ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaRyu , NakaYama] Love ~Thank you~ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 312
      2
      17 ส.ค. 55

    ตอนที่ 15

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ฮิคารุเดินออกมาจากห้องน้ำเพราะเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ  เขาเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วยิ้มให้กับเบอร์ตรงหน้าก่อนจะกดรับ  “ว่าไง”  เขาแสร้งพูดเสียงแข็งใส่

    [ทำไมน้ำเสียงแข็งกระด้างแบบนี้ล่ะครับ  ผมก็แค่คิดถึงคุณก็เลยโทรหา  คิดถึงนะครับเสียงหวานของโคตะดังมาตามสาย

    อิตาบ้า!  ฮิคารุนึกแต่ถึงกระนั้นก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้  “วันนี้มีอะไรอีกล่ะถึงได้โทรมา”

     

    โคตะพลิกตัวบนเตียงให้นอนหงายเพื่อจะได้คุยโทรศัพท์ได้สะดวก  “ก็ไม่เชิงมีอะไรหรอกผมก็แค่มีอะไรอยากจะเล่าให้ฟังน่ะ”

    [อะไรล่ะ]

    “จำเรื่องของคุณเคโตะลูกชายของคุณเคนอิจิได้มั้ย”  โคตะเงียบไปสักพักเพื่อเรียบเรียงคำพูด  “ผมรู้แล้วว่าระหว่างงานคุณเคโตะหายไปไหน  ที่แท้เขาก็ปลอมเป็นพนักงานของร้าน  มิน่าผมถึงไม่เคยเห็นเขาเลย  แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือเขาจะทำแบบนั้นทำไมน่ะครับ”

    ฮิคารุเงียบไปสักพัก  [ไม่เคยได้ยินเหรอ  ซีอีโอระดับสูงของบริษัทใหญ่ระดับโลกต่างก็หาเวลาทำงานของพนักงานระดับล่างทั้งนั้น  เพื่อเป็นพื้นฐานในการบริหารงานที่ดีต่อไป  ฉันว่าสิ่งที่คุณเคโตะคนนั้นทำก็ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลย  มันดีซะอีก  ฉันเขาเป็นนักบริหารที่ดีนะ]

    โคตะคิดตาม  “มันก็จริงนะ  แต่ดูเหมือนคุณเคนอิจิจะโกรธมากทีเดียวล่ะครับ”

    เสียงฮิคารุเงียบไปอีก  ฮิคารุเป็นคนมีเหตุผลและคิดอะไรลึกซึ้งเสมอนี่แหละทำให้เขาประทับใจ  [มันคงจะเป็นปกติของพ่อที่รักลูกล่ะมั้ง  ลองคิดดูสิ  ถ้าคุณเป็นคุณเคนอิจิแล้วเห็นลูกของตัวเองทำแบบนั้นคุณจะรู้สึกยังไงล่ะ  แต่คุณบอกว่าคุณเคนอิจิใจร้อนไม่ใช่เหรอคุณอาจจะไม่เป็นเหมือนเขาก็ได้นะ  เพราะคุณก็ดูเป็นคนใจเย็นและมีเหตุผลดี]

    โคตะยิ้ม  นี่ฮิคารุชมเขาหรือเนี่ย  “ผมจะไม่โกรธหรอกครับถ้าลูกผมมีแม่ดีแบบคุณ”

    [จะบ้าเหรอ!]  เสียงฮิคารุแว้ดขึ้น  แต่แทนที่จะได้ยินเสียงด่าที่ยาวกว่านั้นเขากลับได้ยินเสียงถอนหายใจของฮิคารุดังขึ้นเบาๆ  [แต่จากที่คุณเล่า  ฉันก็ได้แต่หวังว่าคุณเคนอิจิจะใจเย็นพอที่จะฟังเหตุผลของลูกเขานะ]

    โคตะยิ้มกับคำตอบนั้น  “ผมก็หวังว่างั้น”  แต่ในขณะที่กำลังจะพูดต่อกลับมีสายเรียกซ้อนเข้ามา  โคตะมองเบอร์ที่โทรเข้ามาใหม่  “ขอโทษนะครับฮิคารุจัง  คุณเคนอิจิโทรมา  แล้วผมจะโทรไปหาอีกนะครับ  คิดถึงนะครับที่รัก”

    [ตาบ้า!]

