คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
แกร๊ก
เสียงประตูห้องทำงานชั้นบนสุดเปิดออก พร้อมการร่างของใครบางคนเดินเข้ามา เจ้าของร่างนั้นหวาดระแวงตลอดเวลา เหลียวซ้ายและขวาว่าจะโดนแกล้งกลางคันหรือเปล่า
“ยืนทำไมอยู่ตรงนั้น ถึงแล้วก็เข้ามาสิ”เจ้าของห้องสั่งเสียงเรียบ
“รู้แล้วไงสั่งอะไรนักหนา”คนโดนสั่งบ่นอุบ เดินถือห่อผ้าที่บรรจุอาหารเอาไว้ในนั้น เดบ้าอะไรขึ้นมาถึงอยากกินอาหารญี่ปุ่น
“ไหนละของที่สั่ง”
“เอ้า เอาไปคิดยังไงถึงอยากกินอาหารญี่ปุ่น”พูด พร้อมกับเลื่อนห่อผ้าสีชมพูเข้มให้
กันคว้าห่อผ้าตรงหน้ามาไว้หน้าตน มือแกะตาก็มองริทไปด้วย ก่อนจะพูดกวนประสาทของผู้จัดการบ้าน
“นายคงไม่อยากให้ฉันตายหรอกนะ”
“อะไร หมายความยังไง”
“ก็ผู้จัดการลอบวางยาพิษเจ้านายในอาหารไง”
“นี่ นายคิดว่าฉันอำมหิตขนาดนั้นก็ไม่ต้องกินเอามา”อารมณ์เย็นของริทเมื่อกี้พุ่งขึ้นสู่ความร้อนแบบไม่ทันตั้งตัว ไอ้บ้านิอยู่ๆก็มาว่ากัน เดี๋ยววางจริงๆแล้วจะหนาว
“เอ้ย ได้ไงฉันมีสิทธ์เพื่อความปลอดภัยของตัวเองถ้าเกิดวันดีคืนดีนายเอายาพิษใส่อาหารให้ฉันกินใครจะไปรู้ตอนนี้ข่าวออกกันทั่วบ้านทั่วเมืองลูกจ้างคิดล้างเจ้านายเคยได้ยินไหม”เจ้านายหน้าเข้มร่ายยาวจนลูกน้องถึงกับ งง เพราะเรียบเรียงคำพูดไม่ทัน
“ไม่รู้ละให้เมื่อคุณไม่ไว้ใจผมก็ไม่ต้องกินเอาคืนมา”
“ไม่”
“เอามา”
“ไม่”
“บอกให้เอาคืนมา เอ๊ะคุณพูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกให้เอาคืนมา เอาคืนมาๆๆๆ”ริทกระทืบเท้า ร้องลั่นห้องเพราะโดนขัดใจหลุดมาดคุณผู้จัดการผู้เรียบร้อยไปทันตา
“เฮ้ยคุณจะทำอะไรเนี้ย”กันอุทานเสียงดัง ตาคมเบิกกว้างอึ้งกับสิ่งที่ลูกจ้างทำ ริทเดินหน้าบึ้งถือกล่องอาหารเทลงถังขยะจนเกลี้ยงไม่เหลือ
“ไม่ต้องกินหากินเองเพื่อความปลอดภัยของคุณไง”
“นายไม่ดูเวลาหรือไงนี่มันกี่โมงแล้วบ่ายแล้วนะคุณที่นี่เขากินอาหารเป็นเวลาแล้วอีกครึ่งชั่วโมงผมมีประชุมด้วย”
“อ้าวก็เรื่องของคุณสิ”ริทยักไหล่ใครแคร์ ในเมื่อคิดว่าเขาจะวางยาพิษก็ไม่ต้องกิน
“เดี๋ยวแล้วจะไปไหน”
“กลับสิ ที่บ้านมีงานอีกเยอะแยะ”
“เฮ้ยไม่คิดจะรับผิดชอบหน่อยหรือไง”
“รับผิดชอบ???”
