ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic IC21(ผสมโรง+ฮิรุมาโม(รึป่าวหว่า= =)

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่22:คำพูดที่ออกมาจากใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 113
      0
      27 มิ.ย. 52

    ไคเร็ทสึยิ้มอย่างนึกสนุก
    “จำได้อีกหรอเนี่ย…นึกว่าผ่านไปหลายปีจะจำไม่ได้นะเนี่ย”
    “ช่างสิ~แต่ก็เถอะนะ…”
    ชิ้ง…!
    “ฉันไม่ค่อยจะว่างซะด้วยสิ”
    “!?!”
    “จงโหยหวน ซาบิมารุ!”
    เฉ้ง!!!!
    “เหวย!!”
    ฟึบ!!!
    ครืด!!
    ชายผมสีม่วงเข้มกระโดดถอยออกห่าง ‘ทำไมดาบของเร็นจิถึงอยู่กับยัยนี่ได้นะ!?!’ เขาคิดก่อนที่จะเตรียมตัวใช้ดาบของเขา แต่สาวเสื้อคลุมกลับรีบเปิดประตูไปยังจัตุรัสนาวาทันที
    “ความทนทานของดาบที่โคลนนิ่งออกมาดันเป็น0ซะแบบนี้ก็ใช้ได้แค่ครั้งเดียวน่ะสิ”
    วุ่บ
    “เอาเถอะ…งั้นก็ขอกลับก่อนล่ะนะ ข้าล่ะเกลียดแสงสว่างนักล่ะ…”
    แล้วเธอก็หายไปจากสายตาของพวกเขา ใบหน้าของอากอนเริ่มแสดงถึงความเครียดอย่างเห็นได้ชัดมาก ทำให้นางฟ้าน้อยเองก็พลอยรู้สึกไม่ค่อยดีตามเช่นกัน
    “เฮ้~~!!!เป็นอะไรรึเปล่า!?!”
    อุนซุยวิ่งมาหาพวกเขาอย่างเป็นห่วง มาโมริที่หันไปก็กำลังจะตอบกลับไปว่าไม่เป็นไรนั้นก็ต้องเก็บคำพูดไปเมื่อเธอเห็นชายผมเดธร็อคทรุดลงไปก็พื้น
    “อากอนคุง!?”
    “แฮ่ก…ๆ ไม่เป็นไร…”
    “แขนหักอีกแล้วล่ะสิ…?”
    “อีกแล้วงั้นหรอ?”
    มาโมริสงสัยกับสิ่งที่ชายผมเกรียนพูด ในขณะที่เขากำลังโทรศัพท์ไปหาไนท์อย่างเร่งรีบ
    “ฮื่อ…ที่ศาสนจักรเลยสินะ”
    “เฮ้ย!เอามานี่”
    หมับ!
    “เฮ้ย!?!ทำอะไรน่ะ!?”
    “มีเอ็กโซซิสหนึ่งคน…จะให้พาไปมั้ย?”
    ‘หืม…ก็ได้ถ้าพี่มีปัญญาล่ะก็’
    “ส่งคนมารับสิฟะเฮ้ย!!!!!”
    ‘ก็รอหน่อยซี่…’
    “…เรื่องฮิรุม่าน่ะ…”
    ‘อื๋อ…?’
    “ขอโทษด้วยก็แล้วกัน…ถ้าเป็นเธอคงจะรู้เหตุการณ์ดีสินะ?”
    ‘…งั้นหรอ?...ไม่เป็นไรหรอกพี่ก้อน เดี๋ยวหนูจะไปหาที่ชมรมโรงเรียนเดมอนก็แล้วกัน’
    เธอพูดเบาๆเป็นเชิงปลอบโยน อากอนเองก็พยายามที่จะไม่แสดงอาการเศร้าออกมาที่สีหน้า แต่สายตากลับเหมือนตอกย้ำตัวเองว่าเขานั้นทำผิดพลาดอีกแล้ว
    “ฮื่อ…”
    ติ๊ด
    เขาวางสายก่อนที่จะเดินไปยังห้องชมรมอเมริกันฟุตบอลของเดมอนทันที อุนซุยและรุยจึงเอ่ยชักชวนคนแปลกหน้าและมาโมริให้ไปกับพวกเขาด้วย หญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนจึงเดินไปพร้อมกับถามพวกอุนซุยเกี่ยวกับอาคุม่าเหล่านั้น ครั้นเมื่อมาถึง
    ครืด!!
