ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaRyu , NakaYama] Love ~Thank you~ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 354
      1
      30 พ.ค. 55

     ตอนที่ 3

     “วันนี้เจ้าเคโตะไปไหนของมันนะ  ไม่มาช่วยกันทำงานเล้ยย”  เคบ่น  เพราะวันนี้เคโตะไม่มาทำงานทำให้เขาและไดกิต้องเก็บร้านอยู่สองคน  แม้จะมีเรียวสุเกะอยู่ด้วยแต่รองผ้จัดการก็ไม่ได้มีหน้าที่มาเก็บร้านแบบพวกเขา

    “อิโน่จังเนี่ยจริงๆ เลย  เลิกบ่นซักทีได้มั้ย  จะให้เคโตะมาทำแทนให้ทุกวันมันไม่ได้หรอกนะ”  ไดกิต่อว่า

    เคถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย  “ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นลางาน  วันนี้มันเป็นอะไรของมันวะ”  เคยังบ่นต่อไปโดยไม่สนใจเสียงของไดกิเลย  ไดกิได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ โดยไม่พูดอะไร

    เรียวสุเกะฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างเงียบๆ  เขาเองก็แปลกใจที่ผู้จัดการไม่มาทำงานวันนี้เช่นกัน  ไม่ว่าจะโทรไปกี่ครั้งก็ไม่ติด  ไม่รู้ทำอะไรอยู่นะ

    “คุณยามาดะครับ  เคโตะบอกหรือเปล่าครับว่าไปไหน”  เคถามเรียวสุเกะอีกเป็นครั้งที่ร้อยของวันนี้แล้วมั้ง

    “อิโน่จัง  ก็คุณยามาดะบอกแล้วว่าไม่รู้ไงล่ะถามอยู่ได้”  ไดกิหันมาโค้งให้เรียวสุเกะ  “ขอโทษแทนอิโน่จังด้วยนะครับคุณยามาดะ  เจ้านี่น่ะมันขี้เกียจ  อยากจะให้เคโตะมาทำงานให้ใจจะขาด”

    เรียวสุเกะยิ้ม  “ไม่เป็นไรหรอก  วันนี้ฉันกลับก่อนนะ  ต้องเอารายรับวันนี้ไปให้ผู้จัดการน่ะ”

    “คุณยามาดะนี่สนิทกับผู้จัดการจริงๆ เลยนะครับ  เขาเป็นคนยังไงเหรอครับผมอยากรู้จัง”  เคถามด้วยความอยากรู้

    ไดกิตีคนรักด้วยความหมั่นไส้  “อิโน่จัง!”  เขาหันไปยิ้มให้รองผู้จัดการ  “พวกผมจะปิดร้านให้เองครับคุณยามาดะ”

    เรียวสุเกะได้แต่ยิ้ม  เขาหยิบกระเป๋าเอกสารและออกจากร้านไป  เดินตรงไปยังสถานีรถไฟเพื่อขึ้นรถไปบ้านของเคโตะ

    “ยามะจัง”  เรียวสุเกะหันไปตามเสียงเรียก  รถคันหรูของใครคนหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดข้างๆ เขา  กระจกรถเปิดออกเผยให้เห็นเจ้าของรถที่อยู่ข้างใน  “ยามะจังฉันเอง  จะไปไหนน่ะ”

    เรียวสุเกะมองอย่างแปลกใจ  เพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่ไม่ได้เจอกันนานจู่ๆ ก็โผล่หน้ามาให้เห็น  “ยูโตะคุง”

    ยูโตะยิ้มอย่างดีใจ  เขาลงมาจากรถ  “ดีใจจังที่ได้เจอยามะจังวันนี้”  เขามองกระเป๋าเอกสารในมือของร่างเล็ก  “กำลังจะกลับบ้านเหรอ”

