดๆจะให้ตอบคำถามโง่ๆแบบนี้รึไงเขาจึงเลือกที่จะเงียบปากไว้และความเงียบ!ก็เข้าปกคลุมอีกครั้ง
“ตอบฉันสิ” ถึงเสียงจะเบาแค่ไหนแต่น้ำเสียงที่ฟังมันบีบบังคับเสียจริงเสียงทุ้มนั้นถูกกดต่ำลงและเหมือนกำลังกัดฟันพูดอย่างอดกั้นสุดๆ ซาสึเกะกำมือแน่นสถานการณ์ตอนนี้ไม่น่ากดดันสำหรับเขาเลยสักนิดแต่ทำไมเขาถึงรู้สึก...ถึงรู้สึก..รู้สึก กลัว แบบนี้
“ซาสึเกะ…” นารุโตะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาด้วยใบหน้าที่ดูยังไงก็ยังเดาได้ว่ายังไม่หายโกรธแถมยังอยากได้คำตอบเร็วๆด้วย ซาสึเกะก้มหน้าลงต่ำไม่อยากแม้จะสบตาด้วย…เขาผิดอะไรล่ะทำไมหมอนั่นจะต้องมาสนใจเรื่องของเขาด้วย ทำไมจะต้องสนใจด้วย...ไม่เข้าใจสักนิด
“นี่...ตอบฉันสิ” นารุโตะมองหน้าอีกฝ่ายถ้าเกิดเป็นผู้หญิงคงร้องไห้ไปนานแล้วแต่เขากลับร้องไม่ออกเพราะไม่ใช่ผู้หญิงและน้ำตาตอนนี้มันไม่ยอมไหลเลยถึงจะเป็นเขาก็เถอะยังไงก็มีขีดจำกัดเหมือนกันเจอกันครั้งนี้ไม่ยอมปล่อยไปแน่ยังไงก็จะพากลับไปให้ได้ในใจตอนนี้มันรู้สึกหวิวๆไม่อยากปล่อยไปเลย...
ซาสึเกะลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินเลี่ยงออกไปข้างนอกทรุดกายลงอยู่หน้าห้อง อยากจะร้องแต่ร้องไม่ออกอยากจะกลั้นแต่ก็กลั้นไว้ไม่ได้ความรู้สึกบ้าบอนี่มันอะไรกันทำไมเขาถึงเป็นได้ขนาดนี้ นารุโตะทำอะไรกับเขานี่เขาบ้าไปแล้วรึไงกันนะ ร่างบางชันเข่าขึ้นซบใบหน้าลงกับเข่าเล็กๆของตัวเองร่างกายสั่นเทา...
นารุโตะฟุบหน้าลงอีกครั้งถ้าซากุระกลับมาแล้วถ้าพ่อของมิซากิกลับมาก็เป็นอันเสร็จภารกิจแล้วเขาจะไม่มีโอกาศได้เจอซาสึเกะอีกแบบนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการสักนิดแต่ถ้า...ทำยังไงก็ยื้อไว้ไม่ได้เขาก็คง... นารุโตะลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าประตูก่อนจะทรุดลงมือเรียวยกขึ้นสัมผัสประตูเขารับรู้ได้ว่าร่างบางยังนั่งอยู่ตรงนั้นพวกเขาอยู่ใกล้กันแค่คืบเท่านั่นหากเอาประตูออกไปคงได้สัมผัสกับไออุ่นของคนสองคนแล้วแต่นารุโตะไม่ทำแบบนั้นแค่ขอให้สิ่งที่เขาพูดเข้าหูร่างบางที่อยู่ข้างนอกนี้ก็พอ...
