ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความจริงที่ได้รู้และความหวังเพียงหนึ่งเดียว
    แม่ทัพคอริปัสและขุนพลเอสเซ็กพากันมาเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดินีที่ห้องสมุด  เมื่อไปถึงก็พบว่า
องค์จักรพรรดินีสาวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ท่ามกลางเหล่านางกำนัล  แม่ทัพคอริปัสและขุนพลเอสเซ็ก
จึงเข้าไปทำความเคารพ  เมื่อองค์จักรพรรดินีสาวสวยหันมาเห็นจึงเอ่ยทักทาย
   
    \"ท่านคอริปัสกับท่านเอสเซ็กมาหาเราถึงนี่มีเรื่องสำคัญอันใดรึ\"
   
    \"หม่อมฉันมีเรื่องที่สำคัญมากจะมากราบทูลพระเจ้าค่ะ\" แม่ทัพคอริปัสกราบทูลแล้วมองสบดวงเนตรสี
มรกตขององค์จักรพรรดินี  นางจึงหันไปบอกเหล่านางกำนับให้ออกไปก่อน  เหลือแต่แม่นมคนสนิท
    เมื่อพวกนางกำนัลพากันออกไปหมดแล้ว  องค์จักรพรรดินีจึงเอ่ยปาก
   
    \"แล้วตกลงพวกท่านสองคนมีเรื่องเร่งด่วนสำคัญอะไรรึ\"
    \"พระอาญามิพ้นเกล้า  พวกหม่อมฉันสองคนมีเรื่องเรื่องหนึ่งที่จะต้องกราบทูลฝ่าบาท  เรื่องนี้เป็น
ความลับที่เพียงไม่กี่คนในเวนอลเท่านั้นที่รู้  เพราะอดีตองค์จักรพรรดิทรงรับสั่งให้เก็บเป็นความลับ  แต่
หม่อมฉันคิดว่าควรจะบอกเรื่องนี้แก่ฝ่าบาท\" แม่ทัพคอริปัสกราบทูล
    \"ความลับของเสด็จพ่องั้นหรือ\" ดวงเนตรสีมรกตมีประกายสนใจ \"แต่เหตุใดท่านจึงคิดว่าควรบอกเรื่อง
นี้ให้เรารู้ถ้าเสด็จพ่อทรงกำชับให้เก็บเป็นความลับ\"
    \"พระอาญามิพ้นเกล้า\" ขุนพลเอสเซ็กกล่าวขึ้น \"หม่อมฉันขอบังอาจกราบทูลว่าพวกหม่อมฉันคิดว่า
ฝ่าบาททรงเหน็ดเหนื่อยในการปกครองและทรงกังวลเรื่องอนาคตของเวนอล  ดังนั้นหม่อมฉันจึงคิดว่าเรื่อง
นี้อาจช่วยฝ่าบาทได้ไม่มากก็น้อย  ส่วนเรื่องจะทำอย่างไรก็แล้วแต่จะทรงพิจารณา\" ขุนพลเอสเซ็กกราบ
ทูลอย่างตรงไปตรงมา  ทำให้ดวงพักตร์ขององค์จักรพรรดินีสาวขึ้นสีเรื่อเล็กน้อย  เธอไม่คิดว่านายทหาร
ทั้งสองจะรู้ถึงความอ่อนล้าของเธอ  แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็เป็นไงเป็นกันเพราะนายทหารทั้งสองก็เป็น
คนที่จงรักภักดีไว้ใจได้เสมอ  ดำริพลางทอดถอนใจ
    \"เรายอมรับว่าเราเหนื่อยเหลือเกิน  ขุนพลเอสเซ็ก  ถ้าหากมีหนทางใดที่จะช่วยได้ก็บอกมาเถิด 
ว่าแต่เรื่องนี้มันไปเกี่ยวอะไรกับความลับของเสด็จพ่อด้วยเล่า  แล้วความลับที่ว่าน่ะมันเรื่องอะไร\"
