ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] light&dark {lubaek , kaido ,etc.}

    ลำดับตอนที่ #3 : -TWO

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 57









    ......................................................



    บนโต๊ะอาหารมื้อเช้าผ่านไปด้วยดีคุณหนูของบ้านอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อยดูจากแววตาที่สดใสขึ้นหลังจากไปฝังหมาตัวน้อยของตัวเองกับจงอิน

    แต่ผู้เป็นแม่กลับดูไม่สดใสขึ้นซักนิดเอาแต่จ้องมองลูกชายคนเดียวด้วยสายตาเป็นกังวงสลับกับยิ้มอ่อนโยนเวลาที่ลูกเงยหน้ามาสบตากับเธอ ในใจของเธอสับสน ทำอย่างไรดีนะให้ลูกชายของเธอดีขึ้น 

     

    แบคฮยอนลูกแม่..

     

    “แบคฮยอนเดี๋ยวแม่ออกไปทำธุระจะกลับมาบ่ายๆนะลูก อยู่กับป้าอินนาและจงอินนะ”

     

    “แม่จะไปไหนหรอครับ”

     

    “เดี๋ยวแม่ไปที่ร้านหนะจ๊ะ พอดีบัญชีมีปัญหานิดหน่อยแม่จะไปจัดการ”

     

    “อ๋อ ครับแม่ขับรถดีๆนะครับ”

     

    ยิ้มให้ลูกชายบางๆแล้วพยอนแทยอนก็เดินไปขึ้นรถขับออกไปจากตัวบ้านมุ่งหน้าไปที่ๆหนึ่ง ที่ไม่ใช่ร้านเบเกอรี่ของเธออย่างที่ได้บอกลูกชายไว้..

     

    ขับมาได้ซักพักเธอก็เลี้ยวเข้าไปในสถานที่สะอาดตาและเงียบสงบมีป้ายเขียนไว้เรียบง่ายว่า  

     

    โรงพยาบาลจิตเวชเจจอง

     

    เธอจอดรถไว้ที่โรงรถสำหรับญาติที่มาเยี่ยมคนไข้ในที่นี้ เดินเข้าไปในตัวตึกสีขาวสะอาดตรงเข้าไปแจ้งจุดประสงค์ที่แผนกประชาสำพันของทางโรงบาลที่มีพยาบาลสาวนั่งอยู่สองสามคน

     

    “ขอโทษนะคะ ฉันมาขอเข้าพบคุณหมอ คริส คะ”

     

    “ไม่ทราบว่านัดไว้หรือเปล่าคะ?”

     

    “ไม่ได้นัดไว้ค่ะ แต่รบกวนบอกคุณหมอให้ทีนะคะว่า พยอนแทยอนมาขอเข้าพบหนะค่ะ”

     

    “งั้นรบกวนรอซักครู่นะคะ”

     

    พยาบาลสาวยกโทรศัพท์เพื่อแจ้งคุณหมอพูดไม่กี่ประโยคก็วางสายหันมาเชิญแทยอนให้เดินตามเธอเข้าไปพบคุณหมอทันที พยาบาลสาวเคาะประตูเบาๆสองครั้ง เปิดประตูผายมือให้เธอเข้าไปในห้องที่มีป้ายเขียนไว้ว่า

     

    ห้องผู้อำนวยการ

     

    “สวัสดีครับคุณแทยอน เชิญนั่งก่อนครับ”

     

    คริสยิ้มให้เล็กน้อยก่อนเชิญให้เธอนั่งลง

     

    “สวัสดีค่ะคุณหมอคริส ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้โทรมานัดไว้ก่อน”

     

    “ไม่เป็นไรครับวันนี้ไม่มีคนไข้มากด้วย  แล้วคุณแทยอนมาคนเดียวหรอครับ

     

    คริสรู้ดีว่าพยอนแทยอนนั้นมีลูกชายที่มีอาการทางจิตแต่ไม่ตลอดเวลา เค้าก็ไม่รู้ว่าจะนิยามโรคของแบคฮยอนว่าอย่างไร เพราะโรคสองบุคลิกที่เค้าเคยรักษามานั้นมักจะเป็นอาการที่สับสนในตัวเอง เปลี่ยนอารมณ์ไปมาไม่แน่นอน