“ซาสึเกะฉัน...” ริมฝีปากบางขยับพูดบางอย่างซึ่งมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่ได้ยิน ร่างบางเบิกตาโพล่งสิ่งที่ได้ยินมันทำให้เขาตกใจแทบช็อคแต่มันก็อบอุ่นมากแค่คำเดียวมันทำให้เขาแทบบ้า ร่างบางเปิดประตูออกและคลานเข้าไปหานารุโตะที่อยู่ใกล้ๆก่อนจะโอบกอดคนตรงหน้าเขาไว้ส่วนอีกคนก็กอดตอบกลับมาอย่างแนบแน่นราวกับปล่อยแล้วคนตรงหน้าจะหายไป ใช่จริงๆเขาห่างกันแค่คืบแต่ทำไมถึงไดรู้สึกว่าไกลเหลือเกินนะ...
..............................................................................................
เช้านี้ช่างแสนสดใสมีเมฆน้อยถึงพอประมาณ...รู้สึกจะพากย์ผิด=_= ทั้งคู่หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้จำได้ว่าเมื่อคืนกลับมาที่ห้องแล้ว...
ย้อนไปนิสนึง~
“…ซาสึเกะ ทำไมนายถึงได้ไปอยู่ท่านั้นกับมิซากิล่ะ” นารุโตะว่าพลางถอดเสื้อออกเตรียมอาบน้ำนอน ซาสึเกะที่นั่งอยู่บนเตียงเหลือบมองอีกคนนิดๆ
“มันเป็นอุบัติเหตุ”
“แล้วนายไปอยู่ห้องหมอนั่นได้ไง”
“เรื่องของฉันน่ะ”
“หา?...บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะไม่งั้น...”
“? ไม่งั้นอะไร” นารุโตะเดินเข้ามาใกล้และยื่นหน้าเข้าไปใกล้ซาสึเกะจนเกือบชิด
“ไม่งั้นจูบ”
“อึก!” ไอ้เวร!!แล้วจะให้เขาบอกไปได้ยังไงเล่าว่าจะไปทำธุระแล้วทางออกมันต้องไปห้องมิซากิถ้าขื่นออกไปทางประตูหน้าก็ต้องผ่านห้องนารุโตะแบบนั้นหมอนี่ก็ต้องถามเขาน่ะสิเพราะงั้นไปห้องมิซากิมันจะง่ายกว่าแต่จะให้ตอบยังไงล่ะถ้าบอกไปแบบนั้นหมอนี่ต้องเค่นถามเขาอีกเรื่องแน่ จะอะไรล่ะก็ธุระเขานี่แหละโคตรจะลับ!!บอกได้ไง?!!
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้” นารุโตะเริ่มลุกโดยการขยับตัวที่ตอนนี้แทบจะเปลือยถ้าไม่มีผ้าขุนหนูปิดช่วงล่างเอาไว้เข้าไปใกล้ร่างบาง ซาสึเกะเริ่มรู้สึกเสียเปรียบจึงขยับถอยหลังหนีก่อนตั้งใจจะลุกขึ้นเดินหนีแต่ดันลุกไม่ได้เพราะอีกคนมันจับขาเอาไว้แล้วลากเข้ามาใกล้อีกต่างหาก ไม่พอนารุโตะดันล็อกแขนเขาเอาไว้ซะนี้เป็นการดักทางที่ฉลาดมาก หึ! ทีเรื่องแบบนี้ล่ะฉลาดนักนะแก คิดแล้วเจ็บใจฟ่ะ!!
“อะไรล่ะ”
“อย่ามาทำเป็นไขสือบอกมาเลย”
“อึก!...งั้นนายก็ปล่อยฉันก่อนสิ”
“ปล่อยนายก็หนีสิ” แหน่!! ไอ้นี่ทำไมมันมาฉลาดเอาตอนนี้แต่ก่อนสมองแกมันยิ่งกว่าโปรโตซัวอีกไม่ใช่เรอะหรือว่ามีใครสอนอะไรแปลกๆให้แกห๊ะ!!! ตอนนี้ทั้งคู่ตกอยู่ในสภาวะจ้องตากันแต่ไม่ได้มีประกายปิ๊งๆเหมือนในละครแต่เป็นสายฟ้าแล็บแทน
‘เรื่องไรกรูจะบอกเมิง!!!!’
