ตอนที่ 16 : แม่มดจอมโจรวิ่งราวแห่งแยกตัว T
ความเดิมตอนที่แล้วของมาสไรเดอร์ดับเบิ้ล
โคโนริ : ทำไมถึงไม่ติดต่อมาบ้างเลยละคะ ฉันนึกว่า
คุโรสึมะ : เอาเถอะสบายใจได้ อีกเดียวฉันก็หายไปแล้ว
ฟิลิป : ขอโทษด้วยนะครับที่นี่คือห้องของโคโนริ มิหรือเปล่าครับ
อาโอมิ : คุโรสึมะกลับมาแล้วสินะไม่คิดเลยว่าจะรอดมาได้
มิซากะ : แล้วทำไมรุ่นพี่โคโนริถึงได้รู้จักกับคุโรสึมะได้เหรอคะ?
อาโอมิ : มิ นะเคยเป็นสามาชิกของบิ๊กสไปเดอร์มาก่อนยังไงละ
เฮบิทานิ : มันช่วยไม่ได้นิน่า!! ที่ของพวกเรามีแค่ที่นี่เท่านั้น ฉันมีแต่ต้องเป็นคุโรสึมะเท่านั้นถึงจะรวมกลุ่มบิ๊กสไปเดอร์ได้
คุโรสึมะ : เฮบิทานิที่ของแกนะคือที่ที่แกสามารถอยู่เป็นตัวของตัวเองได้ต่างหากละ
โคโนริ : รุ่นพี่...ขอบคุณนะคะ
ณ เรือนจำคุก เขตการศึกษาที 17
โชทาโร่ได้เดินเข้ามาในโซนพบตัวผู้คุมขังขณะที่โชทาโร่นั่นกำลังนั่งรออยู่ก่อนที่เจ้าหน้าแอนตี้สกิลจะเดินมาพร้อมลากตัวโทบิที่อยู่ในชุดเรือนจำเดินมานั่งเก้าอี้ที่มีกระจกคันระหว่างเขากับโชทาโร่
" โห้ววว....นึกว่าใครสะอีก คุณนักสืบเองเหรอ " โทบิที่พอเงยหน้าเห็นคนที่มาเยี่ยมคือโชทาโร่ก็ได้ยิ้มออกมา
" ตอบมาสะโทบิ....คนที่ค้าชายไกอาเมมโมรี่ไม่ได้มีแค่นายสินะ "
" ก็ไม่รู้สินะ.....ฉันก็แค่รับของมาและแจกจ่ายให้กับเหล่าผู้คนที่ประสงค์อยากจะเป็นผู้ที่มีพลังที่ยิ่งกว่าผู้ใช้พลังจิตในเมืองนี้ก็เท่านั้น.....สำหรับเลเวลต่ำอย่างเลเวล0ถึงเลเวล2 "
" เห้อ....ตอบแบบนี้อีกแล้วเหรอ " โชทาโร่ที่พอได้ยินคำตอบที่กวนโอ้ยของโทบิก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะลุกจากเก้าอี้และกำลังเดินออกจากห้องเยี่ยม
" อ่าวๆๆ คุณนักสืบจะไปแล้วเหรอ? "
" เอ่อสิ....อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่ได้อะไรจากนายเลยแม้แต่นิดเดียว "
" ขอบอกอะไรอย่างเลยนะคุณนักสืบ....ต่อให้คนอย่างฉันจะถูกจับก็ตามมันจะยังมีคนที่สืบเจตนารมณ์ของมิวเสี่ยมต่อไปเรื่อยๆ.....และอีกไม่นานเจ้านั่น...จะต้องมาแน่ "
" เจ้านั่นเหรอ? "
" เอาเถอะ...เมื่อถึงเวลานั่นชะตาของแกได้จบลงอย่างแน่นอน ฮ่าห์ๆๆ!! "
โชทาโร่ที่พอได้ยินคำพูดของโทบิที่กำลังพูดถึงอีกบุคคลนึ่งไม่ว่าเขาจะพยายามคิดแค่ไหนก็คิดไม่ออกได้แต่นั่งงงงวยอยู่แบบนั่นในสวนสาธารณะแห่งนึ่งในเมืองแห่งการศึกษา
" ยังมีคนที่อยู่เบื้องหลังนอกจากเจ้านั่นอยู่อีกงั้นเหรอ.....หรือว่าเป็นคนของฟาว์เดชั่นXกันแน่ โธ้ววว เอ้ย!! คิดยังไงก็คิดไม่ออกเลยวุ้ย!! " ขณะที่โชทาโร่กำลังนั่งบ่นกับตัวเองอยู่ก่อนจะลุกขึ้นและกำลังเดินออกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีร่างนึ่งยืนบังทางของเขาอยู่พอโชทาโร่เงยหน้าขึ้นไปก็พบกับหญิงสาวเรือนยาวสลวยพร้อมเสท้อที่บางๆและกางเกงขยาวแนวสตรีทพร้อมส้นสูงยืนอยู่
" เอ้ะ?...ขอโทษนะครับคุณผู้หญิงมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า? "
" ฉันนะกำลังหิวอยู่ "
" หิวเหรอ? "
" นายนะ...คือคนที่จะมาเติมเต็มชั้นงั้นเหรอ? "
" พูดอะไรนะ...ไม่เห็นเข้าใจเลย " โชทาโร่ที่ไม่เข้าใจกับคำถามของอีกฝ่ายก่อนที่ตัวเธอนั่นจะเดินผ่านโชทาโร่ไปโดยที่ไม่ได้ตอบอะไร " เห้...เดียวก่อนเอ้ะ? " โชทาโร่ที่หันไปจะถามแต่ว่าพอหันไปผู้หญิงคนนั้นก็ได้หายตัวไปแล้ว
" หะ...หายไปแล้ว " โชทาโร่ทีกำลังตกใจที่หญิงสาวเมื่อครู่จะหายตัวไปได้รวดเร็วแบบนั้นก่อนที่สแต็กโฟนในกระเป๋าจะดังขึ้นมาทำให้โชทาโร่รับทันที " ฮัลโหล...อากิโกะเหรอ...มีธุระอะไรตอนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่กับเมืองแห่งการศึกษานะ.....เอ้ะ? ผู้ว่าจ้างเหรอจากในเมืองแห่งการศึกษาด้วย? "
ณ สำนักงานจัสเม็นท์ที่ 177
" นี่ค่ะ" โคโนริได้เดินเข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้กับโชทาโร่ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้
" ต้องขอโทษด้วยที่ต้องยืมสถานที่แบบนี้นะโคโนริจัง "
" อ่อ...ไม่หรอกๆๆเชิญคุยงานได้ตามสบายเลยน่า " โคโนริได้กล่าวหลังจากที่เสิร์ฟชาอีกแก้วเสร็จก่อนจะกลับไปที่โต๊ะทำงานตัวเอง
" โห้ววว.....พึ่งจะเคยเห็นมาดนี้ของคุณโชทาโร่เลยนะเนี่ย " ซาเต็นที่ยื่นหน้าออกมามองดูโชทาโร่ที่กำลังทำงานอยู่รวมถึงมิซากะเองก็แอบมองอีกคน
" อื้ม....นั้นสิน่า...ถึงปกติจะเห็นมาดเป็นนักสืบจริงๆก็ตอนนี้แหละ "
" เอิ่ม....คือว่าคุณซาเต็น คุณมิซากะ แอบฟังแบบนี้มันไม่ดีเลยนะคะ " อุยฮารุที่เห็นท่าทางของทั้งสองก็อดพูดไม่ได้ถึงจะพูดไปทั้งสองก็ไม่มีทีท่าจะฟังแม้แต่น้อย
