คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1
“นี่น่ะเหรอ...โรงเรียนเซนต์เพรสสิเดนท์...” ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาวราวกระเบื้องเคลือบตัดกับเส้นผมสีดำสนิทที่ซอยยาวระมาถึงต้นคอ แววตาสีฟ้าที่บ่งบอกได้ชัดว่าเป็นลูกครึ่ง กำลังจ้องป้ายที่อยู่สูงเหนือศีรษะขึ้นไปราว 5 เมตร พลางก้าวขาดินเข้าโรงเรียนที่มีนามว่า ...“เซนต์เพรสสิเดนท์”
ภายในร.ร.เลิศหรูอลังการกว่าที่คิดไว้มาก หลังคาเป็นโดมทรงยุโรป ประดับด้วยรูปปั้นสไตล์โรมัน เสาก็เป็นสีทองราวกับว่าอยู่ในประเทศอังกฤษซึ่งเป็นเมืองผู้ดียังไงยังงั้น
ตุ้บ!!! พลั่ก!!!!
“โอ๊ยย!!!...เจ็บจัง....” เสียงใสร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด หลังจากที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง คงเป็นเพราะเบรกไม่ทัน เลยทำให้ชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างๆ อย่างแรง
“นี่...เดินดูทางหน่อยสิ” ผู้เสียหายที่ตอนนี้ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้น บ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พลางก้มเก็บหนังสือ และเอกสารของอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่นัก
“ขอโทษนะคะ...พะ...พอดีว่า ฮารุรีบมากเลยน่ะค่ะ ><” หญิงสาวคุกเข่าพลางก้มหัวขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เอ้า!...นี่!หนังสือของเธอ “ ฝ่ายชายซึ่งเงยหน้าขึ้นมา พลางยื่นเอกสารกองเท่าควายให้สาวน้อยที่ก้มหัวอยู่
“นี่!!!เงยหน้าขึ้นมาได้แล้ว ฉันไม่ได้โกรธอะไรเธอซักหน่อย แล้วก็มาเอาเอกสารพวกนี้ไปซะทีสิ ฉันก็รีบเหมือนกันนะ” ฝ่ายชายพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ต้องมาเจออะไรเฮงซวยแต่เช้า
“คะ...ค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาในที่สุด ทำให้เห็นนัยน์ตาสีดำสนิท ผมซอยสั้น
ทรงตูดเป็ดสีน้ำตาลแซมดำนิดๆ หญิงสาวจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าของชายหนุ่มด้วยความตะลึง แล้วยื่นมือไปหยิบเอกสารของตัวเอง ถึงแม้ว่าเอกสารจะหนักจนเวลารับเธอถึงกับทรุดลงไปเล็กน้อย แต่ตาของเธอก็ยังคงจ้องดวงตาสีฟ้าของเขาอย่างไม่ละสายตา
“สวยจัง...” หญิงสาวอุทานขึ้น
“ฮะ?...ว่าอะไรนะ...” ชายหนุ่ม ตอบกลับด้วยความสงสัย
“...”
“....”
ขวับ!!! เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยืนนิ่งโดยไม่ตอบกลับอะไร ก็คิดว่า เสียดายเวลาเปล่าๆ จึงหมุนตัวกลับไปเพื่อที่จะเดินไปยังจุดหมายก็ตนเอง แต่แล้ว...
หมับ!!! หญิงสาวคว้าแขนชายหนุ่ม จนเขาต้องหันหลังกลับมา แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็ก
“นี่ๆ...รุ่นพี่เป็นลูกครึ่งเหรอคะ?” เธอถาม คงจะเป็นเพราะตาสีฟ้า กับผมดำสนิท และด้วยสีที่แตกต่างกันนี้ ใครเห็นก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา
“...”
“เป็นครึ่งประเทศอะไรเหรอคะ” ถามอีกคำถาม แล้วเขยิบเท้าเข้ามาจนทำให้อีกฝ่ายต้องถอยหลังหนี
“...”
“แล้วทำไมพูดภาษาญี่ปุ่นได้ล่ะคะ?” เขยิบอีกก้าว
“...”
“แล้ว....”
