คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4
ตอนที่ 4
พรวดดดดดดดด
“ห๊ะ!!!!ว่าไงนะ”
สองเสือของบ้านประสานเสียงกันร้อง คนนั่งหน้าบึ้ง หน้าหงิก หน้างอ มองคนร้องทีละคนๆ
“จริงหรอริท”
“จริง”
“เป็นไปได้ยังไง”
“นั้นสิ”
“ทำไมมันง่ายแบบนี้”
“แล้วริทตกลงหรือเปล่า”
“ไม่ ริทไม่ได้ตกลง”คนตัวเล็กส่ายหน้า
“อ้าวทำไมละในเมื่อคุณแม่เปิดทางให้ขนาดนั้นทำไมถึงไม่ยอม”โตโน่สงสัย
“เพราะคุณกันไม่ได้รักริทนี่”ริทยักไหล่เขาไม่เจ็บที่จะพูดความจริง
“ทำไมคิดแบบนั้น”
“ทำไมจะคิดไม่ได้ก็มันเรื่องจริง”ริทเถียง
ย้อนกลับไป เมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว
มาลัยนั่งรอคนที่เรียกอยู่ปลายเตียงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หลังจากที่กันพูดออกไปแบบนั้นเธอก็มองไม่เห็นใครนอกจากคนในบ้าน
“ริทนั่งก่อนสิจ๊ะ”มาลัยเชิญในคนเพิ่งมานั่ง
“คุณหญิงเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ”ริทถาเข้าประเด็น
บอกกี่ทีแล้วว่าให้รียกแม่ แต่ช่างเถอะริทอยู่บ้านหลังนี้มานานแล้วใช่หรือไม่”
“เอ่อครับ”ริทตอบรับอย่างงง ถ้าจำได้ก็ตั้งแต่เกิด
“รู้จักนิสัยของแต่ละคนดีกว่าใคร”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”ริทรีบปฏิเสธรู้สึกทะแม่งๆแล้วสิ ตาขวากระตุกแปลกๆ
“ทำไมจะไม่ละจ๊ะ ถ้าไม่รู้จักริทคงตามคนอื่นไม่ได้”
“คุณหญิงพูดมาเลยครับ”ริทเข้าประเด็นเหงื่อเริ่มขึ้นตามใบหน้า
“แม่อยากให้ริทลองมองดูกันอีกหน่อย เปิดใจให้เขากันไม่ใช่คนใจร้ายอย่างที่คนอื่นเห็น”มาลัยเกริ่นนำ เท่านั้นริทก็รู้แล้ว
“ไม่ครับริทปฏิเสธ”ริทยืนยันเสียงหนักให้ตายสิจะให้เขาไปอยู่กลับคนแบบนั้นถึงจะรักแค่ไหนแต่เขาไม่รักก็หมดประโยชน์
“แม่อยากให้ริทคิดดูดีๆก่อน 1 เดือนเท่านั้นถ้าไปกันไม่ได้ต่างคนต่างอยู่นะจ๊ะ”มาลัยดึงมือเล็กๆมาจับไว้
ริททำหน้าอึกอัก จะปฏิเสธก็ไม่ลงจะไปอยู่ในสถานะที่ไม่ต่างอะไรกับเมียของคนที่ไม่ชอบหน้าเขามันก็ยังไงๆอยู่ คงไม่รอด
“1เดือนเองทำให้คุณแม่ไปเถอะเชื่อพี่สิบางทีนายกันอาจใจอ่อนมันเป็นคนประเภทแข็งนอกอ่อนใน”สนบรรยายสรรพคุณน้องชายคนเดียวของเขา ริทส่ายหน้าหวือ
“ไม่ๆๆ พี่สนมาย เด็ดขาดคุณกันแข็งทั้งนอกและในและริทจะไม่ยุ่งกับคนแบบนั้นอีกเด็ดขาด”ริทปฎิยานตนหมายมั่น
“หรอ แล้วที่แอบส่องดูเขาบ่อยๆนี่แบบว่าอะไร”โตโน่กอดอกล้อเลียนน้องไม่แท้ของตัวเอง ริททำหน้ายู่ นี่เขาต้องถอยห่างออกมาจากกันแบบจริงจังสักทีสินะ