     

    แต่สำหรับพยอนแบคฮยอนคนนี้ ตอนเช้ากลับดูปกติเป็นเด็กร่าเริงทั่วไป แต่พอกลางคืนกลับมี พฤติกรรมรุนแรงที่ยังคาดการไม่ได้ว่าจะรุนแรงได้ถึงขนาดไหน แม้จากการเล่าของแทยอนจะดูรุนแรงทั้งทำร้ายตัวเอง และฆ่าสัตว์เลี้ยงที่ตัวเองรักมาก..

    เขาก็เคยเจอกับแบคฮยอนแต่นั่นเป็นตอนเช้า เขาทำอาชีพหมอจิตเวชและเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชมาก็หลายปี แต่ก็ไม่เห็นว่าแบคฮยอนจะผิดปกติตรงไหน ป็นเด็กที่ร่าเริงทั่วๆไป เค้าจึงขอให้แทยอนพาลูกชายมาที่โรงบาลนี้เพื่อศึกษาและดูอาการอย่างใกล้ชิด แต่แทยอนก็ไม่เคยที่จะพาลูกชายมาเพราะเธอกลัวว่าลูกชายตัวเองจะยอมรับไม่ได้

     

    “มาคนเดียวคะ

     

    “ผมเคยบอกคุณไปแล้วนะครับว่าถ้าผมไม่เห็นแบคฮยอนตอนมีอาการผิดปกติ ผมก็ไม่สามารถหาแนวทางการรักษาของเขาได้ คุณแทยอนต้องพาเค้ามาที่โรงพยาบาลนี้นะครับ”

     

    “ฉันทราบดีคะคุณหมอแต่มันก็ทำใจยากฉันไม่รู้จะบอกลูกยังไง เพราะตอนที่แบคฮยอนตื่นเช้าขึ้นมาเขาจำอะไรไม่ได้เลยฉันกลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงคิดว่าเขาเป็นบ้า

     

    แทยอนบีบมือที่จับกันไว้แน่น เว้นช่วงไว้เล็กน้อยที่จะพูดคำนั้นออกไปเพราะเธอไม่คิดว่าลูกชายของเธอบ้า และแบคฮยอนก็ไม่ได้เป็นแบบนี้มาตั้งเกิด

    มันเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

    เธอโทษตัวเองมาตลอดว่าเธอเองก็มีส่วนผิดที่ทำให้ลูกชายคนเดียวของเธอเป็นแบบนี้

     

    “ผมทราบดีครับว่ามันทำใจลำบาก แต่เราต้องช่วยกันนะครับ เพราะถ้าผมไม่เห็นว่าเค้ามีอาการรุนแรงแค่ไหนก็รักษาไม่ได้ แล้วแบคฮยอนแกอาจจะต้องเป็นโรคนี้ไปตลอดชีวิตนะครับ”

     

    “ตะ ตลอดชีวิต..

     

    “ครับ ตลอดชีวิต มันไม่ใช่โรคทั่วไปที่เหมือนหวัดเหมือนไข้นะครับ ที่อาจหายไปเอง เขาต้องได้รับการบำบัดได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีผมหวังว่าคุณแทยอนจะเข้าใจ และใจแข็งเพื่อพาแบคฮยอนมารักษาที่นี่นะครับ”

     

    แทยอนก้มหน้านิ่งตัวสั่น เธอสับสนไปหมด เธอไม่อยากให้ลูกชายต้องมาเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่ถ้านึกถึงตอนที่แบคฮยอนมองเธอแล้วพูดว่า

     

    แม่ครับผมเป็นบ้าหรอ….ผม….ฆ่าเจ้าพวกนั้นหรอครับ

     

    หัวอกคนเป็นแม่คงแทบจะขาดใจ แต่ทำยังไงได้เธอก็ไม่ได้อยากให้ลูกชายต้องเป็นแบบนี้ไปตลอด..