“ใช่ นายทำอาหารที่ฉันสั่งไปเททิ้งเพราะฉะนั้นนายต้องลงไปซื้อข้าวมาให้ฉันใหม่”
“ผมไม่ไปหน้าที่ของผมหมดแล้ว”
“แต่นายต้องไป”
“ไม่”
“ไป”
“ไม่คุณกันวันนี้คุณเป็นอะไรนักหนาว่างมากหรือไง ผมไม่มีเวลามาอยู่ให้คุณกวนนะแล้วอีกอยางทุกวันคุณไม่ทานกลางวันไม่ใช่หรอวันนี้อดอีกวันกระเพราะคงไม่เน่าหรอก”ริทตัดสินใจถามเพราะแปลกใจกับท่าทีของกันส่วนหนึ่ง ส่วนอกส่วนไม่อยากอยู่ด้วยกันสองคนนานๆเท่าไหร่นักเพราะหัวใจเจ้ากรรมมันเต้นไม่หยุด
“ก็วันนี้ฉันหิวนิ”
“งั้นคุณก็ไปซื้อเองแล้วละ ผมไม่ว่างจริงๆ”ริทยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เขาอยากกลับไปให้ทันต้นไม้ที่จะมาส่งวันนี้ เพราะจะได้ไปบอกให้เขาเอาลงที่ไหนบ้าง
“ได้ไงถ้านายไม่ไปซื้อให้ฉันคืนนี้ฉันจะรายงานพฤติกรรมของนายให้คุณแม่ฟัง”กันเอามาลัยมาขู่เพราะรู้ว่าริทต้องยอม
“คิดจะเอาคุณหญิงมาขู่หรือไงเสียใจผมไม่ไป”
“มันจะมากไปแล้วนะ หัดรู้ซะมั้งว่าฉันเป็นใครแล้วนายเป็นใคร”กันพูดเสียงเข้มและสั่งสอนไปในตัวเขาไม่ชอบคนดื้อถึงจะเล่นได้ด้วยแต่ถ้าดื้อมากก็ต้องเตือนหน่อย
“คุณเป็นเจ้านายและผมเป็นลูกน้องไง เอาละผมขี้เกียจต่อปากต่อคำกับคุณแล้วขอตัว”ผู้จัดการบ้านยิ้มจนตาปิดแล้วเดินตัวลอยออกไปจากห้องไม่สนคนยืนทำตาขวางในห้อง
“ไม่เอาอ่ะ!!!!!”เสียงไม่เห็นด้วยดังลั่นกองต้นไม้ เพราะคนจัดการปลูกต้นไม้ด้วยตัวเองไม่เห็นด้วยกับความคิดของสองเสือในบ้านเลยสักนิด
“ทำไมว่ะ”
“เออดิ”
“ไม่ ริทไม่ทำหรอกไม่กล้าด้วย”
“เอ้าก็ริทรักไอ้กันไม่ใช่หรอรักแล้วทำไมไม่บอกมันว่ะ”โตโน่เกาหัวแกรก ชักจะงงกับพฤติกรรมของน้องนอกไส้เต็มที
“จะบอกทำไมเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว”พูดพร้อมกับฉีกถุงดำออกจากต้นไม้
“หรอเกิดมันมีแฟนอีกครั้งหรือแฟนมันกลับมาก็แอบไม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นนั่งซึมเหมือนส้วมซึมน่ะหรอ”สนอดประชดไม่ได้เขาเห็นมากับตาเลยพูด
ริทชะงัก แล้วพยักหน้า
“ริทไม่อยากให้คุณหญิงลำบากใจอีกอย่างคุณกันไม่ได้คิดอะไรกับริทนอกจากเห็นเป็นเด็กกวนประสาทคนอื่นไปวันๆ”คำพูดติดแววเศร้าสลดถูกส่งผ่านคนที่ร่างเริงอยู่เป็นประจำแต่พูดถึงเรื่องนี้กลับกลายเป็นคนอกหัก
“ริทหนอริทพวกพี่เห็นใจอยากช่วยเอ็งว่ะแต่หมดปัญญาจริงๆอีกอย่างน้องเรามันเข็ดกับความรักแล้วละ”โตโน่ตบไหล่สน พยักหน้าให้กันอย่างเอือมระอา
“เออวันนี้น้องฟ้าใสมาทานข้าวที่นี่คุณแม่เรียกริทให้ไปหาด้วยนะ”สนรีบเปลี่ยนเรื่องหนีจากการดราม่า
“อืมเดี๋ยวริทจะตามไป”
“งั้นพวกพี่ไปนะ”
ร่างสูงเดินเข้าบ้านอย่างไม่สบอารมณ์นัก ก็เขากำลังทำงานอยู่ดีๆคุณผู้จัดการของบ้านก็โทรไปสั่งแถมข่มขู่ให้รีบกลับบ้านเพราะคุณหญิงมาลัยสั่ง พอถามว่ากลับทำไมก็ไม่ตอบแถยังวางสายใส่อีกมันน่าจับโยนออกจากบ้านให้เข็ด
“ กันมาแล้วหรือลูกมานี่สิ”มาลัยเรียกลูกคนเล็ก กันหยุดชะงักในบ้านกำลังมีแขก ตาคมมองไปยังร่างแบบบางนั่งเรียบร้อยแต่ผิดจากการแต่งตัวที่เปรี้ยวเริดแบนรด์เนมทั้งตัวเหลือเกิน
“คุณแม่มีแขก”
“จ๊ะ แขกแม่ก็เหมือนแขกเราจริงหรือเปล่าค่ะคุณหญิง”มาลัยหันไปหาส่วนร่วมอย่างคุณหญิงพิกุล
“ค่ะ”
“กันรู้จักน้องฟ้าใสไว้สิลูกน้องเขาเป็นเซเลบลูกน่าจะคุ้นหน้าน้องเขาแล้ว”มาลัยแนะนำชายหนุ่มให้รู้จัก ฟ้าใสยกมือไหว้อ่อนหวานกันรับไว้แล้วยิ้มให้นิดๆ
“ครับ”
“แม่คิดว่าเราไปที่โต๊ะอาหารดีกว่านะริทคงให้คนจัดไว้ให้แล้ว”มาลัยเอ่ยชวน แน่นอนว่าไม่มีใครปฏิเสธรวมทั้งกันด้วย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าทำไมไอ้แสบถึงโทรเร่งให้กลับบ้านที่แท้แม่ก็คิดจะจับคู่เขากับฟ้าใสนี่เอง
บรรยากาศภายในห้องอาหารเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ผิดแต่ผู้จัดการของบ้าน หลบมายืนกระวนกระวายอยู่ห้องครัวไม่ยอมออกไปข้างนอกเพราะกำลังลุ้นอาการของกันอยู่ การมาของคุณหญิงพิกุลและคุณฟ้าใสไม่ต่างอะไรจากการแนะนำลูกสาวลูกชายให้รู้จักกันและพัฒนาความสัมพันธ์
“คุณริทค่ะ!!!!”
