ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sh! KiZe คลังเก็บของของเจ้าชายคีส

    ลำดับตอนที่ #5 : [Daniel n' Ismar] first meeting,

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 58


    First Meeting ,

    : Ismar Al-Mael n' Daniel Dean Valeria.

     

                หากว่ากันตามตรงแล้วหน่วยราชการลับของเขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นมากไปกว่าเก็บความลับของสิ่งมีชีวิตเบื้องหลังความมืดทั้งหลาย

                ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนขณะแยกเหล่าแฟ้มเอกสารสีเหลืองนวลประทับรอยตราสีแดงว่า ลับสุดยอด ไปเก็บตามล็อกเกอร์ชั้นต่างๆภายในห้องเก็บของ งานที่น่าเบื่อแค่ไหนก็ต้องทำทุกๆวันอย่างช่วยไม่ได้เพียงเพื่อจะเก็บข้อมูลของปิศาจให้พ้นไปจากสายตามนุษย์

                อิชมาร์ อัลมาเอล...เป็นหนึ่งในคนที่ต้องทำงานนั้น

                ชายผิวเข้มร่างโปร่งนึกปลงกับตัวเอง... หากเลือกงานที่ดีกว่านี้ได้เขาก็คงอยากจะไปหรอก— เขาเคยมีงานพิเศษอย่างการติดตามนายน้อยบ้านพิรุณลักษณ์ที่ชื่อ อธินอยู่พักหนึ่ง อีกทั้งอธินยังเป็นลูกของผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเขาด้วยทำให้เขายินดีทำงานนี้อย่างมาก...ตอนนั้นมันยังไม่น่าเบื่อขนาดนี้เพราะยังได้ออกแรงยืดเส้นยืดสายฆ่าพวกปิศาจที่จ้องจะเล่นงานเด็กนั่น แต่ตอนนี้เรอะ

                นั่งจัดเอกสาร— เขาเป็นนักรบ ไม่ใช่เสมียน!!!

                “บอสนะบอส...ทำไมต้องโยนงานงี่เง่าพวกนี้ให้ฉันด้วยฟะ”

                อิชมาร์สบถกับตัวเอง “แล้วนี่อะไรเนี่ย— แฟ้มเอกสารที่ไม่น่าเก็บยังจะเก็บอีก เรื่องป่าดำ? ไอ้พวกที่อยู่ในนั้นไม่หัดดูแลตัวเองบ้างรึไง ออกมาทำให้มนุษย์เห็นตัวอยู่อย่างงี้มันก็เหนื่อยนะเว้ย”

                บ่นไปก็ไม่มีใครฟัง...

                บ้าเอ๊ย อิชมาร์...บ่นออกมาก็ใช่ว่าจะโวยวายบอสได้ซะที่ไหน นาธาเนลน่ะทำพันธสัญญากับราชาปิศาจ—ส่วนเขามันไอ้กระจอกที่ทำพันธสัญญากับองครักษ์ข้างกายราชาเฉยๆ และเพราะเป็นแบบนั้น...นอกจากนาธาเนลแล้ว คนที่ทำพันธสัญญากับราชาทุกคนล้วนมีแรงค์เหนือกว่าเขาทั้งสิ้น

                ยังดีที่ไม่เจอคู่ปรับเป็นคนในพวกหมู่นั้น— ไม่งั้นเขาต้องตายแน่ๆเลย

                เขาวางเอกสารในล็อก403เสร็จจึงหันกลับไปยกกล่องกระดาษของส่วนที่เหลือเพื่อย้ายไปใส่ห้องถัดไป หวนคิดถึงเรื่องคู่ปรับ...ชายหนุ่มผิวสีเคยได้ยินมาเกี่ยวกับเรื่องนั้น การเจอคู่ปรับของตนเองเปรียบเสมือนกับการเจอคู่ชีวิตอย่างหนึ่ง หากได้เจอแล้วก็พร้อมจะทำทุกอย่างตามคำสั่งของคนๆนั้นไม่ว่ามันจะผิดแค่ไหนก็ตาม...

                สยอง...

                ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเกิดเจอชีวิตเขาจะเป็นยังไง— ถึงอินนิวา...ปิศาจที่เขาทำพันธสัญญาด้วยจะบอกว่ามันมีผลเฉพาะพวกปิศาจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกผู้ทำพันธสัญญาจะไม่โดนผลพลอยได้นี้ไปด้วย...

                แอ๊ด

                มาถึงห้องเก็บของในส่วนลึกสุดของฐานใต้ดิน...ร่างสูงวางกล่องกระดาษลงอย่างเมื่อยล้า “วันนี้เอาไว้แค่นี้ละกันวะ”เขาเปรยกับตัวเอง วันนี้เขาอยากจะดื่มน้ำชาหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่การทำงานในฐานทัพของนาธาน วันๆหนึ่งเขาหวังว่าจะมีโจรแอบเข้ามาให้เขาได้ระบายอารมณ์—

                หวอๆๆๆๆ!!!

                “!?”

                เสียงเตือนภัยของฐานทัพดังก้องไปทั่ว ไฟสีแดงฉานส่องสว่างไปทั่วทำให้ร่างสูงตื่นตัว “โอ้ อยากได้อะไรก็มาหาเลยแฮะ...วันนี้ช่างโชคดีจริงจรี๊ง?” รองเท้าหนังกระแทกทางเดินเหล็กกล้าตรงไปยังห้องบัญชาการกลางตามหน้าที่

                ครั้นก้าวผ่านประตู อิชมาร์ก็ตะโกนสั่งความลูกน้องในฐานะผู้บัญชาการจำเป็นทันที “หน่วยตะวันออกไม่ต้องตามตัวคนบุก เน้นกำลังปิดประตูทางออกทุกทางไว้— หน่วยซิสเต็มตรวจสอบระบบและฟื้นฟูระบบป้องกันเดี๋ยวนี้ ผ่านประตูชั้นแรกมาได้น่าจะไม่ธรรมดา”

                “รับทราบ!”ทั้งหน่วยในฐานลับขานรับอย่างแข็งขัน

                “เอเจนต์หมางเซี่ยคะ กระแสไฟฟ้ารวนบริเวณทางเดินที่ต่อไปถึงห้องเก็บข้อมูลค่ะ”ลูกน้องสาวคนสนิทของเขากล่าวระหว่างที่มือยังพะรุงพะรังกับแป้นพิมพ์ “จะขยายภาพให้ดูเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”

                จอภาพขนาดใหญ่เปิดรูปจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่ใกล้เคียงที่สุดออกมาอย่างรวดเร็ว กระแสไฟฟ้าจากสายไฟนั้นช็อต...ไม่สิ เหมือนเกิดประจุอะไรบางอย่างอย่างรุนแรงก่อนจะค่อยๆสร้างร่างออกมาเป็น...ชายหนุ่ม? อิชมาร์นิ่วหน้า งั้นคงแสดงว่าเป็นหนึ่งในผู้มีพลังพิเศษ— ไม่ว่าจะทางสายพลังจิตหรือสายอมนุษย์ก็ตามแต่

                เพียงชั่ววินาทีร่างนั้นก็หยุดประกายไฟฟ้า— ชายใส่ฮู้ดสีน้ำตาลทึม ใบหน้าใส่ผ้าปิดปากสีดำมีลวดลายเป็นฟันเขี้ยว...ดวงตา...เกือบเห็นแล้วทว่ามีแว่นตาสกีกันลมปิดไว้ ถึงกระนั้นมุมกล้องจากจุดที่เขาเห็นยังพอจะประเมินได้...

                สีฟ้าอ่อน น่าจะใกล้เคียงกับสีที่เรียกว่าIcy blue...

                อิชมาร์ประเมินอีกครั้ง ในมือของชายหนุ่มนั่นใส่ถุงมือหนังกันรอยนิ้วมือกับBatonเหล็กแบบที่ตำรวจนิยมใช้กัน “ดูท่าว่าจะพยายามลอบเข้ามาไม่ได้อยากฉายเดี่ยวนะ”

                “จะให้ทำยังไงดีคะ”ลูกน้องสาวถาม

                ร่างโปร่งกระตุกยิ้มขำก่อนจะตัดสินใจดีดนิ้วให้สัญญาณ...