    เรียวสุเกะได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ อย่างไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี  ทั้งๆ ที่ก็นานมากแล้วแต่ความรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นยูโตะก็ยังไม่เปลี่ยนไป  “เปล่าหรอก  ฉันจะไปบ้านผู้จัดการน่ะ  ต้องเอาเอกสารไปให้ผู้จัดการก่อน”

    “ยามะจังทำงานที่ไหนเหรอ”  ยูโตะถามอย่างกระตือรือร้น

    “ร้านโอคายะน่ะ  ฉันเป็นรองผู้จัดการร้าน”

    ยูโตะตกใจเมื่อได้ยินชื่อร้านนั้น  “ร้านอาหารโอคายะเหรอ”

    “ใช่  แล้วยูโตะคุงล่ะตอนนี้ทำอะไรอยู่”

    ยูโตะคิดหาคำตอบ  จู่ๆ ก็ได้มาเจอคนที่แอบชอบตอนสมัยเรียนโดยบังเอิญก็ทำให้เขาดีใจอยู่หรอกนะ  แต่พอได้รู้ว่าคนๆ นั้นทำงานเป็นผู้ช่วยพี่ชายของเขานี่ทำให้เขาไม่รู้จะทำยังไงดี  เรียวสุเกะเองก็ไม่รู้ว่าเคโตะเป็นพี่ชายของเขาด้วย  “ธุรกิจส่วนตัวน่ะ”

    “งั้นเหรอ”

    “ยามะจังจะไปบ้านผู้จัดการเหรอ  ทำไมล่ะ  หรือว่าผู้จัดการไม่มาทำงานวันนี้”  เขาลองถามดู  เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเมื่อเช้าเคโตะถึงตื่นสาย

    เรียวสุเกะถอนหายใจ  “ใช่  ปกติผู้จัดการไม่เคยลางานเลยสักครั้ง  แต่วันนี้กลับหายไปเฉยๆ โทรไปก็โทรไม่ติดฉันก็เลยต้องเอารายได้วันนี้ไปให้เขาดูน่ะสิ”  เขาร่ายยาวแต่ก็เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองพูดเรื่องไร้สาระให้เพื่อนเก่าฟังทำไมนะ  “ขอโทษนะ  ฉันดันพูดเรื่องไร้สาระให้ยูโตะคุงฟังจนได้”

    ยูโตะมัวแต่คิดเรื่องเคโตะเลยไม่รู้ว่าเรียวสุเกะพูดอะไร  “อ๋อ  ไม่เป็นไรหรอก”

    “ถ้างั้นฉันไปก่อนนะเดี๋ยวจะกลับบ้านดึกน่ะ  บายล่ะ”

    ยูโตะได้แต่มองตามร่างเล็กที่เดินหายเข้าไปในสถานนีรถไฟฟ้า  เขายืนอยู่ตรงนั้นสักพักคิดถึงเรื่องที่คุยกับเรียวสุเกะเมื่อสักครู่  เขาคงยังกลับบ้านไม่ได้ตอนนี้สินะ  ยูโตะนั่งยิ้มอยู่กับตัวเองตรงนั้น  ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเรียวสุเกะก็ยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลย

     

    ยูมิโกะกำลังจะยกมือเคาะประตูห้องเคโตะ

    “ยังไม่ตื่นอีกเหรอยูมิโกะ”  เคนอิจิถามเสียงห้วน

    ยูมิโกะลดมือลง  “ไข้ลดลงบ้างแล้วล่ะค่ะ  ฉันกำลังจะเอารายได้ของวันนี้ไปให้เคโตะคุง  ยามาดะคุงเพิ่งจะเอามาให้”

    เคนอิจิพยักหน้ารับ  “ยูโตะยังไม่กลับเหรอ”

    “เขาบอกว่าเจอเพื่อนเก่าก็เลยอยู่เลี้ยงกันสักหน่อยน่ะค่ะ  เดี๋ยวก็คงกลับมาแล้ว”

    “งั้นเหรอ”

    เคนอิจิเหลือบมองไปยังห้องของเคโตะ  ยูมิโกะได้แต่ลอบยิ้ม  “ถ้าอย่างนั้นฉันเข้าไปนะคะ”  เคนอิจิพยักหน้าน้อยๆ แล้วเดินจากไป  เธอเคาะประตูห้อง  “เคโตะคุงฉันเข้าไปนะ”  ไร้เสียงตอบรับจากข้างในห้องเธอจึงเปิดประตูเข้าไปเห็นเคโตะนั่งมองกรอบภาพบนโต๊ะอย่างเหม่อลอย  “เคโตะคุง  ฉันน่ะ...”

