คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เพื่อนรัก ขอบคุณ ตัดสินใจ
“บัว” เป็นหญิงสาวที่เพิ่งจบ ม.ปลาย มาได้สองปี หน้าตาผิวพรรณสวยธรรมชาติ บัวไม่ยินยอมให้เครื่องสำอางอะไรมาสัมผัสใบหน้าเธอนอกจากแป้งเด็ก บัวต้องช่วยแม่ขายข้าวมันไก่ตั้งแต่สองยามยันพระอาทิตย์ขึ้น บัวผิดหวังจากการสอบเอ็นทรานซ์และแม่ก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาให้บัวได้เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน เกือบทุกวันบัวจะต้องแต่งชุดนักศึกษาขึ้นรถเมล์ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัยที่ไกลจากร้านข้าวมันไก่ของแม่
“สวัสดีโดม มีเรียนเช้าเหรอวันนี้”
“ใช่ บัวล่ะ”
“บัวเอารายงานมาส่งอาจารย์ผีน่ะ…. สายละบัว ไปก่อนนะ”
บัวทำท่าเร่งรีบเหมือนว่าถ้าไปส่งงานไม่ทันจะได้ F แต่โดมเองก็เห็นเป็นเรื่องปกติ เพราะ แต่ไหนแต่ไรมาแล้วในสายตาโดม บัวก็เป็นคนแปลกๆ แบบนี้ ทุกอย่างดูเร่งรีบไปหมดสำหรับผู้หญิงคนนี้
โดม ชายหนุ่มลูกเจ้าของตลาด โดมเป็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-ปานามา แม่เป็นคนเกาหลี ส่วนพ่อเป็นคนปานามาที่หนีคดีซุกหุ้นมาตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์มากว่า 20 ปี และได้กลายเป็นคนไทยอีสานไปเรียบร้อย โดมเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี คมเข้มอมหวาน ที่เป็นส่วนผสมมาจากดีเอ็นเอของผู้เป็นพ่อและแม่
โดมกับบัวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมจนจบมัธยม เลือกกาคำตอบไปเตะฟุตบอลเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศเหมือนกันในข้อสอบโอเน็ต ทั้งคู่เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เพิ่งย้ายเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง โดมมาเรียนต่อ ส่วนบัวก็ให้เหตุผลกับยายที่สุรินทร์ว่าจะมาเรียนต่อในกรุงเทพฯ เหมือนกัน
บัวอยู่กับยายที่สุรินทร์ตั้งแต่จำความได้ และที่จำได้ บัวก็ไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลยสักครั้ง ส่วนหน้าแม่ก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะแม่ของบัวมีครอบครัวใหม่เป็นที่เรียบร้อยและก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่บัวเริ่มหัดพูดคำว่า “แม่” การเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ของบัวหลังจบ ม.ปลาย ยายจึงเป็นคนจัดแจงติดต่อแม่ของบัวเพื่อฝากหลานรักให้ไปอาศัยอยู่ด้วย
“อ้าว… บัว ส่งงานเสร็จแล้วไม่มีเรียนเหรอวันนี้” โดมเดินวนกลับมาเจอบัวอีกทีที่หน้ามหาวิทยาลัย
“ออออ… เอออ… ไม่มีหรอก บัวเลยว่าจะกลับบ้านน่ะ โดมล่ะ… เช้าไม่มีเรียนเหรอ?”
“ อืมม อาจารย์ไม่สบายน่ะ เช้าเลยว่าง แต่มีเรียนอีกทีตอนบ่ายแน่ะ เราไปนั่งกินกาแฟร้านโกกันไหม?