                “ทุกหน่วย ต้อนเจ้าเด็กนั่นไปที่ห้องซ้อม...”เสียงเย็นเยียบกลับรอยยิ้มชั่วร้ายที่เปื้อนใบหน้าคร้ามทำให้ทุกหน่วยในฐานทัพลอบกลืนน้ำลาย

                เด็กนั่นช่างโชคร้ายจริงๆ...

                “ฉันจะเล่นกับเจ้าหนูนั่นเอง

     

                ถ้าจำไม่ผิดเขาจำได้ว่าใช้ไวรัสแฮคเข้าไฟล์วอลของเซ็คเตอร์ซีโร่ได้แล้วนี่นา

                นี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย ชายหนุ่มสบถกับตัวเองหลังจากผลักตัวออกมาจากสายไฟ...มือหยิบโทรศัพท์มือถือหน้าจอแตกๆของตัวเองเพื่อเปิดพิมพ์เขียวสำหรับวิ่งหนีในเขาวงกตแห่งนี้ เอาเถอะ...ยังไงตอนนี้เขาก็เข้าใกล้เส้นทางสู่ข้อมูลลับของรัฐบาลแล้ว ความน่าตื่นเต้นนิดๆหน่อยๆมันไม่เสียหายมากอะไรขนาดนั้น

                กระชับฮู้ดปกปิดศีรษะตัวเองพร้อมกับออกตัววิ่งไปตามทาง เสียงรองเท้าหนังหนักหน่วงของพวกทหารในฐานทัพนี้ไล่หลังเข้ามาใกล้ทุกทีจนเขาแทบจะตั้งสติไม่อยู่ “ต่อไป...ทะ ทางซ้าย”แล้วจึงหักเลี้ยวซ้ายอย่างทันท่วงที แต่แทนที่เขาจะเจอทางเดินโล่งต่อไปสู่ห้องบัญชาการกลางที่ดิ่งไปห้องเก็บเอกสาร

                กองร้อยระดับร้อยโท!!!?

                “ชิบ!?”เขาจำได้ว่าระดับร้อยโทของที่นี่ไม่ธรรมดากันทุกคน รองเท้าคอนเวิร์ดสีดำไถครูดไปกับพื้นดังเอี๊ยดลั่นทางเดินก่อนจะถีบตัวกลับไปฝั่งตรงข้ามทันที สิ่งที่เขากลัวเป็นอันดับต้นๆกำลังจะทำเขาหัวใจวาย— นั่นก็คือ...

                ปังๆๆ!!

                สไนเปอร์!!!ยิงแบบไม่ต้องเล็งนี่แหล่ะค่อดน่ากลัว!! ปลายเท้าของชายหนุ่มแฮคเกอร์ตัวดีเฉียดกระสุนทองแดงร้อนอย่างดีของเซ็คเตอร์ซีโร่ไปหลายครั้งกระนั้นก็ยังคงหน้าด้านหน้าทนวิ่งต่อไป เลี้ยวขวาข้างหน้าจะมีห้องหลบ—หรือเลี้ยวซ้ายอ้อมแล้วรีบไปถึงจุดหมาย!?

                แต่ฟังจากฝีเท้าแล้ว ถ้าไม่หลบต้องโดนจับได้แน่!!

                เอาฟะ!! เขาเบี่ยงตัวเลี้ยวออกด้านขวาไปอย่างทันทีทันใด ประตูเหล็กของห้องเปิดออกก่อนที่เขาจะไสร่างตัวเองเข้าไปหลบในห้องมืด เสียงฝีเท้าของทหารเริ่มห่างออกไปไกลทีละนิด “โฮ้ย...ทหารพวกนั้นวิ่งสี่วันพลังงานยังไม่หมดเลยมั้งนั่น”เขาพึมพำกับตัวเอง

                จะว่าไปห้องนี่...

