ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กันริท รักเรา..ความหมายต่างกัน Project

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 56


    ตอนที่ 5

     

     

    22.00


     

    23.00


     

    24.00


     

                 “โอ๊ย!!!!! คุณเจ้านายตกลงว่าคุณจะให้ผมทำงานหรือมานั่งอดหลับอดนอนไปพร้อมคุณกันแน่”ริทปานิตยสารลงพื้น นี่หรอที่บอกว่างานมันแกล้งกันชัดๆ

     

                 “หือ ทำไมละนายไม่พอใจงานนี่หรอ”ตาคมกริบภายใต้แว่นใช้สำหรับอ่านเอกสารงานหรี่มองผู้จัดการบ้าน

     

                 “ไม่ใช่ไม่พอใจแต่ผมอยากรู้ว่ามันงานอะไรทำไมต้องมานั่งอดหลับอดนอนเหมือนคุณ”

     

                 “งานของฉันคือตรวจงานส่วนงานของนายคือนั่งรอจนกว่าฉันจะเสร็จ”

     

                 “ไอ้บ้านายแกล้งฉันหรอ”จากคุณกลายเป็นนายทันทีเมื่อรู้ว่าโดนแกล้ง



                 “เปล่าเข้าใจใหม่ซะนะฉันไม่แกล้งคนอย่างนายหรอก”



                 “ฉันจะกลับห้อง”



                 “เอาสิถ้านายออกไปเราเห็นดีกันแน่”กันพูดเหนือกว่าเอนหลังพิงเก้าอี้สบายใจที่ได้แกล้งผู้จัดการบ้าน



    01.00 น



                 กันปิดแฟ้มงานแฟ้มสุดท้ายลง ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายเพ่งสายตาหาอีกคนในห้องไม่เห็นแม้แต่วี่แววสงสัยจะหนีกลับห้องแล้วมั้ง มุมปากยกขึ้น ทำไมถึงอยากแกล้งผู้จัดการบ้านนัก นี่เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบสำหรับตอนนี้ กำลังจะเดินออกจากห้องถ้าตาไม่ดันมองเห็นคนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาเข้าซะก่อน



                 “ริท ตื่นได้แล้ว”กันสะกิดคนนอนหลับคอพับคออ่อนให้ตื่น แต่อย่างว่าคนหลับลึกแบบริทมีหรือจะตื่นแถมยังพลิกกายหนีอีกต่างหาก



                 กันส่ายหน้าระอากับความเป็นเด็กของริทถ้ามีระเบิดลงบ้านริทคงไม่รู้สึกตัว ร่างหนาจึงดึงร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นมานั่งแล้วพยุงออกจากห้องไปยังห้องของเจ้าตัว



                 “อ้าวประตูล็อค”ร่างหนาเปรยขึ้นเพราะประตูล็อคจากข้างใน แล้วจะเปิดเข้าไปยังไงในเมื่อไม่มีกุญแจ ไหนจะคนขี้เซาเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขจะไหลลงไปนอนบนพื้นท่าเดียว

     



                 ร่างสูงเดินพยุงร่างเล็กเข้ามาในห้องด้วยความยากลำบาก เพราะตลอดทางริทเดินชนนูนชนนี่จนเขากลัวว่าคนในบ้านจะพร้อมใจกันตื่นขึ้นมาดูต้นเสียง จนมาถึงห้องนอนของตัวเองนั้นแหละถึงได้วางร่างคนหลับลงบนเตียงได้สำเร็จจากนั้นก็พาร่างตัวเองเข้าห้องน้ำและออกมาอีกครั้ง



                 กันคลานขึ้นไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงข้างๆผู้จัดการบ้านไม่คิดเลยว่าจะได้นอนร่วมเตียงกับไอ้เด็กแสบของบ้าน ตามความเคยชินคนนอนยากตื่นง่ายอย่างเขา ไม่รู้จะข่มตาหลับได้ยังไงเพราะข้างในหัวมันไม่ยอมรับสักทีคิดอยู่ตลอดเวลา

                

                 พรึบ



                 ท่อนขาเรียวเล็กพาดลงระว่างของทั้งสองข้างของกัน และแน่นนอนว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนร่วมเตียงใจขณะนี้ มีขาแล้วก็ต้องมีแขน กลายเป็นว่าริทกำลังกอดเขาไว้ทั้งตัว แน่นจนเขาขยับแทบไม่ได้ คนอะไรตัวแคนี้แต่กอดแน่นยังกับงูรัด


                

                 “ริท”



                 “....”