‘บอกกรูมาเดี๋ยวเน้!!!!!’ <<<<<ความคิดในใจของทั้งคู่ ยังไม่ทันที่นารุโตะจะอ้าปากถามอีกรอบก็มีเสียงนึงแทรกขึ้นมาก่อน เรียกให้ใบหน้าของทั้งคู่หันมองในทันที
“ซาสึเกะไม่ได้อยากมาห้องฉันเท่าไหร่หรอกน่าแต่ฉันเรียกไปหาต่างหาก” มิซากิว่าพลางยืนกอดอกมองทั้งคู่ที่อยู่ในท่าล่อแหลมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อยากรู้ว่าอยู่ท่าไหนน่ะเหรอก็อยู่ในท่าที่นารูโตะกำลังคร่อมซาสึเกะที่นอนราบไปกับเตียงเรียบร้อยแถมใบหน้าก็ยังแนบชิดกันจนแทบจะจูบกันได้อยู่แล้ว ซาสึเกะเมื่อเห็นมิซากิก็ยกเท้าขึ้นยันอกแกร่งของนารุโตะออกไปทันทีส่งผลให้อีกคนลงไปนอนดิ้นอยู่กับพื้นพรม
“เวรเอ๊ย!!ลืมปิดประตู” นารุโตะสยบอย่างไม่พอใจสุดๆรู้สึกเสียดายอะไรสักอย่าง(?)
“ขอโทษที่ฉันมาขัดจังหวะแล้วกัน อย่าทะเลาะกันอีกล่ะ ไปนะ!” มิซากิพูดด้วยใบหน้ายิ้มๆและเดินผละออกไป ทั้งคู่มองตามออกไปและหันมองหน้ากันอีกรอบก่อนจะสบัดหน้าหนีกันไปคนละทาง นารุโตะเหลือบมองก่อนจะปิ๊งไอเดียอะไรสักอย่างที่ดูท่าจะอันตรายเหลือเกิน....
“ซาสึเกะ”
“ไร?”
“อาบน้ำกัน^O^”
“นายอาบเองเหอะ”
“มาอาบด้วยกันสิ”พูดพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้อีกรอบและพยายามจะถอดเสื้อให้อีกคน แต่...
ผัวะ!!!
ซาสึเกะหยิบหนังสือหัวเตียงและม้วนเป็นทรงกระบอกก่อนจะฟาดป๊าบลงบนกระบาลนารุโตะเต็มแรงเล่นเอาอีกคนร้องออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ
“อะไรฟะ!!!”
“อย่ามาปัญญาอ่อนจะอาบก็รีบอาบฉันจะได้อาบซะที”
“ก็เข้ามันทีเดียวสองคนเลยสิมันจะได้เร็วๆ” เจ้าตัวเขาว่าก่อนจะทำหน้าบูดเป็นตูดหมา(แกว่าฉันเรอะ!!!//โตะ) ซาสึเกะหรี่ตามองอีกคนเหมือนมันผู้นั้นคือเหยื่อที่เตรียมฆ่า “น่านะ เดี๋ยวนายใส่เสื้อฉันก่อนก็ได้นี่” นารุโตะเสนอ
“ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้วนี่”
“งั้น...”
“แกอาบก่อนสิ”
“อะไรง่า~”
“รีบๆอาบซะเจ้าบ้าส่วนเรื่องเสื้อน่ะฉันมีของฉันแล้วน่ะ” ไหงงั้นฟร้า!!! นารุโตะโหยหวนอยู่ในใจ
ผ่านปาย10นาที(แกอาบหรือแช่วะโตะ)
“นี่…จะอาบก็รีบอาบนะน้ำอุ่นอยู่” นารุโตะออกมาจากห้องน้ำพลางก้มหน้าใช้ผ้าขนหนูขยี้ผม และเงยหน้าขึ้นมองอีกคนที่กำลังจะถอดเสื้อออก “เฮ้ย!!!”
“อะไร?”