    โคตะตัดสายก่อนจะได้ยินคำด่าที่ยาวมากกว่านี้  เขายิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะกดรับสายที่โทรเข้ามา  “สวัสดีครับท่านประธาน”

    [ผมมีเรื่องให้คุณช่วยหน่อยคุณยาบุน้ำเสียงของเคนอิจิดูเป็นกังวล

    “ว่ามาได้เลยครับท่านประธาน”

    เสียงเคนอิจิเงียบไปสักพัก  [คุณช่วยเช็คแขกที่เข้าพักโรงแรมทุกโรงแรมในโตเกียวในคืนนี้ให้ผมหน่อยได้มั้ย]

    โคตะสงสัย  ต้องเป็นเรื่องของคุณเคโตะแน่เลย  “ท่านประธานจะหาใครเหรอครับ”

    [หาเคโตะให้ผมหน่อย]

    เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย  โคตะนึก  “ผมจะตรวจสอบให้ครับ”

    [ขอบคุณมากคุณยาบุ]

    ปลายสายตัดไปโดยไม่พูดอะไรมากกว่านั้น  ถึงเขาจะชอบเล่าเรื่องเจ้านายให้ฮิคารุฟังแต่เขาก็ไม่กล้าพอจะถามอะไรเคนอิจิมากกว่าที่รู้ได้  แต่คราวนี้เขาสงสัยเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกับเคโตะ  เคนอิจิถึงได้ร้อนรนขนาดนี้  โคตะไม่มัวเสียเวลาคิดสงสัยอะไร  เขาเปิดเครื่องคอมพ์พิวเตอร์และเริ่มติดต่อโรงแรมแห่งแรกที่พบในข้อมูล  ชื่อเสียงของร้านโอคายะคงทำให้สามารถหาสิ่งที่เคนอิจิตามหาได้ไม่ยาก

     

    เคนอิจิวางหูโทรศัพท์ลงหลังจากโทรไปสั่งงานกับโคตะเรียบร้อยแล้ว

    บรรยากาศแห่งความตึงเครียดได้กลับมาอีกครั้งซึ่งมันทำให้ยูมิโกะรู้สึกอึดอัดและเสียใจทุกครั้งที่พ่อลูกคู่นี้ทะเลาะกัน  แต่ครั้งนี้เคนอิจิทำเกินไปแล้ว  เธอจ้องมองใบหน้าที่ฉายแววความกังวลของสามีด้วยความไม่พอใจ

    เคนอิจิรู้สึกอึดอัดกับสายตาของภรรยาที่มองมาเสียเหลือเกิน  “คุณอยากพูดอะไรก็พูดมาสิ  ผมไม่ชอบให้ใครมาจ้องหน้าแบบนี้”

    ยูมิโกะพ่นลมหายใจอย่างไม่พอใจ  “เมื่อไรจะลดทิฐิลงสักทีคะเคนซัง  ในสายตาคุณเคโตะคุงไม่เคยทำอะไรถูกเลยใช่มั้ย  ฉันรู้ว่าคุณโกรธคุณคัทสึเอะที่ทิ้งคุณไป  แต่เคโตะคุงเขาไม่รู้อะไรด้วยทำไมต้องระบายความโกรธใส่เขาด้วยล่ะคะ  มองเขาในแง่ดีบ้างสิ”

    เคนอิจิขมวดคิ้วแบบไม่ตั้งใจกับคำพูดของภรรยา  “ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ให้พูดถึงแม่ของเคโตะอีก  อีกอย่างผมไม่ได้ระบายความโกรธใส่มันสักหน่อย  มันทำตัวมันเองต่างหาก”

