ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaRyu , NakaYama] Love ~Thank you~ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 365
      2
      11 มิ.ย. 55

     ตอนที่ 5

    “เป็นไงบ้างริวทาโร่!”  ยูโตะถามอย่างกระตือรือร้นทันทีที่ริวทาโร่ก้าวเข้ามาในร้าน

    ริวทาโร่มองเจ้านายอย่างเอือมๆ  “โธ่  ก็แค่วันแรกคุณจะให้ผมได้คำตอบเลยหรือไง”  เขาเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่ได้สนใจเจ้านายอีก

    ยูโตะเดินตามอย่างดื้อรั้น  “แล้วยามะจังว่าไงบ้าง  นายเจอเขาแล้วใช่มั้ย  น่ารักมากเลยใช่มั้ยล่ะ”

    ริวทาโร่ยิ้มเจ้าเล่ห์  “น่ารักจนผมอยากจะจีบเองเลยล่ะ”

    “หยุดเลยนะ!”  ยูโตะหน้าบึ้ง  “นายห้ามยุ่งกับยามะจังเด็ดขาด”

    “งั้นเหรอครับ”  ริวทาโร่ตาเป็นประกาย  น่าจะแกล้งเจ้านายนิสัยเด็กคนนี้สักหน่อยดีกว่า  “ยามะจังของคุณท่าทางสนิทกับพนักงานคนหนึ่งมากเลยล่ะครับ  อยู่ด้วยกันจนถึงเลิกงานเลยด้วย  แล้วก็หัวร่อต่อกระซิกกันท่าจะสนุกทีเดียวล่ะ  แล้วอีกอย่างนะ  ผู้ชายคนนั้น  ทั้งหล่อ  ทั้งเท่  แถมกล้ามยังใหญ่กว่าคุณตั้งเยอะแหนะ”  เขาพูดพร้อมทำท่าทางเคลิ้มซะเต็มที่

    ยูโตะทำท่าจะร้องไห้  “จริงเหรอริวทาโร่”

    ริวทาโร่หัวเราะ  “สงสัยคุณคงจะอกหักแล้วล่ะ”

    ยูโตะหน้าบึ้ง  “หยุดหัวเราะนะ  ฉันกำลังอกหักนายไม่เห็นหรือไง”

    ริวทาโร่หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง  “ก็เห็นไงผมถึงได้หัวเราะน่ะ  ฮ่าๆๆๆๆๆ”

    “ฮึ่ย!!  เจ้าเพื่อนบ้า”  ยูโตะหันหลังกลับ

    “แค่นี้คุณก็ยอมแพ้แล้วเหรอ”

    ยูโตะหยุดชะงัก  “ก็ยามะจังมีคนอื่นแล้วนี่  จะให้ฉันไปแทรกกลางระหว่างพวกเขามันก็คงจะไม่ดีหรอก”

    “ผมยังไม่ได้พูดสักคำว่ายามะจังของคุณมีคนรักอยู่แล้ว”

    ยูโตะหันมา  “หมายความว่าไง”

    “ผู้ชายคนนั้นน่ะผมจองแล้วนะ”

    “อะไรนะ?”

    “ก็พี่ชายกล้ามใหญ่คนนั้นไง  ผมจองแล้ว  เพราะฉะนั้นยามะจังของคุณไม่มีสิทธิ์”

    ยูโตะขมวดคิ้ว  “หมายความว่าไง”

    ริวทาโร่ยิ้ม  “ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกับยามะจังของคุณหรอก  คุณเดินหน้าจีบได้เลย”

    ยูโตะตาเป็นประกาย  “จริงเหรอริวทาโร่”  เขาทำสีหน้ามุ่งมั่น  “คราวนี้ฉันต้องเอาชนะใจยามะจังให้ได้เลย  เจ้าหญิงแสนสวยของฉัน”  เขายิ้มละมุนโดยไม่สนใจสายตาของริวทาโร่ที่มองเขาอย่างเอือมระอาอยู่เลย  “เอ๊ะ!”  ยูโตะมองเพื่อนรักอย่างสงสัย  “นายบอกว่าจองผู้ชายกล้ามใหญ่คนนั้นแล้ว  เจอกันครั้งเดียวก็ชอบแล้วเหรอ  ไม่เร็วไปหน่อยหรือไง  อีกอย่างนายก็เป็นผู้ชายนะเว้ย”