     

    “นะครับคุณแทยอน ผมก็อยากช่วยแบคฮยอนนะครับเราต้องร่วมมือกันเพื่อให้แบคฮยอนหายจากอาการนี้นะครับ”

     

    “แบคฮยอนจะหายใช่ไหมคะคุณหมอ..

     

    “ผมก็ยังรับปากไม่ได้นะครับ แต่ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ ถ้าคุณพาแบคฮยอนมาที่นี่ได้”

     

    “ฉันขอเวลาหน่อยนะคะ ฉันรับปากว่าจะพาแกมา แต่ขอเวลาสักหน่อยฉันจะค่อยๆบอกให้แกเข้าใจเอง”

     

    “ครับผม แต่ผมไม่อยากให้นานเกินไปนะครับ”

     

    “ค่ะ แล้วฉันจะรีบพาแกมา”

     

    คริสยิ้มออกมาน้อยๆมองแทยอนด้วยแววตาชื่นชม ที่แทยอนรับปากจะพาแบคฮยอนมา ทำไมเขาจะไม่เข้าใจว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่คงแทบขาดใจที่จะบอกอะไรแบบนี้กับลูก 

     

    ที่ไม่เคยรู้อาการของตัวเอง..

     

    แต่แทยอนก็รับปากที่จะทำเรื่องที่ยากที่สุดนี้  ..

     

    หัวใจของคนเป็นแม่ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน..

     

    “ขอบคุณนะครับคุณแทยอน  แต่ผมขอถามอะไรหน่อยนะครับ อาการของแบคฮยอนนี่เป็นมาตั้งแต่เกิดรึเปล่าครับ?”

     

    “ไม่คะพึ่งจะมาเป็นเมื่อหกปีที่แล้ว….

     

    ใช่ผู้ชายคนนั้นเมื่อหกปีที่แล้วคนที่สร้างบาดแผลที่แสนเจ็บปวดให้เธอและลูก..

     

    “คุณแทยอนพอจะทราบสาเหตุไหมครับ?”

     

    “คือ…….เมื่อหกปีที่แล้ว..

     

    “ไม่ได้นะคะ!!!!คุณอี้ชิง!!!

     

    “ปล่อยนะ!!!คริสคริส!!!อี้ชิงจะหาคริส!!!

     

    แทยอนที่กำลังจะบอกสาเหตุของอาการลูกชายก็ชะงักลงเพราะเสียงโวยวายหน้าประตู เธอหันกลับไปมองประตูที่ถูกเปิดออก ทำให้เห็นเด็กชายผิวขาวหน้าตาน่ารักที่ใส่ชุดสีขาวสะอาดของทางโรงพยาบาลตัวสั่นน้อยๆพยายามเข้ามาในห้อง เพราะมีพยาบาลอีกสองคนพยามจะดึงเขาออกไป

     

    “ขอโทษนะคะคุณหมอ ดิฉันพยามจะห้ามคุณอี้ชิงแล้วคะแต่แกไม่ยอมเลยจะมาหาคุณหมอให้ได้”

     

    พยาบาลหนึ่งในสองคนรีบพูดเร็วๆก้มหัวขอโทษขอโพยคุณหมอ ยกใหญ่

     

    “ไม่เป็นไร พวกคุณออกไปเถอะปล่อยอี้ชิงไว้ที่นี่แหละเดี๋ยวผมจัดการเอง”

     

    “ค่ะคุณหมอ”

     

    พยาบาลสองคนออกไปจากห้องแล้วทิ้งไว้ก็แต่เด็กชายตัวน้อยที่หันไปยิ้มกว้างให้คริส แต่แล้วก็หันมาจ้องแทยอนตาเขม็ง

     

    “คริส..คริสใคร!!! คริสนี่ใคร!!!