    “ยังไม่เป็นไร…ทุกอย่างอยู่ในสภาพใช้ได้”
    ไนท์ที่เปิดประตูเข้าไปดูสภาพของชมรมพูดอย่างเฉยชา ก่อนที่จะให้พวกอากอนเดินเข้าไปด้านในเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในวันนี้
    “เอ่อ…ไนท์จังใช่มั้ยจ๊ะ?”
    “ค่ะ…พี่มาโมริ”
    “?...รู้จักพี่ด้วยหรอ?”
    “ก็พอรู้อยู่…เอ้า!นั่งสิ”
    เด็กน้อยผมสีน้ำตาลเข้มชี้นิ้วสั่งให้พี่สาวนั่งลง ส่วนตนนั้นเดินไปดูอยู่ด้านในที่มีของเก็บอยู่
    “แฮ่ก…ๆ”
    “ว่าแต่อุนซุยคุง”
    “หืม?”
    “ที่ว่า ‘แขนหักอีกแล้ว’น่ะหมายความว่ายังไงหรอ?”
    “อ๋อ…เจ้าเนี่ยไม่ได้โดนเป็นครั้งแรกหรอกนะ…อาคุม่าหลายๆตัวมันก็หักไปแล้ว4-5ครั้งน่ะ”
    “หักอีกและ???...แล้วงานก็ลงที่หนูทุกทีสิ ให้ตายเหอะ”
    “เอาน่า…มาช่วยกันหน่อยเหอะ=_=’’
    อุนซุยพูดอย่างหน่ายๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นการสั่งคนตรงหน้า เธอยอมทำตามที่ชายผมเกรียนบอกพลางเดินเข้ามาใช้พลังรักษาบาดแผลอย่างช้าๆ
    “ว้าว…!?”
    “อย่างมากคราวนี้ต้องใส่เฝือกซักวันสองวันนั่นล่ะ”
    “ไม่ต้อง…แค่นี้เอง”
    “ตามใจ…”
    ‘พลังเมื่อกี้มันอะไรกัน…?’
    มาโมริได้แต่งงงวยกับสิ่งที่เด็กน้อยแสดงให้เธอเห็น ครู่ต่อมาเธอก็เริ่มนั่งที่หัวโต๊ะก่อนที่จะเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกับพวกที่เหลือทันที
    “เอาล่ะ…เท่ากับว่าเราเจอเอ็กโซซิส1แล้วก็ยมทูต1สินะ”
    “การบุกคราวนี้มาน้อยกว่าศึกใหญ่…คงจะแค่ต้องการทำลายที่นี่ให้ย่อยยับเท่านั้นเอง”
    “ไม่หรอก…คราวนี้มันได้ฮิรุม่าไป งานของมันก็คงจะเร็วขึ้นอีก…”
    “…น่าห่วงก็ตรงนี้แหล่ะ…”
    “ทั้งที่เข้าถึงตัวฮิรุม่าได้ขนาดนั้น แล้วทำไมไม่เปิด ‘ประตู’ ซะตอนนั้นเลยล่ะ”
    “เวลาถมเถล่ะมั้ง…”
    “แล้วถ้าเกิดไม่ใช่ล่ะ?...”
    “ไม่ใช่อยู่แล้ว…ก็ผู้เปิดประตูทั้ง6ยังไม่ครบนี่นา”
    ถึงคราวที่ไนท์พูดแทรกขึ้นมาก็ทำให้ทุกคนยิ่งเคร่งเครียดมากกว่าเดิม ชายผมดำที่นั่งอยู่ข้างๆกับชายผมสีม่วงเข้มเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
    “แล้วเอ็กโซซิสคนใหม่ล่ะ?...อินโนเซนต์อยู่ไหน?”
    “เอ้อ…น นี่ค่ะ…”
    “!?!”