" ดูเหมือนว่าจะพูดอะไรไปพวกเขาคงจะไม่สนใจแล้วละคะ " คุโรโกะที่หันไปมองอย่างเหนื่อยๆ
" แล้ว.....คุณคือผู้ว่างจ้างที่หัวหน้าของผมติดต่อมาบอกใช่มั้ยครับ ไม่ทราบว่าชื่ออะไรเหรอครับ? " โชทาโร่ได้หันกลับมามองไปที่ผู้ว่าจ้างของเขาในเมืองแห่งการศึกษาคนแรกซึ่งเป็นชายตัวทวมๆที่ท่าทางดูเขินอาย
" ส...สึโบะซากิ ชูตะครับ "
" ไม่ทราบว่า....จะให้ช่วยอะไรงั้นเหรอครับ? "
" เอิ่มคือ.....จริงๆแล้ว ยะ....อยากจะให้ช่วย ตามหาแม่มดให้ทีนะครับ! " ชูตะที่จากเขินๆอายๆก็ได้ตะโกนร้องขอออกมาอย่างดังทำให้ทุกคนในห้องต่างหันมาสนใจแต่พอจับจำใจความดีทุกคนก็ได้ยินเป็นเสียงเดียวคำว่า แม่มด
" แม่มด? " ทุกคนล้วนพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันแม้กระทั้งโคโนริเองก็หันมาสนใจ
" อะ...อ่า คือว่าก็จริงอยู่นะครับว่าในเมืองนี้นะเต็มไปด้วยผู้ใช้พลังจิตมากมาย ผมได้ยินมาว่าคุณเน้นรับงานคลี่คายเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ส่วนใหญ่นะครับ "
" อะ...ฮ่าห์ๆๆ ก็ไม่ได้รับอะไรแบบนั้นเป็นพิเศษหรอกนะคับ.....เอาเป็นว่าช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยจะได้มั้ยครับ? "
" คือผมนั่นพึ่งจะเข้ามาทำงานในเมืองนี้ได้ไม่นาน จริงก็ทำงานในบริษัทที่ไม่ได้พิเศษอะไร อยู่แบบใครสั่งงาน อะไรมาก็จะลงมือทำไปวันๆ ในคืนวันนึ่งหลังจากเลิดงงานและส่งเงินให้กับทางบ้านแล้วผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านในตอนนั้นเองครับ ก็ได้เจอกับผู้หญิงคนนึ่ง และเธอก็หันมาพูดกับผมว่า "
( ฉันนะหิวโหยอยู่เสมอนายนะ...คือคนที่จะมาเติมเต็มชั้นงั้นเหรอ? )
" คำพูดแบบนี้มัน...ผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ " โชทาโร่ที่ได้ยินประโยคนั้นก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาแต่ก็เก็บอาการเอาและค่อยฟังชูตะพูดต่อ
" ผมจ้องไปที่เธอคนนั้นเธอช่างเป็นผู้หญิงที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากหน้าปกนิตยสารเลย....ผมเองก็เป็นคนบ้านนอกด้วยเลยพึ่งจะรู้ว่าผู้หญิงในเมืองหลวงเป็นคนที่งดงามขนาดนี้ พอเข้าไปใกล้ๆผมก็เห็นว่าเธอคนนั้นดูหน้าซี้ดๆอยู่นิดหน่อย แถมสีหน้าก็ดูมืดมนอาจจะกำลังหิวอยู่ละมั้ง...หนะครับ ผมเลยคิดว่าจะซื้อของกินให้เธอคนนั้นซักหน่อยแต่แล้ว "
( ขอบคุณสำหรับอาหาร....เพราะงั้นอย่าตามฉันมาดีกว่าก็เพราะว่าชั้นเป็นแม่มดยังไงละ )
" ไม่รู้ว่าเป็นอะไร...แต่รู้อีกทีกระเป๋าผมก็ลอยเข้าไปอยู่ในมือของเธอคนนั้นแล้ว "
" เอ้...หรือว่าจะเป็นโจรวิ่งราวกันนะ? "มิซากะที่แอบฟังอยู่ก็ได้พูดขึ้นมาลอยๆก่อนที่ทางโชทาโร่นั่นจะสอบถามต่อ
" แล้วหลังจกนั้นเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ? "
" ผมก็วิ่งตามไป อย่างลนลานสิครับ คิดอยู่ในใจว่าแย่แล้ว เป็นพวกวิ่งราวเหรอเนี่ย แต่ก็ไล่ตามไม่ทันเลยครับเธอคนนั้นวิ่งด้วยฝีเท้าอย่างแผ่วเบาราวกับก้าวอยู่บนอากาศไม่มีผิด รู้สึกตัวอีกทีผมก็หลงเข้ามาในทางที่ไม่คุ้นเคยส่วนเธอคนนั้นก็หลายลับไปแล้ว หลังจากที่ผมเดินหลงไปมาอยู่นานในที่สุดผมก็เห็นทางแยกที่พอจะคุ้นเคยนั่นก็คือทางแยกทรงตัวTครับ "
" ถ้าจำไม่ผิดน่าจะถนนยูนากิสินะค่ะ....คุณชูตะเนี่ยถือว่าหลงไปไกลน่าดูเลยนะคะ " อุยฮารุที่พอจะรู้จักได้พูโขึ้นมาลอยๆทำเอาชูตะถึงเกาหัวแกเขินอาย
" ก็อย่างว่าแหละนะคะ...ผู้คนที่มาเมืองการศึกษาครั้งแรกบางทีก็อาจจะหลงทางไปบางนะคะ " คุโรโกะที่พูดขึ้นเสริมก็ทำเอาชูตะยิ่งเขินอายกว่าเดิม
" ตะ...แต่ว่าที่น่าแปลกที่สุดคือ.....พอผมหันหลังกลับไปสิ่งอยู่ข้างหลังกลับกลายเป็นกำเเพงตึกไปแล้ว นี่ผม....วิ่งออกมาจากทางตันที่ไม่มีอะไรเลยงั้นเหรอ? " ชูตะที่จากสีหน้าเขินอายก็ได้เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ตกใจจนสุดขีด
" เป็นเรื่องที่สยองขวัญที่พิลึกใช่ย่อย....งั้นสรุปก็คือคำร้องก็คือจับตัวผู้หญิงคนนั้นให้ได้แล้วเอาเงินกลับมางั้นสินะครับ? "
" คะ...ครับ ก็ เอ๋อก็คงอย่างนั้นหละงมั้งครับ....กระเป๋าใบนั้นเป็นของที่สำคัญมากที่ครอบครัวให้มาก่อนจะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย "
" เอ้...เดียวก่อนนะจะบอกว่ากระเป๋าสำคัญกว่าเงินงั้นเหรอคะ? " มิซากะที่ขี้เกียจจะแอบฟังแล้วได้เดินตรงเข้าไปถามกับชูตะตรงๆทำเอาเจ้าตัวพูดไม่เป็นประโยค
" ครับ...อ่า....ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ "
" เห้อ....พูดไม่เก่งเลยน่า คุณชูตะผมสงสัยอยู่นิดนึง...เงินที่อยู่ในกระเป๋านั่นรวมๆแล้วมีมูลค่าเท่าไรเหรอครับ? "
" เอิ่ม....ก็ประมาณราวๆ 2แสน8ครับ "
" หื้มม...เงินก็ไม่ใช่น้อยๆแต่เงินที่ต้องจ้างนักสืยอย่างผมก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกันสำหรับคุณแล้วมาจ้างเราแบบนี้มันจะยิ่งเสียเงินหนักเข้าไปใหญ่ไม่ใช่เรอะ? ถ้าอยากได้เงินกลับมาคนปกติของเมืองนี้น่าจะแจ้งจัสเม็นท์ไม่ก็แอนตี้สกิลกันไม่ใช่เหรอ? " โชทาโร่ที่ยิงคำพูดมากมายเข้าใส่ชูตะที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าแดงแจ้พร้อมพูดไม่เป็นประโยคสักนิด
" คือว่า....เอิ่ม...แบบว่า "
" สรุปง่ายๆเลยก็.... " โชทาโร่ได้ลุกเข้าไปนั่งข้างๆของชูตะพร้อมเอาแขนโอบไหล่ชูตะเบาๆ " เรื่องเงินนั่นช่างมันแค่อยากจะเจอกับผู้คนนั้นอีกครั้ง นั่นคือเหตุผลที่ว่าจ้างใช่มั้ยละครับ "
" เอ๋!!! " ทุกคนล้วนตะโกนร้องออกมาพร้อมกันทุกคนก็ต่างใบหน้าเป็นสีแดงเมื่อได้ยินจากปากของโ๙ทาโณ่
" คะ...ครับเป็นอย่างที่คุณนักสืยพูด....คือออกจะน่าอายอยู่....แต่ผมคือ...แค่แรกพบสบตาผมก็ถูกเธอแย่งหัวใจไปซะแล้ว "
" เป็นคนที่ตกหลุมรักคนง่ายเกินไปมั้ยนะ? "
" ต๊าย...นี้บางทีอาจจะเป็นโชคชะตาสินะคะ ช่างเป็นความรักที่พิศวงจริงๆตกหลุมรักแรกพบกับผู้หญิงที่ลักทรัพท์แบบนี้ ช่างโรแมนติก!! อะไรแบบนี้" คุโรโกะที่พอได้ยินเกี่ยวกับความรักก็พูดพร่ามออกมาไม่หยุดหย่อน
" อ่าาา....จะว่าไงดีจะบอกว่าโรแมนติกมันก็แปลกๆอยู่มั้ง? "
" นั้นสินะคะ "
" ผม...เพิ่งจะเคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิง...เป็นครั้งแรกเลยครับถ้าได้กระเป๋าคืนก็จะดีมากครับแต่ถ้าทำได้ก็อยากจะเจอกับเธอคนนั้นอีกครั้งอยากจะบอกให้เธอคนนั้นเลิกทำตัวเป็นชโฒยขโจรซะ รู้สึกแบบนั้นมากกว่าก็เลยไม่กล้าพอจะไปปรึกษากับแอนตี้สกิลหรือจัสเม็นท์หรอกครับ "
" อะ...แฮ่ม...อย่าลืมนะคะว่าที่นี่เองก็เป็นสำนักงานจัสเม็นท์นะ " โคโนริได้พูโขึ้นมาลอยๆก็ทำให้ชูตะที่พึ่งรู้สึกตัวก็หน้าแดงเขินอายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี
" คะ...คือว่าไม่ได้งั้นเหรอครับ? มันไม่สมควรงั้นเหรอครบั คำร้องของผมนะ "
" ผู้ว่าจ้างแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น....ถ้ามัวมาสนเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่ก็เป็นนักสืยไม่ได้นั่นคือคำพูดของคนที่ผมนั่นเคารพรักมาก " โชทาโร่ได้ตบไหลชูตะเบาๆก่อนจะลุกขึ้นและเดินก้าวออก3-4ก้าวและหันกลับมา " หากไม่มีนักสืบงั้นใครจะเป็นคนรับฟังความรู้สึกเล็กๆนั่นที่ไม่สามารถบอกกับคนอื่นได้ให้ใครได้รับฟังกัน "
" คะ....คุณนักสืบ! " ชูตะที่ได้ยินแบบนั้นก็แทบยิ้มออกมาในทันที
" ว้าวววว.....เท่ห์สุดๆไปเลยละคะ "
" เห้....พูดเท่ห์แบบนี้เป็นด้วยเหรอเนี่ย "
" เพราะงั้นงานตามหาแม่มดนี้ ขอรับไว้ด้วยความยินดี "
หลังจากที่โชทาโร่ได้รับเรื่องเอาไว้ชูตะก็ได้ออกจากสำนักงานไปโดยที่เขานั่นได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่เขานั่นได้เคยเจอกับแม่มดมาก่อนให้ทุกคนได้รับฟัง
" เอ้....คุณโชทาโร่เคยเจอกับแม่มดมาก่อนงั้นเหรอคะ? " ซาเต็นที่พอได้ฟังก็ถึงกับตะโกนถามออกมาจนดังลั่นทั่วห้อว
" อ่า.....ต้องเป็นผู้หญิงในตอนนั้นไม่ผิดแน่ " โชทาโร่ได้ตอบก่อนจะยกกาแฟขึ้นจิบเบาๆ
" เห้....คุณโชทาโร่เนี่ยก็เกือบตกเป็นเหยื่อไปอีกคนเหรอเนี่ย แต่ก็น๊าาเห็นแวบเดียวก็คงดูออกว่าไส้แห้งนะคะ " คุโรโกะที่พูดนินทาใส่จนโชทาโร่ที่ดื่มกาแฟอยู่นั้นได้สำลักพุ้งออกมาจากปากจนไอออกมา
" พรวด!? อัก..แค่กๆ ใช่สะที่ไหนกันเล่า!? อะ..แฮ่มแต่ยังไงก็เถอะในเมื่อฉันเห็นหน้ามาก่อนแล้วคงจะจับตวได้อย่างแน่นอนนั่นแหละ "
" น่าสนใจนิน่า...ชักตื่นเต้นขึ้นมาแล้วสิ " ฟิลิปได้เดินออกมาจากห้องพร้อมในมือถือหนังสือเอาไว้ " คดีที่พิศวงน่าขนลุกแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆสะด้วย "
" อ่า....ไม่หรอกไม่จำเป็นต้องใช้พลังของนายหรอกนะคู่หู "
" จะรีบด่วนสรุปยังเร็วไปนะโชทาโร่ ที่ผมสนใจอยู่คือทีท่าของนายต่างหากละ "
" เอ้? "
" แม่มดผู้งดงามระดับที่ช่วงิชงหัวใจของชายหนุ่มได้อย่างพริบตา....คิดยังไงก็เป็นแนวที่นายแพ้ทางชัดๆ เดี๋ยวคงต้องร้องไห้กลัยมาอีกแน่ๆพอคิดแล้วมันก็น่าตื่นเต้นจนตัวสั่นเลยละ "
" ว่าไงน้า!? "
" อื้มๆๆ " พวกมิซากะเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งทีฟิลิปได้พูดออกมาอย่างพร้อมเพรียง