“เอออ… อืมม… แต่…” บัวทำท่าลำบากใจ เพราะปกติแล้วบัวเองจะนั่งรถเมล์มาดักรอโดมในตอนเช้าเกือบทุกวันที่โดมมีเรียน และก็จะนั่งรถเมล์กลับบ้านให้ทันเวลา 9 โมงเช้า เพราะนั่นเป็นเวลาที่บัวต้องอยู่ที่ร้านข้าวมันไก่และช่วยแม่เก็บร้าน แต่อีกใจก็ชักเอนเอียงเพราะคำเชื้อเชิญจากเพื่อนสนิทไอ้หนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-ปานามา
“โก… กาแฟร้อนแก้วหนึ่ง… บัวสั่งซิ เดี๋ยววันนี้โดมเลี้ยงเอง” บัวทำท่าทีลุกลี้ลุกลนเป็นกังวลถึงภารกิจหลักที่ร้าน
“ตอนนี้แม่คงกำลังเก็บร้านอยู่แน่เลย กลับไปโดนชุดใหญ่แน่” บัวนึกในใจ เสียงของความคิดดังจนกลบเสียงของโดม
“อืม… เสร็จแล้ว โดมอยู่ไหนล่ะ กินร้านไหนดี เดี๋ยวบัวตามไป” บัวตอบออกไปเหมือนโดนสะกดจิต บัวคว้ากระเป๋าและไม่ลืมที่จะหยิบกระดาษรายการจ่ายตลาดไปด้วย
“กินอะไรกันดีเรา… เดี๋ยวมื้อนี้โดมเลี้ยงละกัน ที่ติดไว้เมื่อเช้าน่ะ”
“โดมมีเรื่องอะไรจะคุยกับบัวเหรอ”
“เออ… คืออย่างนี้บัว เพื่อนโดมชวนเปิดร้านขายเสื้อผ้าน่ะ บัวว่ายังไง?”
“ก็ดีนี่ โดมคิดว่ายังไงล่ะ”
“โดมก็ว่าดีนะ โดมอยากมีร้านขายเสื้อผ้า โดมอยากมีเงินใช้เยอะๆ อยากได้อะไร อยากซื้ออะไร ก็จะได้ซื้อ”
“ก็เอาซิ แล้วไงต่อล่ะ”
“เพื่อนมันชวนโดมคนเดียวหุ้นกันกับมัน ใช้เงินนิดหน่อย เออ… แต่ว่า…” โดมเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ เปิดขวดน้ำ เทน้ำแล้วยื่นให้บัว
“คือโดมบอกพ่อแล้วล่ะ เรื่องเงินที่จะเอาไปลงทุนน่ะ พ่อบอกว่าจะโอนมาให้เดือนหน้า แต่เพื่อนจะต้องให้โดมเอาเงินไปให้สิ้นเดือนนี้ เอออ… คือบัวมีตังค์ให้โดมยืมก่อนไหม? เดี๋ยวเดือนหน้าพ่อโอนมาให้ โดมจะเอามาคืนบัวเลยล่ะ” บัววางแก้วน้ำลง แล้วใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“โดมต้องลงทุนเท่าไรล่ะ”
“ห้าหมื่นน่ะ… จริงๆ แล้วโดมไม่อยากรบกวนบัวหรอกนะ แต่โดมไม่รู้จะไปยืมใครดี ก็มีแต่บัวนี่แหละ ที่เป็นเพื่อนที่โดมสนิทที่สุด แล้วโดมก็ไม่กล้าไปยืมใครด้วยล่ะ”
แววตาของบัวดูหม่นลงปนกับอาการอดนอนที่ดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
“เฮ้ย… บัว ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ”
“แล้วโดมจะเอาเงินที่ไหนไปให้เพื่อนล่ะ”
“ไม่เป็นไร ก็ให้มันไปหาหุ้นกับคนอื่นแทนก็ได้”
“แล้วโดมไม่อยากมีร้านเหรอ”
“อยากซิ… แต่ทำไงได้” โดมทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ แล้วหยิบแก้วน้ำมากระดกน้ำลงคอ
. . . . . . . . “อืม… เดี๋ยวบัวจะลองขอเงินแม่ดูนะ”
เงินห้าหมื่นสำหรับบัวแล้วมันไม่ใช่เงินน้อยๆ เลย มันคือเกือบทั้งหมดของเงินเก็บของบัว และที่บัวบอกไปว่าจะลองไปยืมเงินแม่นั้น ความจริงแล้วมันเป็นเงินเก็บของบัวเอง