“คะ ครับว่าไงครับ”คนโดนเรียกเสียงไม่เบานักสะดุ้ง ร่างอวบอ้วนของแม่ครัวยืนเท้าสะเอวหน้าโหดอยู่ข้างหลัง
“ช่วยเอาของว่างไปเสริฟ์ แทนป้าหน่อยสิค่ะ นางน้อยนางแจ๋วไม่รู้หายไปไหน”แม่ครัวส่งจานขนมน่าตาน่ากินมาให้ ริทรับมาถือไว้ งงๆ แต่ก็เดินออกไปเสริฟ์ ยังไม่ถึงโต๊ะน้อยก็เดินผ่านมาพอดีเขาเลยถือโอกาสส่งต่อให้น้อยซะเลย
“กันหล่อขนาดนี้ฟ้าไม่แน่ใจเลยว่าจะมีคนดูแลแล้วหรือยัง”ฟ้าใสชวนคุยต่างๆนาๆจนถามถึงคำถามนี้ ทำเอาคนโดนถามกดยิ้มเอาไว้
“ยังครับ ช่วงนี้ทำแต่งาน”
“อย่างนี้ยิ่งต้องหาไว้สักคนนะค่ะ”ฟ้าใสพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน เพราะเธอสนใจชายตรงหน้ามาตั้งแต่ต้นแล้วยิ่งพอรู้ว่าพิกุลจะพามาที่นี่ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
“ผมไม่คิดจะหาคนดูแล”กันตอบเสียงเรียบ
“แหม ฟ้าได้ยินบ่อยนะค่ะประโยคนี้แต่เห็นรีบแต่งงานสายฟ้าแลบกันทั้งนั้นเลย”
“ผมไม่คิดจะแต่งงานครับ ถ้าคิดจะหาคนมาดูแลก็ได้แต่ผมจะไม่แต่งงานไม่มีการจดทะเบียนอะไรทั้งสิ้นอยู่กันเหมือนสามีภรรยาแต่ไม่แต่งงาน”กันยืดตัวขึ้นเพราะสิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริงที่ออกมาจากความคิด เขาไม่อยากแต่งงานอะไรทั้งสิ้น เพราะการแต่งงานไม่ได้พิสูจน์ความรักไม่ใช่เครื่องหมายของความรักเลยสักนิด
คนฟังถึงกับหน้าเสีย แล้วความคิดที่จะร่วมหอลงโลงกับชายหนุ่มพับเก็บไว้แบบไม่ต้องคิด ถ้าไม่แต่งงานจะรู้ได้ยังไงว่ามีเจ้าของไม่มีทางเสียหรอกคนอย่างเธอ สวย เริด ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตมาทิ้งกับคนที่มีความคิดบ้าๆแบบนี้
“กันทำไมพูดแบบนั้นละลูก”มาลัยถามลูกชายคนเล็กเสียงแผ่ว เธอแทบจะลมจับเพราะคำพูดของลูกชายตัวดีเมื่อกี้
“ผมพูดเรื่องจริงผมจะไม่แต่งงาน”
“แล้วลูกจะอยู่ได้ยังไงใครเขาจะยอม”
“ไม่ยอมก็ไม่ใช่ปัญหานี่ครับผมอยู่คนเดียวได้”
“กันลูกพูดจริงๆหรอ”
“จริงครับ”กันยืดตัวขึ้นยืนยันคำพูดของตัวเอง
“ถ้าไม่มีอย่างที่ลูกหาจะทำยังไง”
“ผมก็จะอยู่แบบนี้ต่อไป”
“ถ้าแม่หาคนนั้นมาให้ลูกได้ลูกจะยอมแม่หรือเปล่า”มาลัยเสนอไม่แต่งงานก็ได้แต่กันต้องยอมในสิ่งที่เธอเลือกให้
คิ้วเข้มขมวดข้าหากัน อะไรมันจะเร็วขนาดนั้นเขาคิดว่าคงไม่มีใครบ้าขนาดรับข้อเสนอพิเรนๆของเขาหรอกอยู่กินกันโดยไม่แต่งงานใครยอมก็บ้าแล้ว
ไม่มีใครอ่านเลยง่ะ
ความคิดเห็น