" พวกเธอเองก็ด้วยเหรอ!? " โชทาโร่ที่ตอนนี้่ถูกรุมอยู่ฝ่ายเดียวก็ทำได้แต่ดิ้นรนไปมาเท่านั้นก่อนที่ฟิลิปจะพูดขึ้นมาอีกอย่าง
" ที่สำคัญปรากฎการณ์ประหลาดพิลึกพิลั่นที่สึโบะซากิ ชูตะได้เล่าให้ฟังนั่นนายเองก็น่าจะสัมผัสมากับตัวแล้วนิน่า "
" อะ...จะว่าไปตอนที่เจอกันเธอคนนั้นก็หายไปในแทบทันที "
" เอ้ะ? หายตัวไปเหรอ? "
" หรือว่าจะเป็นคนที่มีพลังเทเลพอร์ตเตอร์แบบเดียวกับคุณชิราอินะ? "
" ฮึ...จะยังไงก็ช่าง ถ้าใครที่จะทำให้ฉันหลงได้ก็อยากจะเจอหน้าแบบสุดๆไปเลย เดียวจะจับตัวกลับมาในพริบตาให้เห็นเลยค่อยดู " โชทาโร่ได้ลุกขึ้นและเดินไปหยิบหมวกกันน็อคที่วางอยู่มาก่อนจะหันไปหาอุยฮารุ " จริงด้วยอุยฮารุช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนยูนากิที่สิ "
" อะ...ค่ะ "
" ซาเต็น...เธอชอบเสพเรื่องราวตำนานเมืองใช่มั้ย.....ฝากเช็ครายละเอียดของแม่มดให้ที่สิ "
" เอ้ะ....ให้ฉันรวมสืบคดีด้วยเหรอเนี่ย....ว้าวน่าตื่นเต้นจังไว้ใจได้เลยคะ "
" จริงๆแล้วเรื่องแบบนี้ดิฉันที่เป็นจัสเม็นท์เองก็คงต้องขอรวมด้วยละคะ " คุโรโกะที่เสนอขึ้นมาก่อนจะเดินออกมา
" ถ้างั้นพวกเราก็ไปกันเถอะเนอะ " มิซากะที่จู่ๆก็พูดขึ้นมาดื้อก่อนจะเดินไปที่ประตู
" อะ...แฮ่มท่านพี่ค่ะ....คิดจะไปไหนเหรอคะ "
" เอิ่ม...ก็แบบว่าช่วยสืบสวนคดียังไงละ "
" ฮึ่ม....ให้ตายสิคะต่อให้ห้ามยังไงก็คงไม่ฟังสินะคะ....ช่วยไม่ได้นะคะ "
" โอ้วววว.....เอาคุณโชทาโร่พวกเราไปกันเถอะคะ " มิซากะที่พอเห็นว่าคุโรโกะไฟเขียวก็รีบดันโชทาโร่ออกจากห้องไปก่อนที่คุโรโกะจะเดินตามออกไป
" ฮิฮิ.....นานๆที่พวกเราก็ทำเป็นนักสืบบางก็ดีเหมือนกันน่า " โคโนริที่เห็นแบบนั่นก็ยิ้มออกมา
ด้านของโชทาโร่กับมิซากะและคุโรโกะได้ออกตามหาเบาะแสต่างเกี่ยวกับแม่มดและผู้คนที่เคยพบเห็นแต่ผลลัพธ์ก็ออกมาในเชิงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเพราะไม่ว่าจะสอบถามทั้งนักเรียนหรือคนอื่นๆต่างก็ไม่รู้เรื่องแม้แต่คนเดียวจนกระทั้ง
" ค่ะ....ทราบแล้วคะ...พวกดิฉันจะลองไปตรวจสอบดูนะคะ " คุโรโกะที่ได้รับการติดต่อมาจากที่สำนักงานว่ามีสถานที่นึ่งที่มีคนอ้างว่าพบตัวแม่มดเมื่อไม่กี่วันก่อนพอทั้งสามคนได้มายังที่ทีคาดว่าแม่มดได้ปรากฎตัวออกมาเป็นซอยแคบๆที่ดูโล่งไม่มีแต่เสียงของนกหรืออะไร
" อื้ม....เป็นที่ทีเหมาะสำหรับวิ่งราวเลยนะเนี่ย ไม่มีทั้งกล้องวงจรปิดหรือหุ่ยนต์รักษาความปลอดภัยแลยแม้แต่นิดเดียว " มิซากะที่มองดูรอบๆที่ดูเงียบเฉียบอย่างที่ตาเห็น
" รู้สึกว่าคุณซาเต็นได้บอกมาว่าในเน็ตได้แชร์เรื่องราวที่เจอตัวกับแม่มดลงบล็อกที่เพิ่งดังขึ้นนมาไม่นานผู้หญิงจะถูกแย่งเสื้อผ้าส่วนผู้ชายถูกขโมยเงิน ถึงจะไล่ตามยังไงก็ไม่มีทางจับตัวได้จนรู้สึกตัวอีกทีก็โผล่มาอยู่ที่ทางแยกตัวTของถนนยูนากิจนได้ชื่อว่า แม่มดทางแยกตัวT "
" แม่มดแห่งทางแยกตัว Tเหรอ? ยิ่งฟังดูยิ่งพิลึกชะมัด เสื้อที่สุดแสนจะกระชากใจนั่นก็เป็นของที่ขโมยมางั้นเหรอเนี่ย "
" ที่นี่คือสถานที่เกิดเหตุ ตามข้อมูลที่อุยฮารุเช็คจากกล้องวงจรปิดมีผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงนึ่งคนถูกขโมยเสื้อไปแถวๆนี้ระหว่างทางกลับบ้าน " ระหว่างที่คุโรโกะกำลังอธิบายนั้นเธอก็ได้หันไปเห็นโชทาโร่ที่ยืนนิ่งไม่ขยับ " เป็นอะไรเหรอคะ? "
" คุณโชทาโร่มีอะไรงั้นเหรอ? " มิซากะได้เดินเข้าหาก่อนจะเห็นโชทาโร่ที่มองตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ละสายตามิซากะจึงหันตามไปก่อนที่คุโรโกะจะเดินหันมามองตามก็พบตัวผู้หญิงคนนึ่งที่ยืนอยู่เสาไฟที่มีแสงสาดส่องลงมา
" ผู้หญิงคนนั้นหรือว่าจะเป็น แม่มดนะ " พอคุโรโกะพูดขึ้นผู้หญิงคนนั้นก็ได้วิ่งออกไปทันทีก่อนท่โชาทาโร่จะวิ่งไล่ตามไป
" คุโรโกะ พวกเราเองก็ไปกันเถอะ " มิซากะได้วิ่งตามไปก่อนที่คุโรโกะจะเทเลพอร์ตไล่ตาม
ผู้หญิงคนนั้นที่วิ่งกระโดดเกาะสิ่งกีดขว้างไปมาอย่างกับกำลังวิ่งอยู่บนอากาศจนเข้ามาอยู่ในตรอกซอยนึ่งซึ่งโชทาโร่และมิซากะที่กำลังวิ่งตามไปแต่ไม่ว่าจะวิ่งไปยังไงก็แทบไล่ตามไม่ทันเลย
" โธ่เอ๋ย...เร็วไปไหนกันเนี่ย "
" ถ้างั้น...เจอนี้หน่อย!? " มิซากะได้ยิงกระแสไฟฟ้าเข้าใส่แต่ผู้หญิงคนนั้นกับกระโดดหลบกระแสไฟฟ้านั่นได้อย่างง่ายจนทำให้เธอนั่นตกใจ " โกหกน่า? "
ผู้หญิงคนนั้นที่วิ่งเลี้ยวเขาตรอกข้างหน้าแต่เธอก็หยุดชะงักเมื่อคุโรโกะที่ได้เทเลพอร์ตมาดักหน้าเอาไว้พร้อมแสดงปลอกแขนจัสเม็นท์ให้เห็น
" จัสเม็นท์ค่ะ....กรุณามอบตัวในข้อหาปล้นชิงทรัพย์ "