หลังจากบัวจ่ายตลาดเสร็จ เข้าบ้านก็เกือบห้าโมงเย็น บัวจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำเตรียมเข้านอน ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาช่วยแม่เตรียมของขายอีกทีตอนสองทุ่ม วันนี้เลยเวลานอนมาตั้งห้าชั่วโมงเพราะออกไปหาโดม แต่บัวไม่เคยรู้สึกว่ามันจะเหนื่อยหรือลำบากอะไรเลย เมื่อนึกถึงตอนเด็กๆ สมัยที่อยู่สุรินทร์ โดมกับบัวเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เล่นขายของ ตุ๊กตากระดาษ กระโดดยาง เล่นพ่อแม่ลูกมาด้วยกัน บางครั้งบัวเองก็เผลอคิดไปตามนั้น แอบหวังและคิดไว้ว่าครอบครัวพ่อแม่ลูก ที่เล่นกันในวัยเด็กมันจะเป็นจริงซักวัน
ในทุกวันหยุดเด็กๆ ในหมู่บ้านจะต้องมารวมตัวเล่นกันที่วัด โดมกับบัวจะต้องเจอกันในทุกวันหยุด และทุกครั้งโดมก็จะเอาของเล่น ขนมมาแบ่งบัวทุกครั้ง แต่แปลกที่วันนี้ไม่เห็นบัวมาวัด
กับยาย โดมเข้าไปถามยายจึงรู้ว่าบัวเป็นไข้นอนอยู่ที่บ้านคนเดียว โดมปั่นจักรยานไปหาบัวที่บ้านพร้อมกับถุงขนมในมือ
“บัว… บัว” โดมจอดจักรยานที่หน้าบ้าน มือคว้าถุงขนมและของเล่นลงจากจักรยาน เดินไปที่ประตู กำลังเอื้อมมือไปเปิดประตู
“วันนี้โดมมีอะไรมาอวดล่ะ เอาขนมมาฝากบัวด้วยนะ”
“กรี๊ดด ด ด ด ด ด ด ด… ”
เสียงบัวที่อยู่ในบ้านดังออกมาก่อนที่โดมจะเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็น บัวหลับตาขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบางบนเสื่อกลางบ้านบนพื้นปูนที่ปูด้วยเสื้อน้ำมันลายไม้ปาร์เกต์
“บัว บัว เป็นอะไร” โดมวิ่งเข้าไปหาบัวด้วยความเร็ว ว่างของในมือลงพร้อมกับจับที่แขนของบัว ตาของบัวเบิกโตมองมาที่โดมและตัวที่ยังคงสั่นอยู่
“โดม ตะกี้ใครไม่รู้มาจับขาบัว บัวได้ยินเสียงโดมเรียกที่หน้าบ้าน บัวลืมตาก็เห็นมันวิ่งหนีออกไปหลังบ้านอ่ะ… โดม บัวกลัว” เสียงบัวสั่นเข้าจังหวะกับตัวที่ยังคงสั่นอยู่
บัวคิดมาตลอดว่าถ้าวันนั้นโดมไม่เข้ามาหาที่บ้าน คงแย่แน่ๆ บัวขอบคุณโดมเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน และทุกวันนี้บัวก็ยังเก็บคำว่าขอบคุณโดมอยู่ข้างในใจมาตลอด
เงินห้าหมื่นกับโอกาสที่จะออกไปจากที่นี่ เร็วขึ้น ที่นี่… บ้านที่บัวเป็นแค่คนอาศัย ร้านข้าวมันไก่ที่บัวเป็นแค่คนงาน ที่นี่ ที่มีแม่ก็เหมือนไม่มี บัวสับสนในใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีจนเผลอหลับไปด้วยความเพลีย
{ บั ว ต้ อ ง ตั ด สิ น ใ จ }