    “เคโตะคุงไม่ได้ทำอะไรผิด  คุณต่างหากที่มองเขาในแง่ร้าย”  ยูมิโกะเถียงกลับ  เคนอิจิหลบตาแต่ไม่ตอบอะไรทั้งๆที่อารมณ์ยังคุกกรุ่นอยู่  “บอกตามตรงนะคะเคนซัง  ฉันรู้ว่าคุณยังรักคุณคัทสึเอะอยู่และฉันก็ไม่นึกเสียใจที่ฉันขึ้นมาแทนที่คุณคัทสึเอะไม่ได้  แต่ที่ฉันเสียใจก็คือ  ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณคัทสึเอะหนีไปแล้วทำให้คุณระบายความเสียใจเหล่านั้นใส่ลูกชายของเธอทั้งๆที่เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย  คุณรู้มั้ยว่ามันทำให้ฉันทรมานใจแค่ไหนเวลาที่เห็นเคโตะคุงร้องไห้คิดถึงแม่ของเขา  แล้วคุณยังมาทำแบบนี้อีกอย่างนั้นเหรอ  คุณไม่คิดถึงความรู้สึกของเขาบ้างหรือคะ”

    เคนอิจิรู้สึกเหมือนกำลังถูกจี้ใจดำอย่างตรงจุด  เขาหลบตาภรรยาอย่างต้องการปิดบังสิ่งที่เธอรู้  แน่นอนว่าเธอรู้เกี่ยวกับตัวเขาทุกอย่าง  เขายังรักคัทสึเอะอยู่นั่นเป็นเรื่องจริง  แต่การที่เธอทิ้งเขาไปจากความเสียใจจึงได้แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ  ความอ่อนโยนของคัทสึเอะที่มีอยู่ในตัวเคโตะทำให้เขาไม่อาจลืมเธอได้  ลูกชายที่เปรียบเสมือนตัวแทนของอดีตภรรยาจึงได้กลายเป็นที่ระบายความโกรธของเขาโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน

    ยูมิโกะรับรู้ได้ว่าสามีของเธอกำลังไตร่ตรองเรื่องนี้  “เคโตะคุงไม่ใช่ที่ระบายนะคะ  เขาไม่ได้ทำผิด  คนที่ผิดคือฉันกับลูกต่างหาก”

    เคนอิจิถอนหายใจ  เขาส่ายหน้าน้อยๆให้ภรรยา  “อย่าโทษตัวเองแบบนั้นยูมิโกะ  ยูโตะก็เป็นลูกชายผมคนหนึ่ง  ผมก็รักเขาเหมือนที่ผมรักเจ้าลูกชายตัวดีของผมน่ะแหละ”

    ยูมิโกะอดที่จะร้องไห้ด้วยความสงสารลูกเลี้ยงไม่ได้  “แม้เขาจะเป็นลูกของคุณคัทสึเอะแต่ถึงยังไงเขาก็เป็นลูกชายของคุณ  ตอนนี้เขาเหลือแค่คุณคนเดียวแล้วนะคะ”  เธอมองสามีด้วยสีหน้าที่อ่อนลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยคำอ้อนวอน  “ถ้าเคโตะคุงกลับมา  กรุณารักเขาให้มากกว่าเดิมด้วยเถอะค่ะ  อย่าทิ้งเขาไว้ลำพังอีกเลย”  ยูมิโกะเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกจากห้องทำงานของเคนอิจิไปโดยไม่รอฟังคำตอบของสามี  เธอได้แต่หวังว่าเคนอิจิจะทำตามที่เธอขอร้อง  เธอสงสารลูกเลี้ยงของเธอมากเหลือเกินแล้ว

     

    ริวทาโร่นึกสงสัยไปตลอดทางระหว่างที่เดินตามเคโตะไปยังห้องพักโรงแรมที่ลงชื่อล็อคอินด้วยชื่อของเขา  ริวทาโร่เดินตามเข้าไปเมื่อเคโตะเปิดประตูออกแล้ว  ในห้องนั้นใหญ่โต  ประกอบด้วยเตียงเดี่ยวสองเตียงและและเพรียบพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันแม้จะเป็นแค่ห้องพักธรรมดาแต่ก็แพงจนริวทาโร่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะยอมจ่าย

    เคโตะวางถุงเสื้อผ้าที่เพิ่งซื้อไว้บนเตียงด้านที่ติดผนัง  “นายนอนเตียงนั้นแล้วกัน”  เขาชี้ไปที่อีกเตียงหนึ่งที่อยู่ข้างกัน

    ริวทาโร่มองไปรอบห้องอย่างประหม่า  “เราจะนอนที่นี่จริงๆ เหรอครับ”

    “ทำไมล่ะ  ไม่ไว้ใจฉันหรือไง”