                 “ริท ริท”กันเขย่าแขนที่พาดอยู่กลางลำตัว ไม่มีเสียงตอบรับใดๆนอกจากลมหายใจเป่ารดอยู่แถวๆคอ



                 “นายเล่นกับฉันก่อนนะอย่าหาว่าใจร้ายแล้วกัน”

     

     

     

                 แสงแรกของวันสาดผ่านผ้าม่านริมระเบียงห้อง ทำให้คนหลับไม่กี่ ชั่วโมงริทขยับเปลือกตา เมื่อคืนว่างูรัดและเหมือนกับว่าเขายังไม่ตื่นจากความฝัน เพราะเหมือนมีอะไรมารัดไม่ให้ขยับเขยื้อน ตากลมมองลงไปกลางลำตัวถ้ามีอะไรมารัดจริงขออย่าให้เหมือนความฝันละกันเพราะริท กลัวงูขึ้นสมอง



                 ริทมองต้นเหตุทำให้เขาขยับไปไหนไม่ได้ แขน ขา หน้า ถึงว่าทำไมถึงขยับไม่ได้ แต่เมื่อรวบรวมสติกลับมาครบตากลมเบิกกว้างแทบหลุดออกมาเพราะ นี่ไม่ใช่ห้องเขาและสิ่งที่รัดตัวริทอยู่ไม่ใช่งูแต่เป็นกัน



                 “อ๊ากกกกกกกกกกกกกก”เสียงตะโกนดังลั่นชั้นสองของบ้าน ทำให้คนอยู่ข้างบนต่างก็วิ่งมายืนออกันอยู่หน้าห้องของ



                 “เฮ้ยยย นายจะร้องโวยวายทำไมอยากให้ชาวบ้านได้ยินหรือไงว่าอยู่ห้องเดียวกับฉันทั้งคืนน่ะหะ”คนหลับไม่กี่นาทีที่ผ่านมาลุกขึ้นมาปรามเจ้าของเสียง



                 “ก็ใครใช้ให้คุณ..”



                 “ใช้อะไรพูดออกมาให้หมดสิ”



                 “กอด”



                 “55555555 นึกว่าอะไรคุณผู้จัดการครับทีแรกผมไม่ได้กอดคุณหรอกนะแต่คุณนั้นแหละพยายามลวงละเมิดผม”กันพูดกลั้วหัวเราะ



                 “ไม่จริง ฉันจะฟ้องคุณหญิง”



                 “เอาสิฟ้องเลยครับอนุญาตถ้าไม่อยากพ่วงตำแหน่งลูกสะใภ้ของบ้านนี่นะ”



                 “ไอ้บ้า”ริทด่าให้ไม่รู้ว่าเขินหรือโกรธกันแน่หน้าถึงแดงลามไปถึงหูแบบนี้ แต่กันก็ไม่ได้ท้วงอะไรเพราะรู้อยู่ก่อนหน้าแล้ว



                 “นี่นายวิวัฒนาการตัวเองถึงขั้นด่าเจ้านายเลยหรอ”กันมองคนด่าเขาเมื่อกี้ บังอาจมาลูบคมของคุณชายน้ำแข็งเสียแล้ว



                 “ใช่แล้วจะทำไมในเมื่อนายลวนลามฉันก่อน”ริทยืนเชิดหน้าหาเรื่องเต็มที



                 “พูดแบบนี้ก็สวยสิ ฉันไปลวนลามนายตอนไหนไม่ทราบมีแต่นายนั้นแหละที่ลวนลามฉัน”



                 “เฮ้ย!!!! ไม่จริง”



                 “ฉันน่าจะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานเอาผิดนายนะริท”



                 “อย่ามาพูดพล่อยๆนะ”ร่างเล็กผลักไหล่ของคนสูงกว่าอย่างเอาเรื่อง ถึงตัวจะเล็กแต่ริทสู้ตายนะครับขอบอก



                 “ฉันเป็นนายจ้างของนายนะ แล้วลูกน้องอย่างนายไม่ควรเสียมารยาททำแบบนี้กับเจ้านายสงสัยคงต้องไปฝึกมารยาทกันใหม่ ที่แม่ฉันสอนมันคงไม่เข้าสมองอันน้อยนิดของนาย”กันยักคิ้วกวนประสาท ที่จริงแล้วไม่ถือสาหรอกที่ริททำแบบนี้ แค่อยากยั่วโมโหของคนตรงหน้าเล่นเท่านั้นเอง