     

    คริสรีบลุกไปหาเด็กน้อยที่จ้องแทยอนตาเขม็งตะโกนเสียงดังทำให้แทยอนสะดุ้งตกใจ

    เขารีบเข้าไปกอดโอบอี้ชิงหลวมๆแล้วลูบหัวปลอบใจเบาๆ

     

    “อี้ชิงอย่าทำตัวไม่น่ารักสิครับ นี่แทยอน เป็นเพื่อนคริส”

     

    “เพื่อน….เพื่อนคริสเพื่อนคนดีไหมคริสเพื่อนเป็นคนดีไหม

     

    “คนดีสิครับ เพื่อนคริสคนดีมากๆเลยนะ เพื่อนคริสก็เป็นเพื่อนอี้ชิงด้วยดีไหม อี้ชิงชอบคนดีใช่ไหม?”

     

    “คนดี….อี้ชิงชอบคนดี

     

    เด็กน้อยที่หันไปคุยกับคริสจากท่าทีแข็งกร้าวก็เปลี่ยนเป็นไปอีกคนทันทีก่อนจะหันกลับไปยิ้มหวานให้แทยอน เธอก็ยิ้มตอบเด็กน้อยไปบางๆเพราะยังสับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเด็กคนนี้

     

    คริสบอกว่าคนนี้เป็นเพื่อนเพื่อนเป็นคนดี..อี้ชิงชอบคนดี..

     

    “ปะเป็นเพื่อนกันไหม คนดี..อี้ชิงชอบคนดี..

     

    “ได้สิจ๊ะ  อี้ชิงให้แทยอนเป็นเพื่อนอี้ชิงนะ”

     

    แทยอนยิ้มหวานให้อี้ชิงแล้วตอบกลับไป ไม่อยากให้เด็กน้อยต้องได้รับคำตอบที่น่าผิดหวังจากเธอ ดูแล้วอี้ชิงคงจะอายุรุ่นราวเดียวกับลูกชายของเธอ จากชุดที่อี้ชิงใส่แทยอนก็เข้าใจอาการของเขาทันที

     

    “เพื่อนอี้ชิงมีเพื่อนแล้วคริส….เพื่อนคนดี”

     

    “ครับเพื่อนคนดี อี้ชิงไปนั่งรอคริสหน้าห้องก่อนนะ อย่าไปไหนหละเดี๋ยวคริสออกไปหา คริสจะแบ่งของเล่นให้เพื่อนแทยอนก่อนนะครับ”

     

    “แบ่งแบ่งของเล่นเอาของอี้ชิงให้เพื่อนคนดีด้วยนะคริส อี้ชิงอยากให้เพื่อนคนดี”

     

    “โอเคครับ คริสจะแบ่งของเล่นของอี้ชิงให้เพื่อนคนดีของอี้ชิงด้วย”

     

    “อี้ชิงจะออกออกไปรอนะคริสคริสไวไวนะคริส อี้ชิงไปนะ..ไปแล้วนะเพื่อนคนดีแบบนี้นะ..บายบาย”

     

    อี้ชิงพูดกับคริสแล้วก็หันไปหาแทยอนโบกมือสั่นๆให้เธอพร้อมยิ้มน่ารักที่ข้างแก้มมีลักยิ้มบุ๋มลงไป

    แทยอนอดที่จะยิ้มหวานแล้วโบกมือลากลับให้เด็กน้อยคนนี้ไม่ได้จริงๆ

    ไร้เดียงสา สดใส พูดซ้ำๆวนไปมาเล็กน้อย แม้จะตกใจในท่าทีตอนแรกของเขา แต่รวมๆแล้วก็ดูน่ารักเป็นมิตร

     

    ทำไมถึงมาอยู่ที่แบบนี้ได้นะ

     

    พออี้ชิงเดินออกไปจากห้อง คริสก็กลับมานั่งตรงข้ามแทยอน ด้วยใบหน้ามีรอยยิ้มเล็กๆ

     

    “ต้องขอโทษแทนอี้ชิงด้วยนะครับ ที่พูดไม่ค่อนสุภาพกับคุณแทยอน”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อี้ชิงแกเป็นเด็กน่ารักดี ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉันเลย ฉันได้เป็นเพื่อนแกก็แสดงว่าฉันหน้าเด็กนะคะ ฮ่าๆๆ”

     

    “ฮ่าๆ ครับ แต่คุณแทยอนก็ดูเด็กจริงๆนะครับ”

     

    “แหม ขอบคุณค่ะคุณหมอ แล้วอี้ชิงเค้าป่วยนานแล้วหรอคะ?