    \"เรื่องของเจ้าชายชาเบรียนพระเจ้าค่ะ\" แม่ทัพคอริปัสตอบ
    \"เสด็จพี่ชาเบรียนน่ะหรือ\" องค์จักรพรรดินีถามพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย \"แต่เสด็จพี่ทรงสิ้นพระชนม์
ไปตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์แล้วมิใช่หรือ  แล้วเรื่องนี้จะช่วยอะไรได้ล่ะ\"
    \"พระอาญามิพ้นเกล้าความจริงแล้วเจ้าชายชาเบรียนยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่พระเจ้าค่ะ  แต่เนื่อง
จากอดีตองค์จักรพรรดิทรงรักษาสัจจะเพราะอดีตองค์ราชินีพระมารดาของอดีตองค์จักรพรรดิทรงเคย
เป็นองค์รัชทายาทแห่งทริสทอร์  แต่ด้วยการที่ทรงมาเป็นราชินีแห่งเวนอลจึงถือว่าเวนอลแย่งรัชทายาท
ของทริสทอร์มา  ต้องใช้คืน  ดังนั้นอดีตองค์จักรพรรดิจึงทรงส่งเจ้าชายชาเบรียนไปเป็นองค์รัชทายาท
ของทริสทอร์\" 
    เมื่อจบคำกราบทูลดวงเนตรสีเขียวก็เบิกกว้างถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงก็แสดงว่าพี่ชายของเธอยังมีชีวิต
อยู่  พลันให้เกิดความห่วงหาอาทรยิ่งนัก  จึงเอ่ยโอษฐ์ \"ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่าเสด็จพี่ทรงอยู่ที่
ทริสทอร์อย่างนั้นหรือ\"
    \"หาไม่พระเจ้าค่ะ  กฎมณเฑียรบาลของทริสทอร์ก็ให้องค์รัชทายาทออกเร่ร่อนเหมือนกัน  ดังนั้น
ตอนนี้เจ้าชายชาเบรียนจึงทรงเร่ร่อนอยู่พระเจ้าค่ะ\" คอริปัสทูลตอบ
    \"ถ้าเช่นนั้นพวกท่านพอจะทราบข่าวคราวของเสด็จพระบ้างหรือไม่\" องค์จักรพรรดินีตรัสถาม
    \"หม่อมฉันไปตามสืบมาแล้วพระเจ้าค่ะ\" ขุนพลเอสเซ็กทูลตอบ \"แต่เนื่องจากพวกเราไม่ได้ติดตาม
ข่าวคราวของเจ้าชายมานานหลายปี  จึงไม่ค่อยได้ความอะไรมากนักเท่าที่สืบมาทั้งหมดนั้นพอจะสรุป
ได้ว่า  เจ้าชายชาเบรียนทรงกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก พระเจ้าค่ะ\"
    \"อย่างนั้นหรือ\" ดวงเนตรขององค์จักรพรรดินีหลุบลงต่ำอย่างครุ่นคิด  แล้วเบือนขึ้นมาสบตานาย
ทหารทั้งสองแล้วประกาศด้วยเสียงดังฟังชัดว่า
    \"เราจะเข้าเรียนที่เอดินเบิร์กปีนี้  แล้วจะตามหาตัวพี่ชายของเราให้พบเอง\"
องค์จักรพรรดินีสาวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ท่ามกลางเหล่านางกำนัล  แม่ทัพคอริปัสและขุนพลเอสเซ็ก
จึงเข้าไปทำความเคารพ  เมื่อองค์จักรพรรดินีสาวสวยหันมาเห็นจึงเอ่ยทักทาย
   
