ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] light&dark {lubaek , kaido ,etc.}

    ลำดับตอนที่ #7 : -SIX

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 57


    ……………………………………………………………………………………………………

     

     

    แบคฮยอนที่นั่งตาแดงก่ำอยู่ในรถมองวิวที่ผ่านไปอย่างเงียบๆ แม้จะหยุดร้องแล้วแต่คำพูดทำร้ายจิตใจของเขายังวนเวียนอยู่ในหัวไม่ไปไหน

     

    นี่เขากำลังโดนรังเกียจจากคนที่เค้าแอบรักอยู่งั้นหรอ

     

     

    “แบคฮยอนกลัวหรอลูก” แทยอนถามออกมาเพื่อทำลายความเงียบในรถ แม้ลูกชายของเธอจะหยุดร้องไห้ได้ซักพักแล้ว แต่การที่นั่งเงียบๆแบบนี้มันน่าอึดอัดใจมากกว่า

     

    “ไม่หรอครับแม่  แบคแค่คิดอะไรนิดหน่อย อีกไกลไหมครับ”

     

    “เดี๋ยวก็ถึงแล้วจ๊ะ ไม่ต้องคิดมากนะ”

     

    “แม่ครับ แบคจะได้กลับบ้านไหมถ้าแบคหายแม่จะมารับแบคไหม..แล้วถ้าแบคไม่หายแม่จะทิ้งแบคไว้รึเปล่า” แบคฮยอนปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาช้าๆจากดวงตาที่ช้ำจนแดงก่ำที่พึ่งหยุดจากการร้องไห้ซักพัก ให้มันช้ำและแดงก่ำขึ้นไปอีก

     

    เขากลัว..กลัวเหลือเกินว่าทุกคนจะทิ้งเขาไป..

     

    ตั้งแต่คนๆนั้นที่ทำร้ายเขา

     

    พี่จงอินที่รังเกียจเขา..

     

    เขาเหลือแม่แค่คนเดียว..เขากลัวว่าแม่ที่เป็นที่พึ่งสุดท้าย..จะทิ้งเขาไปอีกคน..

     

    “อย่าพูดแบบนี้อีกนะแบคฮยอน” แทยอนตอบออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ถ้าลูกพูดแบบนี้แสดงว่าลูกไม่เชื่อใจแม่ แบคฮยอนแม่ก็เหลือลูกเป็นคนสุดท้าย ลูกเจ็บแค่ไหนอยากให้รู้ว่าแม่เจ็บยิ่งกว่า ต่อให้แม่ต้องตายแม่ก็ไม่มีวันจะทิ้งลูกไปไหนเด็ดขาด” แทยอนกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เธอไม่อยากให้ลูกชายเห็นว่าเธอกำลังอ่อนแอเธอคือที่พึ่งสุดท้ายของลูกข้อนั้นเธอเข้าใจดี และเธอก็อยากให้ลูกรู้ว่าเธอจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของลูกตลอดไป

     

    “แม่ครับ..แบค..แบคขอโทษครับแม่ แบคจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว” แบคฮยอนเอียงตัวมากอดแขนแม่ตัวเองไว้แน่นราวกับว่ากลัวแม่จะหายไป

     

    แทยอนยกมือข้างหนึ่งละจากพวงมาลัยมาลูบหัวแบคฮยอนเบาๆ

     

    สองแม่ลูกปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆกับทางไปโรงพยาบาลที่เหมือนจะใกล้ขึ้นทุกที

     

    เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ลูกไปเผชิญเรื่องแบบนี้ ชีวิตเธอแบคฮยอนมีค่าที่สุด เธอเหลือแค่แบคฮยอนลูกชายที่รักคนเดียว

     

    แต่เพื่อทำให้แบคฮยอนหาย แบคฮยอนไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้ ให้ตายเธอก็ยอมทำ

     

    นี่แหละนิยามความเป็นแม่ของพยอนแทยอน

     

     

    …………………………………………………………………………………….

     

    “แบคลูก ถึงแล้วตื่นเถอะ” แทยอนเขย่าแขนลูกชายที่ซบไหล่เธอจนหลับไปเพราะอ่อนเพลียจากการร้องไห้ ท่านอนอ้าปากกว้างแบบเด็กๆ ยิ่งเห็นแบบนี้เธอก็ยิ่งรู้ว่าลูกเธอยังเด็กเกินไปที่จะมาที่แบบนี้หรือเปล่า

     

    “งื้ออ ถึงแล้วหรอครับแม่” แบคฮยอนลืมตาที่ปวดตุบๆขยี้เบาๆแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น และหวาดกลัวเขาไม่รู้ว่าจะต้องเข้าไปเจออะไรบ้างในอาคารสีขาวสูงใหญ่นี้

     

    “ถึงแล้วจ๊ะ แบคฮยอนกลัวไหมลูก ไม่ต้องกลัวนะแม่จะอยู่ข้างๆลูกนะ” แทยอนเอื้อมมือไปกุมมือแบคฮยอนแล้วบีบเบาๆ