คนบอกห่างเดินหน้าสดชื่นลงมาจากห้องนอนเพราะเมื่อคืนเขานอนหลับสบายเกินขาดพึ่งยานอนหลับไปตั้ง 3 เม็ดแนะหลับเป็นตาเลยละ วันนี้วันหยุดแต่หน้าที่ของริทคงไม่หยุดตามวันเพราะบ้านทั้งหลังต้องอยู่ในความรับผิดชอบของเขา ริทเดินเตร่ เข้าห้องครัวถือน้ำออกมาดื่มแก้กระหาย แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นคนบางคนยืนอยู่ข้างตู้เย็น
“พรวดดด แค่กๆๆๆๆ”เสียงสำลักน้ำเพราะความตกใจนึกว่าผี ยืนหน้านิ่งยังกับผีใครๆก็คิดทั้งนั้นแหละถึงผีตนนั้นจะมีอิทธิพลกับหัวใจของริทมากกว่าทุกคนก็ตาม
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ไม่เข้าใจกับอาการของริท ยืนสำลักให้ดูแล้วชิ่งหนีซะงั้นเขาแค่จะมากินน้ำเพราะวันนี้ว่างอยู่บ้านทั้งวัน แต่ดันพบคุณผู้จัดกรของบ้านเข้าเสียก่อน
“อะไรของเขาว่ะ”
แกร๊ก
เที่ยงตรงเสียงประตูห้องจะเปิดออกทุกวันและทุกๆวันใครคนนั้นจะโผล่หน้าเข้ายื่นกล่องข้าวให้ แต่วันนี้กลับแปลกไปเพราะประตูห้องเปิดออกเหมือนเดิม แต่คนเอามาให้กลับไม่ใช่คนเดิม เป็นผู้หญิงสาวใช้ในบ้าน แต่ไมใช่ริท
“คุณเล็กค่ะคุณหญิงให้เอาอาหารมาให้ค่ะ”
“อือ ขอบใจวางไว้ตรงนั้นแหละ”กันพยักหน้ารับก้มหน้าทำงานต่อ ผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว เสียงประตูปิดลงแล้วคนแกล้งทำงานเงยหน้าขึ้นมองประตูห้อง แต่ข้าวในกล่องยังไม่โดนเปิดออกมากินเหมือน 3-4 วันก่อน ร่างสูงเก็บออกสารแล้วเดินออกจากบริษัทวันนี้เขาตั้งใจจะไม่กลับบ้านตั้งใจจะกลับไปบ้านแห่งความทรงจำของเขาและคนๆนั้น
บ้านขนาดปานกลางไม่ใหญ่และไม่เล็กตั้งตระหง่าน รอให้เจ้าของเข้ามาอยู่อาศัยหลบแดดหลบฝน ยังเหมือนเดิม แปลงดอกไม้ ต้นไม้ทุกต้นยังเหมือนเดิมทุกอย่างเว้นแต่ว่าสิ่งที่ไม่มีเหมือนเดิมคือความรู้สึกของเจ้าของเท่านั้น กันเข้าไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลองออกมานั่งในศาลาพักร้อนข้างบ้าน
ภาพวันวานยังตรึงอยู่ในทุกลมหายใจของเขาลบยังไงก็ลบไม่ออกรักมากก็เจ็บมากรักจนลืมเผื่อใจ พอเจอความผิดหวังเลยจำฝังใจเป็นธรรมดา ตามปิดลงไม่ต้องการรับรู้สิ่งแวดล้อมภายนอก
ในความมืดไร้แสงสว่างของแสงตะวันแต่ข้างในลึกๆยังสว่างเสมอ ความใกล้ชิดกลายเป็นความรัก จากเพื่อนกลายเป็นแฟน จากแฟนกลายเป็นคู่ชีวิต งานแต่งงานขนาดเล็กไม่เป็นทางการถูกจัดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ แล้วภาพนั้นก็โดนหมึกสีดำสนิทสาดเข้าใส่กลายเป็นงานร้างไร้ผู้คนไปทันตา ร่างชายหนุ่มยืนเคว้งคว้างท่ามกลางซุ้มดอกไม้ สีสดใสกลายเป็นสีดำ