                “อ่า ข้างๆเป็นโรงฝึกมั้งถ้าจำไม่ผิด งั้นห้องนี้น่าจะห้องเก็บของ?”พึมพำกับตัวเองระหว่างที่เปิดมือถือดูแผนที่พิมพ์เขียว “โอ้ะ ไม่ใช่แฮะ ฝั่งนี้ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า?”เลิกคิ้วพูดกับตัวเอง ก็ว่าล่ะทำไมเขาถึงได้กลิ่นเหม็นอับปนชื่นแบบที่เคยได้กลิ่นตามฟิตเนส...

                อุ่...เขาโคตรเกลียดเลย...

                “เอาเถอะ ถ้าค่อยๆไปอาจจะถึง...จริงสิ อาจจะมีเสื้อในนี้ให้ใส่ปลอมตัวก็ได้?”

                ความคิดสุดเจิดแล่นเขาหัวแล้วจะรอช้าทำไม แฮคเกอร์หนุ่มปิดแผนที่พิมพ์เขียวก่อนจะหันหลังกลับเตรียมสำรวจพื้นที่ด้านใน

                แต่ท่าทางวันนี้จะไม่ใช่วันที่ดีเท่าไหร่...

                ปึก!

                “อุ่...”เพราะความมือผนวกกับแว่นตาของเขาทำให้ดวงตาปรับทัศนวิสัยในความมืดได้ไม่ดีนักจึงชนเข้ากับอะไรบางอย่างเต็มๆหน้า “ฮู้ย... เจ็บง่า...นี่ตู้หรือตึก”

                “หลงมารึไง หึ๊”

                อะ...

                เอ๊ย!!นี่มันคร๊าย!!

     

                “คลินเช่ รองอิชมาร์ล่ะ?”นายทหารคนหนึ่งถามขณะถือกาแฟสตาร์บัคมาด้วยในมือ

                “หือ? เอเจนต์เซี่ยไปอาบน้ำแน่ะ เห็นบอกว่าร้อน”คลินเช่ สาวผมบลอนด์หน้าจอคอมพิวเตอร์กล่าวอย่างไม่ทุกข์ร้อนเท่าไหร่

                “อ่อ...งั้นน่ะเอง”ก่อนจะนึกได้ “อ้าวเฮ้ย แล้วซ่อมฝักบัวยัง?”

                หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะร้องเหวอ “เอ้ย ทำไมยังไม่รีบซ่อมล่ะ?!เดี๋ยวเอเจนต์เซี่ยก็อาละวาดหรอกนะ!?”

                “ชิบเอ๊ย...ช่างแม่งละ”

                ด้วยความปลงตกเขาจึงยกกาแฟขึ้นดื่มไว้อาลัยกับตัวเองและความวอดวายที่ใกล้เข้ามา “เฮ้ ว่าแต่นายอู้ไปซื้อกาแฟตอนไหนนั่น เกิดเอเจนต์เซี่ยแกเจอนี่อยู่ไม่สงบเลยนะ”

                ชายหนุ่มผิวปากไม่สนใจพลางจิบคาปูชิโน่ของตัวเอง “ก็ให้มันจริงเถ้อะ ติดสินบนเป็นฟูลมูนไว้แบบนั้นแล้วนา...”

     

                กลับมาทางด้านอิชมาร์...

                ร่างสูงก่อนหน้านี้ยังคงแอบหัวเสียกับฝักบัวที่เปิดไม่ติดอยู่ไม่น้อย ยังดีว่าพอมีฝักบัวอันหนึ่งให้ได้ใช้ล้างตัวไปบ้าง ขณะที่เขากำลังออกมาใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดผมของตัวเอง ปึง! มีคนเข้ามาในห้องน้ำ...เขาเลิกคิ้วมองร่างเล็กเพรียวในชุดฮู้ดผ่านความมืด