    “สิบปีแล้ว”

    ยูมิโกะเดินเข้าไปใกล้  “อะไรนะ”

    เคโตะเงียบไปสักพัก  “สิบปี  ผมเกือบจะจำหน้าแม่ไม่ได้แล้ว” 

    ยูมิโกะเพิ่งสังเกตเห็นว่ารูปนั่นเป็นรูปของเคโตะสมัยยังเป็นทารกที่ถ่ายพร้อมเคนอิจิและแม่ของเขา  เธอไม่เคยเห็นรูปนี้เลยสักครั้งคงเป็นเพราะเคโตะเก็บรูปนี้ไว้อย่างดี  เธอสังเกตเห็นรอยยิ้มบางๆ เมื่อลูกเลี้ยงของเธอมองรูปภาพนี้แม้จะแค่เล็กน้อยแต่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นรอยยิ้มจากเขา  แต่นั่นกลับทำให้เธอรู้สึกเสียใจ  เธอเป็นคนที่ทำให้รอยยิ้มของเขาหายไปหรือเปล่านะ 

    เคโตะเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าเธอเข้ามา  เขาคว่ำภาพนั้นลงและหันมามองเธอ  “แม่เลี้ยงมีอะไรครับ”

    ยูมิโกะละสายตาจากภาพนั้น  “ยามาดะคุงเอารายละเอียดสำหรับรายได้วันนี้มาให้น่ะจ้ะ”

    “เขากลับไปแล้วเหรอ”

    “ใช่จ้ะ  พอบอกว่าเคโตะคุงไม่เป็นอะไรแล้วเขาก็เลยขอตัวกลับ  แต่เขาก็ฝากความห่วงใยมานะ”  เธอว่าแล้วยื่นกระเป๋าเอกสารให้  “นี่เป็นรายละเอียดของรายได้วันนี้จ้ะ”

    เคโตะรับมา  “คุณออกไปได้แล้วผมจะเข้านอน”

    “วันนี้อย่าทำงานจนดึกอีกนะจ้ะ  ต้องพักผ่อนเยอะๆ”

    “ห่วงลูกของคุณเถอะยังไม่กลับบ้านไม่ใช่เหรอ”  เคโตะเก็บกระเป๋าเข้าลิ้นชักแล้วเดินกลับไปนอนที่เตียง  ยูมิโกะไม่พูดอะไรต่อ  เธอปิดไฟในห้องของลูกเลี้ยงก่อนจะเดินกลับออกไป

     

     

    “แล้วมาใหม่นะครับ”  ริวทาโร่โค้งให้ลูกค้าที่เดินออกไปจากร้าน  เขาเข้าไปเช็ดโต๊ะและเก็บจานอาหาร  ยูโตะเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ  เขาแล้วยิ้มแฉ่ง

    “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายหน่อย  เช็ดโต๊ะเสร็จแล้วไปพบฉันที่ห้อง”

    ริวทาโร่รับคำ  “ครับผู้จัดการ”

     

    ริวทาโร่เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องที่มีป้ายติดไว้  ผู้จัดการ’  วันนี้เจ้านายดูอารมณ์ดีผิดปกติมีเรื่องจะคุยอะไรกับเขานะ  เขาเคาะห้องเบาๆ  “ผมโมริโมโตะครับ”  คนในห้องร้องตอบริวทาโร่เปิดประตูเข้าไป