    “เปล่าครับ  เพียงแต่ว่า  เราไม่กลับบ้านพี่เหรอ  แล้วอีกอย่างทำไมต้องเช็คอินด้วยชื่อผมด้วยล่ะครับ  ผมนึกว่าพี่จะให้ผมจ่ายซะอีก”

    เคโตะหัวเราะ  “ที่ฉันใช้ชื่อนายก็เพื่อที่พ่อจะได้ตามรอยฉันไม่ได้  เขาต้องสั่งให้คนของเขาตามหาฉันทั่วโตเกียวแน่  ส่วนเรื่องจะกลับบ้านมั้ย  นายไม่ได้ยินเหรอว่าพ่อฉันไล่ฉันออกมาแล้ว  ฉันไม่อยากจะกลับไปให้โดนด่าอีกหรอก”

    ริวทาโร่จับน้ำเสียงเศร้าสร้อยนั้นได้  “แล้วพี่คิดจะทำยังไงต่อไปล่ะครับ  งานก็ไม่มี  เงินก็คงจะน้อยลงไปเหมือนกัน”

    เคโตะยิ้มนิดๆ  “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก  คิดว่าฉันไม่หาทางหนีทีไล่ไว้หรือไง  พรุ่งนี้ฉันจะบินไปอังกฤษ”

    “ไปอังกฤษ!

    เคโตะมองริวทาโร่อย่างแปลกใจ  “ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้นด้วย”

    ริวทาโร่รู้สึกเป็นกังวลนัก  “พี่จะไปทำอะไรที่อังกฤษเหรอครับ”

    เคโตะถอดนาฬิกาข้อมือออกเพื่อเตรียมอาบน้ำ  ไปทำไมน่ะเหรอ?  ก็เพื่อหนีไปให้ไกลจากที่นี่ยังไงล่ะ  เคโตะรู้สึกจุกแน่นในอกเมื่อคิดมาถึงตรงนี้  เขาจะไปจากที่นี่จริงๆ น่ะเหรอ?  “ถ้าบอกนายก็คงต้องไปบอกยูโตะ  เพราะงั้นนายไม่ต้องรู้หรอก”

    “พี่ก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ!”  ริวทาโร่พูดขึ้นอย่างโมโห  “เอาแต่คิดว่าคนอื่นเขาไม่รัก  คนอื่นเขาไม่สนใจถึงได้เป็นอยู่แบบนี้  พ่อพี่รักพี่  คุณยูโตะก็รักพี่  ทำไมไม่เปิดใจให้พวกเขาบ้าง”

    เคโตะกระแทกนาฬิกาบนโต๊ะเสียงดัง  ริวทาโร่เงียบเสียงลงเพราะรู้ว่าเคโตะเริ่มจะโกรธแล้ว  เคโตะถอดเสื้อออกตรงนั้นอย่างจงใจให้ริวทาโร่เห็น  ริวทาโร่ใจกระตุกเพราะกลัวว่าเคโตะจะทำอะไรเขาอีกเหมือนที่บ้านหรือเปล่าแต่ก็ไม่  ร่างสูงหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที

    แม้เคโตะจะเข้าห้องน้ำไปแล้วแต่หัวใจริวทาโร่ก็ยังเต้นดังด้วยความตื่นเต้นและตกใจ  เวลาโกรธแล้วน่ากลัวจริงๆ  ริวทาโร่นั่งถอนหายใจอยู่บนเตียง  เขาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ของเคโตะวางไว้ที่โต๊ะ  ริวทาโร่ใจเต้นระส่ำด้วยความตื่นเต้น  เขาหยิบโทรศัพท์ของเคโตะขึ้นมาแล้วตัดสินใจโทรหาบุคคลที่ร่างสูงพยายามหนีมาตลอด  ถ้าเคโตะรู้เขาจะต้องเจออะไรบ้างเนี่ย!