    “ป…!ปักษานี่นา!?!”
    “ได้ไง มันมาอยู่กับเธอได้ไง!?!”
    “…หุบปากให้หมดทุกคนเลย…!”
    “…อากอนเสียมารยาทน่ะ!”
    “เอาน่า…ฟังพี่เค้าหน่อย เห็นนั่งเงียบตั้งนานนึกว่าเอาสากไปเป่าซะอีกนะนั่น”
    เธอหยอกล้อชายผมเดธร็อคด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ดูๆไปแล้วเธอก็ไท่ได้ต่างอะไรกับฮิรุม่าในบางอิริยาบถเลย…เช่น คำพูดคำจา และ ท่านั่งไขว่ห้างแบบนั้นอีก เหมือนกับเป็นคนมี2บุคลิกเลย
    “ปืนนั่นน่ะ รู้สึกว่าทั้งเจ้าแหลมนั่น…กับ ผู้หญิงคนนี้จะเชื่อต่อมันได้ทั้งสองคน”
    “เฮ้~ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องอินโนเซนต์ที่เชื่อมต่อได้สองคนนะ แต่คนที่เชื่อมต่ออินโนเซนต์ได้หลายชิ้นน่ะก็ยังพอได้ยินมาบ้าง”
    “จะว่าไป…หนูไม่เคยเอาปักษาไปให้เฮพลัสก้าตรวจดูเลยด้วยสิ…”
    “แล้วก็ ไคเร็ทสึ…เห็นว่ารู้จักกับเซลโร่ด้วยนี่?”
    “ฮะๆ…ก็นานแล้ว แต่ตอนนี้จำชื่อยัยนั่นไม่ได้แล้วล่ะ”
    “…ท่าทางจะใช่แล้วล่ะ…”
    “ใช่…?”
    ทุกคนทวนคำพูดนั้นพร้อมๆกัน พวกเขาคาดว่าไนท์จะต้องตั้งสมมุติฐานเอาไว้ก่อนที่จะเริ่มรวบรวมข้อมูลพวกนี้แล้วสรุปออกมา ครั้นเมื่ออากอนคิดได้เช่นนั้นก็ถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า
    “สมมุติฐานอะไรไว้?”
    “ความทรงจำของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเซลโร่แต่ก่อนทั้งหมดโดนลบทิ้งหมด…ทั้งเรื่องของผู้ที่เคยเจอ พูดคุย หรือ เห็นหน้าพี่ของหนู ทุกคนก็แทบจะจำอะไรไม่ได้เลยนี่”
    “พี่สาวของไนท์ เซลโร่ แล้วก็ คิรากิ…สรุปก็คือสามคนนี้คือคนๆเดียวกันสินะ”
    “จะบ้าเรอะ!!!คิรากิไม่มีทางเป็นเซลโร่หรอกน่า!!แกก็น่าจะเห็นนี่อุนโกะ…วิญญาณของยัยนั่นโดนเซลโร่สลายไปแล้ว!”
    “แล้วมั่นใจได้ไงว่านั่นคือพี่คิรากิ…?”
    เธอสวนคำถามใส่พี่ชายผมเดธร็อคที่กำลังเดือดดาลสุดขีด คำพูดทุกๆอย่างที่เขาอยากจะพูดมันติดอยู่ในคอ อึดอัดใจแต่ก็พูดไม่ได้เมื่อถูกสายตานั่นจับจ้องมาที่เขา
    “ทั้งๆที่น่าจะลืมไปแล้ว…แต่กลับจำขึ้นมาได้อีกครั้ง ไม่เอะใจว่าลืมอะไรไปทั้งๆที่เป็นสิ่งสำคัญ…นี่เรียกว่าการ[ตัดต่อและปิดกั้น]ความทรงจำ เป็นวิชาของแวมไพร์โดยตรง”
    “…ไม่พูดแล้ว…ไปหาเฮพลัสก้าเดี๋ยวนี้เลย!”
