ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Xyro Neomyst

    ลำดับตอนที่ #1 : เด็กชายปริศนา

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 52


    ใต้ต้นไม้ใหญ่บนเนินเขา แสงอาทิตย์ส่องผ่านช่องโหว่ของพุ่มใบไม้ผ่านลงไปสะท้อนเส้นผมสีเงินเป็นแสงระยิบระยับ ดวงตาสีแดงฝาดกำลังจ้องมองท้องฟ้ากว้างใหญ่อย่างไร้จุดหมาย ภายในกระจกตาสะท้อนออกมาแต่เพียงภาพท้องฟ้าสีครามและหมู่เมฆสีขาวเท่านั้น เด็กชายผมสีเงินกำลังนั่งเหม่อลอยกับความคิดตัวเองอย่างสงบ
    นี่นายหนะ  ไม่ไปเล่นกับเพื่อนๆ หรอเด็กหญิงมัดผมเปียคนหนึ่งเอ่ยถามเด็กชายที่กำลังนั่งซึมอยู่ใต้ต้นไม้
    นี่  ฉันพูดกับนายอยู่นะ ไม่ได้ยินหรือไง
    เด็กชายยังคงนั่งเงียบ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้นกับคำพูดของเด็กสาว
    เฮ้ย! นี่ฉันกำลังพูดกับนายอยู่นะเฟร้ย!” เด็กหญิงตะคอกเสียงดัง  เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเด็กชาย
    แต่เด็กชายยังคงนั่งเงียบเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะตอบกลับบทสนทนาเลยแม้แต่นิดเดียว
    เด็กสาวยังคงยืนจ้องเด็กชายตาไม่กระพริบอยู่ที่ใต้ต้นไม้นั่น  ไม่ไปไหน  เพราะคงรอคอยให้เด็กชายตอบคำถามของเธอ

    เธอหนะ พึ่งจะมาใหม่สินะ เด็กชายพูดโต้ตอบบทสนทนาแล้ว
    เย้! ดีใจจัง ในที่สุดนายก็ยอมพูดกับฉันเด็กหญิงร้องเสียงดัง พร้อมกับกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
    เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะ ถ้าจะมานี่เพื่อแสดงท่าทางไร้สาระนั่นก็กลับไปซะดีกว่า
    นี่นาย!! ว่าฉันหรือไง เด็กหญิงหยุดการกระทำของเธอ แล้วหันกลับไปมองเด็กชายด้วยสายตาโกรธเคือง
    เฮ้อ... ฉันไม่น่าพูดกับเธอเลยจริงๆ ก็บอกแล้วไงว่าให้ตอบคำถามของฉัน ไม่ใช่ให้เธอมาถามฉัน
    ใช่! ฉันพึ่งมาใหม่ พึ่งจะย้ายมาที่นี่เมื่อวานนี้เอง แล้วนายจะทำไมเด็กหญิงตอบคำถามของเด็กชาย ในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความโกรธที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจที่ถูกเด็กชายว่า
    คงอย่างนั้นสินะ เธอคงยังไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวฉันเลยละสิ
    จะเรื่องอะไรก็ช่าง แต่เมื่อกี้นายด่าฉัน ฉันให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด
    ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอซะหน่อย ถ้าเธอจะตีโพยตีพายไปเองมันก็แล้วแต่เธอ ฉันไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาเถียงเรื่องไร้สาระพรรค์นั้นกับเธอหรอกนะ
    นี่นายว่าฉันอีกแล้วหรือไง!”
    เฮ้อ เธอนี่มัน....
    ฉันมันทำไม? ฉันทำไม!”