    ริวทาโร่ยักไหล่  “ไม่เห็นเป็นอะไรเลย  คุณยังชอบยามะจังที่เป็นผู้ชายด้วยกันได้แล้วทำไมผมจะชอบพี่ชายกล้ามใหญ่คนนั้นไม่ได้ล่ะ”  เขายิ้มละมุนแล้วทำหน้าเคลิ้มเหมือนที่ยูโตะทำ  “ก็เขาทั้งหล่อแล้วก็ใจดีมากๆ ด้วย  แบบนี้จะไม่ให้ชอบได้ไง  คุณน่ะระวังยามะจังของคุณไว้ให้ดีก็แล้วกัน  อย่าให้มายุ่งกับพี่เคโตะของผมล่ะ”

    ยูโตะเอะใจเมื่อได้ยินชื่อนั้น  “นายบอกว่าเขาชื่ออะไรนะ”

    “ชื่อเคโตะ  ทำไมเหรอครับ”

    ยูโตะครุ่นคิด  บางทีอาจจะแค่ชื่อซ้ำกันก็ได้  พี่ชายเขาตอนนี้ก็ไม่ได้ท่าทางใจดีขนาดนั้นสักหน่อย  “ไม่มีอะไรหรอกอาจจะแค่ชื่อซ้ำกันก็ได้”  เขายิ้มแม้จะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างก็ตาม  “ไปทำงานได้แล้ว  ขืนช้าฉันไม่จ่ายเงินพิเศษให้นะ”

    ริวทาโร่หน้าบึ้ง  “พอจะใช้ก็ใช้เอาใช้เอา  พอจะจ่ายล่ะทำเป็นงก”

    “อย่าบ่นน่า  ไปทำงานได้แล้ว”

    ริวทาโร่ยิ้ม  “คร้าบบ  คุณผู้จัดการที่แสนใจดีที่สุดในโลก”

    ยูโตะทำหน้าบึ้งแล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงาน  เรื่องของพนักงานที่ชื่อเคโตะคนนั้นยังคงคาใจเขาอยู่  หวังว่าจะไม่ใช่คนเดียวกันหรอกนะ

     

    หลังจากจัดการเกี่ยวกับเอกสารให้เคโตะเรียบร้อยแล้ว  เรียวสุเกะก็ออกจากร้านมาแล้วปล่อยให้เคโตะปิดร้านเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน  เขาเดินตรงไปยังสถานีรถไฟฟ้า

    “ยามะจัง”  น้ำเสียงคุ้นเคยที่ได้ยินทำให้เรียวสุเกะหยุดเดินแล้วมองตรงไปยังคนที่เรียกเขา  ยูโตะยืนรอเขาอยู่ตรงที่เดิมที่เจอกันเมื่อคราวก่อน  ยูโตะยิ้มอ่อนโยน  “ดีใจจังที่ได้เจอยามะจังอีก”

    เรียวสุเกะเฉมองไปทางอื่นเพราะไม่สามารถสบตาตรงๆ กับยูโตะได้  “แล้วยูโตะคุงมาทำอะไรที่นี่ล่ะ”

    “ฉันมารอยามะจัง”

    เรียวสุเกะเผลอมองยูโตะแล้วรู้สึกใจเต้นจนแทบจะควบคุมไม่อยู่  “ขอโทษนะยูโตะคุง  ฉันต้องไปแล้ว”  เขาเดินเลี่ยงออกมาเพราะทั้งอายและตื่นเต้นพร้อมๆ กัน

    ยูโตะคว้าแขนเรียวสุเกะไว้  “ยามะจังอย่าเพิ่งไปสิ”

    เรียวสุเกะยิ่งตื่นเต้นเมื่อยูโตะจับแขนเขาไว้แบบนั้น  ทั้งๆ ที่ก็นานมากแล้วแต่ทำไมถึงได้ควบคุมตัวเองไม่ได้สักทีนะ  “ปล่อยฉันเถอะยูโตะคุง  ฉันต้องกลับบ้านนะ”

    “ฉันไปส่งยามะจังก็ได้นะ  คือฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับยามะจังหน่อย  ไม่ได้เจอกันตั้งนานทำไมถึงทำตัวเหินห่างแบบนี้ล่ะ  อย่างกับคนไม่เคยรู้จักกัน  หรือยามะจังรังเกียจฉันเหรอ”

    เรียวสุเกะหันมาทันที  “ฉันไม่ได้รังเกียจยูโตะคุงนะ  เพียงแต่ว่า...  ฉัน...  ฉันต้องตื่นมาทำงานแต่เช้าน่ะ”

    “งั้นเหรอ”  ยูโตะปล่อยมือจากแขนของเรียวสุเกะ  “ถ้างั้นวันหลังก็ได้  เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่”  เขาหันหลังเดินกลับไปที่รถ

    “เดี๋ยวสิ”  เรียวสุเกะเรียก  “ยูโตะคุงมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันเหรอ”

