ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] NaruSasu นายกลับมาแล้ว

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 9 : ทำไมเจอแต่พวกนี้ฟะ!!

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 56


    9
    ทำเจอแต่พวกนี้ฟะ!!

     

        “ได้มั้ย?” ซาสึเกะถามย้ำอีกครั้ง

     

     

     

        “อะ...อืม ก็ได้อยู่หรอกแล้วเสื้อนายไปไหนซะล่ะ” นารุโตะถามกลับพลางมองคนตัวเล็กกว่า(หน่อย)เดินไปหยิบเสื้อสีส้มพาดลายดำของเขามาใส่ลวกๆ

     

     

     

         “ถ้าฉันไม่ขาแพลงคงกลับไปเปลี่ยนที่ที่ฉันอยู่แล้วล่ะซาสึเกะบอกโดยไม่เจาะจงไปในสถานที่ที่ตัวเองอยู่กับพวกในทีมและไม่ลืมที่จะแอบกัดนารุโตะด้วยการเอ่ยโทษคนที่เป็นสาเหตุให้เขาต้องมานอนอยู่ที่นี่ นารุโตะที่นั่งอยู่บนเตียงเมื่อได้ยินคำพูดที่แอบกัดของซาสึเกะเริ่มทำหน้าหงิกแล้วโทษนู่นโทษนี่ไปเรื่อย

     

     

        “ก็ใครใช้ให้นายร่วงลงมาด้วยเล่า

        “แล้วใครวะที่ลากฉันลงไป!”

        “ก็ถ้านายไม่ลงมาด้วยขาก็ไม่เจ็บหรอกน่า”

        “ใครมันจะไปฉุดแกขึ้นมาไหวล่ะถึงคำที่เถียงจะเบาก็รับรู้ได้ว่าซาสึเกะเองก็เริ่มจะรำคาญ

        “แรงนายก็เยอะนี่เมื่อกี๊ยังเหวี่ยงฉันลงเตียงซะแทบจุก

        “จะไปรู้เรอะ!ก็ตอนนั้นนายทำตัวน่ารำคาญเอง

        “หา!!!!...นายหาวะ...

       ก๊อก ก๊อก

       กำลังจะเปิดศึกเถียงกันอีกรอบแต่เสียงประตูที่มีคนเคาะก็ดังกระแทกหูทั้งคู่ซะก่อนฟังจากเสียงเคาะดูเหมือนคนเคาะกำลังจะพังประตูเข้ามาอยู่ร่อมร่อด้วยความที่เป็นวัยรุ่นเลือดร้อน(?)นารุโตะเลยสงบปากลงและเดินไปเปิดประตูให้เพราะเขายืนอยู่ใกล้ประตูกว่าส่วนอีกคนในห้องก็รีบใส่เสื้อให้เสร็จและเดินไปนั่งบนเตียง

        “นายมาทำไร?” ถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆซึ่งนอกจากมิซากิแล้วมีอีกคนที่นารุโตะจะพูดด้วยแบบนี้เพราะเพิ่งทะเราะกันมาหมาดๆก่อนจะโดนซาสึเกะลากกลับห้อง ซุยเงสึยืนปั้นหน้ายากอยู่หน้าห้องก่อนจะชะเง้อคอมองหาไอ้ตัวนำทีมที่ขาเจ็บไม่หายด้วยเหตุผลโง่ๆ

       “หึ...ฉันแค่แวะมาหาซาสึเกะน่ะจะคุยธุระกันระหว่างคนวงใน...ไม่ได้รึไง” ซุยเงสึว่าจิกๆด้วยใบหน้าที่แสนจะกวน(ตื๊ด!) กำลังจะบอกว่ากูเป็นคนนอกไม่เกี่ยวว่างั้น! นารุโตะคิดเคืองๆ

        “ก็ได้นี่เข้าไปสิ” แต่ดูเหมือนคราวนี้นารุโตะคุงของเราจะระงบอารมณ์ที่อยากจะอัดคนไว้ได้แฮะ(อเมซิ่ง!!) เมื่อซุยเงสึได้ยินดังนั้นจึงได้รีบเดินเข้าไปอย่างว่องเพราะอยากกลับไปนอน?พร้อมกับนารุโตะที่ปิดประตูตามเข้ามา และเมื่อเดินเข้ามาเห็นซาสึเกะที่นั่งไขว้ขาอยู่บนเตียงแถมชุดที่ใส่ยังหลวมโพล่งซะแล้วไหงใส่กางเกงขาสั้นนอน!เดี๋ยวเป็นหวัดอีก!!

