คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : NNN???
ตอนอายุสี่ขวบพวกคุณทำอะไรกัน?
บางคนอาจจะตอบว่า
มีชีวิตอย่างยากลำบาก ทรมาน
และพยายามไต่เต้าขึ้นมาเป็นหลายๆอย่างเพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น
บางคนอาจจะบอกว่ามีชีวิตที่สุขสบายแต่โดนครอบครัวขัดใจจึงหนีออกจากบ้าน
แสดงเจตนารมณ์ของตัวเองให้พวกเขาได้เห็น บ้างก็สุขสบายอยู่อย่างมีความสุข
บ้างมีความสุขท่ามกลางความยากลำบากอาภัพต่างๆนานา
ส่วนผม— ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ว่ามันสุข...มันทุกข์ หรือ มันครึ่งต่อครึ่ง...
สเปลนดี้ เจย์
ที่พวกคุณเรียกกันอยู่ทุกวันนี้แม้ภายนอกจะดูมีความสุข
ยิ้มได้ทุกเมื่อแม้จะเจอเรื่องลำบากใจหรือเรื่องที่ไม่เข้าใจบ้าง
แต่นั่นก็แค่ด้านหนึ่งของเหรียญที่ผมต้องการแสดงให้ทุกคนได้เห็น
เบื้องหลังของเหรียญอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณหวังไว้ก็ได้...
ผมในวัยสี่ขวบปีนั้นอยู่ในคฤหาสน์อันสุขสบายในสถานที่แห่งหนึ่ง—
ที่พวกคุณคงคาดกันไม่ถึง
คฤหาสน์ที่ไหนหรือ...ไม่เอาหรอก
ผมไม่อยากพูดถึงมัน—
แต่ที่แน่ๆชีวิตในคฤหาสน์นั้นไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่เป็นลูกชาย...
ผมเป็นน้องเล็กที่สุดของบ้าน
ลูกชายคนที่ 6…จากภรรยาคนเล็กของพ่อเฮงซวยคนหนึ่ง
ซึ่งชื่นชอบการค้าขายทาสและบ้าผู้หญิงยิ่งกว่าสิ่งใด...พี่ชายทั้งหมด 5 คน...มี4คนรุมทุบรังแกผม
และ ค่อนแคะ ด่าทอผมว่าเป็นลูกของหญิงผู้เป็นบ้า—
ฆ่าตัวตายอย่างโง่ๆในบ้านที่แสนจะสุขสบาย
ผมโดนทำร้ายตัวช้ำดำเขียวทุกวัน—
ไม่เพียงเท่านั้น
ผมยังโดนบังคับให้เรียนหนังสือกับป้าแก่ๆหลายคนที่พร้อมจะฟาดไม้เรียวใส่ทุกเมื่อที่ผมทำเป็นไม่สนใจ
พ่อของผมก็ไม่ใคร่สนใจหัวเท่าไรนักเพราะเขาเอาแต่ทำธุรกิจค้าชีวิตและประคบประหงมเหล่าภรรยา...
สิ่งเดียวที่คลายความเจ็บใจทั้งหมดได้คงเป็นเปียโนตัวใหญ่ที่เขายอมซื้อให้ส่งๆ
เป็นเปียโนหลังเก่ามือสองที่มีรอยขีดข่วน
แต่ถึงอย่างไรเสียงของมันก็เพราะและเสนาะกังวานเสมอ...
เป็นอย่างนั้นเรื่อยไปกระทั่งวันหนึ่ง...ผมคิดจะหนีเรียน
หนีออกจากห้องนอนแต่ฟ้าสางเพื่อหลบหน้าทุกคนที่คาดว่าจะเข้ามาเห็น
ยามหน้าห้องนั้นอยู่ในช่วงเดินไปเปลี่ยนกะอย่างสบายใจ—
อาจเพราะคิดว่าผมเป็นเด็กล่ะมั้ง จึงได้เดินไปตามกันเอาเอง ไม่รอให้คนกะต่อไปเดินมาที่ห้อง...
ผมกลั้นใจหนีลงไปชั้นล่างและลงไปเป็นชั้นใต้ดินที่มีท่อทางลับอยู่
ความเป็นเด็กนั้นแน่นอนว่าต้องซน...ผมจึงคลานเข้าไปโดยไม่รู้ว่ามันจะต่อไปที่ใด...