    ยูโตะหันมายิ้มให้  “ไม่มีอะไรหรอก  ฉันก็แค่ดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่าน่ะก็เลยว่าจะชวนไปดื่มสักหน่อย  แต่เห็นยามะจังไม่ว่างเอาไว้วันหลังก็ได้”

    เรียวสุเกะฝืนยิ้ม  รู้สึกเสียดายตงิดๆ  “ถ้างั้นก็ได้”

    “ฉันขอเมลล์ยามะจังได้ไหมจะได้ติดต่อกันได้”

    เรียวสุเกะรู้สึกดีใจ  เขานึกว่าจะทำให้ยูโตะโกรธซะแล้ว  “ได้สิ”

    ยูโตะเก็บโทรศัพท์ตัวเองไว้อย่างทะนุถนอมเมื่อได้เมลล์กับเบอร์โทรของเรียวสุเกะมาแล้ว  ร่างเล็กนั่นเดินหายเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้า  “รอฉันนะยามะจัง  ฉันจะทำให้นายรักฉันให้ได้”

     

    ริวทาโร่ยืนอยู่หน้าร้านโอคายะสาขาสองตั้งแต่สามทุ่มจนตอนนี้เกือบจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว  “ผู้จัดการนะผู้จัดการ  ทิ้งกันได้ลงคอ”  เขาบ่นเพราะโดนยูโตะบังคับให้มาด้วยแต่ดันทิ้งเขาไปหาเรียวสุเกะแล้วปล่อยให้เขาต้องกลับบ้านคนเดียว  แต่ตั้งแต่ที่เรียวสุเกะออกไปก็ไม่ยังไม่เห็นเคโตะออกมาจากร้านเลย  เขารู้ว่าเคโตะยังอยู่ที่นี่เพราะเขาเห็นไฟที่อยู่ที่เคาท์เตอร์ยังสว่างอยู่  จะกลับบ้านเลยก็นึกห่วงเคโตะแต่ถ้าไม่รีบรถไฟอาจจะหมดก่อนก็ได้  “ปกติกลับบ้านดึกอย่างนี้ทุกวันเลยหรือไงนะ”

    แสงไฟในร้านปิดลงพร้อมๆ กับเคโตะที่เดินออกมาจากร้านพร้อมกระเป๋าเอกสารใบใหญ่  ริวทาโร่เดินหลบไปข้างๆ กระถางต้นไม้ใกล้ๆ นั้น  เขาสังเกตเห็นว่าเคโตะแต่งตัวดีแถมยังขับรถหรูอีกต่างหาก  แต่ภาพที่เคโตะถูพื้นอยู่นั้นก็ยังติดตาเขาอยู่  มันแปลกๆ อยู่นะ

    เคโตะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติข้างต้นไม้นั่นได้  เขาเดินไปที่รถทำทีเป็นว่าไม่รู้  ริวทาโร่เดินตามมาเงียบๆ หวังจะดูให้แน่ใจว่ารถนั่นใช่ของเคโตะจริงหรือเปล่า  เขาเดินตามมาเรื่อยๆ  เคโตะหักเลี้ยวตรงมุมตึกอย่างกะทันหัน  เขาค่อยๆ เดินตามไป  แต่แล้วแขนแกร่งของใครบางคนก็ล็อคคอและจับแขนเขาไว้อย่างแน่นหนาจนขยับไม่ได้  ริวทาโร่ร้องลั่นเพราะความเจ็บ

    “แกเป็นใคร  ต้องการอะไร”  เคโตะถามเสียงเย็น

    ริวทาโร่หายใจเร็วอย่างตื่นกลัว  “ผมเองครับพี่เคโตะ  ริวทาโร่เองครับ”

    เคโตะขมวดคิ้ว  “ริวทาโร่  นายตามฉันมาต้องการอะไร”

    “ผมเปล่านะ  ผมก็แค่ห่วงพี่เห็นว่าดึกแล้วยังไม่เลิกงานก็เลยมาดูเท่านั้นเอง”

    “ไม่ใช่ธุระของนายสักหน่อย”  เคโตะพูดอย่างจับผิด  “ทำตัวแบบนี้มันน่าสงสัยนะ”

    “เปล่านะครับไม่ใช่  ผมก็แค่...  ผมก็แค่....”  ริวทาโร่พูดตะกุกตะกัก  เคโตะล็อคแขนเขาแน่นขึ้นจนร่างเล็กร้องลั่น  “โอ๊ย! ผมยอมแล้ว  ผมบอกก็ได้  คุณผู้จัดการของผมเขาชอบคุณยามาดะที่เป็นรองผู้จัดการที่นี่น่ะครับ  เขาก็เลยวานผมให้มาสืบคุณยามาดะว่าเขามีแฟนหรือยัง  พอรู้ว่าไม่มีเขาก็เลยกำลังตามจีบคุณยามาดะ  ผมก็เลยติดร่างแหเพราะต้องพาเขามาที่นี่  พอผมเห็นพี่ก็แค่จะมาทักทายเท่านั้นเองไม่ได้คิดจะทำอะไรเลยนะครับ”  ริวทาโร่น้ำตาคลอเพราะกลัวเคโตะจะไม่เชื่อเขา  “จริงๆ นะครับพี่เคโตะ”