" คราวนี้ไม่ปล่อยให้หนีได้หรอกเลดี้ "
" คุณนักสืบถึงขั้นขอความช่วยเหลือจากนักเรียนแบบนี้ไม่อายบางรึไง "
" โห้วว....ยังจำกันได้แบบนี้เป็นเกียรติจริงแต่ว่านะ....เธอคือโจรวิ่งราวที่ถูกเรียกขานว่าแม่มดแห่งทางแยกตัวTสินะ "
" ถูกเรียกอะไรแบบนั่นไม่รู้เรื่องหรอกแต่ที่เรียกว่าแม่มดนี่ก็ไม่ผิดซะทีเดียว "
" ชั้นฮิดาริ โชทาโร่เป็นนักสืบเอกชนแล้วเธอละ "
" โทคิเมะ "
" โทคิเมะ....แล้วนามสกุลละ "
" ไม่มี....เป็นนักสืบก็สืบหาเอาเองสิ "
" จะยังไงก็ช่างเถอะคะ.....เอแาเป็นว่ายอมจับกลุ่มสะดีๆเถอะคะผู้เสียหายคนนึ่งเป็นห่วงและหวังดีกับคุณอยู่นะคะ " คุโรโกะได้เดินตรงเข้าไปหาโทคิเมะก่อนจะหยิบกุญแจมือขึ้นมา " กรุณาส่งขอที่คุณขโมยคืนมาแล้วไปพบหน้ากับเขาคนนั้นด้วยเถอะคะ...จะได้ผ่อนจากหนักเป็นเบานะคะ "
โทคิเมะได้หันมาก่อนจะจับมือของคุโรโกะเอาไว้แลหะเหวี่ยงร่างของเธอทุ่มลงกับพื้นเต็มแรง
" คุโรโกะ! "มิซากะที่เห็นว่าคุโรโกะโดนทำลายกำลังจะยิงกระแสไฟฟ้าเข้าใส่แต่ก่อนจะยิงโทคิเมะก็ได้ปรากฎตัวมายืนอยู่ข้างเธอแล้ว
" ช้าเกินไปนะ....เรลกันแห่งโทคิวะได "
" ไม่จริงน่า...อัก! " มิซากะได้หันไปก่อนจะถูกโทคิเมะเตะอัดเข้าที่ท้องจนร่างกระเด็นอัดกับกำเเพงตึกข้างๆ
" มิซากะ..... "
" นายเนี่ยไม่ได้ความเลยน่า คุณนักสืบ " โทคิเมะได้พุ้งเข้ามาจากด้านข้างก่อนจะเตะใส่แต่โชทาโร่ได้ยกแขนป้องกันเอาไว้ได้ก่อน
" หยุดเถอะ...ก่อนที่มันจะหนักไปมากกว่านี้เลย? "
" นาย....น่ารักจังน่าแต่ก็ดูไร้ค่า....ไม่ใช่คนที่จะมาเติมเต็มชั้นได้เลยสักนิด " โทคิเมะที่พูดจี้ใจดำใส่โชทาโร่จนเผลอก่อนจะแทงเข่าอัดเข้าที่ระหว่างขาของโชทาโร่เข้าเต็มจนโดนจุดที่เป็นลูกผู้ชายจังๆทำให้เกิดอาการจุกจนแทบล้ม
" อ่อก....โอ้...โห้วววเล่นทีเผลอนิน่า "
" แสบหนักนะ.....ไม่ยอมให้หนีหรอก " มิซากะได้ลุกขึ้นได้ยิงกระแสไฟฟ้าเข้าใส่โทคิมเะอีกครั้งแต่เจ้าตัวก็สามารถหลบได้อย่างง่ายดายเหมือนวิ่งบนกลางอากาศ " อีกแล้วงั้นเหรอ? "
" พลังของเธอยิงชั้นไม่โดนหรอกนะ " โทคิเมะได้หันไปพูดก่อนที่คุโรโกะจะเทเลพอร์ตมาดักหน้าเธอกลางอากาศ
" เปล่าประโยชน์คะ....คุณไม่มีทางหนีจากฉันที่เป็นเทเลพอร์ตเตอร์ได้หรอกคะ " คุโรโกะได้เทเลพอร์ตตะปูในมือของเธอพุ้งเข้าใส่โทคิเมะอย่างกระชันชิด
" คิดงั้นเหรอ....สาวน้อย " โทคิเมะได้ใช้มือเปล่ารับตะปูของคุโรโกะเอาไว้ก่อนจะเขวี้ยงกลับคุโรโกะจำใจต้องเทเลพอร์ตลงมาอยู่ที่พื้นเพื่อหลบการโจมตี " ที่แห่งนี้....ไม่ใช่เมืองของพวกนายอีกแล้วละ "
สิ้นเสียงโทคิเมะโ๙ทาโณ่ที่หายจากอาการจุกค่อยๆยันตัวลุกขึ้นกวาดสายตามองรอบกลายเป็นว่าเป็นตรอกที่เขานั่นไม่คุ่นเคยแม้แต่มิซากะกับคุโรโกะเองก็เหมือนกัน
" บ้านะ....เรื่องแบบบนี้...เป็นไปไม่ได้ "
" เห้...รอก่อน...เดี๋ยวสิ!! " โชทาโณ่ที่ตั้งสติและพยายามวิ่งไล่โทคิเมะต่อซึ่งทางพวกมิซากะเองก็ไล่ตามมาจนทั้งสามที่เห็นปลายทาง
แต่พอวิ่งตามออกไปก็เห็นเงาบางอย่างที่อยู่ตรงหน้าโชทาโร่ได้วิ่งพุ้งออกไปปรากฎว่าเป็นประตูประตูได้เปิดออกพร้อมร่างของโชทาโร่ที่ล้มหน้าขม้ำพร้อมลงบนพื้นถนนก่อนที่มิซากะและคุโรโกะที่ล้มทับอีก
" โอ้ย...เจ็บๆๆๆ "
" นี่มัน....ทางแยกตัวTถนนยูนากินิน่า "
" เมื่อกี้พวกเรายังอยู่ในตรอกซอยอยู่เลยนิน่า " มิซากะที่ยังคงงงอยู่ก่อนจะหันกลับไปปรากฎว่าเป็นตึกร้างที่อยู่ทางที่พวกเธอได้วิ่งออกมา แต่ในระหว่างที่พวกเธอกำลังตกใจอยู่นั่นมือถือของคุโรโกะได้ดังขึ้นเธอจึงหยิบขึ้นมารับ
" ฮัลโหลคะ.....รุ่นพี่โคโนริมีอะไรงั้นเหรอคะ? "
" อ่า....พอดีว่าทางนี้ได้ลอสอบถามเกี่ยวกับตัวจริงของแม่มดจากทางแอนตี้สกิลแล้ว.....ดูเหมือนว่าจะคดีในคราวนี้คงจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วละ "
" หมายความว่าไงนะคะ "
" ก็เพราะว่า....มีคนตายในคดีนี้อยู่นะสิ " คุโรโกะที่พอได้ยินแบบนั้นก็นิ่งไปมิซากะที่เห็นสีหน้าของคุโรโกะแปลกไปก็ได้หันไปทัก
" คุโรโกะมีอะไรงั้นเหรอ? "
" เอิ่ม.....คือว่า "
วันรุ่งขึ้น ณ ร้านคาเฟ่แห่งนึ่ง
" ฆ....ฆาตรกร เหรอครับ? " ชูตะที่พอได้ยินโชทาโร่บอกว่าโทคิเมะหรือแม่มดที่เขาตามหานั่นเป็นฆาตรกรก็ทำเอาชูตะนั่นที่ตอนนี้เต็มไปดว้ยสีหน้าตกใจอย่างมาก
" จากข้อมูลทางแอนตี้สกิลพบได้หามา....ดูเหมือนว่าระยัพักนี้นั่นได้รับรายงานว่าพบชิ้นส่วนมนุษย์หลายต่อหลายครั้งอยู่ที่ทางแยกตัวT "
" เธอคนนั้น...ไม่ได้แค่ลักขโมยแต่ถึงกับพรากชีวิตคนเลยอย่างนั้นเหรอ "