“นะ...นาย” นารุโตะชี้นิ้วไปทั่วพลางยกมือขึ้นปิดตาทำเอาอีกคนงง
“อะไรของนาย?”
“ชะ…ชะ...ช่างมันเถอะนายไปอาบน้ำไป” นารุโตะว่าพลางหลีกทางให้ซาสึเกะมองอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมเดินเข้าห้องน้ำไปเล่นเอาอีกคนถอนหายใจโล่งขืนหมอนั่นทำแบบนี้ต่อหน้าเขาอีกล่ะก็คงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แหง...เอ๊ะแล้วทำไมเขาต้องเป็นแบบนี้ด้วยล่ะเนี่ยนารุโตะทึงหัวตัวเองอย่างหมดอาลัยนี่มันอะไรกันโว้ย!!!!! นารุโตะรีบใส่เสื้อผ้าและกระโจนลงเตียงกะจะนอนก่อนแต่เสียงจากในห้องน้ำก็ทำให้เขาแทบสะดุ้ง
“นารุโตะ...”
“อะ...อะไรเหลอ”
“หยิบสบู่ให้หน่อยดิ”
“อะ…อืม” ว้ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!! นี่สวรรค์กำลังกลั่นแกล้งเขาอยู่หรือไร? โตะยังไม่อยากให้ซาสึเกะเสียเวอร์จิ้นตอนนี้!!!อย่างน้อยก็ขอให้กลับมากกอยู่ด้วยกันก๊อน!ถ้าแบบนั้นจะทำทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้น่าแค่จูบหมอนั่นก็ยั่วจะตายแล้วอย่าเพิ่งให้ฉันมีอารมณ์ได้มั้ยวะ!!(แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน!!เขาแค่ใช่ให้หยิบสบู่นะเอ็ง=[]=) นารุโตะลุกจากเตียงและเดินไปที่โต๊ะที่อยู่ใกล้ๆตู้ก่อนจะหยิบสบู่เหลวขึ้นมา “สบู่เหลวเหรอ” นารุโตะเริ่มจินตนาการภาพที่ซาสึเกะถูกสบู่เหลวที่ขาวฉโลมไปตัวในสภาพเปลือย...กรี๊ด!!(?) นี่ฉันคิดบ้าอะไรอยู่วะเนี่ยใครก็ได้ไปตามจิตแพทย์มาให้ฉันทีT^T
“ได้รึยังน่ะ” ซาสึเกะแงมประตูห้องน้ำออกมาถาม นารุโตะหันมองก่อนจะขานรับด้วยใบหน้าที่ออกแดงนิดและเดินไปยื่นสบู่ให้เจ้าตัวเขาใช้...
ผ่านไปอีก10นาที(พวกแกแอบแช่น้ำกันใช่มั้ยรู้นาเหวย)
ซาสึเกะออกมาจากห้องน้ำเดินต่อไปยังตู้เสื้อผ้าและใส่เสื้อผ้าจากถึงมันจะไม่ใช่เสื้อโตะก็เถอะแต่มองยังไงมันก็น่ารักอยู่ดีอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวตัวยาวอยู่หน่อยกับกางเกงยาวเลยเข่ารู้สึกคืนนี้มันจะหนาว(ประเทศไทยร้อนโว้ย!!!) จากนั้นเจ้าตัวก็ขึ้นไปนอนอีกฝั่งบนเตียงมีหมอนข้างอันยาวเท่านั้นที่กั้นระหว่างเขากับนารุโตะ(แหมก็ต้องเว้นระยะห่างกันบ้างสิเนอะ) โดยไม่พูดอะไรกันอีกทั้งคู่ก็หลับไป
กลับมา
เช้านี้...ถึงจะมีหมอนข้างกั้นมันก็อุตส่ากระเถิบมากอดกูเนอะ=_= เออช่างเหอะก็นี่มันนารุโตะนี่หว่าซาสึเกะพลิกตัวเข้าหาร่างสูงตั้งใจจะยกแขนขึ้นเขย่าตัวอีกคนให้ตื่นแต่ดูเหมือนมันจะตื่นแล้วเพราะอ้อมกอดยิ่งรัดแน่นเข้าไปอีกนั่นทำให้ใบหน้าของทั้งคู่ชิดกันอีกครั้ง
“ตื่นแล้วก็เอาแขนออกไปสิวะ” ซาสึเกะขยับตัวดิ้นไปมาอย่างอึดอัดแต่อีกคนมันกลับยิ่งกอดรัดแน่นกว่าเดิม
“หิวอ่ะ”
“ก็ปล่อยฉันสิ”
“จะทำให้กินเหลอ”
“ถ้านายไม่ปล่อยนายอาจจะได้ไปทัวร์นรกฟรีเที่ยวเดียวไม่กลับก็ได้นะ” ว่าพลางทำหน้ายัน นารุโตะยิ้มนิดแล้วยอมปล่อยให้ร่างบางลุกขึ้นไปทำธุระส่วนตัวเองก็ลุกขึ้นมาหาเสื้อผ้ามาเตรียมไว้ วันนี้อาจจะได้กลับหมู่บ้านแล้วก็ได้...จะทำยังไงกับซาสึเกะดีเนี่ย....
