ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กันริท รักเรา..ความหมายต่างกัน Project

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 56


    ตอนที่ 3

     

    แกร๊ก

    เสียงประตูห้องทำงานชั้นบนสุดเปิดออก พร้อมการร่างของใครบางคนเดินเข้ามา เจ้าของร่างนั้นหวาดระแวงตลอดเวลา เหลียวซ้ายและขวาว่าจะโดนแกล้งกลางคันหรือเปล่า

    “ยืนทำไมอยู่ตรงนั้น ถึงแล้วก็เข้ามาสิ”เจ้าของห้องสั่งเสียงเรียบ

    “รู้แล้วไงสั่งอะไรนักหนา”คนโดนสั่งบ่นอุบ เดินถือห่อผ้าที่บรรจุอาหารเอาไว้ในนั้น เดบ้าอะไรขึ้นมาถึงอยากกินอาหารญี่ปุ่น

    “ไหนละของที่สั่ง”

    “เอ้า เอาไปคิดยังไงถึงอยากกินอาหารญี่ปุ่น”พูด พร้อมกับเลื่อนห่อผ้าสีชมพูเข้มให้

    กันคว้าห่อผ้าตรงหน้ามาไว้หน้าตน มือแกะตาก็มองริทไปด้วย ก่อนจะพูดกวนประสาทของผู้จัดการบ้าน

    “นายคงไม่อยากให้ฉันตายหรอกนะ”

    “อะไร หมายความยังไง”

    “ก็ผู้จัดการลอบวางยาพิษเจ้านายในอาหารไง”

    “นี่ นายคิดว่าฉันอำมหิตขนาดนั้นก็ไม่ต้องกินเอามา”อารมณ์เย็นของริทเมื่อกี้พุ่งขึ้นสู่ความร้อนแบบไม่ทันตั้งตัว ไอ้บ้านิอยู่ๆก็มาว่ากัน เดี๋ยววางจริงๆแล้วจะหนาว

    “เอ้ย ได้ไงฉันมีสิทธ์เพื่อความปลอดภัยของตัวเองถ้าเกิดวันดีคืนดีนายเอายาพิษใส่อาหารให้ฉันกินใครจะไปรู้ตอนนี้ข่าวออกกันทั่วบ้านทั่วเมืองลูกจ้างคิดล้างเจ้านายเคยได้ยินไหม”เจ้านายหน้าเข้มร่ายยาวจนลูกน้องถึงกับ งง เพราะเรียบเรียงคำพูดไม่ทัน

    “ไม่รู้ละให้เมื่อคุณไม่ไว้ใจผมก็ไม่ต้องกินเอาคืนมา”

    “ไม่”

    “เอามา”

    “ไม่”

    “บอกให้เอาคืนมา เอ๊ะคุณพูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกให้เอาคืนมา เอาคืนมาๆๆๆ”ริทกระทืบเท้า ร้องลั่นห้องเพราะโดนขัดใจหลุดมาดคุณผู้จัดการผู้เรียบร้อยไปทันตา

    “เฮ้ยคุณจะทำอะไรเนี้ย”กันอุทานเสียงดัง ตาคมเบิกกว้างอึ้งกับสิ่งที่ลูกจ้างทำ ริทเดินหน้าบึ้งถือกล่องอาหารเทลงถังขยะจนเกลี้ยงไม่เหลือ

    “ไม่ต้องกินหากินเองเพื่อความปลอดภัยของคุณไง”

    “นายไม่ดูเวลาหรือไงนี่มันกี่โมงแล้วบ่ายแล้วนะคุณที่นี่เขากินอาหารเป็นเวลาแล้วอีกครึ่งชั่วโมงผมมีประชุมด้วย”

    “อ้าวก็เรื่องของคุณสิ”ริทยักไหล่ใครแคร์ ในเมื่อคิดว่าเขาจะวางยาพิษก็ไม่ต้องกิน

    “เดี๋ยวแล้วจะไปไหน”

    “กลับสิ ที่บ้านมีงานอีกเยอะแยะ”

    “เฮ้ยไม่คิดจะรับผิดชอบหน่อยหรือไง”

    “รับผิดชอบ???”