    ชายผมเดธร็อครีบตวาดลั่นพลางลุกพรวดขึ้นมาอย่างโมโห แต่ก็ต้องลงไปนั่งฟุบอยู่กับโต๊ะเมื่ออิมพัลนั้นส่งความเจ็บปวดที่แขนมาได้เร็วกว่ามนุษย์ธรรมดา
    “หัดดูสังขารตัวเองซะบ้างนะ…เดินก็ไม่ค่อยจะไหว แล้วยังจะลุกพรวดพราดแบบนั้นอีก”
    “อุก…!...นี่เธอ…!?”
    “ไนท์…ทำอะไรกับอากอนน่ะ?”
    “ให้กระดูกหายไปแค่2วัน…จะได้ซ่าไม่ออกไง”
    “เฮ้ย!!แล้วถ้าจำเป็นต้องใช้ขึ้นมาล่ะ!?!”
    “มีพวกเรา…อย่างพี่ก้อนจำเป็นต้องใช้ด้วยหรอ?”
    “หาว่าฉันเป็นตัวถ่วงรึไง!?!”
    “โฮ่~~ฉันยังไม่ได้พูดเลยนะว่าพี่เป็นตัวถ่วงน่ะ”
    “บัด…ซบ…เอ๊ย!!”
    “หุบปากให้หมดทุกคนเลย!!!”
    “!?!”
    ทุกคนชะงักทันทีที่เจ้าของเรือนผมสีแสบตานั่นเดินเข้ามา แม้แต่ไนท์เองก็ตกใจไม่แพ้คนอื่นๆที่อยู่ในห้อง ดูท่าทางว่าเจ้าตัวจะโกรธเสียเต็มประดาเลยด้วย…ทำให้ทุกคนอยู่ในความสงบ(หรืออึมครึม?)
    “นี่ไม่ใช่เวลามาเล่นกันนาเหวย!!!ลุกๆๆๆๆ!!!!กลับกันได้แล้ว”
    “อะไรฟะโผล่มาก็ไล่เอาๆ!!!ไอ้สวะหน้ากาก!!!”
    “แล้วจะทำไม(ฟะ)ครับ!!(ไอ้)คุณเกย์หัวสี!!”
    “ใครเกย์ฟะ!?!พูดอะไรได้เข้าตัวจริงๆนะแกน่ะ!!”
    “ถ้าผมเกย์…คุณก็คงจะผิดเพศกว่าผมล่ะนะ(ไอ้)คนหน้าหนา”
    “อย่างน้อยฉันก็ไม่สะเออะไว้ผมสีแสบตาแบบแกหรอกนะไอ้ตูด!”
    (D.Kunaz/เดี๋ยวนะ ไอ้ตูดหรอ?o_O?)
    “ผมสีนี้มันเป็นธรรมชาติของผม…แต่ไอ้หัวสีผิดธรรมชาติแบบคุณมันโสโครกนะครับ”
    “นี่แกดูถูกแฟนๆของฉันที่ชอบฉันแบบนี้งั้นเรอะ!!”
    “ผมไม่ได้ดูถูกแฟนๆคุณซักหน่อย…ที่ผมดูถูกก็มีแต่คุณนั่นแหล่ะ!!”
    “ได้เสียเด้!!!เอาดาบมาเสียบกันเลยมา!!”
    โป๊กๆ!!!!
    “แอ่ฟ!!!”
    “อ่อก!!!”
    “หยุดเถียงเป็นเด็กๆได้แล้วน่า…เปลืองกระดาษชะมัด”
    ไนท์เหวี่ยงลูกดิ่งเป็นวงกว้างแล้วก็เขกกะบาลพวกอากอนและเนียร์สำเร็จซะด้วย… เธอดึงลูกดิ่งทั้ง2กลับมาพลางเล่นอยู่ครู่นึงก่อนที่จะโยนทิ้ง
    “ไนท์จัง…คนนั้นใครอ่ะ?”
    “โจ๊คเกอร์ เนียร์ราวด์ ไงคะ…”
    “…เค้าทะเลาะกันตลอดเลยหรอจ๊ะ=_=??”
    “ถ้าเนียร์เปิดประตูด้วยเท้าก็เดาได้เลยว่าต้องทะเลาะกัน…แต่ถ้าเปิดด้วยมือก็…”
    “เปิดด้วยมือก็…?”