                เจ้านั่น...ที่บุกเข้ามา หนุ่มผิวสีแสยะยิ้มกับตัวเอง ท่าทางเจ้าเด็กนั่นจะมีอุปกรณ์ดีที่เจาะเอาพิมพ์เขียวของฐานไปใช้เสียด้วย แต่ดูเหมือนจะโชคร้ายที่ต้องมาขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำที่เขาอยู่

                อิชมาร์ไม่รอช้า ก้าวเท้าเข้าประชิดร่างเด็กหนุ่มอ่อนวัยกว่าทันที...ผ้าขนหนูผืนเล็กพาดไหล่กว้างของตนไว้ไม่ให้เกะกะ เหมือนเขาจะได้ยินเสียงจากเด็กนั่น...เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ

                น้ำเสียงเด็กนี่...ทำไมเขาฟังแล้วรู้สึก...

                ไม่ได้อิชมาร์ ตอนนี้สนแค่จับเจ้าเด็กนี่ได้ก็พอแล้ว...เด็กหนุ่มหันมาชนกับเขาพอดิบพอดี ถึงแม้ว่าร่างกายจะสูงเกือบเท่ากันทว่าเพราะความที่เด็กตรงหน้ามีกล้ามเนื้อน้อยกว่าทำให้คนที่เซไม่ใช่เขา “หลงมารึไง หึ๊?”

                “อะ เอ๋...”

                เสียงนั่น เสียงนั่นอีกแล้ว...เสียงที่ฟังดูสับสนงวยงง แต่เขาฟังแล้วกลับรู้สึกปั่นป่วนอย่างน่าประหลาด นี่มันอะไรกันนะ “...หึ เจ้าหนู...”

                “เหวอ!!”เด็กหนุ่มตรงหน้าร้องลั่นด้วยความตื่นตระหนกพลางถีบตัวหมายจะออกไปจากห้องนี้ แต่ไม่ทัน...เอเจนต์หนุ่มใช้แขนรวบเอวของเด็กหนุ่มตรงหน้าไว้ให้เซเข้าหาตัวพร้อมกับเปิดไฟในห้องน้ำ เรียวนิ้วดีดส่งเสียงกังวาล ชั่ววินาทีเหล่าทหารที่เด็กหนุ่มคิดว่าเดินไปพ้นทางแล้วก็เข้ามาล้อมเอาไว้ทันที

                อิชมาร์ลอบหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางตัวสั่นงันงกของเด็กในอ้อมแขน “ล้อมจับกุม ยอมแพ้ซะดีๆเจ้าผู้บุกรุก...”

                “อะ— อุ่....”พูดไม่ออก เขาจนหนทางแล้ว

                “Checkmate

     

                “ขอบคุณนะครับรอง ที่อุตส่าห์ยอมใส่เสื้อดีๆสักที”

                “โฮ้ย เกิดเดินอุ้มเจ้าเด็กนั่นทั้งตัวเปล่าออกมา ทั้งเซ็คเตอร์แม่งน่าจะอุจาดตาไปเป็นเดือน”ร่างสูงพูดอย่างไม่ซีเรียสขณะที่จุดบุหรี่สูบ หลังจากการจับกุมตัวผู้บุกรุกได้เขาก็กลับมาใส่ชุดทหารเต็มยศสีเขียวเข้มตามปกติพลางเดินไปยังห้องกักตัวทันที

                ถึงจะดูไม่คิดมากอะไรแต่อิชมาร์ยังคงลบเรื่องเด็กหนุ่มที่เขาเจอออกไปไม่ได้สักที... โดยปกติแล้วเซ็คเตอร์ซีโร่เมื่อจับผู้บุกรุกได้จะเริ่มดำเนินการล้างข้อมูลและความทรงจำของอีกฝ่ายทันที หากฝีมือดี...เซ็คเตอร์ซีโร่จะเพิ่มความทรงจำใหม่ให้ว่าเขาทำงานที่นี่ หากไร้ฝีมือก็แค่เอาไปปล่อย...

                แต่เด็กนี่ เขากลับขอให้กักตัวไว้ก่อน...