    “ใช่ นายทำอาหารที่ฉันสั่งไปเททิ้งเพราะฉะนั้นนายต้องลงไปซื้อข้าวมาให้ฉันใหม่”

    “ผมไม่ไปหน้าที่ของผมหมดแล้ว”

    “แต่นายต้องไป”

    “ไม่”

    “ไป”

    “ไม่คุณกันวันนี้คุณเป็นอะไรนักหนาว่างมากหรือไง ผมไม่มีเวลามาอยู่ให้คุณกวนนะแล้วอีกอยางทุกวันคุณไม่ทานกลางวันไม่ใช่หรอวันนี้อดอีกวันกระเพราะคงไม่เน่าหรอก”ริทตัดสินใจถามเพราะแปลกใจกับท่าทีของกันส่วนหนึ่ง ส่วนอกส่วนไม่อยากอยู่ด้วยกันสองคนนานๆเท่าไหร่นักเพราะหัวใจเจ้ากรรมมันเต้นไม่หยุด

    “ก็วันนี้ฉันหิวนิ”

    “งั้นคุณก็ไปซื้อเองแล้วละ ผมไม่ว่างจริงๆ”ริทยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เขาอยากกลับไปให้ทันต้นไม้ที่จะมาส่งวันนี้ เพราะจะได้ไปบอกให้เขาเอาลงที่ไหนบ้าง

    “ได้ไงถ้านายไม่ไปซื้อให้ฉันคืนนี้ฉันจะรายงานพฤติกรรมของนายให้คุณแม่ฟัง”กันเอามาลัยมาขู่เพราะรู้ว่าริทต้องยอม

    “คิดจะเอาคุณหญิงมาขู่หรือไงเสียใจผมไม่ไป”

    “มันจะมากไปแล้วนะ หัดรู้ซะมั้งว่าฉันเป็นใครแล้วนายเป็นใคร”กันพูดเสียงเข้มและสั่งสอนไปในตัวเขาไม่ชอบคนดื้อถึงจะเล่นได้ด้วยแต่ถ้าดื้อมากก็ต้องเตือนหน่อย

    “คุณเป็นเจ้านายและผมเป็นลูกน้องไง เอาละผมขี้เกียจต่อปากต่อคำกับคุณแล้วขอตัว”ผู้จัดการบ้านยิ้มจนตาปิดแล้วเดินตัวลอยออกไปจากห้องไม่สนคนยืนทำตาขวางในห้อง

     

     

     

     

    “ไม่เอาอ่ะ!!!!!”เสียงไม่เห็นด้วยดังลั่นกองต้นไม้ เพราะคนจัดการปลูกต้นไม้ด้วยตัวเองไม่เห็นด้วยกับความคิดของสองเสือในบ้านเลยสักนิด

    “ทำไมว่ะ”

    “เออดิ”

    “ไม่ ริทไม่ทำหรอกไม่กล้าด้วย”

    “เอ้าก็ริทรักไอ้กันไม่ใช่หรอรักแล้วทำไมไม่บอกมันว่ะ”โตโน่เกาหัวแกรก ชักจะงงกับพฤติกรรมของน้องนอกไส้เต็มที

    “จะบอกทำไมเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว”พูดพร้อมกับฉีกถุงดำออกจากต้นไม้

    “หรอเกิดมันมีแฟนอีกครั้งหรือแฟนมันกลับมาก็แอบไม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นนั่งซึมเหมือนส้วมซึมน่ะหรอ”สนอดประชดไม่ได้เขาเห็นมากับตาเลยพูด