อ่านต่อตอนต่อไปบัว” เป็นหญิงสาวที่เพิ่งจบ ม.ปลาย มาได้สองปี หน้าตาผิวพรรณสวยธรรมชาติ บัวไม่ยินยอมให้เครื่องสำอางอะไรมาสัมผัสใบหน้าเธอนอกจากแป้งเด็ก บัวต้องช่วยแม่ขายข้าวมันไก่ตั้งแต่สองยามยันพระอาทิตย์ขึ้น บัวผิดหวังจากการสอบเอ็นทรานซ์และแม่ก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาให้บัวได้เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน เกือบทุกวันบัวจะต้องแต่งชุดนักศึกษาขึ้นรถเมล์ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัยที่ไกลจากร้านข้าวมันไก่ของแม่
“สวัสดีโดม มีเรียนเช้าเหรอวันนี้”
“ใช่ บัวล่ะ”
“บัวเอารายงานมาส่งอาจารย์ผีน่ะ…. สายละบัว ไปก่อนนะ”
บัวทำท่าเร่งรีบเหมือนว่าถ้าไปส่งงานไม่ทันจะได้ F แต่โดมเองก็เห็นเป็นเรื่องปกติ เพราะ แต่ไหนแต่ไรมาแล้วในสายตาโดม บัวก็เป็นคนแปลกๆ แบบนี้ ทุกอย่างดูเร่งรีบไปหมดสำหรับผู้หญิงคนนี้
โดม ชายหนุ่มลูกเจ้าของตลาด โดมเป็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-ปานามา แม่เป็นคนเกาหลี ส่วนพ่อเป็นคนปานามาที่หนีคดีซุกหุ้นมาตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์มากว่า 20 ปี และได้กลายเป็นคนไทยอีสานไปเรียบร้อย โดมเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี คมเข้มอมหวาน ที่เป็นส่วนผสมมาจากดีเอ็นเอของผู้เป็นพ่อและแม่
โดมกับบัวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมจนจบมัธยม เลือกกาคำตอบไปเตะฟุตบอลเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศเหมือนกันในข้อสอบโอเน็ต ทั้งคู่เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เพิ่งย้ายเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง โดมมาเรียนต่อ ส่วนบัวก็ให้เหตุผลกับยายที่สุรินทร์ว่าจะมาเรียนต่อในกรุงเทพฯ เหมือนกัน
บัวอยู่กับยายที่สุรินทร์ตั้งแต่จำความได้ และที่จำได้ บัวก็ไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลยสักครั้ง ส่วนหน้าแม่ก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะแม่ของบัวมีครอบครัวใหม่เป็นที่เรียบร้อยและก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่บัวเริ่มหัดพูดคำว่า “แม่” การเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ของบัวหลังจบ ม.ปลาย ยายจึงเป็นคนจัดแจงติดต่อแม่ของบัวเพื่อฝากหลานรักให้ไปอาศัยอยู่ด้วย
“อ้าว… บัว ส่งงานเสร็จแล้วไม่มีเรียนเหรอวันนี้” โดมเดินวนกลับมาเจอบัวอีกทีที่หน้ามหาวิทยาลัย
“ออออ… เอออ… ไม่มีหรอก บัวเลยว่าจะกลับบ้านน่ะ โดมล่ะ… เช้าไม่มีเรียนเหรอ?”
“ อืมม อาจารย์ไม่สบายน่ะ เช้าเลยว่าง แต่มีเรียนอีกทีตอนบ่ายแน่ะ เราไปนั่งกินกาแฟร้านโกกันไหม?