ผมได้ยินเสียงคนคุยกันที่ปลายทาง
ชะโงกหัวออกไปจะพบว่ามีลังไม้มากมายบังอยู่ทั้งเลยออกไปยังมีลูกกรงเหล็กกับเงาดำบางอย่างของคนหลายคนอยู่—
ไม่รีรอ ด้วยความอยากรู้จึงเข้าไปเขย่งขาเกาะกล่องใบใหญ่ทั้งหลายดู
ภาพที่ฉายชัดในดวงตาคือมีแสงไฟเล็กๆจากโคมตะเกียงเหนือหัว...แสงสลัวทำให้เห็นภาพคนมากมายยืนอยู่หลังลูกกรงและมีโซ่ตรวน
มีคนถือแส้บังคับให้พวกเขายืนรออะไรบางอย่าง—
บางคนที่ด้านหลังพยายามหนีแต่ก็โดนรุมกระทืบอย่างไม่ใคร่จะใยดี
ระยะที่ใกล้เข้ามาอีกนิดหนึ่งผมเห็นชายฉกรรจ์ตัวใหญ่กำลังถือแท่งเหล็กร้อน—
ที่มีตราประทับทาสอยู่บนนั้น
กับเบื้องหน้าเขาที่มีเด็กผู้หญิง...วัยสิบสองหรือสิบสามปี
ผมสีทองบลอนด์ยาวถูกจับเปลือยท่อนบนและหันหลังให้พวกเขา
รอเวลาประทับตราที่ไม่มีวันลบออก...
กึก
ด้วยความที่ผมมองไม่ค่อยชัดจึงได้ขยับเท้าไปโดนกับกล่องไม้เข้าเบาๆ
เสียงโอดครวญในนั้นน่าจะดังจนกลบมันได้
ทว่าเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นเธอมองเนผมที่หลบอยู่
แววตาเศร้าสร้อยรื้นน้ำตานั้นดูเหมือนกำลังอ้อนวอนผม...อ้อนวอนเพื่อให้ช่วยชีวิตของเธอ
สิ่งที่เธอขยับปากพูดนั้นเบาราวกับเสียงลมหวีดหวิว
ดวงตาเจ้ากรรมของผมที่อ่านมันก็พาลทำให้น้ำตามันหลั่งรินออกมาด้วยความทรมานใจที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้
ช่วย...ฉัน ด้วย...
ไอร้อนทะลุจุดเดือดของแท่งเหล็กทบเข้ากับแผ่นหลังของเธอ
แล้วฝันร้ายของผมก็เริ่มต้นขึ้นกับเสียงกรีดร้องที่ดังลั่นก้องไปทั่วทั้งห้องทรมานหลังลูกกรงเหล็กนั่น
โครม!
ผมล้มลงจากกล่องลังไม้
รีบกระวีกระวาดหนีออกไปจากห้องนั้นผ่านทางเดิมที่ได้ผ่านมา
วิ่งหนีจากชั้นใต้ดินเพื่อจะมุ่งหน้ากลับไปยังห้องพักคับแคบของตัวเอง—
โชคร้ายที่ระหว่างทางผมไปเจอกับพวกพี่แสนเลวร้ายที่ 4 คนเข้า...พวกเขาโดนผมชนเข้าเต็มๆก็เกิดน้ำโห
ฟาดมือฟาดเท้าใส่ผมยิ่งกว่ากระสอบทราย
‘ออกไปนะ!!’
ผมตะโกนร้องทั้งน้ำตาก่อนจะเริ่มดื้อด้านเป็นครั้งแรก
ผลักพวกเขาคืนจนล้มไปแล้วรีบตรงดิ่งกลับเข้าไปในห้องนอน
ปิดประตูล็อคแน่นหนาไม่ต้อนรับผู้ใดให้เข้ามาภายในห้องนั้น
แล้วผมก็ร้องไห้ออกมา
ตลอดทั้งวันทั้งคืน...มีเพียงเสียงร้องไห้ของเด็กเล็กๆที่ยังคงดังอยู่ในห้อง
ผมไม่อยาก อยู่ที่นี่อีกแล้ว...
ผมไม่อยากเห็นใคร ทรมาณแบบนั้น...
ทำไมผมต้องเกิดมาเหมือนไอ้พ่อเฮงซวย
ในตระกูลบ้าๆนี่ด้วย— ทำไมผมต้องมีเลือดแบบนี้ไหลเวียนในตัวผมด้วย ผมไม่อยากเป็นแบบพวกพ่อ...
ผมไม่อยาก เป็นเผ่ามังกรฟ้าอีกต่อไปแล้ว!!!
ความคิดเห็น