“ยัยโรคจิต!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะยิงมาอีกคำถาม แล้วตอนนี้เธอก็ขยับใกล้เข้ามาทุกทีๆ ไม่ได้การ ต้องรีบหนีก่อน... คิดแล้วก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต...
“รุ่นพี่!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงนั้นยังคงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ทำไมมันถึงได้ซวยแบบนี้วะ!!!!!!!!!!!!!!” ตะโกนอย่างสุดเสียงพลางคิดว่า เรากับยัยนี่เคยทำกรรมอะไรเอาไว้งั้นเหรอ
ทำไมถึงต้องมาเจอะเจอกันด้วย!!!!
“เอาล่ะ...แฮกๆ...ฉัน...ยอม...เธอแล้ว” หลังจากวิ่งมาได้สักพัก เขาก็ยอมแพ้ตรงสวนแสนอลังการงานสร้างตรงหน้า แล้วหันหน้ามาประจันกับหญิงสาวที่ในมือยังถือเอกสารกองเท่าควายวิ่งตามมา ตอนที่วิ่งหนียัยโรคจิตนี้มา คนอื่นเค้าก็มองกันจนเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว เจรจาสงบศึกดีกว่า
“ตกลง เธอเป็นอะไรกับตาฉันกันแน่...” เขาถาม ด้วยสีหน้าอ่อนแรง ชนิดที่ว่าถ้ายังไม่ได้พักคงต้องขาดใจตายแน่
“รุ่นพี่เป็นลูกครึ่งเหรอคะ...” เธอเริ่มต้นด้วยคำถามเดิม
“เออ...”
“เป็นครึ่งประเทศอะไรเหรอคะ...”
“อังกฤษ”
“แล้วทำไมถึงมาเรียนอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ...”
“ฉันถูกเชิญมา...”
“ว้าว สุดยอด!!!! แล้วเรียนเอกอะไรเหรอคะ” เธอถามด้วยสีหน้าตะลึงบวก ตกใจ จนเขาต้องงง
“อาหาร”
“รุ่นพี่ทำอาหารเหรอคะ”
“เออ...ขนมน่ะ”
“ว้าว!!!!สุดยอดดด” เธอยิ้มหน้าบานราวกับ เขาเป็นเทพบุตรตกลงมาจากอวกาศยังไงยังงั้น
“เธอไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอก เธอเองก็ถูกเชิญมาเหมือนกันใช่ไหมล่ะ” เขาถามกลับโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว
“อ่า...ค่ะ...แหะๆ^^” คราวนี้จากฝ่ายที่รุกถามมาตลอด ก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายตอบบ้าง
“ฮารุ เรียนเอกดนตรีน่ะค่ะ “
“เอกดนตรี?”
“อื้ม...เปียโนน่ะ...” เธอตอบ แล้วก็เดินออกไปข้างหน้าซึ่งเป็นสวนที่สวยมาก มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยพุ่มกุหลาบสีต่างๆ
เวลาที่เธออยู่ท่ามกลางดอกกุหลาบพวกนั้นช่างเข้ากับเธอจริงๆ เขาคิด...
“ถึงเปียโน จะเป็นเครื่องดนตรีไม่สามารถเล่นในวงออเคสตร้าได้ แต่ว่าฮารุก็ชอบมันนะคะ” ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อ เสียงใสก็เอ่ยขึ้นมาขัดความคิด
“งั้นเหรอ” ชายหนุ่มพูดแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้า สายลมพัดเบาๆ ทำให้เส้นผมลอยขึ้นไปปะทะกับหน้า ตอนนี้เขากำลังทบทวนเรื่องเก่าๆ ตอนที่เขายังอยู่ อังกฤษ....