     

    “ครับแม่แบคจะไม่กลัวเข้าไปกันเถอะนะครับ แบคพร้อมแล้ว” แบคฮยอนยิ้มตอบแม่ตัวเองบางๆ เขาไม่อยากหนีต่อไปแล้ว

     

    พอออกจากรถเดินเข้าไปในตัวโรพยาบาล ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองรึเปล่า แต่เหมือนเขาถูกจ้องมองอยู่ตลอด รู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ จนต้องเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในตัวตึกของโรงบาลให้ไวที่สุด

     

    น่าขนลุกชะมัดเลย

     

     

    ……………………………………………………………………………………………….

     

    “ตอนนี้คุณหมอคริสกำลังตรวจคนไข้อีกสองเคสนะคะ รบกวนคุณแทยอนพาน้องแบคฮยอนไปนั่งรออยู่ด้านหน้าก่อนนะคะ เดี๋ยวซักพักก็เรียบร้อย แล้วดิฉันจะเรียกอีกทีนะคะ” พยาบาลสาวบอกด้วยน้ำเสียงใจดียิ้มแย้มตลอดทำให้แบคฮยอนอุ่นใจขึ้นมาอีกนิ๊ด นิดเดียวจริงๆก็เค้าคิดว่าโรงบาลแบบนี้พยาบาลต้องโหดๆซะอีกนี่นา

     

    “แบคฮยอนเราไปนั่งรอกันตรงนั้นก่อนนะลูก” แทยอนจูงมือที่เย็นเฉียบของลูกชายมานั่งที่เก้าอี้สีขาวยาวๆของโรงบาล ยิ้มให้ลูกชายหน่อยๆก่อนจะหยิบหนังสือในชั้นของโรงบาลมานั่งอ่านรอเวลา

     

    “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาติดต่ออะไรคะ” เสียงของพยาบาลสาวคนเดิมดังขึ้นทำให้แทยอนและแบคฮยอนต้องเงยหน้าหันไปมอง พอแทยอนเห็นว่ามีคนมาติดต่อเลยไม่สนใจจึงก้มหน้าอ่านหนังสือเหมือนเดิม

     

    แต่แบคฮยอนนี่สิกลับละสายตาไปไหนไม่ได้เลย คนแรกเป็นผู้ชายตัวเล็กๆแก้มยุ้ยๆน่ารักที่กำลังพูดกับพยาบาลด้วยน้ำเสียงฉะฉาน และอีกคน ผู้ชายผมสีขาว ใบหน้าเรียวได้รูปรวมๆก็หล่อร่างสูงโปร่งแต่กลับดูแข็งแรง แววตาเย็นชาและก็เหมือนจะมีอะไรมากกว่านั้น

     

     แววตาเหมือนเด็กที่กำลังเจอของเล่นชิ้นใหม่น่าสนใจ งั้นหรอ?

     

    ทำไมแบคฮยอนถึงได้รู้ว่าแววตาของผู้ชายคนนั้นเย็นชาหนะหรอ ก็เพราะตั้งแต่เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง ผู้ชายคนนั้นก็เอาแต่จ้องหน้าเขานิ่งๆไม่ละสายตาไปไหนเลยหละสิ ทำเอาแบคฮยอนถึงกับนั่งตัวแข็งทื่อกระดิกไปไหนไม่ได้เลย ทำไมสายตาคนๆนี้ถึงได้น่ากลัวพิลึกแบบนี้นะ

     

    ฮื้ออ แม่ครับ แบคจะทำไงดีละเนี้ย

     

    “อ๋อที่โทรมาติดต่อไว้เมื่อวานใช่ไหมคะ เคสของคุณลู่หานขอหมอคริสเป็นผู้ดูแลเคสนี้ใช่ไหมคะงั้นเชิญนั่งรอก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวหมอคริสตรวจคนไข้เสร็จดิฉันจะเรียกตามคิวเลยค่ะ”

     

    พอได้ยินเสียงพยาบาลสาวดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วประโยคถัดมานี่แสดงว่าคนๆนั้นกำลังจะเดินมานั่งตรงนี้ ทำเอาแบคฮยอนรีบหลบสายตาก้มหน้างุดมือกำกางเกงตัวเองแน่น

     

    ทำไงดีๆๆๆๆ แง้

     

    ซิ่วหมิวที่ฟังพยาบาลพูดจบก็ยิ้มให้น้อยๆก่อนหันมามองที่เก้าอี้ก็พบกับผู้หญิงที่กำลังก้มอ่านหนังสือ กับเด็กผู้ชายที่นั่งก้มหน้าตัวสั่นน้อยๆ ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ก็นี่มันโรงบาลแบบนี้ คนสั่นกว่านี้คงมีอีกเยอะละมั้ง..