    เคโตะปล่อยริวทาโร่ให้เป็นอิสระ  “นายพูดจริงเหรอ”

    ริวทาโร่จับข้อมือตัวเองไว้เพราะเจ็บจากการโดนเคโตะล็อคไว้เมื่อกี้  “ผมพูดจริงครับ  คุณยามาดะเขาเป็นรักแรกของคุณยูโตะตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว  พอกลับมาเจอกันอีกคุณยูโตะก็เลยอยากจะตามจีบอีกครั้ง”

    “งั้นเหรอ”  เคโตะถอนหายใจคิ้วขมวดจนกลายเป็นปม  สายตาก็นิ่งจนริวทาโร่นึกหวั่น

    ริวทาโร่รับรู้ปฏิกิริยานั้นได้เพราะมันแสดงออกทันทีที่พูดเรื่องเรียวสุเกะ  “พี่โกรธเหรอ”  เคโตะไม่พูดอะไรแต่ริวทาโร่ก็รับรู้มันได้ดี  “พี่โกรธที่คุณยูโตะตามจีบคุณยามาดะเหรอครับ  พี่ชอบคุณยามาดะงั้นเหรอ?”

    “หยุดเลยนะ!!”  เคโตะตวาด  “มันไม่ใช่เรื่องของนาย”  เขาเดินกลับไปที่รถโดยไม่สนใจริวทาโร่อีก

    ริวทาโร่เดินตาม  “เดี๋ยวสิครับ  ถ้าพี่ชอบคุณยามาดะก็บอกผมสิ”

    เคโตะหันกลับมาอย่างรำคาญ  “ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย  สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ”

    “สำคัญสิ”  ริวทาโร่มองเคโตะน้ำตาคลอเบ้า  “เพราะถ้าพี่มีคนที่พี่ชอบอยู่แล้ว  ผมจะได้รีบตัดใจจากพี่ได้”

    เคโตะหัวเราะ  “อย่าบอกนะว่านายแอบชอบฉัน”

    ริวทาโร่เชิดหน้าขึ้นมองเพื่อรวบรวมความกล้า  “ใช่”  เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง  “ผมชอบพี่ตั้งแต่วันแรกที่เจอพี่แล้ว  ตั้งแต่วันที่พี่ช่วยผม  ผมก็คิดถึงพี่มาตลอด  ผมดีใจที่ได้เจอพี่อีกครั้ง  แต่ถ้าพี่มีคนที่ชอบอยู่แล้วก็บอกผมเถอะครับ  ผมจะได้ทำใจ”

    เคโตะถอนหายใจ  เขาเฉมองไปทางอื่น  สายตามั่นคงของริวทาโร่ทำให้เขารู้สึกผิด  เขารู้ว่าความรู้สึกของริวทาโร่มันคือความจริงใจแต่เขาจะรักริวทาโร่ได้ยังไงในเมื่อ...  “ถ้างั้นก็ทำใจเถอะ  ฉันมีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว”  เคโตะเปิดประตูรถเข้าไป

    ริวทาโร่น้ำตาร่วง  “แต่คุณยามาดะเขาก็มีคนที่เขาชอบอยู่แล้วเหมือนกัน  หรือว่าพี่ไม่รู้ว่าคุณยามาดะก็ชอบคุณยูโตะ  ผมว่าพี่ก็ควรทำใจเผื่อไว้ด้วยเหมือนกัน”  เขาก้มหน้าแล้วพูดเสียงอ่อน  “จะได้ไม่ต้องเจ็บเหมือนผมคราวนี้ไง”

    เคโตะไม่ได้สนใจ  เขาสตาร์ทรถและขับออกไปทันที

    ริวทาโร่ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นอย่างเดียวดาย  เสียงนาฬิกาข้อมือดังบอกเวลาเที่ยงคืน  ริวทาโร่หัวเราะกับตัวเองอย่างขมขื่น  “ริวทาโร่เอ๊ย  ทั้งอกหัก  ทั้งพลาดรถไฟ  วันนี้วันซวยอะไรของแกวะ”  เขาปาดน้ำตาออกแล้วเดินไปนั่งตรงม้านั่งหน้าร้าน  เพิ่งรู้นะว่าการอกหักมันเจ็บมากขนาดนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×