ตอนนั้น ขณะที่เขากำลังนวดแป้งที่บ้านซึ่งเป็นร้านขายขนมร้านหนึ่งของอังกฤษ ถึงแม้ร้านจะไม่ใหญ่โตแต่ก็มีลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสาย จำได้ว่ามีบุรุษไปรษณีย์มาส่งจดหมายที่หน้าบ้านเขาเปิดอ่านมันด้วยความไม่ใส่ใจ แต่ก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นข้อความในจดหมายนั้น
ถึง คริสโตเฟอร์ ลอเรนซ์
โรงเรียนเซนต์เพรสสิเดนท์ ขอเชิญคุณเป็นนักเรียน เพื่อพัฒนา
ความเป็นอัจฉริยะ ของคุณ
โรงเรียนเซนต์เพรสสิเดนท์
หลังจากที่อ่านข้อความในจดหมายจบ เขาก็รีบไปเปิดคอมฯด้วยความร้อนรนทันที เมื่อหน้าจอเปิด เขาก็พิมพ์เข้าไปว่า โรงเรียนเซนต์เพรสสิเดนท์ เมื่อได้เว็บที่ต้องการค้นหาแล้ว เขาก็อ่านมันด้วยความตั้งใจ
ใช่แล้ว...เขาเป็นคนทำขนมที่เก่งที่สุดในอังกฤษ แล้วร้านนี้ก็เป็นร้านของเขา เขาเองก็เคยได้ยินเกี่ยวกับ โรงเรียนนี้มาบ้างแล้ว โรงเรียนที่ไม่เปิดรับสมัครนักเรียน แต่จะเป็นคนเชิญนักเรียนเข้ามาเรียนแทน นั่นคือเอกลักษณ์ของโรงเรียนนี้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า คนที่เรียนในโรงเรียนนี้มีกี่คน แล้วมีใครบ้างที่ถูกเชิญเข้าไป แต่ว่า...กลับมีให้เห็นออกบ่อย พวกเด็กอัจฉริยะล้ำโลก หรือแม้แต่เด็กอายุเพียง 8 ขวบสอบโทเฟลชิงทุนได้คะแนนสูงสุด พวกนี้ต่างก็เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนเซนต์เพรสสิเดนท์นี้ทั้งนั้น แล้วทำไมเขาซึ่งเป็นนักทำขนมที่มีฝีมือสุดยอด และเด็กที่สุดจะพลาดโอกาสนี้ เขาจึงตั้งใจที่จะบินข้ามโลก เพื่อมาเรียนที่โรงเรียนนี้โดยเฉพาะ เพื่อก้าวสู่ระดับโลก เพื่อเป็นนักทำขนมที่ยอดเยี่ยมที่สุด เขาไม่มีวันยอมแพ้แน่...
“แล้วรุ่นพี่ ลงชื่อเข้าเรียนรึยังอ่ะคะ?” จู่ๆเสียงใสก็ดันมาขัดจังหวะอารมณ์พลิ้วๆ
“เฮ้ย!!!ยังเลยนี่หว่า....” เขาอุทานขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“แหะๆ...งั้น ฮารุจะพาไปนะคะ” หญิงสาวพูดพลาง จูงมืออีกฝ่าย แล้วเดินนำหน้าออกไป
ยัยนี่เป็นใครกันแน่...คำถามผุดขึ้นมาในหัว แต่ก็ต้องหยุดคิดเมื่อตรงหน้าเป็นห้องของอาจารย์ใหญ่จุดหมายแรกของเขา
“เข้าไปเลยค่ะ ถ้าจะลงชื่อล่ะก็ ต้องเป็นห้องนี้เท่านั้นล่ะค่ะ แล้วเจอกันนะคะ” หญิงสาวพูดพลางหมุนตัวกลับ
ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเคาะประตูก็ต้องหยุดชะงัก แล้วพูดด้วยเสียงอันดัง
“เธอชื่ออะไรน่ะ!!!” เขาถาม
“คุรุคุซาว่า ฮารุค่ะ ^^” พูดแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินกลับไป
“หึ...ฮารุ...ใบไม้ผลิ งั้นเหรอ...” เขาพูดแล้วยิ้ม พลางมองไปที่ท่าทางซุกซนของหญิงสาวที่เพิ่งเดินจากไปเมื่อครู่ คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะมั้ง...ก็ดีแล้วถ้ายังต้องเจอยัยโรคจิตนั่นอีก มีหวังสุขภาพจิตของเราคงต้องพังพินาศแหงมๆ... คิดพลางเคาะประตู
ความคิดเห็น