                “เอาเถอะ ส่งแค่นี้...ไปทำงานต่อได้แล้ว ฉันจัดการเอง”เขาออกคำสั่ง ลูกน้องของเขาโค้งรับคำสั่งอย่างนอบน้อมก่อนจะปลีกตัวกลับไปประจำตำแหน่งของตัวเองในฐาน ทางด้านตัวเขาก็เปิดประตูเข้าไปในห้องสีขาวโพลนอย่างใจเย็น กลางห้องมีแค่โต๊ะหนึ่งตัวที่ล็อกกุญแจมือผู้บุกรุกเอาไว้

                ดวงตาใต้แว่นกันลมตวัดมองเขาอย่างประหม่าก่อนจะก้มลงมองพื้นอีกครั้ง อะไรของเด็กนี่... “ว่าไง...นั่งก้มหาเหรียญ หรือ กดโทรศัพท์ล่ะ”

                “....”

                เงียบ ไม่ตอบ...

                “เฮ้ อุตส่าห์คุยดีๆด้วยนะเจ้าหนู”ว่าพลางเลื่อนเก้าอี้นั่งคุยด้วยดีๆ ทำไมเขาต้องมาทนพูดด้วยแบบนี้กันนะเนี่ย... “อย่างน้อยก็ ถอดหน้ากากกับแว่นเถอะ ฉันรู้ว่ามันอึดอัดนา...”

                เงียบ...

                “เฮ้อ...”

                อะไรของแม่งล่ะวะเนี่ย ชื่อเสียงเรียงนามไม่พูด หน้ากากไม่เปิด อื้ม...ดีๆ เด็กดื้อเอ๊ย “เหอะๆ ถ้านายถอดแว่นกับผ้านั่นฉันยอมถอดแว่นตาฉันเลยอ่ะ...”

                อันที่จริงเขาพูดเล่นนะแต่ว่า...

                “จะ...ถอดจริงๆ รึเปล่าล่ะ?”

                “เออะ...”อิชมาร์แทบกัดลิ้นตัวเอง บ้าเอ๊ย...เสนออะไรไม่เข้าท่าไปซะแล้วมั้งเนี่ย “เออ ก็ได้ๆ...”

                “จริงๆนะ”เด็กหนุ่มในชุดฮู้ดถามย้ำ

                “เออ...ฉันไม่ผิดสัญญาหรอกน่ะ”

                พูดตกลงอย่างปัดรำคาญ เด็กหนุ่มตรงหน้าพยักหน้ายอมๆก่อนจะค่อยๆเลื่อนฮู้ดลงแล้วปลดแว่นตากันลมกับผ้าปิดปากออกตามลำดับ ผมของเขาเป็นสีดำสนิทตัดสั้นแบบเด็กหนุ่มทั่วๆไป ผิวสีเข้ม...อ่อนกว่าผิวของอิชมาร์ประมาณหนึ่งโทนแต่เนียนเรียบราวกับผิวเด็ก ดวงตาสีฟ้าน้ำแข็ง...ใช่ แบบที่เขาคาดไว้ แพขนตายาวสีดำและหน้า จมูกโด่งสันรับกับริมฝีปากเรียวได้รูป กอปรกันเป็นเครื่องหน้าที่อ่อนเยาว์และมีเสน่ห์

                เจ้าหน้าที่หนุ่มแทบอ้าปากค้าง นี่มันดาราระดับย่อมๆเลยนี่นา!

                บ้าเอ๊ย... แค่เห็นเขาก็รู้สึกเหมือนทำอะไรไม่ถูกแล้ว... “...ไหนว่ารักษาสัญญา?”

                “ใจเย็นดิ!”

                เขารีบแก้ตัวอย่างลุกลี้ลุกลน ไม่ได้...ทำไมเขาต้องมาสมาธิแตกตอนนี้นะ! ร่างสูงด่ากราดตัวเองในใจพร้อมกับก้มหน้าถอดแว่นตาสีชาอย่างหนาของตัวเองออกเบ้าตากลวงเปล่าข้างซ้ายรู้สึกถึงลมอ่อนๆในห้องที่สัมผัสโดน...