     

    ยูมิโกะนั่งเป็นกังวลใจอยู่ในห้องรับแขก  แม้เวลาจะเลยเที่ยงคืนมาแล้วแต่เธอก็ไม่อาจข่มตานอนหลับได้  ยูโตะเดินมานั่งข้างๆ แม่ของตน  “แม่ครับ”  เขาเรียกด้วยความห่วงใย  “ขึ้นไปนอนเถอะครับ  คุณพ่อต้องตามหาพี่ชายเจอแน่”  ยูมิโกะถอนหายใจอย่างหนักหน่วงแต่ไม่ตอบอะไร  ยูโตะขมวดคิ้วด้วยความกังวล  ริวทาโร่ก็หายตัวไปอีก  โทรไปก็ไม่รับสายจนเขาเห็นโทรศัพท์ริวทาโร่อยู่ในห้องเขาจึงได้ตระหนักว่าเพื่อนของตนได้หายตัวไปแล้ว  แต่... หายไปไหนล่ะ?  ยูโตะไม่กล้าบอกกับยูมิโกะเรื่องนี้เพราะกลัวว่าจะทำให้กังวลเพิ่มอีก

    เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของยูโตะดังขึ้น  ยูโตะหยิบขึ้นมาดู  เขาตกใจเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา  ยูโตะมองหน้าแม่แล้วเดินเลี่ยงออกมาจากที่นั่นเพื่อคุยโทรศัพท์ตามลำพัง  เขาอยากจะคุยให้รู้เรื่องก่อนจะบอกเคนอิจิและยูมิโกะ  “สวัสดีครับ  พี่ชาย”

    ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนจะเริ่มพูด  [ผมริวทาโร่ครับ]

    ยูโตะตกใจ  “ริวทาโร่!  ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน”

    [ผมมีเวลาไม่มากฟังผมให้ดีนะครับ  ผมอยู่ที่...ยูโตะจดจำชื่อโรงแรมนั้นไว้  [รีบมานะครับคุณยูโตะก่อนที่พี่เคโตะจะไปอังกฤษพรุ่งนี้]

    “ไปอังกฤษ?  ไปทำไม”

    [อย่าเพิ่งถามอะไรเลยครับ  พี่เคโตะกำลังจะออกมาแล้ว  แค่นี้นะครับ]

    “เดี๋ยวสิริวทาโร่  ริวทาโร่!”  แต่ปลายสายวางไปแล้ว  ยูโตะยืนคิดก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงานของเคนอิจิ  เขาเคาะห้องแล้วเปิดประตูเข้าไป  เคนอิจินั่งหลับตาอยู่บนเก้าอี้  เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อ  “คุณพ่อครับ  ผมรู้แล้วว่าพี่ชายอยู่ที่ไหน”

     

    ริวทาโร่ได้ยินเสียงฝักบัวเงียบลง  เขาวางสายจากยูโตะทันทีและลบเบอร์ที่โทรออกเพื่อเคโตะจะได้ไม่จับได้  เขาวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมที่มันเคยอยู่แล้ววิ่งไปนั่งบนเตียงในขณะที่เคโตะออกจากห้องน้ำพอดี

    เคโตะมองท่าทีตื่นตระหนกของริวทาโร่อย่างแปลกใจแต่ไม่ได้พูดอะไร  เขาเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมาใส่

    “พี่เคโตะครับ”  ริวทาโร่เรียกด้วยความตื่นเต้น  “ทำไมไม่เอาเสื้อผ้าไปใส่ในห้องน้ำด้วยล่ะครับ”

    เคโตะยิ้มเจ้าเล่ห์  “ทำไม  แค่ผู้ชายถอดเสื้อแค่นี้จะตื่นเต้นอะไรนักหนา  นายก็เป็นผู้ชายนะ”

    ริวทาโร่ก้มหน้างุดด้วยใจเต้นระทึก  ก็ถ้าไม่ชอบพี่ผมก็ไม่ตื่นเต้นหรอก  เขาลุกขึ้นยืนแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว  เพราะไม่งั้นเขาอาจจะมองทะลุผ้าขนหนูของเคโตะไปมากกว่านี้ก็ได้

    เคโตะอมยิ้มกับท่าทีของริวทาโร่  ดูไปแล้วเด็กคนนี้ก็น่ารักดีเหมือนกัน  เขาสวมเสื้อผ้าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูสายโทรออก  เขาสงสัยว่าริวทาโร่จะโทรไปหาที่บ้านเขาหรือเปล่าแต่เบอร์โทรล่าสุดก็คือเบอร์ที่เขาโทรหาเรียวสุเกะเมื่อกลางวัน  หรือริวทาโร่จะลบมันทิ้งนะ?  เคโตะได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ

     

    15 นาทีผ่านไปอย่างเชื่องช้าริวทาโร่ก็อาบน้ำเสร็จ  เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดเสื้อผ้าที่เคโตะซื้อให้  ไม่เชิงว่าจะเป็นชุดนอนแต่ก็เป็นชุดไพรเวทใส่สบาย  เคโตะก็เช่นเดียวกัน  ร่างสูงเผลอหลับไปขณะที่รอเขาอาบน้ำอยู่  ริวทาโร่มองใบหน้าหลับใหลของเคโตะอยู่นาน  ในยามนี้ใบหน้านั้นราวกับจะเผยตัวตนของผู้ที่เป็นเจ้าของมัน  ทั้งอ่อนโยนและอบอุ่น

    เคโตะลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นริวทาโร่จ้องเขาตาแป๋วและด้วยเหตุนั้นทำให้หัวใจของเคโตะเต้นไม่เป็นจังหวะ  เขาเผลอมองดวงตาคู่โตนั้นอยู่นานราวกับต้องมนตร์สะกดก่อนจะได้สติและยันตัวเองลุกขึ้น  ริวทาโร่เองก็เหมือนจะรู้ตัวด้วยเช่น  เขาหลบตาและนั่งลงบนเตียงของตน  เคโตะลุกขึ้นยืน  “นายหิวหรือเปล่า  ฉันไปหาอะไรให้กินเอามั้ย”  เคโตะถาม  ความจริงเขาแค่อยากอยู่ห่างๆ ริวทาโร่เท่านั้น  เจ้าเด็กนี่ดูท่าจะทำให้ใจเขาวุ่นวายขึ้นมาเสียแล้ว

    “มะ.. ไม่ครับ”  ริวทาโร่ตอบตะกุกตะกัก  เขาเองก็ตกใจเมื่อเผลอสบตากับเคโตะตรงๆ เข้า

    เคโตะรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก  “ไม่ต้องเกรงใจหรอก  เดี๋ยวฉันมานะ”  เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินออกจากห้องไปทันทีไม่ทันที่ริวทาโร่จะพูดอะไร

    ริวทาโร่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อลดความตื่นเต้น  เขามองนาฬิกาบนผนัง  เกือบจะยี่สิบนาทีแล้วที่เขาโทรหายูโตะ  ป่านนี้พวกเขาจะมาถึงหรือยังนะ  ริวทาโร่ได้แต่นั่งเป็นกังวล  หวังว่าพวกนั้นจะมาตามที่เขาบอก

     

    โถงทางเดินของโรงแรมในเวลาเกือบจะตีหนึ่งนี้ไม่มีคนเดินอยู่เลย  เคโตะยืนสงบใจอยู่ในลิฟต์คนเดียว  ก็แค่เผลอสบตานิดหน่อยทำไมถึงได้ใจเต้นแรงขนาดนี้นะ?  เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสงบสติอารมณ์

    ประตูลิฟท์เปิดออกเมื่อถึงชั้น 1  เคโตะเดินออกมาจากลิฟต์เพื่อตรงไปยังร้านอาหารของโรงแรม  แต่พอเดินออกจากลิฟต์ได้ไม่กี่ก้าวสายตาก็เหลือบไปเห็นชายสองคนที่เขาคุ้นตาเป็นอย่างดีกำลังติดต่ออะไรบางอย่างกับพนักงงานเช็คอิน  เคโตะรีบเดินหลบเข้ามุมทันที  จากความรู้สึกที่เริ่มจะดีได้แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธอย่างรวดเร็ว  เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ ด้วย  เจ้าเด็กริวนั่นโทรหาพ่อของเขา  คิดอยากจะลองดีนักหรือไงถึงได้กล้าทำแบบนี้  ไม่คิดเลยว่านายจะร้ายกาจได้ขนาดนี้ริวทาโร่

     

    --------------------------------------------------------------------------

    อีกประมาณ 2 – 3 อาทิตย์หน้านู่นล่ะค่ะกว่าจะมีเวลามาอัพอีก  ช่วงนี้ไรเตอร์มีสอบเยอะมากเลย

    ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×