    ซิวหมินทำท่าจะไปนั่งข้างๆสองคนนั้น แต่ไอ่ลู่หานตัวดีนี่สิกลับเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับสองคนนั้นทำให้เขาต้องเดินตามไปนั่งด้วยคน

    ตอนแรกก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่หรอกนะ แต่ไอ่ลู่หานที่นั่งจ้องเด็กที่ตัวสั่นคนนั้นไม่ละสายตาไปไหน ทำเอาเขาแทบจะตัวสั่นเหมือนกับเด็กนั่น ดูสายตาที่มันมองเด็กนั่นสิยังกับจะกินเข้าไปทั้งตัวงั้นแหละ

     

    ซิวหมินเอาศอกกระทุ้งสีข้างของลู่หานเบาๆเพื่อให้หยุด เพราะว่าผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าจากหนังสือมามองพวกเขา แล้วก็มองลู่หานสลับกับมองเด็กข้างๆตัวเองด้วยสายตาสงสัย

     

    “เอ่อ….ขอโทษนะครับ พอดีน้องชายผมเค้าสติไม่ค่อยดีหนะครับ” ซิวหมินพูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้มน้อยให้ผู้ผู้หญิงคนนั้น ประโยคนั้นทำเอาลู่หานชะงักก่อนจะตวัดสายตามองซิวหมินนิ่งๆ ทำเอาคนที่พึ่งจะพูดประโยคนั้นไปอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย  แค่สายตาเฮียก็ทำซิวหมินคนนี้เย็นวาบละครับ…..

     

     

    “อ๋อค่ะ ไม่เป็นไรค่ะๆ แบคฮยอนไม่ต้องกลัวนะลูกพี่เขาไม่ทำอะไรเราหรอก” ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่เด็กคนนี้หรอเนี้ยไม่บอกซิ่วหมินคงคิดว่าเป็นพี่สาว..

     

    “คะครับแม่..” แบคฮยอนหันไปตอบแม่ก่อนที่จะเหลือบสายตาไปมองตรงหน้ายิ้มให้พี่แก้มยุ้ยแห้งๆ แต่พอเลื่อนสายตามามองอีกคนก็ยิ่งอยากจะกลับไปก้มหน้าเหมือนเดิม

     

    แง้..แม่ทำไมไม่บอกแบคหละว่าไอ่คนนี้มันยังมองอยู่หละ..’

     

    “คุณแทยอนเชิญเข้าห้องหมอคริสได้เลยค่ะ” เหมือนเสียงสวรรค์ทำเอาแบคฮยอนเด้งตัวขึ้นลุกยืนตรงก้าวฉับๆตามแม่เข้าห้องของหมอไป

     

    ไปไหนก็ได้ มันดีกว่าตรงนี้แน่นอน อัดอัดเป็นบ้าเลย

     

    “ทำไมไปจ้องเด็กนั่นขนาดนั้นว่ะลู่หาน” ซิ่วหมินรีบหันมาถามหลังจากที่สองแม่ลูกนั่นลับสายตาหายเข้าไปในห้องตรวจ

     

    “อยากรู้เรื่องของชาวบ้านจนติดเป็นนิสัยหยั่งลึกเลยนะหมินอ่า” ลู่หานตอบกลับมานิ่งๆแต่ประโยคนั่นทำเอาซิ่วหมินหน้าชา ด่าตรงๆยังเจ็บน้อบกว่าเลย

     

    “โอ๊ย เออไม่อยากรู้แล้วโว๊ย แล้วก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าหมินอ่าได้ไหมขนลุก”  จริงๆก็ไม่ขนลุกอะไรมากหรอก แต่หมินอ่าเนี้ย ไอ่เด็กนั่นมักจะเรียกเขาประจำเลยนี่นา ก็ไม่ได้หวงให้เรียกได้เฉพาะเด็กนั่นหรอกนะ! แต่ก็ดีกว่าให้ไอ่หน้านิ่งนี่เรียกก็แล้วกันชิ!

     

    “อ่อหรอ หมินอ่า” 

     

    “เออ ตามใจเถอะจะเรียกอะไรก็เรียก กูเพลียกูเหนื่อย!” ซิวหมินพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด โอ๊ยอยากจะบ้าจริงๆโว๊ย






    ................................................................................................

    ตอนนี้อาจสั้นไปนิดดดนะเพราะร่างกายไม่ไหวจริงๆ
    ที่หายไปเพราะใกล้สอบงานเยอะมว๊าก ไหนจะซ้อมบูมอีก เดินแทบไม่ไหวT^T
    แต่ฟิคเรื่องนี้ก็ไม่หายไปไหนนะ จะอัพต่อเรื่อยๆ วันเสาร์ ไม่ก็อาทิตย์จะมาลงอีกตอน


    อย่าพึ่งเลิกอ่านกันนะทุกคน เม้น=กำลังใจ
    ขอบคุณค้า

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×