    ริทชะงัก แล้วพยักหน้า

    “ริทไม่อยากให้คุณหญิงลำบากใจอีกอย่างคุณกันไม่ได้คิดอะไรกับริทนอกจากเห็นเป็นเด็กกวนประสาทคนอื่นไปวันๆ”คำพูดติดแววเศร้าสลดถูกส่งผ่านคนที่ร่างเริงอยู่เป็นประจำแต่พูดถึงเรื่องนี้กลับกลายเป็นคนอกหัก

    “ริทหนอริทพวกพี่เห็นใจอยากช่วยเอ็งว่ะแต่หมดปัญญาจริงๆอีกอย่างน้องเรามันเข็ดกับความรักแล้วละ”โตโน่ตบไหล่สน พยักหน้าให้กันอย่างเอือมระอา

    “เออวันนี้น้องฟ้าใสมาทานข้าวที่นี่คุณแม่เรียกริทให้ไปหาด้วยนะ”สนรีบเปลี่ยนเรื่องหนีจากการดราม่า

    “อืมเดี๋ยวริทจะตามไป”

    “งั้นพวกพี่ไปนะ”

     

     

     

     

     

     

    ร่างสูงเดินเข้าบ้านอย่างไม่สบอารมณ์นัก ก็เขากำลังทำงานอยู่ดีๆคุณผู้จัดการของบ้านก็โทรไปสั่งแถมข่มขู่ให้รีบกลับบ้านเพราะคุณหญิงมาลัยสั่ง พอถามว่ากลับทำไมก็ไม่ตอบแถยังวางสายใส่อีกมันน่าจับโยนออกจากบ้านให้เข็ด

    “ กันมาแล้วหรือลูกมานี่สิ”มาลัยเรียกลูกคนเล็ก กันหยุดชะงักในบ้านกำลังมีแขก ตาคมมองไปยังร่างแบบบางนั่งเรียบร้อยแต่ผิดจากการแต่งตัวที่เปรี้ยวเริดแบนรด์เนมทั้งตัวเหลือเกิน

    “คุณแม่มีแขก”

    “จ๊ะ แขกแม่ก็เหมือนแขกเราจริงหรือเปล่าค่ะคุณหญิง”มาลัยหันไปหาส่วนร่วมอย่างคุณหญิงพิกุล

    “ค่ะ”

    “กันรู้จักน้องฟ้าใสไว้สิลูกน้องเขาเป็นเซเลบลูกน่าจะคุ้นหน้าน้องเขาแล้ว”มาลัยแนะนำชายหนุ่มให้รู้จัก ฟ้าใสยกมือไหว้อ่อนหวานกันรับไว้แล้วยิ้มให้นิดๆ

    “ครับ”

    “แม่คิดว่าเราไปที่โต๊ะอาหารดีกว่านะริทคงให้คนจัดไว้ให้แล้ว”มาลัยเอ่ยชวน แน่นอนว่าไม่มีใครปฏิเสธรวมทั้งกันด้วย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าทำไมไอ้แสบถึงโทรเร่งให้กลับบ้านที่แท้แม่ก็คิดจะจับคู่เขากับฟ้าใสนี่เอง

    บรรยากาศภายในห้องอาหารเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ผิดแต่ผู้จัดการของบ้าน หลบมายืนกระวนกระวายอยู่ห้องครัวไม่ยอมออกไปข้างนอกเพราะกำลังลุ้นอาการของกันอยู่  การมาของคุณหญิงพิกุลและคุณฟ้าใสไม่ต่างอะไรจากการแนะนำลูกสาวลูกชายให้รู้จักกันและพัฒนาความสัมพันธ์

    “คุณริทค่ะ!!!!