" ชื่อของผู้หญิงคนนั้นคือ โทคิเมะ ที่พวกเรารู้ก็มีแค่นั้นแหละ...จะเอายังไงดีละครับคุณชูตะ ถ้าอีกฝ่ายเป็นถึงฆาตกรจริงๆ เธอคนนั้นก็เป็นเป้าหมายของแอนตี้สกิลโดยสมบรูณ์ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้น....และจะตาามมาเหมือนกันน่า"
" ถึงอย่างนั้น....แต่ผมก็ยังอยากจะเจอกับเธออีกครั้งเพราะงั้น ขอร้องละครับ "
" เห้อ....ช่วยไม่ได้ละน่า...ก็อย่างที่ว่านั้นแหละคุโรโกะ " มิซากะที่ได้ยินแบบนั้นก่อนจะหันไปพูดกับคุโรโกะที่นั่งอยู่ข้างๆ
" ค่าๆๆ.....เข้าใจแล้วคะ ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็็นความลับเองคะ "
" เอิ่มคือว่า ครั้งต่อไปถ้าเกิดจะเจอกับเธอคนนั้นแล้วช่วยติดต่อหาผมทันทีเลย ได้มั้ยครับ "
" เอ้ะ....แบบนั้นมันออกจะอันตรายนะครับอีกฝ่ายจะเป็นฆาตกรจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ "
" แตืทั้งๆที่คุณโชทาโร่ห่าตัวคุณโทคิเมะเจอแล้วกลับปล่อยให้เค้าหนีไปได้ไม่ใช่เหรอครับ " ชูตะที่พูดแทงใจดำใส่จนโชทาโร่ถึงกับหน้าถอดสีคกตกไป
" อุ้ก!? ก็...นะ "
" แต่ว่า...ไม่ว่ายังไงมันก็อันตรายนะคะ "
" ถ้าจะโน้มนาวเต้าคนนั้นได้ก็มีโอกาสแค่ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายไม่ใช่เหรอครับ? ทั้งแอนตี้สกิลกำลังตามล่าเค้าอยู่ด้วย ถ้าจะขอร้องให้ยอมมอบตัวก็ต้องทำก่อนที่จะถูกจับใช่มั้ยละครับ " ชูตะที่ยิงคำพูดใส่รั่วจนทำเอาโชทาโร่ที่ได้แต่นั่งฟังอยู่อย่างเดียวหน้าเสียก่อนที่จะโดนมากกว่านี้ก็ได้มีระฆังช่วยชีวิตดังขึ้นพอดีโชทาโร่จึงรีบหยิบแสต็กโฟนขึ้นมารับสายทันที
" ฮัลโหลฟิลิป "
" ขอทายนะโชทาโร่ ตอนนี้นายกำลังถูกด่าเพราะพลาดทำให้ผู้หญิงหนีไปได้ความเชื่อใจของผู้ว่าจ้างก็เริ่มจะหายฮวบสินะ "
" อุ๊ก....นะ...หนวกหูน่าว่าแต่ได้เรื่องอะไรบางมั้ย "
" เท่าที่สืบค้นมาแล้วบวกกับข้อมูลของทางด้านแอนตี้สกิลกับจัสเม็นท์ว่าผู้หญิงที่ชื่อโทคิเมะนั่นไม่ปกติแน่ๆ "
" จะบอกว่ายัยนั่นใช้ไกอาเมมโมรี่ "
" เมมโมรี่? "
" เอาเป็นว่าให้ชั้นจัดการเองสักหน่อยก็แล้วกันนะ....เพราะว่าฉันรู้สึกติดใจอะไรบางอย่างกับผู้หญิงคนนั้น "
" เฮ้อ....คงไม่ใช่ว่าไปหลงกลิ่นเย้ายวยของเธอคนนั้นเข้าหรอกนะ "
" กลิ่นเย้าย่วนเหรอ.....จริงด้วย " โชทาโร่ที่เหมือนจะเจอคีย์เวิร์ดบางอย่างที่จะตามตัวโทคิเมะได้ " กลิ่นเย้าย่วน....ของแม่มดจริงด้วย "
วันต่อมาณ สวนแห่งการศึกษากลางลานน้ำพุได้มีร่างนึ่งที่กำลังอาบชำระล้างกายอย่างเพลิดเพลินพร้อมแสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นวันใหม่โดยที่โทคิเมะนั้นกำลังอาบน้ำกับน้ำพุอยู่นั่นเธอได้หันไปก็พบโชทาโร่ที่เอาหมวกลงปิดสายตาพร้อมชูตะที่หน้าแดงเขินอายก้มมองพื้นและข้างๆก็มีมิซากะและคุโรโกะที่ยืนอยู่ด้วย
" ถึงแม้จะเป็นโจรวิ่งราวแต่จะให้ลืมตามองดูสภาพเลดี้แบบนั้นไม่ได้หรอก "
" ทำไมถึงรู้ละ? "โทคิเมะได้เดินออกมาจากลานน้ำพุเดินตรงเข้าไปหยิบชุดของเธอมาสวมก่อนที่คุโรโกะจะตอบแทน
"พวกเราได้ลองตรวจสอบแล้วค่ะว่าคุณนะไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ถึงอย่างนั่นตัวของคุณกลับสะอาดเกิดนกว่าจะอาศัยอยู่ในเขตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสกิลเอาท์เลอะเทอะพวกนั้น "
" โห้ววว แล้วไงต่อ "
" ในตอนที่ถูกตัวเธอนั่นก็ได้กลิ่นขางๆสมกับเป็นสตรีอยู่ พอลองไปสอบถามที่โรงอาบน้ำทั้งหมดในเมืองแห่งการศึกษาไม่ได้อะไร....ก็เลยตั้งสมมุติฐานดูว่ามีที่ไหนที่เหมาะเจาะกับการชำระล้างแบบฟรีๆบาง และยิ่งเป็นเธอที่สามารถเคลื่อนไหวพริวไหวที่สามารถหลบหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยได้จะมาที่นี้ได้ก็ไม่แปลก "
" สมแล้วที่เป็นนักสืบสุดยอดไปเลยนิ "
" ก็งานตามหาเป็นงานถนัดของฉันนิน่า.....เธอนะยังจำผู้ชายคนนี้ได้รึเปล่า? " โ๙ทาโณ่ที่พูโไปก่อนจะดันชูตะที่ตอนนี้ก้มหน้าเขินอายจนหน้าแดงไปหมด
" อ่อ....จำได้สิเค้าเป็นคนดีนะ "
" อย่มากลบเกลื่อนดีกว่าน่า กระเป๋าเกับเงินนั่นที่เธอขโมยไปอยู่ที่ไหน....ถ้าขัดขืนละก็คราวนี้จะช็อตให้ไหม้เกลียมเลยค่อยดู " มิซากะได้ยกมือขึ้นก่อนจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาเบาบางเป็นการขู่
" ถ้ากระเป๋าละก็ยังอยู่แถมเงินก็ใช้ไปนิดหน่อยเท่านั้น "
" ถ้างั้นกรุณาคืนมาด้วยค่ะ...แล้วก็ช่ว.... "
" คุณโทคิเมะครับ! ช่วยฟังที่ผมจะพูดทีเถอะครับ " ชูตะที่จู่ๆได้ตะโกนขึ้นมาทำเอาขัดจังหวะจนกลบคุโรโกะไปหมด " เรื่องเงินนั่นนะผมไม่สนหรอกแต่ว่าแค่ช่วยคืนกระเป๋ากลับมาให้ก็พอแล้วเลิดวิ่งราวทีเถอะครับ "