                ไม่ค่อยบ่อยนักที่จะมีคนเห็นมัน และไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ฉันถอดแว่นตาออก...

                แต่เด็กนี่แค่... “อ่า...”

                “เออ น่ากลัว ฉันรู้...”

                “ไม่ๆๆ ไม่ได้พูดแบบนั้น...”เด็กหนุ่มลนลาน เขาใช้ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองสบกับดวงตาของอิชมาร์ตรงๆ...แล้วนั่น เขา...หน้าแดงใช่ไหม? ร่างสูงลอบคิดกับตัวเองกระทั่งอีกฝ่ายตัดสินใจทำลายความรู้สึกพิลึกพิลั่นเมื่อครู่ “ผะ ผม...ชื่อ คือ ชื่อ...”

                พอเห็นท่าทางเหมือนน้ำท่วมปากนั่นก็ทำให้อิชมาร์หัวเราะ

                “อิชมาร์ อัลมาเอล...”

                “คะ ครับ...!”ฝ่ายนั้นขานรับพลางพยักหน้า “ผม...คือ ผม...”

                “ใจเย็นไอ้หนู หายใจเข้าบ้าง”เจ้าหนูนี่ก็ตลกดีนะ อิชมาร์คิดกับตัวเองขำๆ แต่เวลาที่จะอยู่ในห้องนี้ดูจะไม่อำนวยบทสนทนายาวๆเท่าไหร่ “เอาล่ะ นายเป็นปิศาจใช่ไหม?”

                “หา อ๋า เอ่อ...”

                “ฉันจะถามอีกครั้ง ช้าๆชัดๆแล้วกัน...”

                แอ๊ด ไม่ทันจะได้อ้าปากถาม สิ่งที่เขาไม่อยากเจอ— เอ่อ คนที่เขาไม่อยากเจอขี้หน้าตอนนี้ที่สุดก็ดันปรากฎกายขึ้นที่ประตูห้อง “ไม่ต้องถามหรอกครับ เซี่ย...”

                “บอส?” / “เฮียใหญ่!!”

                ....

                อะไรนะ เฮียใหญ่?

                อิชมาร์อ้าปากค้างขณะที่ร่างสูงโปร่งของนาธาเนล ผู้บัญชาการสูงสุดของที่นี่ เดินตรงรี่เข้าไปที่โต๊ะพร้อมกับใช้พลังในการปลดกุญแจมือของเด็กหนุ่มที่ถูกจับในฐานะผู้บุกรุกอย่างไม่ลังเล “มาทำอะไรที่นี่ล่ะเนี่ย...เด็กดื้อ”

                “เฮ้ 26ไม่นับว่าเด็ก”

                “เฮียก็แก่กว่าอยู่ดี”การทะเลาะกันของสองหนุ่มทำให้อิชมาร์มองอย่างสงสัย...และขัดเคืองใจพอดู “เอาล่ะ ทีนี้บอกเฮียได้รึยังว่ามาทำอะไรที่นี่”

                “สายงานบอกว่าที่นี่มีความลับเกี่ยวกับอาวุธเลยมา”

                นาธาเนลผงะเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาส่ายหน้าอย่างระอาใจ “เธอน่าจะโดนหลอกแล้วล่ะ วิจิเลนตี้อีกใช่ไหม? โดนเด็กนั่นหลอกรอบที่สามแล้วนะ”

                “แต่...!”

                “ที่นี่ไม่มีการทดลองอาวุธอะไรที่ว่ามาหรอกน่าเจ้าหนู”เสียงทุ้มของอีกคนที่ยังมีตัวตนอยู่ในห้องกล่าวพลางลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ “บอสเหอะ เด็กนี่เป็นใครวะ...”

                “อ่อ...จริงสินะ”

                นาธาเนลเบี่ยงตัวพลางตบไหล่เด็กหนุ่มข้างตัวอย่างสนิทสนม

                “เด็กคนนี้เป็นผู้ทำพันธสัญญาคนเล็กของราชาไงครับ หมางเซี่ย

                .....

                นายว่าอะไรนะนาธาเนลลลลลลลลล!!!!!????

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×