     

    “ครับ อี้ชิงมารักษาที่นี่ได้ซักหกเดือนแล้วหละครับ นี่อาการเค้าก็ดีขึ้นมากแล้ว”

     

    “ขอโทษนะคะ แกเป็นเพราะอะไรหรอคะ หรือเป็นตั้งแต่เกิดเลย เพราะจากที่ชั้นดูแล้วแกก็ดูสดใสดี..

     

    “ไม่ได้เป็นตั้งแต่เกิดหรอกครับ….แต่อี้ชิงเค้าโดนข่มขืน….และทำร้ายอย่างรุนแรง

     

    คริสสูดลมหายใจและเว้นช่วงไปเล็กน้อย

     

    ….จากพี่ชายของตัวเอง….พี่ชายแท้ๆ

     

    แทยอนที่ได้ฟังคำตอบของคุณหมอคริสก็นิ่งอึ้งไปทันที 

     

    เด็กน้อยคนนั้น…..ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอเรื่องแบบนี้….

     

    “ตอนมาแรกๆเค้าก็กลัวทุกคน เค้าคิดว่าจะโดนทำร้ายตลอดเวลา คิดว่าทุกคนเป็นคนเลวเหมือนพี่ชายของเขา  แต่ตอนนี้อาการก็ดีขึ้นอย่างที่เห็นหละครับ”

     

    “ขอโทษที่ฉันถามไม่เข้าเรื่องนะคะคุณหมอ”

     

    แทยอนลำบากใจเล็กน้อย เพราะสีหน้าของคุณหมอดูเป็นห่วงและดูโมโหเล็กน้อยตอนที่พูดถึงคนที่เป็นสาเหตุของการป่วยของอี้ชิง

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็อยากเล่าให้คุณแทยอนฟัง เพราะว่าคนไข้ทุกคนที่นี่ถ้าไม่ได้ป่วยมาตั้งแต่เกิด ก็จะเกิดจากเหตุการณ์ที่โหดร้ายและกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับและก้าวผ่านมันไปให้ได้ ถ้ามัวแต่หนี ก็จะต้องจมอยู่กับมันไปตลอด คุณแทยอนพอจะเข้าใจใช่ไหมครับว่าผมหมายถึงอะไร”

     

    แทยอนนิ่งและคิดตาม นั่นสิ ถ้ามัวแต่จมกับอดีต แล้วเมื่อไหร่เธอและลูกชายจะก้าวผ่านและข้ามมันไปได้สักที

    สิ่งที่อี้ชิงต้องเจอก็เลวร้ายไม่แพ้เหตุการณ์ของเธอและลูก แต่เด็กคนนั้นก็ยังผ่านมันมาได้ทั้งที่ดูบอบบางขนาดนั้นแท้ๆ….

     

    “ฉันเข้าใจแล้วคะคุณหมอ ขอบคุณมากนะคะ แล้วฉันจะพาลูกชายมาที่นี่ให้ไวที่สุด”

     




    ………………………………………………………………………………



    ตอนที่สองแล้วจย้า
    ตัวละครออกมาจะหมดแล้วแต่พระเอกหายไปไหนนะ? คิกคิก .หัวเราะแบบน้องแบคตอนกลางคืน

    เค้ารีบมาอัพก่อนเพราะจะหายไปสองวัน ถ้ากลับมาจะรีบอัพเลยย
    สนุกกันรึป่าวเอ่ย ติชมได้นะเอออ
    รบกวนเม้นๆด้วยน้า ตอนหน้าพระเอกจะออกมาแล้ว 

    คืนนี้ฝันดีรักทุ๊กคนน


     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×