    “คะ ครับว่าไงครับ”คนโดนเรียกเสียงไม่เบานักสะดุ้ง ร่างอวบอ้วนของแม่ครัวยืนเท้าสะเอวหน้าโหดอยู่ข้างหลัง

    “ช่วยเอาของว่างไปเสริฟ์ แทนป้าหน่อยสิค่ะ นางน้อยนางแจ๋วไม่รู้หายไปไหน”แม่ครัวส่งจานขนมน่าตาน่ากินมาให้ ริทรับมาถือไว้ งงๆ แต่ก็เดินออกไปเสริฟ์ ยังไม่ถึงโต๊ะน้อยก็เดินผ่านมาพอดีเขาเลยถือโอกาสส่งต่อให้น้อยซะเลย

    “กันหล่อขนาดนี้ฟ้าไม่แน่ใจเลยว่าจะมีคนดูแลแล้วหรือยัง”ฟ้าใสชวนคุยต่างๆนาๆจนถามถึงคำถามนี้ ทำเอาคนโดนถามกดยิ้มเอาไว้

    “ยังครับ ช่วงนี้ทำแต่งาน”

    “อย่างนี้ยิ่งต้องหาไว้สักคนนะค่ะ”ฟ้าใสพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน เพราะเธอสนใจชายตรงหน้ามาตั้งแต่ต้นแล้วยิ่งพอรู้ว่าพิกุลจะพามาที่นี่ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่

    “ผมไม่คิดจะหาคนดูแล”กันตอบเสียงเรียบ

    “แหม ฟ้าได้ยินบ่อยนะค่ะประโยคนี้แต่เห็นรีบแต่งงานสายฟ้าแลบกันทั้งนั้นเลย”

    “ผมไม่คิดจะแต่งงานครับ ถ้าคิดจะหาคนมาดูแลก็ได้แต่ผมจะไม่แต่งงานไม่มีการจดทะเบียนอะไรทั้งสิ้นอยู่กันเหมือนสามีภรรยาแต่ไม่แต่งงาน”กันยืดตัวขึ้นเพราะสิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริงที่ออกมาจากความคิด เขาไม่อยากแต่งงานอะไรทั้งสิ้น เพราะการแต่งงานไม่ได้พิสูจน์ความรักไม่ใช่เครื่องหมายของความรักเลยสักนิด

    คนฟังถึงกับหน้าเสีย แล้วความคิดที่จะร่วมหอลงโลงกับชายหนุ่มพับเก็บไว้แบบไม่ต้องคิด ถ้าไม่แต่งงานจะรู้ได้ยังไงว่ามีเจ้าของไม่มีทางเสียหรอกคนอย่างเธอ สวย เริด ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตมาทิ้งกับคนที่มีความคิดบ้าๆแบบนี้

     

    “กันทำไมพูดแบบนั้นละลูก”มาลัยถามลูกชายคนเล็กเสียงแผ่ว เธอแทบจะลมจับเพราะคำพูดของลูกชายตัวดีเมื่อกี้

    “ผมพูดเรื่องจริงผมจะไม่แต่งงาน”

    “แล้วลูกจะอยู่ได้ยังไงใครเขาจะยอม”

    “ไม่ยอมก็ไม่ใช่ปัญหานี่ครับผมอยู่คนเดียวได้”

    “กันลูกพูดจริงๆหรอ”

    “จริงครับ”กันยืดตัวขึ้นยืนยันคำพูดของตัวเอง

    “ถ้าไม่มีอย่างที่ลูกหาจะทำยังไง”

    “ผมก็จะอยู่แบบนี้ต่อไป”

    “ถ้าแม่หาคนนั้นมาให้ลูกได้ลูกจะยอมแม่หรือเปล่า”มาลัยเสนอไม่แต่งงานก็ได้แต่กันต้องยอมในสิ่งที่เธอเลือกให้

    คิ้วเข้มขมวดข้าหากัน อะไรมันจะเร็วขนาดนั้นเขาคิดว่าคงไม่มีใครบ้าขนาดรับข้อเสนอพิเรนๆของเขาหรอกอยู่กินกันโดยไม่แต่งงานใครยอมก็บ้าแล้ว

     

     ###

    ไม่มีใครอ่านเลยง่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×