    \"ท่านคอริปัสกับท่านเอสเซ็กมาหาเราถึงนี่มีเรื่องสำคัญอันใดรึ\"
   
    \"หม่อมฉันมีเรื่องที่สำคัญมากจะมากราบทูลพระเจ้าค่ะ\" แม่ทัพคอริปัสกราบทูลแล้วมองสบดวงเนตรสี
มรกตขององค์จักรพรรดินี  นางจึงหันไปบอกเหล่านางกำนับให้ออกไปก่อน  เหลือแต่แม่นมคนสนิท
    เมื่อพวกนางกำนัลพากันออกไปหมดแล้ว  องค์จักรพรรดินีจึงเอ่ยปาก
   
    \"แล้วตกลงพวกท่านสองคนมีเรื่องเร่งด่วนสำคัญอะไรรึ\"
    \"พระอาญามิพ้นเกล้า  พวกหม่อมฉันสองคนมีเรื่องเรื่องหนึ่งที่จะต้องกราบทูลฝ่าบาท  เรื่องนี้เป็น
ความลับที่เพียงไม่กี่คนในเวนอลเท่านั้นที่รู้  เพราะอดีตองค์จักรพรรดิทรงรับสั่งให้เก็บเป็นความลับ  แต่
หม่อมฉันคิดว่าควรจะบอกเรื่องนี้แก่ฝ่าบาท\" แม่ทัพคอริปัสกราบทูล
    \"ความลับของเสด็จพ่องั้นหรือ\" ดวงเนตรสีมรกตมีประกายสนใจ \"แต่เหตุใดท่านจึงคิดว่าควรบอกเรื่อง
นี้ให้เรารู้ถ้าเสด็จพ่อทรงกำชับให้เก็บเป็นความลับ\"
    \"พระอาญามิพ้นเกล้า\" ขุนพลเอสเซ็กกล่าวขึ้น \"หม่อมฉันขอบังอาจกราบทูลว่าพวกหม่อมฉันคิดว่า
ฝ่าบาททรงเหน็ดเหนื่อยในการปกครองและทรงกังวลเรื่องอนาคตของเวนอล  ดังนั้นหม่อมฉันจึงคิดว่าเรื่อง
นี้อาจช่วยฝ่าบาทได้ไม่มากก็น้อย  ส่วนเรื่องจะทำอย่างไรก็แล้วแต่จะทรงพิจารณา\" ขุนพลเอสเซ็กกราบ
ทูลอย่างตรงไปตรงมา  ทำให้ดวงพักตร์ขององค์จักรพรรดินีสาวขึ้นสีเรื่อเล็กน้อย  เธอไม่คิดว่านายทหาร
ทั้งสองจะรู้ถึงความอ่อนล้าของเธอ  แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็เป็นไงเป็นกันเพราะนายทหารทั้งสองก็เป็น
คนที่จงรักภักดีไว้ใจได้เสมอ  ดำริพลางทอดถอนใจ
    \"เรายอมรับว่าเราเหนื่อยเหลือเกิน  ขุนพลเอสเซ็ก  ถ้าหากมีหนทางใดที่จะช่วยได้ก็บอกมาเถิด 
ว่าแต่เรื่องนี้มันไปเกี่ยวอะไรกับความลับของเสด็จพ่อด้วยเล่า  แล้วความลับที่ว่าน่ะมันเรื่องอะไร\"
    \"เรื่องของเจ้าชายชาเบรียนพระเจ้าค่ะ\" แม่ทัพคอริปัสตอบ
    \"เสด็จพี่ชาเบรียนน่ะหรือ\" องค์จักรพรรดินีถามพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย \"แต่เสด็จพี่ทรงสิ้นพระชนม์
ไปตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์แล้วมิใช่หรือ  แล้วเรื่องนี้จะช่วยอะไรได้ล่ะ\"
    \"พระอาญามิพ้นเกล้าความจริงแล้วเจ้าชายชาเบรียนยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่พระเจ้าค่ะ  แต่เนื่อง
จากอดีตองค์จักรพรรดิทรงรักษาสัจจะเพราะอดีตองค์ราชินีพระมารดาของอดีตองค์จักรพรรดิทรงเคย
เป็นองค์รัชทายาทแห่งทริสทอร์  แต่ด้วยการที่ทรงมาเป็นราชินีแห่งเวนอลจึงถือว่าเวนอลแย่งรัชทายาท
ของทริสทอร์มา  ต้องใช้คืน  ดังนั้นอดีตองค์จักรพรรดิจึงทรงส่งเจ้าชายชาเบรียนไปเป็นองค์รัชทายาท
ของทริสทอร์\" 
    เมื่อจบคำกราบทูลดวงเนตรสีเขียวก็เบิกกว้างถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงก็แสดงว่าพี่ชายของเธอยังมีชีวิต
อยู่  พลันให้เกิดความห่วงหาอาทรยิ่งนัก  จึงเอ่ยโอษฐ์ \"ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่าเสด็จพี่ทรงอยู่ที่
ทริสทอร์อย่างนั้นหรือ\"
    \"หาไม่พระเจ้าค่ะ  กฎมณเฑียรบาลของทริสทอร์ก็ให้องค์รัชทายาทออกเร่ร่อนเหมือนกัน  ดังนั้น
ตอนนี้เจ้าชายชาเบรียนจึงทรงเร่ร่อนอยู่พระเจ้าค่ะ\" คอริปัสทูลตอบ
    \"ถ้าเช่นนั้นพวกท่านพอจะทราบข่าวคราวของเสด็จพระบ้างหรือไม่\" องค์จักรพรรดินีตรัสถาม
    \"หม่อมฉันไปตามสืบมาแล้วพระเจ้าค่ะ\" ขุนพลเอสเซ็กทูลตอบ \"แต่เนื่องจากพวกเราไม่ได้ติดตาม
ข่าวคราวของเจ้าชายมานานหลายปี  จึงไม่ค่อยได้ความอะไรมากนักเท่าที่สืบมาทั้งหมดนั้นพอจะสรุป
ได้ว่า  เจ้าชายชาเบรียนทรงกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก พระเจ้าค่ะ\"
    \"อย่างนั้นหรือ\" ดวงเนตรขององค์จักรพรรดินีหลุบลงต่ำอย่างครุ่นคิด  แล้วเบือนขึ้นมาสบตานาย
ทหารทั้งสองแล้วประกาศด้วยเสียงดังฟังชัดว่า
    \"เราจะเข้าเรียนที่เอดินเบิร์กปีนี้  แล้วจะตามหาตัวพี่ชายของเราให้พบเอง\"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น