        “เอ่อนายไม่หนาวรึไง?

        “หนาว”

        “ก็หาขายาวใส่สิฟะ”

        “มันร้อนตอนดึกๆน่ะ(เพราะเดี๋ยวต้องมีตัวอะไรมานอนเบียดแหงเจองี้ตั้งแต่นอนกับมันตอนเด็กๆละ)”ไอ้ในวงเล็บนั่นมันอะไร้!!แต่เขาไม่ได้พูดคำในวงเล็บนั่นออกไปเพราะคาแร็กเตอร์ตัวเองเองนั้นไม่ได้เป็นคนชั่งพูด=3=

        “โอเคๆ ขานั่นถ้ายังไม่หายเจ็บจะให้ฉันตามคารินมาให้มั้ยจะได้รีบๆกลับเจ้าหนูมิซากินั่นก็เคลียร์กันแล้วนี่ซุยเงสึเสนอ

        “ไม่ต้องวุ่นวายเปล่าๆเขาว่าพลางล้มตัวลงนอนโดยหันหลังให้ซุยเงสึเป็นสัญญาณบอกว่าง่วง- -

        “แล้วนายจะเดินกลับไหวรึไง?

        “....”

        “เออๆก็ได้แล้วจะให้ฉันนอนไหนดีล่ะเนี่ย

        “หา!! นี่นายจะนอนนี่เหรอ!!!!” นารุโตะที่อยู่ฟังด้วยตั้งแต่ต้นจนจบเริ่มเอ่ยท้วงขึ้นมาเพราะถ้าหากซุยเงสึมานอนห้องเขาด้วยอีกคนคงอึดอัดตายเตียงก็เล็กนิดเดียวนอนคนเดียวก็เต็มกลืน(อ้าวแล้วเกะมันนอนได้ไง?)

        “ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะนอนห้องนี้ซะหน่อยหรือจะกลับไปนอนที่ฐานดี” ซุยเงสึเริ่มคิดหนักแต่ก็เหมือนนึกอะไรออกก่อนจะเดินเข้าไปทักซาสึเกะที่คิดว่าหลับไปแล้ว(มั้ง)

        “ก็กลับไปสินารุโตะตัดสินใจเลือกคำตอบให้ซุยเงสึเองแล้วดูเหมือยจะไล่ให้รีบๆไปซะทีเสียด้วย

        “นายน่ะออกไปได้แล้วพวกฉันจะคุยความลับกันเด็กอย่างนายไม่ควรรู้หรอกออกไปได้ป่ะ ว่าจบนารุโตะก็แทบอยากจะเอาตู้น้ำมาทุ่มใส่(เฮ้ย!!เดี๋ยวนั่นมันบทชิสึจัง=[]=)

        “เรื่องอะไรล่ะฉันยังอยากให้ซาสึเกะกลับไปด้วยกันอยู่นะ!!!” นารุโตะแย้งแถมยังเดินมาขว้างระหว่างซุยเงสึกับซาสึเกะอีกต่างหาก

        “อะไรนักหนาห๊ะแกนิ=[]=*”

        “ช่างเหอะจะบอกเรื่องยานากุระใช่มั้ยงั้นก็ว่ามาเลยไอ้หมอนี่ยังไงก็ไม่มีทางรู้เรื่องอะไรด้วยหรอกน่าซาสึเกะที่คิดว่า(น่าจะ)หลับไปแล้วเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมกับลุกขึ้นมานั่งหาวทำให้อีก2คนในห้องที่กำลังจะฟาดปากกันเปลี่ยนประเด็น

        “อ้าวยังไม่หลับแฮะ”

        “เรื่องยานากุระอะไรเหลอ?”

