ความเป็นเด็กดีในสังคม - ความเป็นเด็กดีในสังคม นิยาย ความเป็นเด็กดีในสังคม : Dek-D.com - Writer

    ความเป็นเด็กดีในสังคม

    ขึ้นกับความคิดของคนในสังคม...และน้ำใจที่ควรเผื่อแผ่...

    ผู้เข้าชมรวม

    261

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    261

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ส.ค. 49 / 15:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
               เรื่องมันเริ่มมาจากที่ได้อ่านบทความใน Reader's Digest ที่จะรวบรวมเรื่องราวต่างๆ รอบๆ ตัวไว้ด้วยกัน ด้วยชื่อของหนังสือหลายคนอาจจะมองว่า " คงรวบรวมไว้แต่เรื่องของพวกฝรั่ง " , " คงไม่เกี่ยวกับเราหรอก นั่นมันหนังสือเมืองนอก " หรือ อะไรทำนองนั้น แต่หากมองถึงชื่อหนังสือที่เป็นภาษาไทย " สรรสาระ " เราคงจะมองเห็นสิ่งที่รวบรวมไว้ข้างในได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
                เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า จากที่ได้อ่านเรื่องของผลการสำรวจคนทั่วโลกว่า " เราเป็นสุภาพชนแค่ไหน" โดยจะมีทีมงานที่ทำการสำรวจ และสรุปผลจากพฤติกรรมของคนเช่น การรั้งบานประตูไว้ เพื่อไม่ให้กระทบคนที่เดินตามหลัง, การช่วยคนเก็บแฟ้มเอกสาร ในพื้นที่พลุกพล่าน และ การ "ขอบคุณ" จากผู้ขายเมื่อซื้อของเล็กๆ น้อยๆ   ถึงแม้โดยรวมคนไทย (กรุงเทพฯ) เราจะอยู่ในลำดับที่25 ซึ่งอาจจะดูไม่ดีนักแต่หากเรามาดูในแต่ละส่วน เราช่วยคนเก็บแฟ้มเอกสารมากเป็นอันดับ 5 ของการสำรวจเลย (มาถึงตรงนี้หากใครที่สนใจรายละเอียด สามารถตามไปอ่านได้จากสรรสาระ ฉบับเดือน กรกฎาคม 2549  นะครับ)
                 กลับมามองเรื่องของคนในสังคมไทยเรา หรือย้อนกลับมามองถึงตัวเราเอง ใน 3 สถานการณ์ข้างตน เราจะทำอย่างไร? สำหรับตัวผม การช่วยคนเก็บเอกสาร และ การขอบคุณ เป็นสิ่งที่ผมทำเสมอ ผมรู้สึกว่า การช่วยคนเก็บเอกสาร คือการช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนและลำบาก ในสถานการณ์ตรงหน้าเรา ส่วนคำขอบคุณ ในฐานะที่ผมเป็นลูกค้า (ในบทความมองในฐานะผู้ขาย) ผมขอบคุณในสิ่งที่มีคนอื่นทำให้ด้วยความเต็มใจเสมอ 
                เหมือนกับคนไทยในการสำรวจ ผมกลับให้ความสนใจในเรื่องของการรั้งประตู ไว้ให้กับคนข้างหลังน้อยกว่า เมื่อเทียบกับในสถานการณ์อื่นๆ หากมองถึงความคิดของผม อาจจะมองว่า "ก็คนที่ตามมาก็ต้องระวังเอง" แต่จริงๆ แล้วมันบ่งบอกถึงน้ำใจ ของเราที่มีต่อผู้อื่นมากกว่า เราจะทราบได้อย่างไร ว่าคนที่ตามมาถือของพะรุงพะรัง เราจะทราบได้อย่างไร ว่าคนที่ตามมาเป็นคนท้องอุ้ยอ้าย เราจะทราบได้อย่างไรว่า คนที่ตามมาเป็นคนที่ป่วย ไม่สบาย หรืออาจจะมองเห็นได้ไม่ชัด ... หากเรื่องพวกนี้ เราใส่ใจกับคนใกล้ตัว เราก็ควรเผื่อแผ่ความคิดนี้สู่คนรอบข้างเราในสังคม ปัจจุบันหลายครั้งที่ผมขึ้นรถโดยสารประจำทาง การลุกขึ้นในผู้อื่นนั่ง กลายเป็นเรื่องจำใจ มากกว่าเรื่องของน้ำใจ คนส่วนใหญ่จะลุกให้เฉพาะกับเด็ก คนที่แก่มาก และคนท้องเท่านั้น และคนที่ลุกให้ส่วนใหญ่มักเป็นคนที่นั่งริมเสมอ แปลกจริงๆ ...
              ผมไม่ได้จะว่าหรือตำหนิใคร แค่อยากให้เรากลับมามองตัวเราเอง มองคนรอบๆ ตัว สิ่งที่เราทำแก่คนที่อยู่ใกล้ตัวเรา อย่างคนในครอบครัว หรือเพื่อนๆ ของเรา ผมแค่อยากให้เราปันสิ่งนั้นแก่คนรอบข้างบ้าง อาจจะไม่ต้องเท่ากับคนใกล้ชิด 
      แค่ส่วนหนึ่งของน้ำใจที่มี ก็ทำให้สังคมเราน่าอยู่มากขึ้นแล้วละครับ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×