    “คงจะต้องหลบ…เพราะ หลังจากใช้มือเปิดเท้าก็จะกระแทกที่หน้าพี่ก้อนทัน”
    ‘อุย=_=….’
    เธอนึกหวาดเสียวในใจ กลุ่มรวมคนโหดแบบนี้ดันมีผู้หญิงอยู่แค่สองคนแบบนี้บรรยากาศไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยให้เท่าไหร่ด้วย ในขณะเดียวกันที่ไนท์เริ่มทำอะไรยุกยิกๆอยู่ที่โต๊ะ
    “ควรจะกลับได้แล้วนะครับ!!”
    “เออๆ!!รู้น่า”
    ‘จงเปิดออก เคโคะชุน’
    กึก
    “เอ๋…?”
    “หืม?...อะไรงั้นหรอไนท์?”
    “ในนี้เปิดมิติพิเศษไม่ได้…เหมือกับว่ามีบางอย่างควบคุมที่นี่ไว้…”
    “ตัวป้องกันระบบมิติ…”
    “เอ๋…นี่นายรู้เรื่องนี้แต่ไม่บอกฉันงั้นหรอ”
    “ผมเสียเวลากับเรื่องนี้ที่แผนกวิทย์ฯนานไปหน่อย…นี่ไง…ตัวปิดกั้นมิติ”
    เขาหยิบกำไลข้อมือที่ทำจากโลหะสีดำ ดูๆไปแล้วคล้ายกับนิลมากจนเป็นคล้ายกับเครื่องประดับทั่วไป แต่ว่าไนท์กลับรู้สึกว่ามันต่างออกไป
    “นี่นายพกของแบบนี้มาทำไม…?”
    “คิดว่าผมเร่งให้กลับบ้านทำไมล่ะคร้าบ…มันก็ต้องพิสูจน์ไอ้นี่ก่อนนี่นา”
    “แล้ว…จะกลับยังไงล่ะ?”
    “ขี่มังกรกลับก็ได้…ถึงจะช้าแต่ก็ยังได้ผลล่ะครับ”
    เขาหัวเราะร่า ก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอกเพื่อใช้พลังของตนอัญเชิญมังกรออกมา ทุกคนยอมออกไปด้วยแม้กระทั่งอากอนที่บาดเจ็บอยู่ก็ตาม ส่วนมาโมริยังไม่มั่นใจที่จะตามพวกเขาไปอยู่ดี
    “เอ้า…มาสิ”
    “…ทำไม…”
    “หืม?”
    “ทำไม…พวกเราต้องสู้กับคนพวกนั้นด้วย”
    “…เพื่อคนที่จากไปเพราะพวกนั้น…”
    “เอ๋?”
    “ฉันตั้งใจไว้แบบนั้น…ส่วนเธอน่ะก็สู้ไปเพื่อไม่ให้สูญเสียคนที่สำคัญไปยังไงล่ะ”
    ‘คนที่สำคัญ…’
    “แต่ถ้ากลัว ก็แค่เอาปักษาคืนมา…”
    “ฉันจะไป…!”
    “…ฮึๆ งั้นก็ไปกันเถอะ”
    “เฮ้!(ไอ้)คุณหัวสี จะไปได้รึยัง!?”
    โจ๊คเกอร์เอ่ยถามอย่างกวนๆในขณะที่ยืนพิงเขาของมังกรพร้อมๆกับคนอื่นๆที่ขึ้นไปนั่งรอบริเวณชว่งลำตัวของมังกร ชายผมเดธร็อคกระโดดขึ้นไปยืนรอพลางหันหน้ามาทางมาโมริเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า
    “ยินดีต้อนรับ…สู่ศาสนจักรแห่งความมืด ผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า”
    จบตอนที่22/โปรดติดตามตอนต่อไป
    ******************************************************
    โอ๊ยโหย@_@มาอัพทีอย่างนานเลยแฮะ
    ตอนนี้ทั้งฟิคนอก ฟิคในผัดก็ตายลายแล้วล่ะ
    จะปั่นให้ทันนะคร้า>_<''
    D.Kunazu
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×