        “บ๊องรึไงใครจะบอกแกล่ะ ที่บอกให้ไปหาคัมภีร์ของพวกยานากุระน่ะฉันหามาให้แล้วนะว่าพลางโยนม้วนคัมภีร์ให้แล้วดูเหมือนพวกมันจะมาเอาคืนซะด้วยนะ ฮะฮะ ก็น่าอยู่หรอกเล่นหมายตละกูลใหญ่แบบนั้นซุยเงสึว่าไปหัวเราะไปอย่างสะใจ ตระกูลยานากุระเป็นตระกูลที่ใหญ่และมีชื่อเสียงพอดูในด้านการค้าแต่เบื้องหลังดันร่วมมือกับพวกมาเฟียต่างชาติค้ายาเสพติดและคดโกงต่างๆนาๆทั้งยังไล่เก็บภาษีจากหมู่บ้านเล็กๆทั้งๆที่ไม่จำเป็นแต่ถ้าหากคัมภีร์ที่เปรียบดั่งที่ตั้งตระกูลถูกขโมยไปตระกูลที่แข่งกันเชิงธุระกิจจะถูกเปิดโปงความลับและในที่สุดก็จะล่ม คัมภีร์ที่ว่านี้มีความสำคัญในด้านธุระกิจซึ่งจะถูกแจกให้แต่ละตละกูลที่เล่นทำธุรกิจและมีความลับร้ายๆเท่านั้นและคัมภีร์นั้นก็กุมความลับที่เกี่ยวกับด้านมืดในเชิงการค้าของบริษัทหรือตระกูลนั้นๆเอาไว้

        “แล้วจะทำยังไงต่อล่ะซุยเงสึถามกลับอีกครั้ง

        “ถามบ้าอะไร

        “?...งั้นฉันไม่เกรงใจล่ะนะรีบๆหายล่ะ ว่าพลางกำลังจะเดินออกไป

        “คัมภีร์เนี่ย เอาไปเปิดโปงให้หมดแล้วก็ห้ามขายล่ะเพราะมันจะได้กำไลน้อยกว่าซาสึเกะว่าพลางโยนคัมภีร์คืนให้ซุยเงสึที่กำลังจะเดินออกไป ซุยเงสึรับไว้อย่างงงๆแต่ก็ตอบรับคำแล้วเดินออกไปเงียบๆเขาตั้งใจจะกลับไปพักกับพวกคารินดีกว่า มาคิดดูอีกทีจูโกะอยู่กับคารินสองคน...มันจะไม่ครั่งเอาเรอะ!!! คิดได้เขาก็หันกลับมาหาซาสึเกะอีกที

        “ถ้าเกิดจูโกะคลุ้มคลั่งขึ้นมาจะทำไงล่ะ” ซาสึเกะเลิกคิ้ว

        “ก็ถ้าไม่มีอะไรกระตุ้นอารมณ์ให้อยากฆ่าหมอนั่นก็ไม่เป็นไรบอกเป็นนัยน์ๆว่าห้ามทำให้คารินโมโหเพราะมันจะเป็นเหตุให้จูโกะคลั่ง

        “เออไม่ทะเลาะกันหรอกน่าถ้ายัยนั่นไม่มาหาเรื่องก่อนอ่ะ=__=*”  ราวกับอ่านใจออกซุยเงสึรีบหาข้ออ้างแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมปิดประตูให้ นารุโตะรีบไปลงกรอนประตูทันทีเพราะไม่อยากจะเห็นแม้แต่เสี้ยวหน้าของอีกคนที่เดินออกไปเมื่อตะกี๊

        “ฉัน...อาบน้ำนะ” ว่าจบก็เดินไปเข้าไปในห้องน้ำทันทีส่วนอีกคนก็ล้มตัวนอนห่มผ้าไปก่อนเพราะชักง่วงขึ้นมาจริงๆแต่ความคิดที่ว่าชอบเป็นห่วงคนอื่นเขาไปทั่วมันยังคงอยู่ในตัวเขาจึงลุกขึ้นจากเตียงและทำท่าจะเดินออกไปจากห้องเพื่อไปดูว่าซาโยะเป็นไงมั่งขืนตรอมใจขึ้นมานี่ยุ่งแต่ก็ยังไม่ทันอีกนั่นแหละเมื่อไอ้ตัวที่อยู่ในห้องน้ำมันตะโกนถาม

        “ไปไหนอ่ะ”

        “เรื่องของฉัน” ว่าจบก็เปิดประตูออกไปทันที

        “อ้าวเดี๋ยวดิ!!? ซาสึเกะ!!” เงียบไปแล้วให้ตายนี่เขาเรียกไว้ไม่ทันอีกแล้วแฮะ

    ...................................................................................................