โทคิเมะที่ดูทีท่าไม่ได้ฟังชูตะแม้แต่น้อยและกำลังใส่กางเกงอยู่นั่นจู่ๆเธอได้แสดงอาการแลปกขึ้นมาและจังหวะนั่นเองโชทาโณ่ได้สังเกตุเห็นไกอาเมมโมรี่ที่เหน็บอยู่ที่กางเกงในของเธอ
" เป็นอะไรไปนะ? " โชทาโร่ได้ถามออกไปแต่ใจนึ่งก็สงสัยกับอาการของโทคิเมะแต่อีกใจก็สนใจไกอาเมมโมรี่เช่่นกันแต่ว่าโทคิเมะได้เอาเสื้อปิดเอาไว้ก่อนไ
" ไว้ค่อยคุยกันต่อคราวหลังนะ แล้วก็ตัดใจจากกระเป๋าซะเถอะ มันไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว "
" เดี๋ยวก่อนสิ "
" คะ...คุณโทคิเมะ "
" คราวหนีไม่ยอมให้หนีไปได้หรอกคะ "
พวกโ๙ทาโณ่ที่ได้ไล่ตามโทคิเมะมาจนเข้ามาที่ตรอกซอยที่ไม่ค้นเคยเหมือนเดิมยิ่งวิ่งไปเท่าไรก็เหมือนว่าตัวโทคิเมะนั่นออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
" ทะ....ทุกคนครับรอเดี๋ยว...แฮ่ก...แฮ่ก "
" หายไปอีกแล้ว " โชทาโร่ที่พอวิ่งเลี้ยวขวาตามก็กลายเป็นว่าพวกเธอได้หลงเข้ามาในซอยที่ไม่คุ้นเคยอีกครั้ง
" บ้าน่า....อีกแล้วเหรอเนี่ย...จะหลงทางบ่อยเกินไปแล้วนะ " มิซากะที่เริ่มหงุดหงิดก็ได้บ่นออกมาก่อนที่ชูตะที่วิ่งลั่งมท้ายตามมาจนถึงตัว
" ทะ...ทุกคนครับรอเดี๋ยวก่อน...แฮ่ก...แฮ่ก...มันแปลกเมืองนี้แปลกๆนะครับ "
โชทาโร่ มิซากะและคุโรโกะที่ได้ยินแบบนั้นก็กวาดสายตามองไปรอบตัวที่เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในเมืองแห่งการศึกษาและพื้นที่เป็นสีดำก่อนที่พวกเขาทั้ง4จะมาอยู่ใจกลางเมืองที่ร้างแปลกๆ
" ไม่จริงน่า...ที่นี่ไม่ใช่เมืองแห่งการศึกษาที่พวกเรารู้จักแล้ว? "
" มิซากะ คุโรโกะค่อยดูแลคุณชูตะด้วย..... " โชทาโร่ที่เหมือนจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างก่อนที่จะมีการโจมตีนึ่งพุ้งเข้ามาแต่ด้วยไหวพริบของพวกเขาทำให้ทั้ง4หลบการโจมตีมาได้อย่างฉิวเฉียด
" ท่านพี่ไม่เป็นอะไรนะคะ "
" อะ...อ่า..คุณชูตะละคะ "
" คะ...ครับผมปลอดภัยดี "
" อึก....การโจมตีแบบนี้มันอะไรกันนะ " โชทาโร่ที่มองดูที่หลังมือซ้ายที่รอยแผลก่อนจะมองไปที่พื้นที่มีร่องลอยคล้ายกับเรลกันที่ยิงออกมา " ทุกคน วิ่งสุดแรงเกิดเลยเร็วเข้า! "
โชทาโร่ได้ตะโกนขึ้นมาก่อนที่การโจมตีปริศนาจะพุ้งเข้ามาอีกครั้งทำให้ทั้ง4ต้องวิ่งหลบไปมา
" คุโรโกะ...รีบพาคุณชูตะหนีไปเร็วเข้า "
" รับทราบแล้วค่ะ " คุโรโกะได้วิ่งเข้าไปหาชูตะก่อนจะแตะตัวและเธอกับชูตะได้เทเลพอร์ตหายไปเหลือเพียงแค่โชทาโร่กับมิซากะที่ค่อยวิ่งหลบการโจมตีอยู่แบบนั้น
" วิ่งแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ไม่มีทางจบนะสิ "
" ถ้างั้นก็เลิกหนีซะ " มิซากะได้หันไปก่อนจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาจากร่างป้องกันการโจมตีที่พุ้งเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าจะหยุด
" โธ่เอ๋ย!....แบบนี้ก็หาตำแหน่งศัตรูไม่ได้นะสิ "
" ถ้าหากสัมผัสถูกตัวมันได้ละก็..... " โชทาโร่ได้มองดูการโจมตีปริศานาที่ยังคงโจมตีเข้ามาอยู่นั่นได้ลุกขึ้นแล้วหยิบดับเบิ้ลไดรฟเวอร์ขึ้นมาสวมทันทีแต่ก่อนที่จะแปลงร่างการโจมตีก็ได้หยุดไปดื้อๆ " การโจมตีหยุดแล้วงั้นเหรอ? "
" คงไม่คิดว่าฉันจะป้องกันการโจมตีได้ละสิ "
" ท่านพี่ค่ะ ปลอดภัยดีมั้ยคะ " คุโรโกะได้เทเลพอร์ตกลับมาพร้อมกับชูตะที่ยังคงตกใจกับการเทเลพอร์ตอยู่
" หะ....เห้ย!! " ชูตะที่ได้เงยหน้าขึ้นไปก็ร้องตกใจขึ้นมาทำให้พวกโชทาโร่เงยตามไปก็พบร่างของโทคิเมะที่ลอยอยู่บนอากาศ
" โทคิเมะ "
" เลิกไล่ตามฉันซะดีกว่าน่า.....คุณนักสืบและจัสเม็นท์ทั้งหลาย ถ้าไม่อยากให้ร่างถูกฉีกเป็นชิ้นๆละก็ " โทคิเมะที่พูดพร้อมร่างที่ค่อยๆจมหายเข้าไปในกำเเพง
" หายไปในกำเเพงแล้ว "
" ดูเหมือนว่าพวกเราจะกลับมาที่ถนนยูนากิอีกครั้งแล้วละคะ "
" โทคิเมะ....เธอเป็นใครกันแน่ "
หลังจากที่โชทาโร่กลับมาที่สำนักงานจัสเม็นท์สาขาที่ 177 ซาเต็นที่กำลังทำแผลที่มือของโ๙ทาโณ่อยู่นั่นจู่ชูตะก็ได้พูดขึ้นมา
" ผะ....ผมไม่เอาแล้วละครับ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่มีจนถึงปัจจุบันผมจะมาจ่ายให้ทีหลังนะครับ...เพราะงั้นผมขอตัว " ชูตะได้พูดจบและกำลังจะเดินออกมาจากห้องไปแต่โชทาโร่ได้รีบลุกเข้าไปขับชูตะเอาไว้ก่อน
" เดี๋ยวก่อน ขอเวลาผมอีกสักนิดได้มั้ยครับ.....ผมจะสร้างบทสรุปที่คุณต้องการให้ได้อย่างแน่นอน " โชทาโร่ที่พยายามพูดให้ชูตะนั่นไม่ตัดใจในขณะนั้นเองเลือดที่แผลมือซ้ายได้ไหลซึมออกมาจากจนหยดลงพื้น