    แล้วบทสนทนาของทั้งคู่ก็ต้องถูกตัดไป เมื่อมีกลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา
    เฮ้ยพวกเรา นั่นยัยคนที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่นี่หว่า เด็กผู้ชายหัวโจกของกลุ่มพูดขึ้นมา
    ยัยนั่นไปอยู่กับไอ้ปีศาจนั่นได้ยังไง หรือมันจะเป็นพวกเดียวกันเด็กอีกคนในกลุ่มพูด
    นี่พวกนายกำลังพูดเรื่องอะไรกัน ใครเป็นปีศาจ พวกนายบ้าไปแล้วหรือไงเด็กหญิงพูดตอบโต้กลับไปบ้าง หลังจากที่ยืนฟังอยู่ได้ซักพักหนึ่ง
    นี่เธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับไอ้ปีศาจนี่หรือยังไงกันนะ มันหนะคือปีศาจรู้ไหม
    นี่พวกนายจะบ้าหรือไง เค้าก็ไม่เห็นจะเหมือนปีศาจตรงไหน พวกนายจะมาบอกว่าเด็กคนนี้เป็นปีศาจได้ยังไงกัน
    เธอคงเป็นพวกเดียวกับมันสินะ งั้นพวกเราจัดการมันเลยหัวโจกของกลุ่มออกคำสั่ง
    อะไรกัน พวกเดียวอะไรกัน พวกนายมันบ้าไปแล้ว นี่นายหนะ ไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยหรือไง เด็กหญิงหันหน้ากลับไปถามเด็กชายแต่เมื่อหันกลับไป เด็กชายก็หายไปเสียแล้ว

    เธอหนะ ช่วยวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ที ฉันไม่อยากให้เธอต้องมาเจ็บตัวเพราะฉันไปด้วย
    หนะ น่ะ นายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เด็กหญิงตกใจที่เด็กชายมายืนอยู่ข้างๆ ตัวเธอทั้งๆ ที่เมื่อกี้ก็ไม่ได้อยู่ด้วย
    อย่าพึ่งพูดมาก ฉันบอกให้ไปหลบ ก็รีบไปสิ
    นายจะทำอะไร...
    ก็บอกให้ไปไงเล่า!” เด็กชายตะคอกใส่เด็กสาวเสียงดัง
    ตอนนี้เด็กหญิงวิ่งไปหลบอยู่ที่หลังต้นไม้ต้นใหญ่นั่นแล้ว เธอนั่งลงพิงลำต้นของมัน แล้วเอามือมาปิดหูของตนเอาไว้
    เด็กผู้หญิงนั่นไม่เกี่ยว ปล่อยเธอไปซะเด็กชายเริ่มบทสนทนากับพวกแกงค์เด็กที่เข้ามา
    พวกเราไม่สนหรอกเว้ย! ในเมื่อยัยนั่นอยู่กับนาย ก็คือพวกเดียวกับนาย เฮ้ยพวกเรา ตามไปจัดการยัยนั่นเลยหัวโจกของกลุ่มบอกกับลูกน้องให้วิ่งไปที่หลังต้นไม้นั่น
    ได้ยินแล้วก็ไปสิวะ ไอ้พวกนี้นี่หัวโจกพยายามย้ำคำสั่ง

    หลังจากได้ยินคำสั่ง กลุ่มเด็กที่เป็นลูกน้องต่างพากันวิ่งไปที่หลังต้นไม้นั่น ในมือต่างกำทั้งก้อนหินและอะไรก็ตามทีที่สามารถหยิบมาใช้เป็นอาวุธได้ แต่ยังไม่ทันจะวิ่งเลยต้นไม้นั้นไป     เด็กชายก็มายืนอยู่ตรงหน้ากลุ่มเด็กพวกนั้น
    ก็บอกแล้วไง ว่าเด็กนั่นไม่เกี่ยว จะทำก็ทำฉันคนเดียวพอ อย่าดึงคนอื่นเข้ามายุ่ง
    ทำไมพวกเราต้องฟังไอ้ปีศาจอย่างนายด้วย ไป พวกเราลุย!” กลุ่มเด็กพวกนั้นยังคงไม่หยุด และเริ่มวิ่งต่อไป แต่เพียงพริบตาเดียวจู่ๆ เด็กชายก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเด็กพวกนั้นอีกครั้ง
    ก็บอกแล้วไง ว่าเด็กนั่นไม่เกี่ยว จะทำก็ทำฉัน หรือพวกนายไม่กล้าเด็กชายพูดท้าทายเด็กพวกนั้น
    ได้... ในเมื่อนายอยากโดนนักหละก็ พวกเราจะสงเคราะห์ให้เป็นบุญก็แล้วกัน จัดการมันก่อนเลย ยัยผู้หญิงนั่นค่อยเก็บไว้จัดการทีหลังก็ยังทัน ตอนนี้เด็กพวกนั้นเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เด็กชายแล้ว กลุ่มเด็กกลุ่มใหญ่กำลังวิ่งเข้าไปหาเด็กชาย