.................................................................................................
ว่าแล้วเชียวพ่อมิซากิกลับมาวันนี้จริงๆแล้วซากุระก็กลับมาพร้อมกัน...เขาคงได้กลับวันนี้แน่ๆทำไงดีฟร้า!!! นารุโตะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเหมือนคนง่วงนอนทั้งๆที่เมื่อคืนนอนอิ่ม ซากุระเองก็นั่งมองนารุโตะอย่างบรรยายอะไรไม่ถูก
“นี่...เรื่องซาสึเกะคุง”
“หมอนั่นไม่ยอมกลับง่ายๆหรอก...ถ้ามีวิธีที่จะพากลับไปโดยไม่รู้ตัวก็ดีสิ” นารุโตะพูดลอยๆแต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ซากุระเองก็พลอยกลุ้มไปด้วย
ตึก!!ตึก!!ตึก!!
คลืด!!!
“มิซากิ!!!/มิซากิซัง” อยู่ๆมิซากิก็โผล่พรวดเข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแถมยังดูรีบร้อนมากอีกต่างหาก ทั้งสองคนในห้องรีบเข้าไปถามไถ่ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นคะมิซากิซัง!!”
“แฮ่ก!! แฮ่ก!!แฮ่ก!! ... ซา..ซาสึเกะ..ซาสึเกะอยู่ไหน” มิซากิระร่ำระรักถามและหายใจไม่ทัน นารุโตะตีหน้างงก็หมอนั่นเพิ่งบอกว่าจะไปดูมิซากิ...แล้วทำไม “ไม่ได้มาทางนี้เหรอถ้างั้นคงออกไปทางประตูหลังแล้วล่ะวันนี้พวกคนเฝ้าประตูไปรอรับพ่อที่หน้าประตูหลังประตูเลยไม่มีคนเฝ้า” นารุโตะเบิกตาโผล่ง
“หมอนั่นบอกรึเปล่าว่าไปไหน”
“ถามไม่คิด ถ้าบอกฉันคงไม่กระหืดกระหอบวิ่งมาถามหรอก” มิซากิว่า
“เอายังไงดีนารุโตะ” ซากุระหันมาถาม
“เดี๋ยวฉันจะไปดูข้างหลังให้เผื่อหมอนั่นยังไปได้ไม่ไกล”
“จ้ะ” ซากุระขานรับและค่อยๆพยุงมิซากิขึ้น ส่วนนารุโตะก็ออกวิ่งไปที่ประตูหลังทันทีไม่นึกว่าจะรู้ตัวเร็วขนาดนี้ ‘นายอย่าหนีฉันไปอีกเลยนะ...ซาสึเกะ’
สวัสดีเจ้าค่ะ^O^เรื่องราวจะเป็นไงต่อโปรดติดตาม...ไม่มีไรเขียนละหมดมุข=_=
ความคิดเห็น