“เอออ… อืมม… แต่…” บัวทำท่าลำบากใจ เพราะปกติแล้วบัวเองจะนั่งรถเมล์มาดักรอโดมในตอนเช้าเกือบทุกวันที่โดมมีเรียน และก็จะนั่งรถเมล์กลับบ้านให้ทันเวลา 9 โมงเช้า เพราะนั่นเป็นเวลาที่บัวต้องอยู่ที่ร้านข้าวมันไก่และช่วยแม่เก็บร้าน แต่อีกใจก็ชักเอนเอียงเพราะคำเชื้อเชิญจากเพื่อนสนิทไอ้หนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-ปานามา
“โก… กาแฟร้อนแก้วหนึ่ง… บัวสั่งซิ เดี๋ยววันนี้โดมเลี้ยงเอง” บัวทำท่าทีลุกลี้ลุกลนเป็นกังวลถึงภารกิจหลักที่ร้าน
“ตอนนี้แม่คงกำลังเก็บร้านอยู่แน่เลย กลับไปโดนชุดใหญ่แน่” บัวนึกในใจ เสียงของความคิดดังจนกลบเสียงของโดม
“อืม… เสร็จแล้ว โดมอยู่ไหนล่ะ กินร้านไหนดี เดี๋ยวบัวตามไป” บัวตอบออกไปเหมือนโดนสะกดจิต บัวคว้ากระเป๋าและไม่ลืมที่จะหยิบกระดาษรายการจ่ายตลาดไปด้วย
“กินอะไรกันดีเรา… เดี๋ยวมื้อนี้โดมเลี้ยงละกัน ที่ติดไว้เมื่อเช้าน่ะ”
“โดมมีเรื่องอะไรจะคุยกับบัวเหรอ”
“เออ… คืออย่างนี้บัว เพื่อนโดมชวนเปิดร้านขายเสื้อผ้าน่ะ บัวว่ายังไง?”
“ก็ดีนี่ โดมคิดว่ายังไงล่ะ”
“โดมก็ว่าดีนะ โดมอยากมีร้านขายเสื้อผ้า โดมอยากมีเงินใช้เยอะๆ อยากได้อะไร อยากซื้ออะไร ก็จะได้ซื้อ”
“ก็เอาซิ แล้วไงต่อล่ะ”
“เพื่อนมันชวนโดมคนเดียวหุ้นกันกับมัน ใช้เงินนิดหน่อย เออ… แต่ว่า…” โดมเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ เปิดขวดน้ำ เทน้ำแล้วยื่นให้บัว
“คือโดมบอกพ่อแล้วล่ะ เรื่องเงินที่จะเอาไปลงทุนน่ะ พ่อบอกว่าจะโอนมาให้เดือนหน้า แต่เพื่อนจะต้องให้โดมเอาเงินไปให้สิ้นเดือนนี้ เอออ… คือบัวมีตังค์ให้โดมยืมก่อนไหม? เดี๋ยวเดือนหน้าพ่อโอนมาให้ โดมจะเอามาคืนบัวเลยล่ะ” บัววางแก้วน้ำลง แล้วใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“โดมต้องลงทุนเท่าไรล่ะ”
“ห้าหมื่นน่ะ… จริงๆ แล้วโดมไม่อยากรบกวนบัวหรอกนะ แต่โดมไม่รู้จะไปยืมใครดี ก็มีแต่บัวนี่แหละ ที่เป็นเพื่อนที่โดมสนิทที่สุด แล้วโดมก็ไม่กล้าไปยืมใครด้วยล่ะ”
แววตาของบัวดูหม่นลงปนกับอาการอดนอนที่ดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
“เฮ้ย… บัว ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ”
“แล้วโดมจะเอาเงินที่ไหนไปให้เพื่อนล่ะ”
“ไม่เป็นไร ก็ให้มันไปหาหุ้นกับคนอื่นแทนก็ได้”
“แล้วโดมไม่อยากมีร้านเหรอ”
“อยากซิ… แต่ทำไงได้” โดมทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ แล้วหยิบแก้วน้ำมากระดกน้ำลงคอ
. . . . . . . . “อืม… เดี๋ยวบัวจะลองขอเงินแม่ดูนะ”