" คุณโชทาโร่ "
" ผมเอง...ก็มีความมุ่งมั่นในฐานะนักสืบอยู่เหมือนกัน สูญเสียทั้งเงินความรักและผู้หญิงสิ่งเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่จิตใจของคุณก็จะมีแต่ความเกลียดชังบทสรุปแบบนั้นคือที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผม"
" ใช่แล้วละ.....ยังเร็วไปที่จะถอดใจหรอกน่า " ฟิลิปได้ออมกาจากห้องทำให้ชูตะหันไปมองอย่างแปลกใจเพราะเขานั่นพึ่งจะพบกับผิลิปเป็นครั้งแรก
" อะ...เอ้ะ คนคนนี้เป็นใครงั้นเหรอครับ? "
" ยินดีที่ได้รู้จัก สึโบะซากิ ชูตะ อย่างที่ผมบอกไปต่อให้คุณจะไปรายงานให้กับแอนตี้สกิลพวกเขาก็ช่วยไม่ได้ แล้วก็คิดว่าในเมืองนี้คงไม่มีใครที่จะเชี่ยวชาญเรื่องเมมโฒราเท่าพวกเราอีกแล้ว "
" เรื่องนั้น....ก็ใช่อยู่ครับ "
" เพราะงั้นเรื่องนี้...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถอะ " โชทาโร่ได้พูดจบก่อนที่ชูตะจะเดินออกจากสำนักงาน
" ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วละก็....ฝากด้วยละคู่หู "
" ในที่สุดก็ยอมให้ผมช่วยสักทีนะ " ฟิลิปได้ลุกขึ้นก่อนจะเดินไปกลางห้องและเข้าสู่โลกหนังสือทันที " หัวข้อที่อยากรู้คือ ชื่อของเมมโมรี่ คีย์เวิร์ดคืออย่างแรกคือ "
" โลกเบื้องหลัง ต่างมิติ เมือง สีดำ "
" หื้มม....เจอททั้งหมด 153หัวข้อนั่นคือจำนวนของเมมโมรี่ที่ใช้สร้างเขาวงกตในต่างมิติได้ จำนวนเยอะขนาดนี้กว่าจะอ่านหมดคงลำบากน่าดู "
" ถ้างั้นแล้วชื่อของแม่มดละคะ " อุยฮารุได้ถามขึ้นมาก่อนที่ฟิลิปจะตอบกลับทันที
" ถ้าชื่อโทคิเมะละก็ลองสืบค้นชื่อนั่นดูแล้ว เป็นชื่อที่แปลหายากก็จริงแต่แทบไม่มีประโยชน์ในการสืยค้นเลย หัวขอที่โผล่มาก็มีแต่รายชื่อบุคคลที่มีตัวตนจริงๆกับตัวละครสมมุติมากมายเท่านั้น"
" เพราะไม่รู้นามสกุลก็เลยลำบากแบบนี้แหละนะค่ะ "
" ว่าแต่พวกเธอได้เห็นชื่อย่อของเมมโมรี่ที่เธอคนนั้นพกเอาไว้มั้ย "
" เอิ่ม...จะว่ายังไงดีละ หน้าจะเป็นสีดำแต่ว่าตรงตัวอักษรดันกลับถูกปิดเอาด้วยกางเกงในนะ "
" ใช่แล้วค่ะ...แถมเป็นกางเกงในบาดใจสุดช่างเย้าย่วนสมแล้วที่จะเป็นแม่มดเลยละคะ "
" เอิ่ม...คุณชิราอิเรื่องนั้นไม่น่าเกี่ยวนะคะ "
" ถ้าหากมีคีย์เวิร์ดอีกซักอย่างละก็ " โชทาโร่ที่กำลังครุ่นคิดไปมาก่อนจะมองดูแผลที่มือก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ถึงความรู้สึกในตอนโจมตีบวกกับร่องลอยการโจมตี " จริงสิคีย์เวิร์ดสุดท้าย ความร้อนสูง "
หลังจากที่โชทาโร่ได้บอกคีย์เวิร์ดสุดท้ายออกมาจำนวนหนังสือในโลกหนังสือได้ลดลงเหลือเพียงเล่มเดียวเป็นหนังสือสีดำและเขียนว่าRoad
" บิงโก....รู้ตัวจริงของเมมโมรี่แล้ว ชื่อเมมโฒรี่ของศัตรูก็คือโร็ด....ความร้อนสูงเป็นคีย์ตัดสินที่ดีใช้ได้เลยละ "
" ในตอนที่ถูกยัยนั่นโจมตีเข้ามา แทนที่จะรู้สึกเจ็บแต่กับรู้สึกร้อนมากกว่า "
" หรือว่าจะเป็นท่าสำหรับใช้สะบั้นแต่ว่าพลังที่ใช่น่าจะเป็นประเภทความร้อนสูงจนถูกฟันขาดสินะ "
" ถูกต้อง โร๊ดนะจะใช้ความเร็วสูงและความร้อนสูงเพื่อแหวกช่องมิติ แล้วก็สร้างถนนในต่างมิตินั่นด้วยท่าสะบั้นก็คงจะเป็นผลจากการใช้ความสามารถในการสร้างมิติมาใช้เป็นการโ๗มตีละนะ "
" ถึงว่าละ....หายังไงก็ไม่เห็นตัวศัตรูสักที "
" ดูถ้าจะเป็นเรื่องยุ่งยากแล้วละ "
" ทำไมเหรอฟิลิป? "
" ที่พวกโชทาโร่บอกว่าถนนเป็นสีดำสินะ...แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่สีดำซะทีเดียวนะ ถนนที่เห็นั่นถูกสร้างขึ้นด้วยองค์ประกอบจากร่างกสยของผู้ที่ใช้โร๊ดในการแปลงร่างหรือก็คือเป็นสีหม่นๆของเลือดป้ายทับลงทั้งๆแบบนั้น โร๊หนะ "
" แล้วมันทำไมเหรอคะ? "
" ยิ่งใช้สร้างเขาวงกตต่างมิติมากแค่ไหน มันก็จะเผาผลาญร่างกายจนจำเป็นต้องได้รับการเติมเต็มอย่างเร่งด่วน ซ้ำยังทำให้เกิดความหิวโหยระดับที่กินอาหารปกติไม่เพียงพอ "
" อย่าบอกนะว่า "
" ใช่แล้วละวิธีที่จะช่วยให้เติมเต็มได้เร็วที่สุด ก็คือการดูดกลืนร่างกายมนุษย์เข้าไปโดยตรงยังไงละ "
( ชั้นนะ...หิวโหยอยู่เสมอ )
" จะบอกว่า...โทติเมะกินคนงั้นเหรอ? "
ในระหว่างที่พวกโชทาโร่ที่กำลังอึ่งอยู่กับความสามารถที่แท้จริงและวิธีการเติมพลังอยู่นั่นก็ได้มีร่างนึ่งอยู่ในตรองใต้ความมืดที่กำลังกินบางอย่างอยู่ในปากอย่างหิวโหยพอแสงจากพระอาทิตย์จะสาดส่องให้เห็นปากปีศาจที่ยังมีมือคาอยู่พร้อมน้ำลายไหลพรากหยดลงดังสัตว์ป่าที่กำลังหิวโหยอยู่
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เมียโชทาโร่มาแล้ว!!!!!!