       ซาสึเกะเดินออกมาอีกทางที่จะไปห้องของซาโยะระหว่างนั้นก็คิดได้อีกรอบว่ายังไม่ได้กินไรเลยนี่หว่าเลยวกกลับครัวไปต้มมาม่ากิน=[]=ก่อนจะนั่งรอซัก3นาทีระหว่างนั้นก็นั่งนึกแค้นเคืองเจ้าพวกนั้นไปข้าวกรูอุตส่าทำไหงต้องมานั่งแดรกมาม่าตอนดึกๆฟะแล้วที่สำคัญ...ถ้วยจานล้างยังเนี่ย?คิดได้ดังนั้นเลยเดินไปดูซะหน่อยเพราะอยู่ตรงข้ามกันเองแต่ดูเหมือนซากุระจะเก็บกวาดให้แล้วเขาเลยกลับมาที่เดิมก่อนจะเห็นมิซากิอยู่ในครัว

        “มาทำไรตอนดึกๆเนี่ยซาสึเกะ”

        “เพิ่งจะ3ทุ่ม”

        “ = =;; อ๋อ...เอ่อ จ้าๆยังไม่ดึกหลอกเนอะ=[]=แล้วมาทำอะไรเนี้ย” ซาสึเกะไม่ตอบแต่เดินกลับมานั่งเฝ้าถ้วยมาม่าแทนมิซากิเลยเข้าใจคำตอบในทันทีเขาเลื่อนเก้าอี้อีกตัวที่อยูในครัวมานั่งใกล้ๆพลางจ้องหน้าซาสึเกะยิ้มๆ นายนี่เหมือนสาวๆวัยกำลังโตเลยแฮะคำนี้เล่นเอาคนโดนแซวเกือบสำลัก

        “เรื่องของฉัน!! ซาโยะกับพ่อนาย...

        “อืม...ไม่เป็นไรแล้วล่ะข้าวก็กินกันจนอิ่มแล้วด้วยตอนนี้ก็คงนอนกันแล้วมั้งพรุ่งนี้พ่อต้องไปสัมมนาแต่เช้าเลยตื่นเร็วน่ะซาสึเกะนั่งฟังไปพลางเปิดฝาถ้วยมาม่าและลงมือจัดการกับมัน

        “....”

        “....

        “กินด้วยดิ=[]=”

        “ ? ” ทำหน้าฉงนแต่ก็ดันยอมให้กิน

        “ป้อน*O*”

        “ ? ” ถึงจะยังงงๆก็ก็ยอมป้อนให้ถึงปาก มิซากิยิ้มอย่างรื่นรมณ์เหมือนคิดว่ายังไงตัวเองก็คงได้เปรียบกว่าไอ้เจ้านารุโตะ

       “แต่งตัวแบบนี้นอน เซ็กซี่ดีนะ^O^” ว่าพลางไล่สายตาไปตามร่างของซาสึเกะที่กำลังดูดมาม่าอย่างโมเอะ(?)

        “สมองกลับรึไงแก”

        “ฮะ ฮะ ปากร้ายไม่ยอกแฮะ” เงียบกันไปสักพักมิซากิก็เอ่ยเปิดประเด็นขึ้นมาอีกรอบ นายย้ายไปอยู่ห้องฉันก็ได้นะหรือจะให้ฉันหาห้องให้ดี

        “ไม่ต้อง

        “หือ~ ที่แท้ก็ออกมาจู๋จี๋กันข้างนอกนี่เอง” เสียงปริศนาที่มันชั่งคับคล้ายคับคาละม้ายคล้ายนารุโตะพูดดังๆเย็นๆหนักแน่นอยู่หน้าประตูห้องครัว....

        “หึแล้วมันจะผิดอะไรเล่าถ้าฉันจะมากุ๊กกิ๊กกับซาสึเกะ...นายไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อยมิซากิยิ้มเย้ยๆไปทางนารุโตะที่ตอนนี้แผร่รังสีทะมึนไปรอบๆแล้ว

        “เอ๋~มันก็ไม่ผิดนี่...ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเสียด้วย” กัดฟันพูดสารภาพอย่างลูกผู้ชาย=  = +b

        “ใช่แล้วนายมันไม่เกี่ยว

        “แต่ถ้าเรื่องนี้ซาสึเกะมีเอี่ยวด้วยฉันเกี่ยว!!

    .................................................................................................
    สวัสดีเจ้าค่ะถ้าตัวหนังสือมันเยอะจนลายตา ขออภัย(_ _)
    ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านและคอมเม้นค่ะ^O^

      อัพเดตเมื่อ 18 มีนาคม 2556
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×