เงินห้าหมื่นสำหรับบัวแล้วมันไม่ใช่เงินน้อยๆ เลย มันคือเกือบทั้งหมดของเงินเก็บของบัว และที่บัวบอกไปว่าจะลองไปยืมเงินแม่นั้น ความจริงแล้วมันเป็นเงินเก็บของบัวเอง
หลังจากบัวจ่ายตลาดเสร็จ เข้าบ้านก็เกือบห้าโมงเย็น บัวจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำเตรียมเข้านอน ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาช่วยแม่เตรียมของขายอีกทีตอนสองทุ่ม วันนี้เลยเวลานอนมาตั้งห้าชั่วโมงเพราะออกไปหาโดม แต่บัวไม่เคยรู้สึกว่ามันจะเหนื่อยหรือลำบากอะไรเลย เมื่อนึกถึงตอนเด็กๆ สมัยที่อยู่สุรินทร์ โดมกับบัวเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เล่นขายของ ตุ๊กตากระดาษ กระโดดยาง เล่นพ่อแม่ลูกมาด้วยกัน บางครั้งบัวเองก็เผลอคิดไปตามนั้น แอบหวังและคิดไว้ว่าครอบครัวพ่อแม่ลูก ที่เล่นกันในวัยเด็กมันจะเป็นจริงซักวัน
ในทุกวันหยุดเด็กๆ ในหมู่บ้านจะต้องมารวมตัวเล่นกันที่วัด โดมกับบัวจะต้องเจอกันในทุกวันหยุด และทุกครั้งโดมก็จะเอาของเล่น ขนมมาแบ่งบัวทุกครั้ง แต่แปลกที่วันนี้ไม่เห็นบัวมาวัด
กับยาย โดมเข้าไปถามยายจึงรู้ว่าบัวเป็นไข้นอนอยู่ที่บ้านคนเดียว โดมปั่นจักรยานไปหาบัวที่บ้านพร้อมกับถุงขนมในมือ
“บัว… บัว” โดมจอดจักรยานที่หน้าบ้าน มือคว้าถุงขนมและของเล่นลงจากจักรยาน เดินไปที่ประตู กำลังเอื้อมมือไปเปิดประตู
“วันนี้โดมมีอะไรมาอวดล่ะ เอาขนมมาฝากบัวด้วยนะ”
“กรี๊ดด ด ด ด ด ด ด ด… ”
เสียงบัวที่อยู่ในบ้านดังออกมาก่อนที่โดมจะเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็น บัวหลับตาขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบางบนเสื่อกลางบ้านบนพื้นปูนที่ปูด้วยเสื้อน้ำมันลายไม้ปาร์เกต์
“บัว บัว เป็นอะไร” โดมวิ่งเข้าไปหาบัวด้วยความเร็ว ว่างของในมือลงพร้อมกับจับที่แขนของบัว ตาของบัวเบิกโตมองมาที่โดมและตัวที่ยังคงสั่นอยู่
“โดม ตะกี้ใครไม่รู้มาจับขาบัว บัวได้ยินเสียงโดมเรียกที่หน้าบ้าน บัวลืมตาก็เห็นมันวิ่งหนีออกไปหลังบ้านอ่ะ… โดม บัวกลัว” เสียงบัวสั่นเข้าจังหวะกับตัวที่ยังคงสั่นอยู่
บัวคิดมาตลอดว่าถ้าวันนั้นโดมไม่เข้ามาหาที่บ้าน คงแย่แน่ๆ บัวขอบคุณโดมเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน และทุกวันนี้บัวก็ยังเก็บคำว่าขอบคุณโดมอยู่ข้างในใจมาตลอด
เงินห้าหมื่นกับโอกาสที่จะออกไปจากที่นี่ เร็วขึ้น ที่นี่… บ้านที่บัวเป็นแค่คนอาศัย ร้านข้าวมันไก่ที่บัวเป็นแค่คนงาน ที่นี่ ที่มีแม่ก็เหมือนไม่มี บัวสับสนในใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีจนเผลอหลับไปด้วยความเพลีย
{ บั ว ต้ อ ง ตั ด สิ น ใ จ }
อ่านต่อตอนต่อไป
ความคิดเห็น