    เด็กชายยังคงยืนนิ่งก้มหน้าก้มตาเหมือนจะยอมรับชะตากรรมของตนเอง เด็กพวกนั้นวิ่งเข้ามาถึงตัวเด็กชาย ใช้ก้อนหินในมือเขวี้ยงปาใส่ร่างของเด็กชายที่ยืนอยู่เฉยๆ ใช้ไม้ในมือฟาดอย่างสุดแรงลงที่ร่างของเด็กชาย

    เด็กพวกนั้นยังคงทุบตีเด็กชายอย่างไม่ยั้ง ตอนนี้ร่างกายของเด็กชายบอบช้ำไปทั้งตัว เขาล้มลงไปนอนอยู่กับพื้นอย่างน่าอนาถ และไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาตอบโต้คนที่ทำร้ายเขาแม้แต่น้อย

    แต่แล้ว... จู่ๆ มีเด็กคนหนึ่งในกลุ่มกระเด็นออกมาจากวงทำร้าย เด็กทุกคนต่างหยุดทุกอย่างแล้วหันกลับไปมองเด็กที่กระเด็นออกไป มีเด็กบางคนที่วิ่งออกไปดูอาการของเพื่อนตัวเองที่กระเด็นแล้วสลบไป
    เด็กพวกนั้นหันกลับมาที่เด็กชายอีกครั้ง ตอนนี้เด็กชายได้ยืนขึ้นมาแล้ว เด็กชายเงยหน้าขึ้น แววตาของเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อตอนแรกโดยสิ้นเชิง แววตาคู่นั้นเปลี่ยนเป็นสีดำ ตาดำของเขาเปลี่ยนไปเป็นสีแดงสด สีหน้าที่โหดอำมหิตถูกฝังไว้ด้วยความเคียดแค้นมหาศาล เด็กชายแยกเขี้ยวแล้วพูด
    นี่พวกแก อยากตายกันนักใช่ไม๊!” เสียงยียวนกวนประสาทแสบแก้วหูและท่าทางที่แปลกประหลาดทำให้เด็กพวกนั้นหน้าซีดไปตามๆ กัน ราวกับว่าเด็กชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนที่เด็กพวกนั้นทำร้ายเมื่อซักครู่

    ฉันกำลังหลับสบายๆ อยู่แท้ๆ ร่างกายที่อ่อนแอนี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรซักเท่าไหร่เมื่อตื่นขึ้นมา แต่ไหนๆ ก็ตื่นขึ้นมาแล้ว ฉันก็คงต้องฆ่า! เท่านั้นหละนะสิ้นเสียงนั่นเด็กพวกนั้นก็ทรุดลงไปนั่งขุกเข่ากันทุกคน มีอะไรบางอย่างกดดันให้เด็กพวกนั้นต้องนั่งลงไปกับพื้น และลุกขึ้นมาอีกไม่ได้
    นี่มันเกิดอะไรขึ้น... ไอ้ปีศาจนั่นมันทำอะไรเด็กชายหัวโจกร้องเสียงหลงด้วยความกลัว
    เอาหละนะ ถึงเวลาตายของพวกแกแล้ว!” เด็กชายทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้าใส่เด็กทุกคน แต่แล้วจู่ๆ ท่าทางนั่นก็เปลี่ยนไป
    นี่แก ปลุกฉันขึ้นมาแล้ว ฉันไม่ยอมกลับไปอยู่ในตัวแกอีกหรอกน่าเด็กชายเอามือจับหัวตัวเองแล้วพูดเสียงดังอยู่คนเดียวแต่ก็เหมือนพูดกับใครซักคนอยู่
    ออกไปจากตัวฉัน ไอ้ปีศาจ อ๊ากกกเด็กชายร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
    ออกไป...
    เด็กชายร้องโอดครวญอยู่คนเดียวอยู่นานสองนาน เด็กพวกนั้นเห็นท่าไม่ดี ต่างคนต่างวิ่งหนีกันอุตลุดไม่สนใจว่าใครจะเป็นใครเวลานี้คงมีแต่คำว่า ตัวใครตัวมัน

    แฮก ... แฮกเด็กชายนั่งคุกเข่ากับพื้น เสียงหายใจดังและแรงเหมือนคนที่พึ่งจะหนีหรือสู้กับอะไรบางอย่างมา จนร่างกายบอบช้ำจนทนแทบจะทนไม่ไหว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×