                 “ไอ้เจ้านายเฮงซวย ถ้าฉันรู้ว่านายจะนิสัยแบบนี้ฉันคงไม่...”เกือบหลุดแต่ริทยั้งไว้ทันกลั้นใจกลืนคำพูดอีกสองสามคำเข้าไปเหมือนเดิม



                 “อะไรฉันไม่อะไร”กันหรี่ตาจับผิด



                 “เปล่า”



                 “ถ้ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับฉันละก็นายควรต้องพูดตอนนี้”



                 “ไม่เกี่ยวกัน”



                 “คุณผู้จัดการ!”กันย้ำเสียงหนัก



                 “อะไรคุณเจ้านาย”



                 “ถ้ายังอยากทำงานต่อกรุณาพูดประโยคเมื่อกี้ด้วย”



                 “ผมไม่พูด”ริทย้ำ หันหลังเตรียมซิ่งหนีแบบเนียนๆเหมือนครั้งก่อนๆ แต่! ริทคงลืมไปว่านี่มันไม่ใช่ห้องทำงานในบริษัท



                 “จะหนีอีกหรือไง นายนี่มันจอมหนีจริงๆนะ”ร่างสูงก้าวเข้ามาดักหน้า



                 “ตอนนี้เวลา 8 นาฬิกาแล้วผมต้องลงไปข้างล่าง”ริทยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เนียนเล่นบทผู้จัดการจอมเนี๊ยบเหมือนเดิม



                 “อย่าหาเหตุมาอ้างต่อให้นายชักแม่น้ำมาหมดประเทศก็อย่างคิดว่าจะได้ออกจากห้องนี้ถ้าไม่ยอมพูด”กันยื่นคำขาด เอาสิมาลองดูว่าระหว่างเขากับผู้จัดการไม่ได้เรื่องใครจะชนะ



                 “คุณกันหลบด้วยครับ”ริทเห็นท่าไม่ดีแต่ก็ยังรักษาบทบาทของผู้จัดการบ้านเอาไว้แน่นเหนียว



                 “ไม่หลบมีอะไรไหม”



                 “ผมบอกให้หลบ”



                 “คิดว่าฉันจะทำตามไหม”



                 “หลบ เฮ้ย!!!!!”เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนริทมัวแต่ถอยหนีคนตัวสูงกว่าเลยไม่ได้ดูหนทางข้างหลังว่ามีอะไรบ้างเท้าสะดุดพรมกำมะหยี่ ร่างเล็กหงายหลังล้มลงบนเตียงหน้าตาเฉยล้มลงยังไม่พอดันคว้าเสื้อของคนต้นเหตุตามมาด้วย



                 กันตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้ไม่น้อย เพราะมันเร็วและกะทันหันมาจนเขาตั้งตัวไม่ทันรู้ตัวอีกทีก็ทับร่างของริทไปเรียบร้อยแล้ว ตาจ้องตา ร่างแนบร่าง มีเพียงช่องว่างนิดเดียวที่เว้นไว้ให้หายใจ หัวใจที่เคยตายด้านเริ่มมีแรงขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะม่านหมอกของความเจ็บคราวก่อนมาบดบังไว้ ส่วนอีกคนใจเต้นแทบจะไม่เป็นจังหวะจะละลายลงให้ได้ถ้าเขาไม่ขัดหรือผลักออกจากเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ไหม



                 “อุ๊ยตาย!!!!เสียงบุคคลที่สามดังขึ้น ร่างที่ทับกันอยู่สะดุ้งผละออกจากกันทันที กันกับริทมองคนยืนอึ้งด้วยอารมณ์ต่างกัน คนหนึ่งตกใจแกมเสียดาย ส่วนอีกคนดีใจและโล่งอก



                 “ริทลงมาคุยกับแม่ส่วนกันอาบน้ำแต่งตัวแล้วตามลงมา”



                 “ครับ”



                 สองเสียงขานรับพร้อมกัน ประตูปิดลง ริทตวัดสายตามองคนนั่งหน้านิ่งๆ เอาเรื่องคอยดูถ้าเรื่องเมื่อกี้มีผลกระทบต่ออนาคตเขาละก็ หึ หึ เขาจะลาออก (อ้าว เกี่ยวไหมพี่ริท)


    +++++++++++++++++++++++++++++

    จุ๊บุ

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×