    “ริวทาโร่!”  ยูโตะร้องเรียกอย่างตื่นเต้น  “รู้มั้ยเมื่อวานฉันไปเจอใครมา”  ท่าทางเคร่งขรึมที่ปฏิบัติกับพนักงานของยูโตะจะเปลี่ยนไปทันทีเมื่ออยู่กับริวทาโร่  ก็เขาน่ะสนิทกับริวทาโร่เกินกว่าใครจนแทบจะเรียกได้ว่าเพื่อนสนิทเลยล่ะ

    ริวทาโร่ขมวดคิ้ว  “ไม่รู้ครับ”

    ยูโตะยิ้มกว้าง  “นายจำเรื่องรักแรกสมัยมัธยมที่ฉันเคยเล่าให้ฟังได้มั้ย  เมื่อวานนี้ฉันไปเจอยามะจังมา  น่ารักเหมือนเดิมเลย”

    ริวทาโร่นึกได้  “อ๋อ  ผมจำได้แล้ว  นึกว่าเรื่องอะไรซะอีก”

    ยูโตะมองริวทาโร่อย่างแปลกใจ  “นี่นายไม่ตื่นเต้นอะไรกับฉันเลยเหรอ”

    ริวทาโร่ยักไหล่  “แล้วผู้จัดการจะไปจีบเขาเหรอครับ  ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วบางทีเขาอาจจะแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้วก็ได้”

    ยูโตะหน้าบึ้ง  “โธ่  อย่าพูดให้หมดหวังอย่างนั้นสิ  ฉันอุตส่าห์ได้เจอยามะจังแล้วนะ”

    “แล้วจะให้ผมบอกคุณว่า  ดีแล้วครับ  จีบเลยครับผู้จัดการ’  อย่างนั้นเหรอครับ”

    ยูโตะนั่งลงอย่างอ่อนใจ  “ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก  ฉันก็แค่อยากให้นายช่วยอะไรหน่อยน่ะ”

    ริวทาโร่มองด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย  “อะไรครับ”

    “ไปตามสืบยามะจังให้ฉันหน่อยสิว่าเขามีแฟนหรือยัง”

    “อะไรนะครับ!  ให้ผมตามสืบยามะจังของคุณเนี่ยนะ  งานผมก็เสียหมดน่ะสิ  ไม่เอาด้วยหรอก  อยากได้ก็ตามจีบเองดิ”

    ยูโตะเดินไปนวดไหล่ริวทาโร่อย่างเอาใจ  “น่านะริวทาโร่  เพื่อนรัก  เพื่อนที่แสนดีของฉัน  ถ้านายไม่ช่วยแล้วใครจะช่วยฉันล่ะ”  ริวทาโร่ทำสีหน้าเบื่อหน่าย  ยูโตะพูดต่อทันที  “ยามะจังน่ะทำงานที่ร้านโอคายะสาขาสอง  พี่ฉันเป็นผู้จัดการอยู่ที่นั่น  แต่ฉันไม่กล้าสู้หน้าพี่เท่าไร  นายต้องช่วยฉันนะ  นะนายต้องช่วยฉันนะ”  เขาเขย่าตัวริวทาโร่อย่างเอาแต่ใจ

    ริวทาโร่มองเจ้านายอย่างรำคาญ  “ก็ได้ครับ  ผมจะช่วยก็ได้  แต่คุณต้องจ่ายค่าเสียหายให้ผมนะ”

    ยูโตะยิ้มกว้าง  “ฉันจ่ายนายไม่อั้นอยู่แล้ว”

    ริวทาโร่ยื่นมือออกมา  “ถ้างั้นตกลง”

    ยูโตะจับมือตอบ  “ขอบใจมากเพื่อนรัก”

    “แต่ถ้าเขามีเจ้าของแล้ว  ผู้จัดการก็ต้องทำใจไว้ด้วยนะครับ”

    ยูโตะพยักหน้า  “อื้ม  ฉันเข้าใจ  นายทำเต็มที่ก็พอ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×