เปลือกตาเข้มเปิดขึ้น เขาไม่กล้าคิดอะไรไปมากกว่านี้อยากให้ความทรงจำหยุดอยู่แค่นี้ ไม่อยากให้ล่วงเลยไปมากกว่านี้แค่นี้ก็เจ็บจนตายแล้ว น้ำใสๆลื่นขึ้นมาคลออยู่ในดวงตา อยากลืมแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครสักคนแต่อดีตมันคอยหลอกหลอนอยู่อย่างนี้จนกลัว กลัวที่จะเริ่มกลัวว่าเริ่มแล้วจะพัง
แกร๊ก
คุณเล็กค่ะคุณหญิงให้เอาอาหารมาให้ค่ะ”
วันที่ 5 แล้วสินะที่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมรวมทั้งคนส่งข้าวด้วยไม่เหมือนเดิมจริงๆแล้วเขาจะแคร์ทำไมละ เมื่อก่อนยังไม่เห็นแค่อะไรแล้ววันนี้จะแคร์ทำไมก็แค่คนๆเดียวจะอะไรนักหนาใครมาส่งก็ได้
“คุณผู้จัดการเขาไม่ว่างหรอ หรือลืมหน้าที่ตัวเอง”คิดแล้วอยากตบปากตัวเองจริงๆที่ปากไวเกินไป
“เอ่อ คุณผู้จัดการไม่ได้ทำหน้าที่นี่แล้วค่ะ”สาวใช้ผู้เสียงอ่อย
“อืม ไปได้”กันพยักหน้า ถึงจะ งง ปนสงสัยกับคำตอบก็เถอะงานเขาเต็มโต๊ะไม่มีเวลามาคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องเท่าไหร่หรอก
5 วันเต็ม ริทละมือจะปฏิทินในห้อง 5 วันที่ริทหลบหน้ากัน 5 วันกับช่องว่างระยะห่างที่ตั้งใจไว้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆเดี๋ยวความรู้สึกหลายๆอย่างๆก็จะหายไปเองละมั้ง คิดไปคิดมาก็ทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้ากับเตียง
“ให้ตายเถอะทำไมไม่มีความสุขเลยว่ะ”บ่นกับตัวเอง คือผลกระทบที่ทำมาตลอด 5 วัน ริทไม่รู้ตัวว่าประตูห้องถูกเปิดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเข้ามาตอนไหน เพราะกำลังนอนคว่ำหน้าน้ำตาไหล
“เปิดประตูอ่อยเหงื่อหรือไง”คนมาใหม่ถาม เจ้าของห้องสะดุ้งพลิกตัวนอนหงายมองคนพูด
“คุณออกไปนะ”เจ้าของห้องยกมือเช็ดน้ำตา ไล่เจ้าของบ้านออกจากห้อง
“เสียใจนี่คือบ้านของฉัน”คนพูดยักไหล่ ไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ริทร้องไห้คืออะไรแต่มันไม่ใช่เรื่องของเขาจะไปอยากรู้ทำไม เดี๋ยวก็โดนว่ายยุ่งเรื่องของชาวบ้าน
“งั้นผมไปเองก็ได้”ริทลุกขึ้น เดินออกจากห้อง
คนตั้งใจจะมาคุยเรื่อง5วันที่ไม่ได้เห็นหน้าและเขาคิดว่าริทตั้งใจจะหลบหน้าเขา ถึงกับแห้วแต่นั้นมันไม่ใช่นิสัยคุณชายนภัทรสักหน่อย
“หยุดอยู่ตรงนั้นแล้วหันมา”คนสั่งเสียงเข้ม แต่มีหรือริทจะฟังถ้าเขาตั้งใจจะไปใครก็ห้ามไม่ได้
“ฉันบอกให้หยุดไงริท”กันก้าวเท้ายันขวางริทไว้
“ขอทางด้วยครับ”ริทพูดเสียงเป็นปรกติ
“ไม่”
“คุณมีงานอะไรให้ผมทำหรถ้าไม่มีก็ขอทางด้วย”การเจอของริทและกันจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก งานเท่านั้น
“มีฉันมีงานให้นายทำเยอะด้วย”
ตอนที่ 4 แล้วนะ
ความคิดเห็น